ตอนที่ 318 หน่วยความจำขนาดใหญ่
คาดไม่ถึงเลยว่าการฝึกอบรมครั้งนี้จะกินเวลาไปทั้งสัปดาห์ ชุยหังรู้สึกว่าสมองของเขาเต็มไปด้วยเรื่องพยาธิวิทยาของโรคต่างๆและการแพทย์แผนจีน แต่ทุกครั้งที่มีการสอบย่อย เขามักจะได้คะแนนสูงเสมอจนคุณครูเอ่ยปาพูดไม่หยุดว่าชุยหังมีพรสวรรค์
ในที่สุดก็ถึงเวลาที่พวกเขาจบการฝึกอบบรมแล้ว จากนั้นก็จะให้ผู้จัดการแต่ละแผนกจะมาคัดเลือกพวกเขา
ผู้จัดการเป็นผู้หญิงทั้งหมด ไม่มีผู้ชายเลยแม้แต่คนเดียว
ความจริงแล้วในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาชุยหังพอที่จะมองออกว่าผู้ชายในบริษัทนี้เป็นสิ่งที่ค่อนข้างหายาก
เดิมทีวงการนี้ผู้หญิงค่อนข้างได้เปรียบกว่าผู้ชาย
ผู้จัดการหลายคนนั่งอยู่บนโซฟาในห้องโถงใหญ่กันอย่างเรียบร้อย หลังจากนั้นก็เหมือนกับครั้งก่อนเมื่อเลือกชื่อของใครก็ให้ออกมาแนะนำตัว จากนั้นก็จะมีผู้จัดการบางคนถามคำถามง่ายๆ สองสามข้อและยังแนะนำเพิ่มเติมเรื่องที่พวกเขาต้องเจอในอนาคต เช่น เมื่อลูกค้าถามคำถามอะไร พวกเขาควรต้องตอบอย่างไรบ้าง
เมื่อถึงตาของชุยหัง ครูฝึกอบรมคนหนึ่งได้เน้นย้ำเป็นพิเศษว่าเขาคือคนที่ได้คะแนนดีที่สุดในการสอบข้อเขียนในจำนวนผู้เข้าฝึกอบรมทั้งหมด แต่เมื่อมองไปที่ผู้จัดการแผนกเหล่านั้นกลับไม่มีท่าทีสนใจอะไร
เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะข้อจำกัดทางเพศของเขา
หลังจากที่ผู้จัดการได้ปรึกษากันแล้ว ชุยหังกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งได้ถูกผู้จัดการตลาดกวางตุ้งพาตัวไป
เมื่อพวกเขามาถึงสถานที่ทำงาน ชุยหังเพิ่งพบว่าเมื่อนับรวมผู้จัดการและผู้หญิงที่มาด้วยกันกับเขาแล้ว มีคนทั้งหมดสิบเจ็ดคนในตลาดนี้และมีเขาเป็นผู้ชายเพียงคนเดียว
คนต่างก็พูดกันว่าที่ที่มีผู้หญิงอยู่ด้วยกันจำนวนมากจะเกิดความขัดแย้งได้มากขึ้น เขาก็ไม่รู้ว่าในอนาคตจะต้องเจอเรื่องขัดแย้งมากแค่ไหน
วันแรกของการทำงาน ผู้จัดการไม่ได้รีบให้พวกเขาโทรศัพท์ แต่ให้เปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมาและให้พวกเขาคัดลอกที่อยู่ของร้านค้าของบริษัททั้งห้าสิบสองแห่งในมณฑลกวางตุ้ง
เรื่องที่เธอต้องการนั้นง่ายมาก แต่ที่โหดร้ายกว่านั้นคือต้องท่องจำที่อยู่ของร้านค้าทั้งห้าสิบสองแห่ง ถ้าหากลูกค้าถามถึงในอนาคต พวกเขาต้องบอกที่อยู่ให้อีกฝ่ายทราบโดยเร็วที่สุดหรือหากลูกค้ากำลังเดินทางไปทำงานนอกสถานที่และต้องการหาร้านค้าใกล้เคียง พวกเขาต้องใช้ความจำที่ผ่านมาเพื่อบอกร้านค้าที่ใกล้ที่สุดได้ทันที
เรื่องนี้ต้องใช้ความสามารถในการจดจำอย่างมาก ชุยหังมองไปยังที่อยู่และชื่อร้านแล้วก็รู้สึกหมดอาลัยตายอยากขึ้นมาเล็กน้อย
มีทั้งร้านเทียนเหอ ร้านฮวาตู้ ร้านเทียนเหมิน ชื่อร้านมีความแตกต่างกันไม่มาก แต่ที่อยู่แต่ละร้านนั้นกลับแตกต่างกันอยู่มาก
สิ่งที่ยุ่งยากในการจำโดยเฉพาะก็คือถนนเส้นไหนและเลขที่เท่าไหร่
