[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ – ตอนที่ 60 เมฆครึ้มมาแล้ว / ตอนที่ 61 ฉันอาจจะมีครูฝึกปลอม

ตอนที่ 60 เมฆครึ้มมาแล้ว  

 

 

หลูจื้อเดินจากไปแล้ว ชุยหังกระซิบถามโจวเฉวียนเสียงเบา: “นายคิดจะนอนไปถึงเมื่อไหร่”  

 

 

โจวเฉวียนยังคงไม่ลืมตาแล้วพูดขึ้น: “นายโง่หรือเปล่า ได้นอนแล้วใครมันจะอยากไปยืน? แดดแรงออกขนาดนั้น นายคิดว่าเป็นอุปกรณ์ทำความร้อน  [1]  ก่อนอาบน้ำบ้านนายหรือไง”  

 

 

ชุยหังพูดต่อ: “ครูฝึกไม่ได้โง่ อีกเดี๋ยวเขาก็ดูออกแล้ว”  

 

 

“ไม่เป็นไร เขาดูไม่ออกหรอก พวกเขาเป็นทหาร พวกเราเป็นแค่นักศึกษา สมรรถภาพทางกายมันแตกต่างกัน เขาก็กลัวว่าจะฝึกพวกเราจนแย่เหมือนกันแหละ”  

 

 

“นายนับหรอ ดูกล้ามเนื้อทั้งตัวของตัวนายก่อน อย่างนายหรอจะถูกฝึกจนแย่” ชุยหังถาม  

 

 

โจวเฉวียนพูด: “ฉันอ้วนออกนะ นายดูไม่ออกหรอ”  

 

 

“ได้ ฉันจะนอนเป็นเพื่อนนายอีกหน่อยก็จะกลับไปยืนระเบียบแล้ว”  

 

 

“นายยังจะกลับไปยืนระเบียบ สมองนายบ้าไปแล้วหรอ” โจวเฉวียนถาม  

 

 

ชุยหังพูดตอบ: “ถ้าวันนี้ยืนระเบียบไม่ดี พรุ่งนี้ก็ยังต้องยืนต่อ ห้องอื่นๆ เขาเริ่มฝึกเดินกันแล้ว แต่พวกเรายังยืนอยู่ที่เดิมอยู่เลย ไม่ขายหน้าหรอ นายเป็นถึงตัวแทนหัวหน้าห้องนะ ทำไมแค่วิธีจะเป็นผู้นำแค่นี้ก็ไม่รู้ ถ้านายไม่แสดงออกตอนนี้แล้วนายอยากจะแสดงออกตอนไหน”  

 

 

โจวเฉวียนตะลึงงันไปแล้ว เขาพูดมีเหตุผล ตอนนี้ตัวเองเป็นหัวหน้าชั่วคราว พอดีกับเป็นช่วงที่อาจารย์ที่ปรึกษาจะตรวจการเป็นผู้นำของเขา ถ้าตัวเองเอาแต่คิดจะหาวิธีหลบหนีมันแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นตำแหน่งหัวหน้าห้องนี้จะตกไปอยู่ในมือของใครยังไม่รู้เลย  

 

 

เขาลืมตาขึ้นทันทีแล้วพูดขึ้น: “ขอบคุณที่นายช่วยเตือนสติฉัน ฉันขอกินน้ำหน่อย”  

 

 

ชุยหังพยายามออกแรงยื่นขวดน้ำส่งให้เขา ถึงแม้ว่าตัวเขาจะฟื้นสติขึ้นมาแล้วแต่ทั่วทั้งร่างกายยังคงไร้เรี่ยวแรงเหมือนเดิม  

 

 

สายลมเย็นๆ พัดโชยมา ในที่สุดเขาก็เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้างแล้ว  

 

 

ดูเหมือนว่าความร้อนสูงเกินไปจะไม่ใช่เรื่องดีอะไรเลยจริงๆ  

 

 

โจวเฉวียนดื่มน้ำลงไปอึกใหญ่แล้วหันมามองทางชุยหังแล้วถามเขา: “ฉันดีขึ้นมากแล้ว นายล่ะ?”  

