ตอนที่ 306 ผู้หญิงทะเลาะกัน
“วันนี้นายไปไหนมาหรอ” หลูจื้อเอ่ยถาม
ชุยหังผงะไปแล้วถามว่า: “นายรู้ได้ยังไงว่าฉันออกไปข้างนอก?”
“ฉันก็ถามสุ่มสี่สุ่มห้าไปอย่างนั้น…”
ชุยหังผงะไป นี่นับว่าตนรับสารภาพออกมาเองโดยไม่ได้บีบบังคับเลยใช่ไหม
เขาพูดว่า: “กลับไปที่มหา’ลัย แล้วก็ไปหอกระเรียนเหลืองกันชย่าอวี่ชิว”
“ไอ้อ้วนคนนั้นอีกแล้ว?” หลูจื้อถาม
ชุยหังพูดขึ้น: “นายเป็นถึงครูฝึกเอาแต่ว่านักเรียนแบบนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่มั้ง”
“ฉันไม่ใช่ครูฝึกแล้ว ตอนนี้ฉันควบคุมนายได้แค่คนเดียว ไปทำอะไรที่หอกระเรียนเหลือง?”
“ไม่ได้ทำอะไร เดิมทียังอยากจะไปเดินเล่นริมแม่น้ำกัน แล้วนายก็ส่งข้อความมาเลยรีบกลับมาเลย” ชุยหังกล่าว
“ดูเหมือนว่าฉันจะสำคัญกว่า” หลูจื้อยิ้มออกมาในที่สุด
เขาไม่ใช่คนประเภทคิดเล็กคิดน้อย มีผู้ชายบางคนเมื่อประสบกับปัญหานี้เข้าอาจจะพูดว่า งั้นฉันคงจะไปขวางการไปริมแม่น้ำของพวกนายแล้วใช่ไหม ฉันไม่ควรจะกลับมาใช่ไหม
แต่ทว่าหลูจื้อกลับไม่มีทางเป็นแบบนั้น
เขามีความเชื่อใจในความสัมพันธ์ระหว่างเขากับชุยหัง
เขาเข้าใจความรู้สึกที่ชุยหังมีต่อเขา แล้วก็เข้าใจความรู้สึกที่ตนมีต่อชุยหังอย่างชัดเจน
ความรู้สึกไม่ได้เอามาใช้เอื้ออาทรแล้วก็ไม่ได้มีไว้ให้สงสัย
ถ้าหากแค่ความไว้วางใจแค่นี้ยังไม่มีล่ะก็จะยังคบกันได้ยังไง
“จริงสิ ฉันบังเอิญเจอดอกไม้คณะคู่หูของฉันตอนที่พวกเราแข่งเต้นเมื่อครั้งก่อนคนนั้นอีกด้วย แล้วยังมีหัวหน้าฝ่ายหญิงประจำคณะของพวกเขาด้วย” ชุยหังกล่าว
“แล้วไงต่อ?” หลูจื้อไมได้สนใจอะไรมากเกินไป
ชุยหังเอ่ยอย่างมีชัยว่า: “ฉันด่าพวกเขาจนหนีไปเลย”
หลูจื้อหยุดชะงักลงแล้วมองไปทางชุยหังพลางถามขึ้นว่า: “ด่าจนหนีไปแล้ว? ทำไม?”
“ไม่ทำไม ก็ขจัดอันตรายเพื่อประชาชนไง” ชุยหังพูดอย่างไม่ใส่ใจ
“นายลืมไปเสียเถอะ พวกเขาไม่ใช่ปีศาจซะหน่อยจะทำร้ายผู้คนได้ยังไง” หลูจื้อไม่เชื่อ
ชุยหังไม่มีทางเลือกจึงพูดไปว่า: “พวกเขาหาเรื่องกันเองนะ ฉันแค่ไปกินเกี๊ยว พอเห็นฉันก็ถากถางเสียดสีกันยกใหญ่ ฉันน่ารังเกียจบ้างล่ะ ไม่ควรออกมาบ้างล่ะ ฉันย่อมไม่มีทางยอมพวกเขาแน่นอนอยู่แล้ว”
คำพูดของชุยหังทำให้หลูจื้อกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“เรื่องผู้หญิงทะเลาะกันประเภทนี้ไม่ต้องบอกกับฉันหรอก” เขาพูดอย่างจงใจ
จากนั้นยังแอบๆมองชุยหังด้วย แอบดูปฏิกิริยาของชุยหัง
อย่างที่คิดไว้ ชุยหังถึงกับผงะไปแล้วถามขึ้นว่า: “อะไรเรียกผู้หญิงทะเลาะกัน? ฉันเป็นผู้ชายเถอะโอเคไหม”
“งั้นนายยังต้องไปทะเลาะอะไรกับคนที่มีความรู้ต่ำกว่าด้วยล่ะ”
