ตอนที่ 282 เหมือนแต่งงานใหม่
“กลับไป? วันหยุดของนายสั้นขนาดนี้เลยหรอ” ชุยหังถาม
หลูจื้อพูดว่า: “ไม่งั้นนายคิดว่าไง นายคิดว่าที่กองทัพของพวกเราว่างกันมากหรอ”
“ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แค่รู้สึกกะทันหันเกินไป พึ่งจะย้ายบ้านใหม่นายยังไม่เคยนอนเลยด้วยซ้ำก็ต้องไปแล้ว…” ชุยหังไม่สามารถพูดต่อได้แล้ว
รู้สึกเหมือนเป็นวันแรกของการแต่งงานใหม่แล้วทั้งสองคนยังไม่ทันได้เข้าหอเจ้าบ่าวก็ออกไปทำงานเสียแล้วยังไงอย่างนั้น
หลูจื้อเอียงศีรษะหันไปมองเขาและพูดว่า: “ทำไมหรอ ไม่ชิน?”
“ไม่ใช่ไม่ชิน แค่รู้สึกว่ามันแปลกไปหน่อย” ชุยหังพูด
หลูจื้อยกมือขึ้นลูบใบหน้าของชุยหังเบาๆ แล้วพูดว่า: “งานของฉันแต่ไหนแต่ไรก็ไม่มีทางที่จะอยู่ข้างนอกตลอดเวลาได้อยู่แล้ว ขนาดบ้านฉันยังไม่สามารถกับไปบ่อยๆ ได้เลย เรื่องนี้นายต้องเข้าใจมันนะ”
“ฉันเข้าใจ แต่แค่รู้สึกว่าพึ่งย้ายบ้านใหม่วันแรก นายก็กลับไปซะแล้วมันเป็นความรู้สึกที่ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่”
หลูจื้อยิ้มแล้วพูดว่า: “อืม งั้นพรุ่งนี้เช้าค่อยไป”
ชุยหังครุ่นคิดสักพักแล้วพูดว่า: “ไม่ต้องหรอก ยังไงซะฉันก็มาอยู่ที่นี่แล้ว นายก็ไม่ใช่ว่าจะไม่กลับมาแล้ว อีกอย่างทุกวันก็ยังสามารถติดต่อกับฉันได้ตลอดด้วย ถ้ากลับไปช้าแล้วถูกคนจับจุดอ่อนไว้เล่นงานอะไรทำนองนั้นขึ้นมาก็แย่เลย”
“นายคิดว่าที่กองทัพเหมือนเล่นสงครามราชวังหรือไง ยังมีจับจุดอ่อนไว้เล่นงานด้วย” หลูจื้อรู้สึกว่าน่าขำ
ชุยหังพูดขึ้น: “ไม่ได้หมายความแบบนั้น พวกนายควบคุมเข้มงวดมากขนาดนั้นแล้วยังมีระเบียบวินัยอีกต่างๆ มากมาย นายเป็นผู้นำละเมิดวินัยคงไม่ดีเท่าไหร่ไหม”
“ใครบอกว่าฉันละเมิดวินัย?” หลูจื้อถาม
ชุยหังผงะไปและถามว่า: “เมื่อกี้นายบอกเองไม่ใช่หรอว่าคืนนี้ต้องกลับไปแล้ว ถ้ากลับไปพรุ่งนี้เช้ามันก็เกินเวลาแล้วไม่ใช่หรอ”