โชคดีที่ผู้จัดการไม่ได้ขอให้พวกเขาจำเบอร์โทรศัพท์ของที่ร้านด้วย ไม่อย่างนั้นแล้วการเรียงตัวเลขที่น่ากลัวแบบนั้นคงทำให้สมองของชุยหังระเบิดอย่างแน่นอน
เขานั่งอยู่บนที่นั่งของตัวเองกำลังฟังคนทั้งสองฝ่ายแสร้งทำเป็นสื่อสารกับลูกค้า จากนั้นก็ทำเป็นโทรหาคุณลุงคุณป้าพร้อมเรียกด้วยความสนิทสนม จากนั้นพวกเขายังบอกกับอีกฝ่ายด้วยว่าต้องรับประทานผลิตภัณฑ์ของพวกเขาอย่างไร ผลกระทบของผลิตภัณฑ์มีอะไรบ้าง ตอนนั้นชุยหังกลับรู้สึกว่างานนี้น่าเบื่อมาก
ไม่ว่าจะต้องคุยกับใครก็ต้องพูดประโยคเดิมๆ ที่เตรียมไว้ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีทัศนคติไม่ดีอย่างไรก็ต้องหาวิธีทำให้อีกฝ่ายซื้อผลิตภัณฑ์ของตัวเอง จากนั้นก็พยายามให้พวกเขาแนะนำต่อให้กับเพื่อนและผู้คนรอบข้างให้มาเป็นลูกค้าของพวกเขาด้วย
อย่างไรก็ตามพวกเขาก็สบายกว่าคนที่ขายเสื้อผ้าเหล่านั้น เพราะพวกเขาต้องฝากเบอร์โทรไว้ที่ร้าน ซึ่งพนักงานในร้านจะแจ้งล่วงหน้าว่าจะมีพนักงานบริการหลังการขายโทรหาเพื่อสอบถามและให้คำแนะนำหลังการขาย
ดังนั้นคนเหล่านั้นไม่มีทางที่จะปฏิเสธพวกเขา
ความยากอยู่ที่การทำให้ลูกค้าเหล่านั้นกลับมาซื้อสินค้าอีกครั้งและซื้อเพิ่มในช่วงโปรโมชั่น
พวกเขามีสามโปรโมชั่นในทุกๆ สองเดือน ดังนั้นต้องใช้กลยุทธ์ค่อนข้างมากเพื่อดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้นและเป็นการนำรายได้ที่ดีมาสู่พนักงานขายเหล่านี้
สิ่งที่ชุยหังกำลังคิดอยู่ตอนนี้ คือตัวเองเหมาะกับงานนี้หรือไม่และหนีตอนนี้ยังทันอยู่ไหม
ตอนที่ 319 ไฟล์
ชุยหังใช้เวลาสามวันในการท่องจำที่อยู่ทั้งหมด จากนั้นเขาก็ไปหาผู้จัดการให้ช่วยตรวจสอบ
ผู้จัดการรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก เพราะเธอไม่คิดว่าชุยหังจะสามารถท่องได้เร็วขนาดนี้ เธอบอกว่าคนส่วนใหญ่ต้องใช้เวลาจำมากกว่าหนึ่งสัปดาห์จึงจะสามารถท่องได้ แม้แต่คนที่อยู่ในร้านตอนนี้ก็ยังมีบางคนที่ไม่รู้ที่อยู่ของร้านอย่างละเอียด
เรื่องนี้อาจเกี่ยวกับการที่ชุยหังเป็นนักเรียนมาก่อนจึงมีหลายเรื่องที่ต้องจดจำ
ชุดทำงานของเขามาพร้อมกับเสื้อเชิ้ตสีขาว ด้านนอกเป็นเสื้อกั๊กหนึ่งตัวและติดริบบิ้นสีดำอีกหนึ่งอัน
ชุยหังยังมีเลขประจำตัวพนักงานอีกด้วย หลังจากนั้นผู้จัดการก็ส่งข้อมูลของลูกค้าให้กับเขาและขอให้เขาสร้างไฟล์และบันทึกลงในคอมพิวเตอร์เพื่อให้ฝ่ายตรวจสอบคุณภาพดู
หลังจากที่ชุยหังโทรศัพท์ไปสองสามครั้ง เขาก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย
“สวัสดีครับ ขออนุญาตสอบถามว่า…”
ชุยหังเริ่มต้นด้วยการพูดแบบนี้มาตลอด หลังจากนั้นก็รู้สึกว่าเสียงของตัวเองไม่ออกมาแล้ว
การพูดแบบนี้เป็นเรื่องที่รู้สึกกดดันเหลือเกิน
ผ่านไปไม่นานผู้จัดการก็เข้ามาหาชุยหังและบอกว่าเขาทำได้ไม่เลว
ชุยหังรู้สึกงงเล็กน้อยว่าเธอได้ยินตอนที่ตัวเองคุยโทรศัพท์แล้วเหรอ