“ไม่ใช่ว่าฉันไปทะเลาะกับคนที่มีความรู้ต่ำกว่าอย่างพวกเขา เมื่อกี้ฉันพูดไปแล้วไม่ใช่หรอว่าฉันธำรงคุณธรรม ไม่ว่าฉันจะทำอะไรมันมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขาสักนิด? นายเป็นผู้อาวุโสของพวกเขาหรอ นายเป็นบรรพบุรุษของพวกเขาหรือไง ฉันไม่ได้คบกับพ่อของหล่อนเสียหน่อย แล้วก็ไม่ได้เป็นมือที่สามของคุณอารองพวกเขาด้วย แล้วถือสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน?” ชัยหังยิงคำถามต่อเนื่องกันอย่างกับปืนใหญ่ต่อเนื่องยังไงอย่างนั้น
วินาทีนั้นหลูจื้อหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า: “ดูเหมือนว่าความกังวลของฉันทั้งหมดจะเกินความจำเป็นแล้ว ปากอย่างนายเนี่ยไปที่บริษัทการขายต้องไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน”
ชุยหังรู้สึกเขินอายเล็กน้อยพลางพูดว่า: “ไม่ใช่ อันนี้ไม่เหมือนกัน คนที่ฉันด่ามีแต่คนที่สมควรด่าแต่ถ้าทำการขายคนพวกนั้นคงจะต้องแปลกประหลาดมากแน่ มีที่ไหนที่ยิ่งโดนด่ายิ่งจ่ายเงิน”
หลูจื้อเอ่ยขึ้น: “ไม่เป็นไร เผื่อว่ามีล่ะ แล้วก็บังเอิญเจอกับนายเข้าพอดีล่ะ”
“ฉันไม่เชื่อหรอก ใครมันจะไปชั้นต่ำขนาดนั้น” ชุยหังกล่าว
หลูจื้อพูดขึ้น: “ไม่ใช่ว่าจะต้องผ่านการด่าอย่างเดียว บางคนอาจจะชอบคนที่พูดตรงไปตรงมา ตอนนี้คนที่ทำงานพนักงานขายต่างก็หน้าไหว้หลังหลอกกัน ถ้านายมีทัศนคติที่แตกต่างแล้วก็ไม่ประจบสอพลอพวกเขา กลับกันพวกเขาอาจจะรู้สึกว่านายคนนี้เป็นคนดีทีเดียวก็ได้”
ตอนที่ 307 เหนื่อยเกินไปแล้ว
“ทานข้าวเสร็จแล้วฉันไปล้างจานนะ” หลูจื้อเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาเอง
ชุยหังรีบพูดอย่างรวดเร็วว่า: “ไม่ต้อง นายรีบไปพักผ่อนสักหน่อยเถอะ หลายวันมานี้นายลำบากมากแล้ว เดี๋ยวฉันทำเองก็ได้ ถ้านายอยากล้างจานในอนาคตก็ยังมีโอกาสอยู่นะ” ชุยหังกล่าว
หลูจื้อมองเขาแล้วพูดว่า: “ที่นายพูดก็ถูก อีกเดี๋ยวฉันยังมีเรื่องอื่นที่ต้องทำอีก”
“เรื่องอะไร นายยังต้องออกไปอีกหรอ” ชุยหังเอ่ยถามอย่างเป็นกังวล
เขารู้ว่าเรื่องภายในกองทัพมีเยอะมาก แต่ว่าก็ไม่สามารถพูดออกไปตรงๆได้ว่าไม่ให้เขาไป
หลูจื้อมองสีหน้าที่แสดงออกมาของเขาแล้วพูดขึ้นว่า: “เด็กโง่ ตอนกลางคืนปิดไฟแล้วควรทำอะไรล่ะ”
ชุยหังเข้าใจในทันทีก่อนจะรีบยกชามตะเกียบทั้งหมดหายไปอย่างรวดเร็ว
หลูจื้อมองท่าทางของเขาก่อนจะหัวเราะชอบใจขึ้นมา
อันที่จริงท่าทางแบบนี้ของชุยหังมันน่ารักมากจริงๆ
บ้านจะใหญ่มากแค่ไหน หัวใจสำคัญอยู่ที่ว่าที่บ้านมีคนที่คอยนึกถึงห่วงใยคุณหรือเปล่า คนที่นึกถึงห่วงใยคุณอยู่ตลอดเวลาเหมือนกัน
ถ้าหากกลับถึงบ้านแต่ทุกวันต่างก็เย็นยะเยือกตลอด แบบนั้นยังไม่สู้ใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกโดยเปล่าประโยชน์จะดีกว่า
“นายไปอาบน้ำก่อนเถอะ น้ำอุ่นเรียบร้อยแล้ว แล้วก็ถ้าเหนื่อยมากเกินไปก็นอนหลับก่อนสักตื่น” ชุยหังตะโกนบอกหลูจื้อจากห้องครัว
หลูจื้อพูดขึ้นว่า: “นายที่เพียบพร้อมไปด้วยคุณธรรมแบบนี้ทำไมฉันไม่ค่อยชินสักเท่าไหร่เลยล่ะ”
ชุยหังโผล่หัวออกมาแล้วพูดว่า: “ไม่งั้นฉันจะถอดปลั๊กเครื่องทำน้ำอุ่นนายออกแล้วให้นายอาบน้ำเย็น?”
