ตอนที่ 266 ไม่มั่นใจในตัวเอง
หลังจากได้ฟังคำพูดของหลูจื้อแล้ว ในใจของชุยหังก็ซาบซึ้งขึ้นมาเล็กน้อย
อันที่จริงสำหรับเขาแล้ว เขาก็คิดแบบนี้เหมือนกัน
ถ้าในอนาคตหากพ่อกับแม่ของตนรู้ว่ามีหลูจื้ออยู่ เขาก็จะไม่มีทางยอมแพ้เด็ดขาด
วิธีการที่พวกเขาเอามาใช้ได้ตนก็ใช้ได้เหมือนกัน ถ้าหากพวกเขาใช้วิธีที่ว่าอยากตายมาข่มขู่ตน ตนก็จะแย่งก้าวไปข้างหน้าก่อนหนึ่งก้าว
พ่อแม่รักลูกมาก แต่ไหนแต่ไรก็มักจะมากกว่าที่ลูกรักพ่อแม่เสมอ
แต่อย่างไรก็ตามนี่จะเป็นวิธีการสุดท้ายที่เมื่อเขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้วถึงจะเลือกใช้
หากยังไม่ถึงช่วงเวลาจำเป็นจริงๆ แน่นอนว่าเขาย่อมหวังที่จะใช้เหตุผลคุยกับพ่อแม่ก่อน
ในเมื่อไม่ว่าใครก็ไม่อยากจะทะเลาะกับพ่อแม่ถึงขนาดที่จะต้องเอาชีวิตความเป็นความตายมาข่มขู่อยู่แล้ว
“คิดอะไรอยู่น่ะ?” หลูจื้อเห็นว่าชุยหังไม่ตอบอยู่นาน คิดว่าเขากำลังคิดเรื่องที่ไม่ควรคิดอีก
ครั้งนี้ที่ชุยหังสามารถออกจากเมืองเอ้อแล้วลบข้อมูลการติดต่อของตนได้ก็เป็นเพราะเขาคิดไปเองสุ่มสี่สุ่มห้า
แน่นอนว่ามันมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่ตนละเลยด้วย
เขาคิดว่าชุยหังกล้าที่จะปล่อยให้ตนคบหากับผู้หญิงคนนั้นได้ เขาจะต้องเข้าใจตนในทุกแง่มุมเป็นอย่างดีแน่นอน
แต่เขาลืมสิ่งหนึ่งไปคือเมื่อรักใครสักคนเข้าอย่างจังแล้วจะสามารถทนให้ใครอีกคนยืนอยู่เคียงข้างเขาได้ยังไง
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังปรากฏตัวในที่ที่แม้แต่ตนยังไม่เคยได้ปรากฏตัวอยู่บนนั้นเลยด้วย
แม้ว่าตัวชุยหังเองจะไม่เคยพูดมาก่อน แต่ว่าในวีแชทโมเมนต์โดยเฉพาะหน้าจอโทรศัพท์มือถือไม่ควรที่จะเอารูปภาพของคนอื่นมาตั้งสุ่มสี่สุ่มห้าได้
ความรู้สึกไม่มีทางแบ่งปันกันได้ เขาไม่อยากแบ่งปันมันให้กับใครหน้าไหนทั้งนั้น
อันที่จริงความคิดนี้ของชุยหังมันไม่ผิดเลยสักนิด เพียงแต่มันผิดตรงที่เขาไม่เชื่อหลูจื้อ รู้สึกว่าหลูจื้อไม่สามารถกำจัดปัญหาพวกนี้ทั้งหมดให้เขาได้
ยิ่งไปกว่านั้นแม้กระทั่งถามเขายังไม่เคยถามเลยด้วยซ้ำ
ถ้าหากเขาเคยถามก่อนสักครั้งแล้วหลูจื้อลำบากใจมากหรือว่าไม่มีคำตอบใดๆ ให้เขาเลย แบบนี้ถ้าชุยหังจะคิดมากมันก็ไม่ถึงกับแปลกอะไร
ปัญหามันเกิดขึ้นที่ตรงนี้ ทั้งหมดเป็นแค่สิ่งที่สมองของเขาสร้างขึ้นมาเอง
สิ่งที่ทำให้หลูจื้อทนไม่ได้มากที่สุดคือเขาปิดกั้นการติดต่อลากตนเข้าไปไว้ในบัญชีดำ ยุติขาดการติดต่อกับตน เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ไฟโกรธเขาลุกโชนมากที่สุด
ตอนที่ทั้งสองคนตัดสินใจที่จะคบกันมันไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่งที่ตัดสินใจ แล้วถือสิทธิ์อะไรพอตอนจะเลิกแค่ชุยหังตัดสินใจแล้วมันก็จบ?
