ตอนที่ 246 เจอเพื่อนคนหนึ่ง
ชุยหังไม่สามารถฟังได้อีกต่อไป คนด้านล่างปรบมือให้คนบนเวทีอย่างบ้าคลั่ง
เขาหันหลังกลับมาและพบว่าคนเหล่านี้แต่งตัวค่อนข้างสบายและดูไม่เหมือนคนที่มีการศึกษา
ดูเหมือนกับคนที่ถูกล้างสมองไปแล้ว
ชุยหังมองไปทางโจวอิ๋นเย่ว์ที่อยู่ด้านข้างแล้วเอ่ยบอก “พวกเราไปกันเถอะ”
โจวอิ๋นเย่ว์เอ่ยตอบ “ไม่เป็นไร ฟังอีกสักพัก ให้เพื่อนได้เห็นหน้าหน่อย จะมากันแล้ว”
ชุยหังรู้สึกอายเกินกว่าจะเดินออกไปคนเดียวจึงหันกลับไปดูการแสดงด้านบนเวทีต่อ
ในที่สุดโจวอิ๋นเย่ว์ก็บอกว่ากลับได้แล้ว ชุยหังจึงรู้สึกโล่งใจมากจากนั้นก็เดินตามออกมา
เมื่อซุนซิ่งออกมาจากบ้าน เขาก็เดินรีบเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่พูดอะไร
ชุยหังรู้สึกว่าเขาต้องมีอะไรบางอย่างที่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับตัวเอง ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่เดินเร็วอย่างนี้
ตอนนั้นโจวอิ๋นเย่ว์พูดกับเขาว่า “สุดหล่อ คุณคิดยังไงกับธุรกิจเมื่อกี้นี้”
“ธุรกิจ? คืออันเมื่อกี้เหรอ มันคือธุรกิจอะไร” ชุยหังเอ่ยถาม
“นายเพิ่งมาที่นี่ต้องมองไม่ออกแน่ๆ ฉันจะบอกความจริงให้แล้วกัน เพื่อนร่วมชั้นของนายซุนซิ่งคนนั้นกำลังทำงานนี้อยู่ที่นี่ นายเป็นนักศึกษาก็ช่วยเขาตรวจสอบหน่อยแล้วกันว่าความจริงงานนี้หาเงินได้หรือเปล่า ตัดความรู้สึกในฐานะเพื่อนออกไปแล้วใช้เวลาสักสามถึงห้าวันนายจะเข้าใจ จากนั้นก็ช่วยเขาเป็นข้อมูลอ้างอิง” โจวอิ๋นเย่ว์เอ่ยบอก
ดูเหมือนว่าจะมีเส้นขาดอยู่ในหัวของชุยหังแล้ว ที่แท้ลางสังหรณ์ของตัวเองนั้นถูกต้อง พวกเขาไม่ได้ทำธุรกิจอะไร แต่พวกเขาทั้งหมดทำงานนี้
อย่างไรก็ตามเขาไม่สนใจและไม่อยากดู
“ทุกคนทำงานนี้กันหมดเลยเหรอ” ชุยหังเอ่ยถาม
“อือ ทั้งหมด”
“หัวหน้าคนนั้นเป็นหัวหน้าของพวกเธอเหรอ” ชุยหังเอ่ยถามตามตรง
โจวอิ๋นเย่ว์เอ่ยตอบ “ตำแหน่งสูงกว่าพวกเราหน่อย แต่เขาค่อนข้างมีความสามารถ”
“อ่อ ฉันเข้าใจแล้ว”
ชุยหังไม่ได้พูดอะไรอีกและเงียบไปตลอดทาง
“สุดหล่อ นายโกรธใช่ไหม”
“เปล่า”
“ถ้างั้นนายช่วยดูสักสองสามวันได้ไหม” โจวอิ๋นเย่ว์
“ดูสถานการณ์ก่อนแล้วกัน” ชุยหังไม่สามารถให้คำตอบที่แน่นอนกับเธอได้
เขาไม่อยากอยู่ในสถานที่แบบนี้อีกต่อไปแล้ว
ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาไม่ให้ตัวเองชาร์จโทรศัพท์เพราะว่าไม่ต้องการให้ตัวเองติดต่อกับโลกภายนอก
อย่างไรก็ตามถ้าในเวลานี้ตัวเองแสดงออกว่าต่อต้านมากเกินไป เชื่อว่าพวกเขาจะต้องเตรียมป้องกันไม่ให้ตัวเองได้ติดต่อกับโลกภายนอกได้เลย