 

 

ชุยหังลองขยับแขนขยับขาแต่มันยังคงไม่มีเรี่ยวแรงจึงพูดตอบ: “ฉันยังไม่ไหว ถึงจะกลับไปแล้วก็คงต้องถูกหามกลับมาอีก”  

 

 

“งั้นฉันไปล่ะ” โจวเฉวียนพูด  

 

 

ชุยหังพนักหน้ารับแล้วพูดขึ้น: “สู้ๆ หัวหน้า”  

 

 

โจวเฉวียนเป็นคนมีเป้าหมาย ส่วนตัวเขาไม่เคยคิดจะสนใจเกี่ยวกับงานรับราชการเป็นผู้บริหารอะไรพวกนั้น ขอเพียงแค่สามารถเรียนจบได้อย่างราบรื่น จากนั้นสามารถหางานที่เอาไว้เลี้ยงชีพได้ งานที่ได้กตัญญูตอบแทนคุณพ่อแม่ได้ก็พอแล้ว นอกนั้นเขาไม่สนใจ  

 

 

ดังนั้นให้เขานอนอยู่ตรงนี้ต่อไปเถอะ  

 

 

อีกอย่างตอนนี้เขายังรู้สึกว่ามันทรมานมากจริงๆ ไม่สามารถขยับตัวสุ่มสี่สุ่มห้าได้เลย  

 

 

เหมือนกับที่เขาพึ่งบอกโจวเฉวียนไปเมื่อครู่ ต่อให้เขาจะฝืนสังขารกลับไปอีก เดี๋ยวก็ต้องกลับมานอนที่เดิมเพราะจะคงเป็นลมแดดไปอีกรอบ  

 

 

รสชาติของการเป็นลมแดดมันช่างทรมานมากจริงๆ ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะสามารถทนมันได้ไหว  

 

 

เขากำลังคิดอยากนอนลงไปอีกสักพัก ซึมซับความรู้สึกที่มีสายลมเย็นพัดผ่านข้างกายแบบนี้อีกสักหน่อย ทันใดนั้นกลุ่มเมฆก้อนใหญ่ลอยเข้าปกคลุมด้วยอาทิตย์  

 

 

อากาศที่เดิมทีร้อนแสบเอามากๆ ก็เปลี่ยนเป็นเย็นสบายขึ้นมาภายในชั่วพริบตา  

 

 

และเพราะอุณหภูมิต่ำลง ชุยหังก็รู้สึกว่าตัวเองอาการดีขึ้นกว่าเมื่อครู่มาก อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ได้รู้สึกร่างกายไร้เรี่ยวแรงเท่าเมื่อครู่นี้แล้ว  

 

 

“ชุยหังเป็นไงบ้าง ระวังอีกเดี๋ยวฟ้าจะผ่านาย” หลูจื้อตะโกนอยู่ข้างหน้า  

 

 

ชุยหังขยับร่างกายเล็กน้อย แขนขามีเรี่ยวแรงมากกว่าเมื่อครู่ จากนั้นขยับๆ หัวนิดหน่อยก็รู้สึกตื่นตัวมากกว่าเมื่อครู่แล้วไม่รู้สึกวิงเวียนแล้ว  

 

 

ดังนั้นเขาจึงค่อยๆ ลุกขึ้นยืนพลางพูด: “ไม่เป็นไรแล้ว ผมฟื้นคืนชีพแล้ว”  

 

 

พวกเพื่อนๆ ต่างพากันหัวเราะ ครั้งนี้แม้แต่หลูจื้อก็ยังยิ้มออกมา พลางมองดูเขาค่อยๆ เดินกลับมา  

 

 

“ไม่ไหวก็บอกนะ อย่าดันทุรัง” หลูจื้อหันมากำชับเขาเป็นพิเศษอีกครั้ง  

 

 

“อืม ผมเข้าใจแล้ว” ชุยหังว่า  

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 61 ฉันอาจจะมีครูฝึกปลอม  

 

 

พูดจบเขาก็กลับไปยืนประจำที่เดิมของตัวเอง  

 

 

เหลียงจื้อถือโอกาสตอนที่หลูจื้อไม่อยู่กระซิบถามเบาๆ : “นายไม่เป็นไรแน่นะ”  

 

 

ชุยหังพูดตอบ: “จะไม่เป็นไรได้ไง ตอนนี้ยังปวดหัวอยู่เลย”  

 

 

“แล้วยังจะกลับมาอีก ทำไมไม่นอนอยู่ตรงนั้นเล่า” เหลียงจื้อพูด  

 

 

ชุยหังตอบ: “ฉันก็อยาก นายไม่เห็นเจ้าตัวเขาเร่งฉันหรอ อีกอย่างพวกผู้หญิงสาขาการจัดการทางทะเลก็ไม่มีใครนอนพักอยู่ตรงนั้นสักคนแล้ว จะให้ฉันอยู่ตรงนั้นไม่ขยับก็ไม่เท่ากับให้คนหัวเราะเยาะหรอ”  

 

 

“นายตาบอดหรือไง พวกเขากลับหอพักไปแล้ว” เหลียงจื้อพูด  

 

 