หลูจื้อบีบคางของเขาแล้วพูดว่า: “ไม่ใช่ ฉันกลับไปรายงานตัวพรุ่งนี้เช้าก็เรียบร้อยแล้ว”
“ดังนั้น เมื่อกี้นายจงใจแกล้งฉันหรอ” ชุยหังถาม
หลูจื้อเผยให้เห็นฟันขาวสะอาดพลางพูดว่า: “ใช่ไงแค่จงใจแกล้งนายเฉยๆ”
ชุยหังกัดเข้าที่ใบหูของหลูจื้อหนึ่งทีแต่ว่าไม่ได้ลงแรงอะไร
“ยั่วใช่ไหม ดูเหมือนนายจะไม่เหนื่อยจริงๆ สินะ” หลูจื้อพูดก่อนจะพลิกตัวขึ้น
คิดเสียว่าเตียงนี้เป็นเตียงแต่งงานของพวกเขาก็แล้วกัน
กว่าชุยหังจะตระหนักได้ว่าตนกำลังจะมีปัญหาคิดอยากจะหนีมันก็สายเกินไปเสียแล้ว
หลังจากถูกกินเรียบจนสะอาดหมดจนไปอีกครั้งชุยหังก็ไม่อยากขยับตัวแล้ว
หลูจื้อโอบเขาไว้ในอ้อมแขนพลางพูดว่า: “ตอนเย็นให้ฉันทำผักหอมดอก [1] ให้นายสักหน่อยไหม”
“เอามาทำไม” ชุยหังถาม
หลูจื้อตบแก้มของชุยหังเบาๆ และถามว่า: “ผักหอมดอกใช้ทำอะไรนายอย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้”
ชุยหังหน้าแดงและไม่ได้รับคำต่อ
พวกเขานอนอยู่แบบนั้นต่างไม่อยากขยับเขยื้อน
การวิ่งเต้นบากบั่นตลอดสองวันนี้มันเหนื่อยมากจริงๆ
อย่างไรก็ตามถึงเวลาทำอาหารเย็นแล้ว ชุยหังลุกขึ้นแล้วไปทำอาหารให้หลูจื้ออย่างตั้งใจแบบสุดๆ
แม้ว่ารสชาติของการทำอาหารด้วยตัวเองจะไม่กล้าสรรเสริญเยินยอ แต่มันก็สามารถกินได้
นี่เป็นครั้งแรกที่หลูจื้อได้กินของที่ชุยหังทำขึ้นเองพร้อมกับชื่นชมไม่ขาดปาก
ถึงแม้ว่าจะมีส่วนที่ให้กำลังใจอยู่ด้วยแต่เมื่อได้เห็นหลูจื้อกินของที่ชุยหังทำให้จนหมดเกลี้ยงแบบนี้ ชุยหังก็รู้สึกมีความสุขและพึงพอใจอย่างมาก
ตกกลางคืนหลูจื้อก็อยากได้ชุยหังอีกรอบ ชุยหังรู้สึกว่าเหมือนเป็นเจ้าสาวที่พึ่งเข้าห้องหอจริงๆ มีความรู้สึกว่ามันศักสิทธิ์
เช้าวันรุ่งขึ้นตอนที่ชุยหังตื่นขึ้นมาก็พบว่าหลูจื้อไม่ได้อยู่ข้างกายของเขาแล้ว
เขานึกว่าหลูจื้อไปเข้าห้องน้ำ แต่ว่าไฟในห้องน้ำก็ไม่ได้เปิดสว่าง
จากนั้นเขาจึงส่งข้อความวีแชทไปหาหลูจื้อว่า: [นายไปไหนแล้ว?]