ผู้จัดการบอกว่าฝ่ายตรวจสอบคุณภาพเพิ่งได้รับเสียง ซึ่งผู้จัดการลืมบอกไปว่าหมายเลขพนักงานของชุยหังเพิ่งเริ่มทำงาน แต่หลังจากที่ฝ่ายตรวจสอบคุณภาพรู้ก็บอกว่าเขาทำได้ดี เรื่องที่ควรพูดเกี่ยวกับคุณภาพของเสียงในสายก็ได้พูดไปหมดแล้วโดยไม่มีการยืดเยื้อแต่อย่างใด รวมถึงการแนะนำผลิตภัณฑ์และให้ติดตามรายการรักษาสุขภาพของบริษัทด้วย
หลังจากที่ชุยหังได้รับคำชม เขาก็รู้สึกว่างานนี้น่าสนใจเป็นอย่างมาก
ความจริงแล้วตัวเองก็สามารถทำงานนี้ได้ดี
ช่วงบ่ายเขาโทรหาลูกค้ามากกว่าสี่สิบคน หลังจากนั้นคนเหล่านี้ต่างก็กลับมาหาเขาอีกครั้ง
พูดได้อีกอย่างหนึ่งคือ ถ้าหากคนเหล่านี้ไปซื้อสินค้าที่ร้านในอนาคตและทิ้งเบอร์ของชุยหังไว้ที่ร้าน ชุยหังก็จะได้รับค่าคอมมิชชั่นด้วย
สินค้าของพวกเข้ามีราคาสูงมากถึงกล่องละ 798 หยวนซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ทุกครั้งคนกวางตุ้งจะซื้อครั้งละสิบหรือยี่สิบกล่อง โดยที่จะได้ค่าคอมมิชชั่นร้อยละ 0.6 ซึ่งถือว่าไม่น้อยเลย
นอกจากนี้เขาได้ยินผู้จัดการพูดมาว่า ปกติแล้วแต่ละคนควรมีลูกค้าถึง 400 คน
ทุกครั้งที่มีโปรโมชั่นมีความหมายต่อเงินเดือนของทุกคนมาก
เมื่อผู้จัดการได้พูดคุยกับหลูจื้อก็ทำให้เขาเต็มไปด้วยความคาดหวังต่องานนี้เป็นอย่างมาก
ก่อนหน้านี้เขากังวลว่าตัวเองไม่มีประสบการณ์ใดๆ ในสังคมมาก่อนจึงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะปรับตัวได้ดีเลยทีเดียว
เมื่อชุยหังได้รับข้อมูลของลูกค้าชุดหนึ่งมาจากผู้จัดการในวันรุ่งขึ้น หนึ่งในนั้นมีคนหนึ่งที่ทำให้เขารู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก
เจ้าหน้าที่ให้บริการลูกค้าก่อนหน้าเขาคนนี้ได้ทำการประเมินลูกค้ารายนี้อย่างตรงไปตรงมาในไฟล์ในคอมพิวเตอร์โดยใช้คำเพียงสี่คำเท่านั้นคือคำว่ายายแก่ตายแล้ว
ชุยหังคิดว่าคนนี้ต้องลำบากใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงตั้งใจที่จะนำชื่อของเขาวางไว้เป็นอันดับสุดท้าย เพราะไม่อยากได้รับผลกระทบต่อจิตใจจากคนนี้
อย่างไรก็ตามวันนี้คนเหล่านี้ดูเหมือนจะมีทิฐิเล็กน้อย เมื่อได้ฟังคำแนะนำหลังการขายของพวกเขาแล้วก็เปลี่ยใจอีกแล้วเหมือนไม่ค่อยมีความอดทน
มีสายหนึ่งที่ลูกชายของคนที่ซื้อสินค้าของเขาไปแล้วโทรกลับมาด่าชุยหัง “พวกคุณเป็นพวกต้มตุ๋นมาหลอกให้แม่ของฉันจ่ายเงิน ฉันจะแจ้งตำรวจให้มาจับคุณ”
ชุยหังถึงกับงงไปเลย เขาไม่คิดว่าคนที่เป็นเจ้าหน้าที่บริการลูกค้าจะเจอคนประเภทไหนก็ได้
เมื่อวานเป็นเพราะเขาโชคดีก็เท่านั้น แต่วันนี้เป็นสถานการณ์ปกติที่ต้องเจอ
หลังจากที่ได้คุยโทรศัพท์ไปหลายครั้งล้วนเป็นสถานการณ์ที่คล้ายกัน ชุยหังจึงตัดสินใจเปลี่ยนใจโทรหาคนที่ตัวเองวางชื่อไว้เป็นอันดับสุดท้าย
อีกฝ่ายที่เป็นคุณยายคนนั้นสุภาพและพูดจาดีเป็นอย่างมาก
‘แล้วเพราะอะไรเจ้าหน้าที่บริการลูกค้าก่อนหน้าเขาถึงประเมินให้เธอไม่ดีในคอมพิวเตอร์ล่ะ’