ชุยหังตะลึงเพราะนี่เขาไม่ทันได้สังเกตเห็นจริงๆ ก็เห็นว่าพวกผู้หญิงที่พึ่งนอนอยู่รอบๆ บริเวณนั้นไม่อยู่แล้วก็นึกว่าพากันกลับเข้าแถวไปแล้วเสียอีก  

 

 

แต่ว่าจะให้เขานอนอยู่ตรงนั้นแค่คนเดียวมันก็ไม่น่าดูนี่นา  

 

 

อีกอย่างตอนนี้พระอาทิตย์ก็หลบไปแล้ว ตอนนี้อากาศก็ไม่ร้อนมากเท่าก่อนหน้านี้แล้ว ย่อมไม่มีทางเป็นลมแดดได้ง่ายขนาดนั้นแล้ว  

 

 

ขอเพียงแค่ไม่ต้องยืนตากแดดโดยตรง และอุณหภูมิต่ำลงแบบนี้เรื่อยๆ อันที่จริงระดับนี้ก็ยังพออดทนไหว  

 

 

“ห้ามคุยกัน” หลูจื้อพูดขึ้นจากทางด้านหลังสุด  

 

 

ชุยหังกับเหลียงจื้อรีบหุบปากทันที กังวลมากจริงๆ ว่าหลูจื้อจะทำอะไรสักอย่างอีก  

 

 

สิ่งที่หลูจื้อแสดงออกมาให้เห็นก่อนหน้านี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นครูฝึกที่มีพลังจิตนาการเหลือล้นมากจริงๆ  

 

 

หลูจื้อเคลื่อนย้ายจากทางด้านหลังสุดมาช้าๆ จากนั้นก็หยุดยืนอยู่ด้านหลังของชุยหัง  

 

 

ทั่วทั้งตัวของชุยหังตึงเครียด ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำอะไร  

 

 

ตราบใดที่เขาไม่พูดอะไร ตนก็จะไม่มีทางออกเสียงเด็ดขาด  

 

 

ศัตรูไม่ขยับ ข้าก็ไม่ขยับ  

 

 

ถ้าหากตัวเขาทำอะไรบุ่มบ่ามจะต้องถูกหลูจื้อกุมอำนาจแน่นอน  

 

 

แต่ว่าคิดไม่ถึงว่าหลูจื้อไม่ใช้วิธีการแบบเดิมแต่กลับใช้เข่าของตัวเองยันเข้าที่ข้อพับของชุยหัง  

 

 

จากนั้นชุยหังก็กำลังจะล้มคุกเข่าลงด้านหน้า  

 

 

การเคลื่อนไหวของหลูจื้อรวดเร็วมาก เขายึดตัวชุยหังไว้จากทางด้านหลัง แล้วใช้มือหนึ่งวางไว้ที่เอวของชุยหังพลางพูด: “ขาทำไมไม่มีเรี่ยวแรงเลยสักนิด บอกพวกนายไปแล้วไม่ใช่หรอว่าขาทั้งสองข้างต้องเกร็งเอาไว้?”  

 

 

หลังจากที่ชุยหังกลับมายืนเรียบร้อยแล้วก็ออกแรงเกร็งเข่าเอาไว้ทันที  

 

 

คนข้างๆ ก็เหมือนจะรีบจัดการท่าทีของตัวเองทันที เพราะเกรงว่าคนที่จะประสบกับหายนะคนต่อไปจะเป็นตัวเอง  

 

 

แล้วก็เป็นดังคิดหลูจื้อเดินวนเวียนไปข้างหลังของอีกสองสามคน แล้วใช้เข่าของตัวเองยันข้อพับขาของพวกเขา แต่เพราะประสบการณ์ที่เห็นชุยหังเมื่อครู่ ดังนั้นพวกเขาทุกคนจึงได้เตรียมตัวพร้อมไว้ก่อนแล้ว  

 

 

อย่างน้อยเวลาที่หลูจื้อเดินไปข้างกายของพวกเขา ทุกคนก็จะเริ่มเกร็งขาทันที  

 

 

หลูจื้อเดินวนไปอีกรอบหนึ่ง จากนั้นก็กลับมาที่ด้านหลังของชุยหังอีกครั้ง  

 

 

ชุยหังแอบคิดอยู่ในใจว่า มาอีกแล้ว ลูกพี่ครับ ปล่อยผมไปสักครั้งไม่ได้เลยหรอครับ?   