หลูจื้อตอบกลับเขาอย่างรวดเร็ว: [อาหารเช้าอยู่บนโต๊ะ ฉันจะกลับไปรายงานตัวที่กองทัพก่อน ถ้านายยังรู้สึกง่วงนอนอยู่ก็นอนต่ออีกสักหน่อยนะ รักนาย]
ตอนที่ 283 ด่ากลับไป
ชุยหังรู้สึกตื้นตันใจมากจึงตอบกลับไปว่า: [ฉันก็รักนาย ขากลับไประวังหน่อยนะ]
หลูจื้อไม่ตอบกลับอีกเลย ไม่รู้ว่าเขากำลังอยู่ระหว่างเดินทางหรือว่าไปถึงกองทัพกำลังทำเรื่องรายงานตัวแล้ว
อย่างไรเสียเรื่องภายในพวกนี้เขาก็ไม่เข้าใจ
เมื่อไม่มีหลูจื้ออยู่ข้างๆ เขาก็ไม่อยากจะนอนหลับต่อแล้ว หลังจากจัดระเบียบเรียบร้อยแล้วก็ลุกขึ้นทันที
เมื่อมองความระเกะระกะยุ่งเหยิงที่ทิ้งไว้ตอนพวกเขานอนหลับก็นึกถึงเมื่อวานที่เหมือนเป็นการเข้าหอที่บ้าคลั่ง ชุยหังจับผ้าห่มพับขึ้นมาจากนั้นวางไว้อย่างระมัดระวัง
หลังจากล้างหน้าล้างตาแล้วเขาก็เดินมานั่งที่โต๊ะกินอาหารเช้าที่หลูจื้อซื้อกลับมาให้เขาก่อนที่เขาจะออกไป
นานมากแล้วที่ไม่มีใครดูแลเขาแบบนี้ เขารู้สึกว่าตอนนี้เหมือนเขากำลังฝันอยู่ด้วยซ้ำ
เมื่อมองแสงแดดนอกหน้าต่าง ชุยหังรู้สึกว่าการออกจากที่นั่นแล้วกลับมากับหลูจื้อมันดีมากจริงๆ
ไปอยู่ในสถานที่แบบนั้นแค่ไม่กี่วันเหมือนมันยาวนานมากยังไงอย่างนั้น ความรู้สึกสับสนยุ่งเหยิงนั้นมีอยู่ตลอดเวลา
ตอนนี้เป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเขา
ตั้งแต่เหตุการณ์ถูกเปิดโปงบนเวยป๋อออกมา เขาก็เหมือนกับปิดกั้นตัวเองแล้ว ไม่ได้สนใจเรื่องต่างๆ บนอินเทอร์เน็ตอีกต่อไปและยิ่งไม่อยากไปสนใจด้วยว่าเวยป๋อของตัวเองในตอนนี้กลายไปเป็นแบบไหนแล้ว
ตอนนี้ชีวิตของเขาดีมาก เขาแค่ซึบซับสนุกกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็พอแล้ว
ส่วนพวกที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาพวกนั้น เขาไม่อยากไปสนใจเลยจริงๆ
อย่างไรก็ตามตั้งแต่ต้นจนจบต่างก็จะมีพวกคนน่าเบื่อบางพวกอยู่แล้ว
ชีวิตของพวกเขาไม่มีทางที่จะเปลี่ยนเป็นโดดเด่นยอดเยี่ยมได้จากการที่เคยไปมีส่วนร่วมในการเสียดสีหรือด่าทอ ดังนั้นเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปเศร้าโศกหดหู่เพียงเพราะการที่มีคนพวกนี้อยู่
ไม่ว่าจะเป็นเมฆมากฟ้าครึ้มหรือตอนกลางคืน ในความเป็นจริงแล้วดวงอาทิตย์ยังคงอยู่เสมอ เพียงแค่เขามองไม่เห็นเท่านั้น
เขาไม่อยากกลายเป็นตัวหมัดที่ถูกกักขังเอาไว้ในฝาแก้ว ควรจะพุ่งชนสักสองสามครั้งแล้วเลิกกระโดด
ชีวิตคนจำเป็นต้องเดินผ่านมันไปด้วยตัวเองอย่างมั่นคง ดังนั้นเส้นทางในอนาคตเขาจะไม่ซึมเศร้าอีกต่อไปแล้ว
