ตอนที่ 330 ให้อาจารย์โทรมาหาแม่
ตอนนั้นชุยหังแทบจะเป็นลม ประโยคนี้ทำให้เขาตกใจมาก
เขาไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้คนอื่นฟัง แล้วแม่ของเขารู้ได้อย่างไร
เขารีบเอ่ยตอบ “ไม่ใช่แล้ว ผมอยู่ที่เมืองเอ้อสบายดี ผมไปเรียนนะ จะมีเวลาไปที่นั่นได้ยังไง”
แม่กลับไม่เชื่อเขาและบอกว่า “ไม่ต้องมาโกหก เพื่อนร่วมชั้นของลูกที่กลับมาจากที่นั่นบอกว่าเห็นลูกอยู่ที่นั่น”
“เพื่อนร่วมชั้นเหรอ ช่างเถอะ ผมไม่ได้เจอเพื่อนร่วมชั้นตอนมอปลายมานานแล้ว” ชุยหังรู้สึกไม่ค่อยสู้ดี
‘คนนั้นเป็นใครกัน’
“ทางที่ดีที่สุดอย่าให้แม่รู้ว่าลูกอยู่ที่นั่นนะ ไม่งั้นก็ต้องไม่กลับบ้านอีกเลย ที่นั่นไม่ใช่ที่ที่ดีเลยนะ เข้าใจที่พูดหรือเปล่า” น้ำเสียงของแม่เหมือนจะมั่นใจมากว่าชุยหังอยู่ที่บริษัทขายตรง
ชุยหังเริ่มจริงจังและเอ่ยถาม “แม่ สรุปว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวกับแม่ว่าผมอยู่ที่บริษัทขายตรง”
“เพื่อนร่วมชั้นที่แซ่ซุน ลูกไม่รู้จักเหรอ” แม่เอ่ยตอบ
ชุยหังจำได้ว่าเพื่อนร่วมชั้นของเขาที่แซ่ซุน นอกจากซุนซิ่งแล้วก็เหมือนจะไม่มีใครแซ่นี้แล้ว
‘ตอนนั้นเขามาหลอกให้ตัวเองไป เขาไม่น่าจะกล้าบอกว่าตัวเองอยู่ที่นั่นนะ’
‘อย่างนี้ไม่ใช่การหาเรื่องให้ตัวเองเหรอ’
“ซุนซิ่งเหรอ” เขาต้องการยืนยันอีกครั้ง
แม่เอ่ยตอบ “น่าจะใช่นะ เด็กคนนั้นเพิ่งจะถูกที่บ้านของเขาพากลับมา ได้ยินว่าไปทำลูกสาวบ้านคนอื่นเขาท้องป่อง ตอนนี้กำลังปรึกษาเรื่องานแต่งกันอยู่ เขาบอกว่าลูกก็อยู่ที่นั่น เขาเห็นลูกเพิ่งเข้าไป”
ตอนนั้นชุยหังกำลังลุกเป็นไฟ คนนี้ไม่ยอมรับความผิดของตัวเอง แต่ทำไมยังหาเรื่องมาให้เขาอีก
ทำไมเขาไม่บอกว่าตัวเองทำผู้หญิงคนนั้นท้องหรือว่าเขารับคนไม่ดีต่อจากคนอื่น
“เป็นไปไม่ได้หรอก แม่อย่าไปฟังคนอื่นพูดจาไร้สาระเลย ผมอยู่ที่โรงเรียน” ชัยหังเอ่ยตอบ
“โอเค ไม่ต้องอธิบายแล้ว ลูกให้อาจารย์โทรมาหาแม่ก็แล้วกัน ไม่งั้นแม่จะให้คุณลุงตามไปดูว่าจริงๆ แล้วลูกอยู่ที่โรงเรียนหรือว่าไม่อยู่กันกันแน่ ถ้าไม่อยากไปเรียนแล้วก็บอกมาได้เลยตามตรง เพราะที่บ้านก็ใกล้จะจ่ายเงินให้ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน” แม่เอ่ยบอก
ตอนนั้นน้ำตาแห่งความกังวลขของชุยหังก็ไหลลงมา ทำไมแม่ถึงไม่ยอมเชื่อคำพูดของเขา
พ่อแม่ของเขาเป็นคนไม่มีความรู้และไม่เคยเดินทางไกล ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้ามาหาเขาที่นี่
คนเดียวในครอบครัวที่พอมีความรู้อยู่บ้างคือคุณลุงของเขา