หลังจากกลับมาถึงบ้านชุยหังก็ไม่ได้พูดอะไร พี่จยาต้องรู้อย่างแน่นอนว่าพวกเขาไปทำอะไร เธอมาคุยกับเขาสักพักโดยบอกว่าเธอเคยทำบริษัทแอมเวย์มาก่อนและเสียเงินไปจำนวนมาก แต่หลังจากที่มาทำงานนี้แล้วเธอถึงหาเงินได้
หลังจากที่ดูชุดของเธอแล้ว ชุยหังดูไม่ออกเลยว่าเธอจะสามารถหาเงินได้
ตอนนี้เขาคิดถึงหลูจื้อมากและอยากให้เขามาช่วยตัวเองออกไปจากที่นี่
หลังจากที่ทุกคนทยอยกันกลับมาก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องที่ไปฟังบรรยายตอนเช้ากับเขาเลย ทุกคนดูมีความสุขมาก
ทุกคนเมื่อถึงเวลาพักผ่อนก็ต้องพักผ่อน เมื่อถึงเวลากินก็ต้องกิน และตอนบ่ายกถึงเวลาออกไปข้างนอกก็ต้องออกไป
ชุยหังรู้สึกว่าพวกเขาดูลึกลับและไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่กันแน่
ตอนบ่ายโจวอิ๋นเย่ว์และซุนซิ่งบอกว่าจะพาเขาไปเจอเพื่อนคนหนึ่ง ชุยหังคิดว่เป็นหันไท่จู ไม่คิดว่าจะกลายเป็นชายสูงอายุในชุดสูทคนนั้นที่พูดบนเวทีว่าเขาประสบความสำเร็จแค่ไหนในตอนเช้า
ก่อนเข้าบ้าน โจวอิ๋นเย่ว์จงใจหยิบชามไปเติมน้ำ หลังจากที่เข้าบ้านไปก็ตะโกนเสียงดัง “สวัสดีค่ะหัวหน้า”
ม้านั่งอันเล็กสามอันวางอยู่ตรงหน้าหัวหน้าคนนั้นซึ่งดูเหมือนว่าจะเตรียมไว้ให้พวกเขา ขณะที่ชุยหังกำลังจะนั่งลงก็เห็นโจวอิ๋นเย่ว์ยืนตัวตรงแล้วจับมือกับชายสูงอายุคนนั้นและพูดว่า “สวัสดีค่ะหัวหน้า ฉันมาจากหอพักหวังอิงเจี๋ยและหวังต้าเผย เป็นตัวแทนทักทายหัวหน้าค่ะ”
ตอนที่ 247 เสแสร้ง
“สวัสดีครับ ทักทายหัวหน้าของพวกคุณแทนผมด้วย ขอให้หัวหน้าของพวกคุณประสบความสำเร็จเร็วๆ” หัวหน้าคนนั้นเอ่ยบอก
หลังจากนั้นซุนซิ่งก็พูดแบบเดียวกันกับเขาอีกครั้ง ตอนนั้นชุยหังทำตัวไม่ถูกและไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี
ชุยหังมองไปที่พวกเขาก็รู้สึกว่ามันค่อนข้างตลก
เป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมงแล้วที่คนนั้นคุยกับตัวเองตั้งแต่เทียนหนานไปจนถึงไห่เป่ย หลังจากนั้นก็เล่าว่าก่อนหน้านี้เขาทำอะไรมาและบอกว่าแม้ว่าธุรกิจนี้จะเป็นธุรกิจนอกสายตา แต่สามารถทำเงินได้จริงๆ อยากให้เขาได้ลองทำ
ชุยหังรู้สึกพูดไม่ออกบอกไม่ถูกกับความคิดของพวกเขา แล้วเงินอยู่ที่ไหนล่ะ
‘พวกเขาต้องเข้าเรียนแบบนี้ทุกวันและตอนบ่ายก็หาคนมาคุยด้วย เพียงแค่นี้ก็ได้เงินแล้วเหรอ’
แต่เขาไม่อยากพูดคำถามนี้ออกไปเพราะพวกเขาต้องมีวาทศิลป์มากมายรอเขาอยู่อย่างแน่นอน
หลังจากออกมาจากบ้านของหัวหน้าคนนั้นก็มีอีกกลุ่มหนึ่งเข้ามาพร้อมกับน้ำ ชุยหังจึงเอ่ยถาม “พวกเขากลัวหัวหน้าหิวน้ำเหรอ”
“ไม่ใช่ นี่เป็นการแสดงความเคารพ” โจวอิ๋นเย่ว์เอ่ยตอบ
ชุยหังไม่ได้ถามอะไรอีก โจวอิ๋นเย่ว์ยังคงพูดต่อว่า ตอนที่หัวหน้าคนนี้อยู่ที่บ้าน เขามีความสามารถอย่างไร มาที่นี่ตอนไหนและทำได้เร็วแค่ไหน แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเขาอย่างไร
