[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ – ตอนที่ 3 มหาวิทยาลัย

ชุยหังยืนรออยู่ตรงนั้นนานกว่าครึ่งชั่วโมงเต็มๆ กว่าจะมีรถขับผ่านมา  

 

 

หลังจากขึ้นนั่งบนรถแล้ว ในใจของเขายังคงหวาดผวาไม่หาย เอาแต่คอยถามคนขับรถว่ายังจำสถานที่ที่ตนต้องการจะไปได้ไหม จากตรงนี้ถึงมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคเหลืออีกไกลแค่ไหน แล้วต้องใช้เวลาเดินทางนานเท่าไหร่  

 

 

ด้านคนขับรถก็ใจดีมากถามเขากลับว่าเขาหลงทางมาหรือเปล่า  

 

 

ชุยหังอึดอัดใจจึงเล่าเรื่องที่ตัวเองถูกคนขับรถนิสัยแย่ลากมาถึงที่นี่ แต่ตัวเองโชคดีหนีรอดออกมาได้ หลังจากที่คนขับรถฟังแล้วนอกจากถอนหายใจเขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก  

 

 

เขารู้ว่าชุยหังเป็นนักศึกษาใหม่ของมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิค แต่คนขับรถยังคงสงสัยอยู่นิดหน่อยว่า นักศึกษาทุกวันนี้วิธีเอาตัวรอดป้องกันตัวเองจากพวกหลอกลวงแย่ขนาดนั้นเลยหรอ ทำไมถึงได้ถูกหลอกลากออกมาจากสถานีรถได้ง่ายขนาดนี้  

 

 

ชุยหังรู้สึกเหมือนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน เรื่องแบบนี้พูดออกไปก็มีแต่ทำให้ขายขี้หน้าเปล่าๆ  

 

 

แต่ว่าอันที่จริงเขานึกหวาดกลัวเสียมากกว่า ถ้าหากว่ารถทหารคันนั้นไม่ขับผ่านมาล่ะก็พวกกระเป๋าเดินทางของตนเองจะทำยังไงล่ะ  

 

 

เมื่อคิดแบบนี้แล้วไม่ว่ายังไงตนควรจะขอบคุณพี่ชายทหารคนนั้น ช่างเถอะเอาเป็นว่าเรื่องที่เขาไม่ยอมขับรถมาส่งนั้น ตนก็จะไม่เก็บมันมาใส่ใจก็แล้วกัน  

 

 

ในที่สุดประตูมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าของชุยหังแล้วตอนนี้ ชุยหังรู้สึกเหมือนชีวิตพึ่งรอดตายมายังไงอย่างนั้นแทบอยากจะโผเข้าไปกอดคนขับรถอย่างแนบแน่น ไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกของเขาในตอนนี้แน่  

 

 

ประตูใหญ่ของมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคกว้างใหญ่ยิ่งกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้เสียอีก พอเดินเข้าประตูไปก็เห็นว่าด้านในมีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ด้วย ด้านในสระมีน้ำพลุที่พ่นน้ำกระจายออกด้านนอกไม่ยอมหยุด ดูไปแล้วก็ให้ความรู้สึกเป็นศิลปะอยู่ไม่น้อยเลย  

 

 

ริมสระน้ำมีต้นหลิวที่แม้จะเลยผ่านฤดูกาลช่วงใบสีเขียวอ่อนมาแล้วแต่เมื่อกิ่งก้านยาวๆ เคลื่อนไหวตามสายลมโบกพัด ก็นับว่าเป็นภาพทิวทัศน์ที่งดงามไม่น้อย  

 

 

ชุยหังรบกวนคนที่เดินผ่านมาให้ช่วยถ่ายรูปของตนคู่กับประตูใหญ่ให้สองสามรูป จากนั้นเขาก็เลือกเอารูปภาพหนึ่งรูปที่ไม่ได้ลบทิ้งอีกทั้งยังเห็นตัวอักษรบนป้ายหน้ามหาวิทยาลัยอย่างชัดเจนแชร์ลงบนโมเมนต์กลุ่มเพื่อน  

 

 

แน่นอนว่าเขาไม่มีทางเล่าประสบการณ์เรื่องที่ตนถูกหลอกให้นั่งบนรถโจร เพราะไม่อย่างนั้นพ่อกับแม่ของเขาต้องเป็นห่วงมากแน่นอน  

 

 

ไม่นานบนโมเมนต์กลุ่มเพื่อนก็เต็มไปด้วยคนเข้ามากดไลค์และแสดงความคิดเห็น  

 

 

มีคนพูดว่า: [ในที่สุดพ่อหนุ่มล้าสมัยก็เข้าเมืองแล้ว ดูสิเมืองใหญ่กำลังโบกมือทักทายนายอยู่]  

 

 

[ตอนไปไปคนเดียว ตอนกลับอย่าลืมสอยสาวสวยกลับมาด้วยนะ]  

 

 