ตราบใดที่เขาไม่เห็นด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่สามารถยุติลงได้
“เผื่อว่า…” ชุยหังยังอยากถามอะไรต่ออีก แต่กลับถูกแววตาของหลูจื้อทำเอาตกใจจนลืมไปแล้ว
“ไม่มีอะไรเผื่อว่าทั้งนั้น นายอยากจะพูดว่าถ้าฉันไม่ต้องการนายแล้วนายควรจะทำยังไงใช่ไหม” หลูจื้อถาม
ชุยหังพยักหน้ารับอย่างอ่อนแอและไม่กล้าพูดอะไร
หลูจื้อโน้มตัวไปข้างหน้าจนกระทั่งปลายจมูกของเขาเกือบจะสัมผัสกับปลายจมูกของชุยหังแล้ว
“นายฟังฉันให้ดีนะ ถ้าฉันบอกว่าไม่ต้องการนายแล้ว นายก็จะเห็นด้วย?”
“ฉันจะเห็นด้วยหรือว่าไม่เห็นด้วยแล้วมันแตกต่างกันไหม นายไม่ต้องการฉันแล้วยังจะให้ฉันรั้งนายไว้ไม่ยอมให้ไปหรอ นายกับฉันไม่เหมือนกัน ครั้งนี้ที่ฉันยอมแพ้ก็เป็นเพราะไม่อยากทำให้นายลำบากใจ ถ้าหากวันหนึ่งนายไม่ต้องการฉันแล้วนั่นย่อมเป็นเพราะทางด้านนั้นกดดันนายมากเกินไปแล้ว” ชุยหังกล่าว
หลูจื้อมองเขาโดยไม่พูดไม่จาอยู่นาน แต่ว่าท่าทางของเขาดูเหมือนจะเริ่มโกรธขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว
“อะไรหรอ ฉันพูดอะไรผิดไปอีกหรือเปล่า” ชุยหังถาม
หลูจื้อพูดขึ้น: “ตัวนายเองไม่รู้หรอ เมื่อกี้นี้นายพูดอะไรออกมา นายเห็นฉันเป็นคนแบบไหน”
“คนปกติทั่วไปไง ถ้าหากนายไม่มีความกดดันพวกนี้ฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดหรอก” ชุยหังว่า
หลูจื้อถามอย่างตรงไปตรงมาว่า: “ว่าตามความหมายของนายคือถ้าวันหนึ่งนายเองก็มีความกดดันเหมือนกันฉันก็ควรจะไปจากนายอย่างนั้นใช่ไหม”
ชุยหังรีบพูดอย่างรวดเร็วว่า: “ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น ความกดดันของฉัน ฉันสามารถเอาชนะมันได้ด้วยตัวเอง”
“งั้นความกดดันของฉัน ทำไมนายถึงไม่เชื่อใจว่าฉันสามารถเอาชนะมันได้? นายไม่มีความมั่นใจในตัวฉันมากขนาดนั้นเลยหรอ”
ชุยหังพูดว่า: “ไม่ใช่ อันที่จริงกับตัวเองฉันก็ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองเหมือนกัน…”
ตอนที่ 267 ภัยพิบัติที่คาดไม่ถึง
“ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง? ไม่มีความมั่นใจตรงไหน” หลูจื้อถาม
ชุยหังครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งและพูดว่า: “ฉันเองก็บอกไม่ถูก เอาแต่รู้สึกว่าไม่ปลอดภัย มักจะรู้สึกว่าตัวเองอาจจะถูกกำจัดทิ้งได้ทุกเมื่อ”
หลูจื้อประทับจูบลงบนแก้มของเขาหนึ่งทีพลางถามว่า: “ตอนนี้ล่ะดีขึ้นบ้างหรือยัง”
ชุยหังรู้ว่าเขาคงจะไม่เข้าใจความหมายของคน
“ฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอ มักจะรู้สึกตลอดว่าการที่ฉันได้คบกับนายมันดูเสียเปรียบฉันมากเกินไป กลัวว่านายอาจจะแค่สับสนไป ถ้าวันหนึ่งนายมีสติฟื้นตัวขึ้นมาแล้วได้เจอกับคนที่ดีกว่าฉัน ฉันก็คงต้องถูกปลดออกจากตำแหน่งแล้ว…”
“พูดไร้สาระอะไรเนี่ย นายอยากลงจากตำแหน่ง? ฉันไม่เห็นด้วยหรอกนะ” หลูจื้อว่า
ขณะที่พวกเขากำลังถกเถียงปัญหานี้อยู่ ทันใดนั้นโทรศัพท์ของชุยหังก็ดังขึ้น
ชุยหังเหลือบมอง ปรากฏว่าคนที่โทรเข้ามาก็คือชย่าอวี่ชิวนั่นเอง
เขาคิดอยู่สักพักและไม่ได้รับสาย แล้วก็ไม่ได้กดวางสายเพียงแค่กดเปิดเป็นเสียงเงียบแทน