“ประมาณกี่วัน” ชุยหังเอ่ยถาม
โจวอิ๋นเย่ว์เอ่ยตอบ “สมองอย่างนาย ฉันเดาว่าต้องใช้เวลาห้าหรือหกวันในการทำความเข้าใจทั้งหมด”
“โอ้ ถ้าไม่เข้าใจล่ะ”
“ถ้างั้นนายก็อ่านต่อไปสิ” โจวอิ๋นเยว์เอ่ยตอบ
ชุยหังยิ้ม ถ้าหากเขาไม่เข้าใจก็ไม่ต้องออกไปเลยเหรอ
“คืนนี้ฉันจะชาร์จแบตเองแล้วกัน เพื่อนร่วมห้องของฉันยังรอให้ฉันตอบอยู่ ใช่สิ หันไท่จูก็ทำงานนี้เหรอ” ชุยหังพูดจบก็เอ่ยถามซุนซิ่งตามตรง
“เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาอยู่ที่อื่น”
“พวกนายไม่ได้อยู่ที่เดียวกันเหรอ นายทำแบบนี้ แล้วเขาก็ทำอย่างอื่นเหรอ” ชุยหังต้องการยืนยัน
“ถึงเวลานายก็รู้เอง” ซุนซิ่งไม่ได้ตอบตามตรง
“อือ ฉันจะรอดูอีกสักสองสามวันแล้วกัน” ชุยหังเอ่ยบอก
ตอนกลางคืนโจวอิ๋นเย่ว์ยังคงอ้างไม่ให้มือถือคืนและชุยหังก็ไม่สามารถไปเอามือถือที่เตียงของผู้หญิงคนนั้นได้ เขาจึงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
หลี่จงไห่ที่อยู่ข้างๆ เขายังคงคุยกับเขาเกี่ยวกับชีวิตในอุดมคติของเขาและเล่าว่าธุรกิจนี้ดีอย่างไร จากนั้นชุยหังก็หลับไปโดยที่ไม่รู้ตัว
อย่างไรก็ตามพวกเขาคงไม่ต้องการปล่อยให้เขาออกไปง่ายๆ ดังนั้นเขาจึงแกล้งทำเป็นไปฟังบรรยายทุกวันและตอนบ่ายก็ไปพูดคุยกับหัวหน้าคนนั้น
วันที่สามซุนซิ่งมาเป็นผู้บรรยายซึ่งทำให้ชุยหังรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
คนขี้เกียจคนนี้สามารถพูดเป็นเวลาสองชั่วโมงโดยที่ไม่หยุดอยู่ข้างบนนั้นได้จนทำให้เขาอยากจะปรบมือให้เลย
คนที่ประสบการสำเร็จในการแบ่งบันในระดับการฝึกอบรมใหญ่คนนั้นก็คือพี่จยา
อย่างไรก็ตามชุยหังก็รู้ว่าทั้งหมดนี้เพื่อต้องการให้เขาดู
เขายินดีที่จะให้ความร่วมมือ แต่เขาไม่สามารบอกความจริงได้
เขาเข้าใจแล้วว่าธุรกิจนี้ต้องลงทุนสองพันเก้า หลังจากนั้นต้องหาคนมาลงทุนเพิ่มและตัวเองจะได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยที่ไม่มีสินค้า
พูดได้อีกอย่างหนึ่งก็คือธุรกิจขายตรงซึ่งเป็นการระดมทุนที่ผิดกฎหมาย
เขาอยากได้มือถือมากและต้องการออกไปจากที่นี่
ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ขอแค่เขาสามารถติดต่อได้และหวังว่าเขาจะมารับตัวเองออกไปจากที่นี่ทันที
ระหว่างทางกลับจาก โจวอิ๋นเย่ว์เอ่ยถาม “นายคิดว่าวันนี้ซุนซิ่งบรรยายเป็นยังไงบ้าง”
“ดีมากเลย ฉันเข้าใจหมดแล้ว”
“เข้าใจแล้วเหรอ ถ้างั้นพวกเรามีความสัมพันธ์ยังไงกับบริษัท”
“ความสัมพันธ์แบบร่วมมือกันไง พูดไปแล้วไม่ใช่เหรอ” ชุยหังเอ่ยบอก
“ทำไมเข้าใจว่าเป็นการร่วมมือล่ะ” โจวอิ๋นเย่ว์เอ่ยถาม
ชุยหังอยากตอบเธอกลับไปแค่สองคำ “ฮ่าๆ”