‘ถึงอย่างไรตอนนี้เขาก็พักการเรียนแล้ว ถ้าหากให้คุณลุงมารู้เรื่องที่ตัวเองพักการเรียนด้วยมันจะไม่แย่ไปกว่านี้เหรอ’
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้หยุดเรียนเพราะมาทำธุรกิจขายตรง แต่เรื่องที่คนทั้งโรงเรียนรู้ว่าเขาเป็นเกย์น่าขายหน้ายิ่งกว่า
ชุยหังตอบอย่างร้อนรน “อาจารย์ยุ่งขนาดนั้น จะเอาเวลาไหนโทรหาแม่ล่ะ”
“ไม่โทรก็ได้ แม่จะให้คุณลุงตามไปดูก็แล้วกัน ลูกไปทำธุระของตัวเองเถอะ” แม่เอ่ยบอก
ชุยหังไม่รู้จะทำอย่างไรจึงตอบตกลงกับแม่ของเขาไปก่อน “ก็ได้ เดี๋ยวจะให้อาจารย์โทรไปหาแม่ก็แล้วกัน แต่พวกเราปีหนึ่งมีร้อยกว่าคนแต่มีอาจารย์ที่ปรึกษาคนนี้แค่คนเดียว ผมไปดูก่อนว่าอาจารย์จะว่างตอนไหนแล้วจะให้โทรไปกลับไปหาแม่”
หลังจากที่วางสายไป ชุยหังรู้สึกอยากจะเป็นลม ถ้าหากขอให้อาจารย์ที่ปรึกษาโทรหาแม่จริงๆ อาจารย์ต้องไม่ช่วยอย่างแน่นอน
‘นอกจากจะไม่ช่วยแล้ว อาจจะตำหนิตัวเองอีกด้วย หรือว่าเขาควรโทรไปยอมรับผิดกับที่บ้านว่าตัวเองพักการเรียนแล้ว’
‘ถ้าอย่างนั้นเรื่องอาจจะวุ่นวายมากกว่าเดิม’
ยิ่งวุ่นวายใจ เรื่องก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นจนทำให้ชุยหังแทบคลั่ง
ตอนนี้เขาอยากให้หลูจื้อมาอยู่ข้างๆ เขาเหลือเกิน
ตอนที่ 331 ช่วยผมหน่อย
เมื่อนึกถึงหลูจื้อ ชุยหังก็มีความคิดว่าจะให้หลูจื้อแกล้งเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของตัวเองเพื่อโทรไปหาที่บ้านของเขา
ครอบครัวของเขาต้องมองเห็นว่าหมายเลขโทรศัพท์ของหลูจื้อเป็นของเมืองเอ้อ และเสียงของหลูจื้อก็ค่อนข้างน่าเชื่อถือ ถ้าหากเขาแกล้งเป็นอาจารย์ ครอบครัวของเขาต้องไม่มีใครสงสัยอย่างแน่นอน
พวกเขาต้องคาดไม่ถึงอย่างแน่นอนว่าตัวเองจะสามารถหาคนมารับบทเป็นอาจารย์ในเวลาอันสั้นนี้ได้
ถ้าซุนซิ่งไม่กลับไปพูดเรื่องไร้สาระ ครอบครัวของเขาคงไม่ต้องกังวลใจแบบนี้
โชคดีที่ก่อนหน้านี้ตัวเองไม่ได้พูดเรื่องไม่ดีของเขากับเพื่อนร่วมชั้น ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะกลับมาใส่ร้ายตัวเองได้
เขาส่งข้อความไปหาหลูจื้อทันทีและถามว่าเขายุ่งอยู่หรือเปล่า ถ้าไม่ยุ่งก็ให้โทรกลับมาหาตัวเองด้วย
หลังจากที่รอเป็นเวลานาน หลูจื้อก็ไม่ได้ตอบกลับมา
ชุยหังจึงคิดว่าเขาควรต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อนแล้ว
บางทีเขาอาจจะไม่เห็นข้อความและไม่ได้ใส่ใจกับเสียงของวีแชทที่ดังขึ้น
เรื่องของตัวเองเป็นเรื่องด่วนมากจำเป็นต้องรีบแก้ไขทันที
หลังจากนั้นเขาจึงโทรไปหาหลูจื้อ
เขารออย่างใจจดใจจ่อด้วยสมองที่ว่างเปล่าของเขา แต่ก็ไม่มีใครรับสาย