 

 

เมื่อคิดได้ชุยหังก็ออกแรงเกร็งเข่าทันที รับรองว่าต่อให้หลูจื้อจะยันเขาอีกทีก็จะไม่มีทางคุกเข่าล้มลงไปอีกแล้ว  

 

 

แต่ว่าเขาเดาผิดไป หลูจื้อไม่ได้ออกแรงลงที่ขาโดยตรง มือข้างหนึ่งของเขายื่นมาอยู่ห่างจากระดับอกของชุยหังไม่ไกลมากนัก ส่วนอีกมือหนึ่งก็อยู่ทางด้านหลังก่อนจะออกแรงผลักเขา  

 

 

ชุยหังรู้สึกเหมือนร่างกายของตัวเองเสียสมดุลไปแล้ว เพราะเหมือนจะล้มลงไปข้างหน้า จากนั้นเขาจึงก้าวเท้าหนึ่งออกไปเพื่อรักษาสมดุลร่างกาย  

 

 

แต่ว่าวินาทีนั้นหลูจื้อก็พูดขึ้น: “อย่าขยับ”  

 

 

ชุยหังมึนไปแล้ว ไม่ขยับ? แล้วจะให้ตัวเขาล้มลงไป?  

 

 

แต่เมื่อนึกถึงมืออีกข้างของหลูจื้อที่วางไว้อยู่ห่างจากหน้าอกไม่มาก เขาก็เหมือนจะเข้าใจความหมายของหลูจื้อแล้ว  

 

 

ดังนั้นเขาจึงยืนใหม่อีกครั้งแล้วออกแรงเกร็งขาทั้งสองข้าง  

 

 

หลูจื้อทำท่าทางเมื่อครู่นี้อีกครั้ง ครั้งนี้ชุยหังก็ไม่ได้คิดอะไรมากมายนอกจากจะเอนตัวลงไปทั้งที่ตัวตรงแข็งทื่ออยู่แบบนั้น เอนล้มลงไปข้างหน้า มันตกลงไปอยู่ในแขนอีกข้างของหลูจื้อที่กั้นเอาไว้ด้านหน้านั้นพอดี จากนั้นก็หยุดนิ่งสนิท  

 

 

“ทุกคนดูให้ดี ที่คือการยืนท่าระเบียบทหารที่เป็นมาตรฐาน ต่อให้จะล้มลงไปตัวต้องตรงแบบนี้”  

 

 

 

 

 

——  

 

 

[1]  อุปกรณ์ทำความร้อน  (浴霸 คำอ่าน ยวี่ป้า)มีพื้นเพมาจากภาษาอังกฤษ “BATHROOMMASTER” มันเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนขนาดเล็กสำหรับอ่างอาบน้ำที่รวมฟังก์ชั่นต่าง ๆ ของเครื่องทำความร้อน, กายภาพบำบัดอินฟราเรด, การระบายอากาศ, แสงประจำวันและฟังก์ชั่นอื่น ๆ เป็นอุปกรณ์ทำความร้อนที่เป็นที่นิยมสำหรับอบอุ่นร่างกายก่อนอาบน้ำ  

[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ

[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ

ชุยหัง เฟรชชี่ปีหนึ่งจากคณะเทคนิคการเดินเรือรอนแรมจากบ้านมาเรียนต่างเมืองเป็นครั้งแรก ทว่าเกือบถูกดักปล้นกลางทาง เคราะห์ดีที่มีคนผ่านทางมา แต่เขาคนนั้นกลับเมินเฉยไม่ยอมช่วยเสียอย่างนั้น ชุยหังจึงด่าพ่อล่อแม่ไปชุดใหญ่ กระนั้นโชคชะตาก็เล่นตลกให้ชุยหังได้พานพบกับ หลูจื้อ ชายที่เขาเคยปะทะฝีปากด้วยคราวก่อนอีกครั้งในฐานะครูฝึกทหารกับนักศึกษา จากเกลียดแรกพบจึงกลับกลายเป็นความใกล้ชิด ก่อตัวเป็นความรู้สึกเล็กๆ ในใจของทั้งสองโดยไม่รู้ตัว แต่ความสัมพันธ์ต้องห้ามนี้จะลงเอยอย่างไร เมื่อฝ่ายหนึ่งคือนายทหารอนาคตไกลที่มีแฟนสาวผู้เพียบพร้อมข้างกายอยู่แล้ว ส่วนอีกฝ่ายคือชายหนุ่มที่เป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวของครอบครัว ผิดหวังจากความรักครั้งแล้วครั้งเล่าจนไม่อาจเชื่อใจใครได้อีก ความรักที่ไม่ควรเกิดขึ้นท่ามกลางหน้าที่และความรับผิดชอบของลูกผู้ชายนี้จะเก็บเป็นความลับต่อไปได้อีกนานแค่ไหน…  แสดงเพิ่มเติม

Comment

Options

not work with dark mode
Reset