เมื่อหลูจื้อเห็นปฏิกิริยาแบบนั้นของเขาจึงคว้าโทรศัพท์มือถือของชุยหังไป ก่อนจะเห็นชื่อของชย่าอวี่ชิวปรากฎอยู่
“คนๆ นี้เป็นใคร” หลูจื้อถาม
ชุยหังรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่เมื่อย้อนกลับไปคิดแล้วตนกับชย่าอวี่ชิวก็ไม่มีเรื่องอะไรเกี่ยวข้องกันอยู่แล้ว ทำไมต้องรู้สึกผิดด้วยล่ะ
ดังนั้นเขาจึงพูดออกไปตรงๆ ว่า: “เพื่อนบ้านเดียวกันของฉันเอง ตอนที่รายงานตัวครั้งแรกพวกเราเดินทางมาก่อนล่วงหน้าหนึ่งวัน แล้วก็เคยพักอยู่ด้วยกันมาก่อน”
“เคยพักอยู่ด้วยกัน?” หลูจื้อจับประเด็นสำคัญของข้อความในประโยคนี้ได้อย่างง่ายดาย
ชุยหังรีบอธิบายอย่างรวดเร็วว่า: “ไม่ใช่อย่างที่นายคิดหรอกนะ ตอนนั้นยังมีคนอื่นอีกสองคนพวกเราทั้งสี่คนพักรวมกันอยู่ในหอพักชั่วคราวของมหา’ ลัย”
“สี่คน? งั้นทำไมสุดท้ายถึงมีแค่เขาคนเดียวที่ติดต่อกับนาย?” หลูจื้อถามจากจิตวิญญาณ
ชุยหังรู้สึกสับสนเล็กน้อยพลางพูดว่า: “เพราะพวกเรามาจากบ้านเกิดเดียวกัน เมื่อเทอมที่แล้วเขาก็มาหาฉันบ่อยๆ ตอนช่วงระหว่างฝึกทหารมีหลายครั้งที่พวกเราสองคนออกไปด้วยกันแล้วยังบังเอิญเจอนายเดินโฉบไปมาอยู่หน้าอาคารสามอยู่เลย”
“เจ้าเด็กอ้วนที่เมื่อก่อนฉันเห็นออกไปไหนมาไหนกับนายด้วยกันบ่อยๆ คนนั้นก็คือเพื่อนบ้านเดียวกันของนาย?” หลูจื้อถาม
เมื่อชุยหังได้ฟังดังนั้น ที่แท้เขาก็เคยเห็นทั้งหมดจริงๆ ?
ไม่มีทางเลือก เมื่อครู่นี้ตนทำตัวโง่ยอมรับทุกอย่างออกไปเอง ดังนั้นก็ซื่อสัตย์ต่อไปเถอะ
“อืม คนนั้นแหละ แต่ฉันกับเขาไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันเลยนะ” ชุยหังว่า
หลูจื้อพูดตัดขึ้นว่า: “นายรู้สึกผิดอะไร ฉันก็ไม่ได้ถามสักหน่อยว่าพวกนายมีหรือไม่มีความสัมพันธ์อะไรกัน นายรีบแก้ตัวขนาดนี้เป็นนายที่เคยจีบเขาหรือว่าเป็นเขาที่เคยจีบนาย?”
“ไม่มีทั้งนั้น นายคิดมากเกินไปแล้วแค่เพื่อนบ้านเดียวกัน ออกไปกินข้าวด้วยกันบ่อยๆ ก็เท่านั้น เขาเป็นผู้ชายแท้…” ชุยหังว่า
“ฉันไม่ใช่มั้ง?” หลูจื้อตอบสนองเร็วขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
ชุยหังเริ่มจะทำอะไรไม่ถูกแล้ว ในเวลานี้ตอบสนองเร็วขนาดนี้เพื่ออะไรกัน?
“นายก็ใช่ นายใช่แน่นอนอยู่แล้ว ไม่มีใครที่จะตรงแท้ไปกว่านายแล้ว…” ชุยหังว่า
“พูดซะไม่จริงใจขนาดนี้นายอยากจะก่อเรื่องอะไร ยั่วใช่ไหม” มือของหลูจื้อเริ่มจะอยู่ไม่เป็นสุขอีกแล้ว
ชุยหังอยากจะหลบแต่ก็ถูกหลูจื้อกอดกลับไปเหมือนเดิม ไม่สามารถดิ้นรนหนีได้เลยจริงๆ
“นายคิดจะทำอะไร ก่อกบฏ?” หลูจื้อถาม
ชุยหังรีบพูดอย่างรวดเร็วว่า: “เปล่า เปล่า…”
“งั้นนายหลบอะไร ฉันให้นายนอน นายไม่นอนเอง อันนี้โทษฉันไม่ได้หรอกนะ” หลูจื้อว่า
พูดจบเขาก็พลิกตัวทันที
“นายจะทำอะไร” ชุยหังถามอย่างระแวดระวัง
หลูจื้อตอบว่า: “นายคิดว่าไงล่ะ ฉันกำลังปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของฉันอยู่”
“ไม่ต้อง ตอนนี้ฉันไม่ต้องการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของนาย…”
“ก็ได้ งั้นฉันจะใช้สิทธิของฉันแบบนี้ได้ใช่ไหม”