ชุยหังรู้สึกสับสนขึ้นมา ยิ่งต้องการเขามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งไม่อยู่ข้างกายตัวเอง แม้จะเรียกหาก็ไม่เจอ
‘หรือว่านี่คือเหตุผลที่แฟนเก่าของหลูจื้อทิ้งเขาไปก่อนหน้านี้’
ถึงอย่างไรเขาก็รู้ว่างานของหลูจื้อไม่เหมือนกับคนอื่น ตัวเองติดต่อเขาไม่ได้ถือเป็นเรื่องปกติ
ตอนที่ได้อยู่กับเขาทำให้เข้าใจว่า เขาไม่ใช่คนที่สามารถเรียกหาได้ตลอดเวลาเพราะเขามีภารกิจที่มีเกียรติกว่านั้นต้องทำ ในเมื่อรู้อย่างนี้ตั้งแต่แรกจะบอกตัวเองว่ารับไม่ได้ตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว
เขาโทรซ้ำอยู่หลายครั้ง แต่หลูจื้อก็ไม่รับสาย
ชุยหังกำลังถือโทรศัพท์มือถือไว้ในมือโดยที่ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี
หลังจากที่เขาคิดเรื่องนี้อยู่นาน เขาก็มองสมุดโทรศัพท์ของเขาอย่างใจจดใจจ่อและบังเอิญไปเห็นเบอร์ของซ่งไข่
หลังจากที่คิดอยู่สักพัก บางทีให้ซ่งไข่ช่วยเรื่องนี้อาจจะไม่มีปัญหาอะไรก็ได้
ซ่งไข่มีประสบการณ์ทุกอย่าง เขารู้เรื่องที่ตัวเองพักการเรียนและรู้เรื่องที่ตัวเองเคยไปที่ไท่อัน ดังนั้นเขาน่าจะอธิบายให้ครอบครัวของเขาเข้าใจอย่างชัดเจน
ตอนนี้ไม่มีเวลาให้คิดมากแล้ว เขาจึงรีบโทรหาซ่งไข่ทันที
ความจริงก่อนที่จะโทรไป เขาก็กังวลว่าซ่งไข่อาจจะยุ่งเหมือนหลูจื้อจนไม่มีเวลารับสาย
แต่เรื่องที่เขาประหลาดใจก็คือซ่งไข่รับสายอย่างรวดเร็ว
“ชุยหัง มหัศจรรย์จริงๆ ที่นายโทรมาหาฉันก่อนเพราะโทรหาหลูจื้อไม่ติดใช่ไหม” ซ่งไข่ถามตามตรง
ชุยหังรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่เป็นอย่างนั้นจริงๆ
“ครูฝึกซ่ง คุณช่วยอะไรผมหน่อยได้ไหม” ชุยหังเอ่ยถามตามตรง
ซ่งไข่เงียบไปครู่หนึ่งและเอ่ยถาม “มีอะไร นายพูดมา”
“เมื่อกี้ครอบครัวของผมโทรมาหาเพราะว่าเพื่อนที่หลอกให้ผมไปไท่อันคนนั้นกลับไปบ้านเกิดแล้ว แต่ไปบอกครอบครัวของผมว่าผมอยู่ที่นี่ ตอนนี้ที่บ้านกังวลมากและเชื่อว่าผมอยู่บริษัทขายตรง ผมบอกว่าอยู่เมืองเอ้อ พวกเขาก็ไม่เชื่อและบอกให้อาจารย์โทรกลับไปหาพวกเขาด้วย”
ซ่งไข่เข้าใจแล้ว จึงเอ่ยถาม “นายหมายถึงให้ฉันแอบอ้างเป็นอาจารย์ของนายใช่ไหม”
“อืม หมายความว่าอย่างนั้น ผมโทรไปหาหลูจื้อหลายครั้งแล้ว แต่เขาก็ไม่รับสายเลย เขาน่าจะกำลังยุ่งอยู่ แต่ตอนนี้ที่บ้านผมกำลังรออยู่ ผมก็เลยรอหลูจื้อไม่ได้แล้ว” ชุยหังร้อนใจมาก
ซ่งไข่รู้ว่าเขาร้อนใจมากจึงเอ่ยตอบ “ฉันเข้าใจแล้ว ฉันช่วยนายก็ได้ ที่บ้านของนายรู้เรื่องที่นายพักการเรียนหรือเปล่า”