ไม่อยากนั้นคงรู้สึกผิดต่อตัวเองและรู้สึกผิดต่อหลูจื้อ
หลังรับประทานอาหารเสร็จเพราะไม่มีเรื่องอะไรที่สามารถทำได้ บวกกับเรื่องก่อนหน้านี้มันผ่านไปช่วงเวลาหนึ่งแล้ว ชุยหังก็อยากรู้เหมือนกันว่าคนพวกนั้นยังจะกำลังถล่มตัวเองอยู่อีกไหม
เขาเปิดเวยป๋ออย่างระมัดระวังจากนั้นหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเลื่อนดูข้อความที่ด่าทอตนเหล่านั้น
ทว่าก็ยังเป็นด่าจำพวกนังชาเขียวไม่รู้จักแยกหญิงแยกชาย ไม่สมควรเป็นนักศึกษาอะไรทำนองนั้น
ต่อมาเขาถึงนึกขึ้นได้ว่าตนได้ปิดฟังก์ชันแสดงความคิดเห็นเอาไว้
แต่ในข้อความส่วนตัวได้ปรากฏกลุ่มคนผู้ชอบธรรมขึ้นมามากมาย
[มีความสามารถทำได้ มีความสามารถนักก็อย่าสนใจความคิดเห็นสิ? นายมันเป็นของหน้าไม่อาย ขยะสังคมจริงๆ]
[เก่งจริงๆ เลยเชียว รู้จักปิดกั้นซะด้วย ที่แท้นายก็มียางอายอยู่นี่]
[หนุ่มน้อยสุดหล่อชอบเงินหรอ มา มาหาลุงนี่มา]
คนแบบไหนมีหมด หลากหลายประเภทจริงๆ
ชุยหังยิ่งดูก็ยิ่งโกรธ แต่ว่าตอนนี้เขาไม่ได้ไร้กำลังเหมือนตอนที่เห็นเมื่อก่อนหน้านี้แล้ว
ไอ้พวกงาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัข [2] พวกนี้ ตนไม่รู้สึกกลัวพวกเขาเลยสักนิดจริงๆ
ก็แค่ด่าคนไม่ใช่หรอ นึกว่าตนทำไม่ได้?
เขาเริ่มโหมดการตอบกลับทีละคน ไม่ว่าใครที่ส่งข้อความมาด่าเขาเป็นการส่วนตัวเขาจะด่ากลับไปให้หมด
[ตอนที่แม่แกคลอดแกออกมาช่องคลอดมันหดตัวหรือเปล่าจึงได้ทำให้บีบสมองของแกพังไปหมด ถึงได้ยินเสียงลมก็ว่าเป็นฝน พวกเขาไม่ควรคลอดแกออกมาเลยจริงๆ ถึงได้เดือดร้อนทำให้พวกเขาต้องโดนด่าไปด้วย แกคิดว่าตัวเองเป็นอะไร บ้านแกถูกรถชนตายแล้วไม่มีที่ให้ระบายหรือไงถึงได้วิ่งมาทำท่าใหญ่โตกับฉันที่นี่?]
ส่วนพวกข้อความที่ส่งส่วนตัวมาด่าเขาว่าหน้าไม่อายนั้นเขาตอบกลับไปตรงๆ ว่า: [แกมียางอาย แกมียางอาย ทั้งครอบครัวของแกมีหนังหน้าถึงสองชั้น ครอบครัวของแกเป็นพวกขายอวัยวะมนุษย์เพราะนอกจากหน้าแล้วอย่างอื่นก็ไม่เอาแล้ว ออกจากบ้านแกก็ไม่ต้องแต่งหน้าเพราะเปลี่ยนหน้าได้ตามใจชอบอยู่แล้ว]
——
[1] ผักหอมดอก หรือ ผักหอมบั่ว มีส่วนช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศและช่วยแก้อาการอักเสบบวมแดงต่าง ๆ
[2] งาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัข เป็นสุภาษิตคำพังเพย แปลว่าคนเลวพูดอะไรก็มีแต่เรื่องเลวๆ หรือก็คืองาช้างไม่มีวันงอกออกจะปากสุนัข