[มองแต่ประตู แทบไม่อยากมองนายเลย นี่ถือว่าแอบถ่ายนะ]  

 

 

[เรือของมหา’ ลัยนายล่ะ ไม่ใช่การเดินเรือหรอกหรอ]  

 

 

[ว่าที่กัปตันเรือในอนาคต ขอแสดงความเคารพครับ]  

 

 

…  

 

 

ภาควิชาของชุยหังคือ เทคนิคการเดินเรือ  นับเป็นหนึ่งในสาขาวิชาพิเศษของมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคแห่งนี้ และเป็นชุดแรกๆ เลยด้วย  

 

 

ชุยหังตอบกลับความคิดเห็นทีละอันๆ จนครบแล้วก็เดินลากกระเป๋าลากของตัวเองเข้าไปด้านใน  

 

 

ปรากฏว่าได้ยินเสียงดัง “ แกร๊ก ” ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง ตอนเขาหันกลับไปมองก็พบว่าล้อของกระเป๋าลากหักออกไปแล้ว…  

 

 

คนมันจะซวย ขนาดดื่มน้ำเย็นยังรู้สึกเสียวฟัน  [1]  เลย  

 

 

เขาทำได้แค่เปลี่ยนมาเป็นยกตรงที่จับกระเป๋าแทน แต่เนื่องจากคุณภาพของกระเป๋าไม่ค่อยจะดีแถมข้างในกระเป๋ายังยัดข้าวของไว้มากจนเกินไปทำให้ที่จับกระเป๋าก็หลุดออกเหมือนกัน…  

 

 

ชุยหังอารมณ์ยุ่งเหยิงไปหมดรู้สึกว่า ทำไมตัวเองถึงได้น่าสมเพชขนาดนี้นะ  

 

 

ยังดีที่ตอนนี้ในมหาวิทยาลัยยังไม่ค่อยมีคนมากมายนัก เขาอุ้มกระเป๋าเดินทางเดินกว่าจะไปโผล่ตรงที่มหาวิทยาลัยจัดเตรียมไว้ให้พวกคนที่มาก่อนล่วงหน้าก็เหนื่อยจนทั่วทั้งร่างกายเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ  

 

 

เพราะตอนนี้ยังไม่ถึงช่วงรายงานตัวอย่างเป็นทางการ ดังนั้นทางมหาวิทยาลัยจึงจัดพวกคนที่มาก่อนล่วงหน้าจากหลากคณะให้เข้ามาอยู่ด้วยกัน  

 

 

คงเพราะบรรยากาศภายในห้องดูน่าเบื่อ ในที่สุดสี่คนภายในห้องจึงเริ่มสนทนากันขึ้นมา  

 

 

“พวกนายมาจากคณะไหนกันบ้างหรอ” คนหนึ่งในห้องที่ติดสำเนียงทางใต้พูดขึ้น  

 

 

 

 

 

——  

 

 

[1]  ดื่มน้ำเย็นยังรู้สึกเสียวฟัน (喝口凉水都寒牙缝) แปลว่า โชคร้ายจนถึงขั้นสุด ทำอะไรก็ไม่ราบรื่นเลย  

[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ

[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ

ชุยหัง เฟรชชี่ปีหนึ่งจากคณะเทคนิคการเดินเรือรอนแรมจากบ้านมาเรียนต่างเมืองเป็นครั้งแรก ทว่าเกือบถูกดักปล้นกลางทาง เคราะห์ดีที่มีคนผ่านทางมา แต่เขาคนนั้นกลับเมินเฉยไม่ยอมช่วยเสียอย่างนั้น ชุยหังจึงด่าพ่อล่อแม่ไปชุดใหญ่ กระนั้นโชคชะตาก็เล่นตลกให้ชุยหังได้พานพบกับ หลูจื้อ ชายที่เขาเคยปะทะฝีปากด้วยคราวก่อนอีกครั้งในฐานะครูฝึกทหารกับนักศึกษา จากเกลียดแรกพบจึงกลับกลายเป็นความใกล้ชิด ก่อตัวเป็นความรู้สึกเล็กๆ ในใจของทั้งสองโดยไม่รู้ตัว แต่ความสัมพันธ์ต้องห้ามนี้จะลงเอยอย่างไร เมื่อฝ่ายหนึ่งคือนายทหารอนาคตไกลที่มีแฟนสาวผู้เพียบพร้อมข้างกายอยู่แล้ว ส่วนอีกฝ่ายคือชายหนุ่มที่เป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวของครอบครัว ผิดหวังจากความรักครั้งแล้วครั้งเล่าจนไม่อาจเชื่อใจใครได้อีก ความรักที่ไม่ควรเกิดขึ้นท่ามกลางหน้าที่และความรับผิดชอบของลูกผู้ชายนี้จะเก็บเป็นความลับต่อไปได้อีกนานแค่ไหน…  แสดงเพิ่มเติม

Comment

Options

not work with dark mode
Reset