“แน่นอนว่าไม่ต้องแล้ว แต่ถ้าว่าตามนายแบบนี้มันจะขุนให้ฉันอ้วนเอาได้ง่ายๆจริงๆนะ กินแล้วนอน นอนแล้วกิน”
“ไม่เป็นไร อ้วนก็อ้วนเลยยังไงฉันก็ไม่รังเกียจ ถ้านายอ้วนอีกหน่อยก็คงจะไม่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าขนาดนี้แล้วพอดีเลี่ยงไม่ให้แรงกดดันในการแข่งขันสูงเกินไป” ชุยหังกล่าว
หลูจื้อเดินเข้ามาในห้องครัวก่อนจะโอบเอวของชุยหังจากด้านหลังพลางพูดว่า: “ฉันทำให้นายไม่ไว้ใจขนาดนั้นเลยหรอ”
ชุยหังรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว: “ไม่ใช่ ไม่ไว้ใจคนข้างนอกพวกนั้นต่างหาก”
“ความหมายของนายก็คือฉันดึงดูดให้คนมาชอบสิ?” หลูจื้อเอ่ยถาม
ชุยหังกล่าวว่า: “ใช่ไง แม้แต่คนที่สายตาสูงอย่างฉันยังยอมเชื่อฟังเลย ยังจะมีคนอะไรที่จะไม่ตกหลุมรักนาย?”
“นายอย่าเอาทองไปติดบนหน้าตัวเองหน่อยเลย สายตาของนายสูงหรอ นายได้เจอฉันนั่นก็เป็นโชคดีครั้งใหญ่ของนายแล้ว โชคลาภที่นายสะสมมากว่ายี่สิบกว่าปีมันเอามาใช้ในการได้พบเจอฉันจนหมดแล้ว” หลูจื้อเองก็คุยโวโอ้อวดอย่างไม่รู้สึกกระดากอาย
ชุยหังพยักหน้าและพูดว่า: “โอเค นายจะพูดยังไงก็ได้แค่นายมีความสุขก็ดีแล้ว”
“อยากทำให้ฉันมีความสุขคืนนี้ก็ให้ความร่วมมือดีๆ” หลูจื้อกล่าว
ชุยหังหันหน้ากลับและต้องการอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่หลูจื้อกลับจูบลงที่ใบหน้าของเขาเข้าพอดี จากนั้นพูดขึ้นว่า: “ถ้าไม่พูดฉันจะถือว่านายยอมรับโดยปริยายแล้วนะ ห้ามกลับคำภายหลัง”
“อืม ไม่กล้า” ชุยหังกล่าว
จากนั้นชุยหังก็ขอให้หลูจื้อรีบไปอาบน้ำ ในเมื่อยุ่งกับภารกิจอยู่ข้างนอกมาหลายวันแล้ว ถ้าได้อาบน้ำสักหน่อยน่าจะดีขึ้น
รอจนกระทั่งชุยหังจัดการงานด้านนอกเสร็จเดินเข้าไปในห้องน้ำก็พบว่าเสื้อผ้าของหลูจื้อถูกโยนไว้บนฝาครอบของเครื่องซักผ้า
ชุยหังตั้งใจมองไปที่ประตู กระเป๋าของหลูจื้อยังอยู่ตรงนั้นแสดงว่าเขาคงจะมีเสื้อผ้ามาเปลี่ยนซัก
ดังนั้นเขาจึงรีบจัดการซักเสื้อผ้าของหลูจื้อทันที เพราะมีเพียงแค่ชุดเดียวดังนั้นก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้เครื่องซักผ้า
รอจนกระทั่งชุยหังจัดการงานทั้งหมดจนเสร็จเรียบร้อย ตอนที่กลับเข้าไปในห้องกลับพบว่าหลูจื้อนอนหลับไปแล้ว นอกจากนี้ยังส่งเสียงกรนออกมาเบาๆด้วย
ระยะนี้เขาเหนื่อยมากเลยจริงๆ
ชุยหังเดินเข้าไปอย่างเบามือเบาเท้า จากนั้นห่มผ้าห่มให้หลูจื้อแล้วค่อยๆโน้มตัวลงไป นอนอยู่ข้างกายหลูจื้ออย่างแผ่วเบา แม้แต่จะหายใจแรงก็ยังไม่กล้า
เมื่อมองใบหน้าที่หลับใหลของหลูจื้อ ชุยหังก็รู้สึกอยากจะจูบเขาขึ้นมาแต่ทว่าเขาก็อดกลั้นเอาไว้ได้
เขาเกรงว่าจะทำให้หลูจื้อตกใจตื่น ในเมื่อหลับไม่ค่อยลึกเท่าไหร่อยู่แล้ว
หาได้ยากที่จะได้กลับมาปล่อยให้เขานอนหลับสบายๆเถอะ