ตอนที่ 68 พูดชัดเจนแล้ว
หลูจื้อตกใจมากจนคิดอยากจะผลักตัวชุยหังออกไปเลย
แต่ตอนนี้ชุยหังไม่มีแรงแม้แต่จะดิ้นรนต่อสู้อะไรแล้ว น้ำหนักตัวทั้งหมดของเขาดูเหมือนจะเทมาไว้บนตัวของหลูจื้อทั้งหมดแล้ว
จนกระทั่งหลูจื้อสัมผัสได้ว่าเหมือนจะมีของเหลวเปียกๆ อะไรบางอย่างอยู่ตรงคอของตัวเอง
เขาดึงศีรษะของชุยหังออกด้วยท่าทีที่ค่อนข้างจะหยาบคายเล็กน้อย ก่อนจะมองใบหน้าของชุยหังก็พบว่าน้ำตาใสๆ กำลังไหลอาบสองแก้มของชุยหัง
ชุยหังสะบัดหัวไปมาเพื่อให้ตัวเองได้สติ จากนั้นเขาก็พยายามทำให้ตัวเองยืนให้ตรงอย่างสุดกำลังพลางสลัดตัวเองให้หลุดจากอ้อมกอดของหลูจื้อ ถึงแม้มันจะเป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นมาก แต่มันไม่ใช่ของของเขา
การกระทำเมื่อครู่นี้ทำให้เขาเริ่มรู้สึกเสียใจขึ้นมานิดหน่อย
เขาพยายามรักษาสีหน้าของตัวเองให้สงบที่สุดแล้วพูดขึ้น: “ครูฝึก ผมกินเสร็จแล้ว ดื่มหมดแล้ว ขอตัวกลับก่อนนะครับ พรุ่งนี้ยังต้องฝึกต่อคุณก็รีบกลับไปเถอะ”
พูดจบเขาก็เดินหมุนตัวจากไปทันที
ขณะที่เดินออกมาถึงหน้าร้าน เขายังคงพยายามรักษาการเดินของตัวเองให้ตรง ไม่ให้คนอื่นมองออกว่าสมองของเขาในตอนนี้มันเลือนรางมาก
เขาเดินมาถึงมุมที่อยู่ห่างออกมามุมหนึ่ง มุมที่แสงไฟไม่สว่าง ในที่สุดชุยหังก็โน้มตัวลงแล้วอ้วกออกมา
ทั่วทั้งช่องปากเต็มไปด้วยรสชาติของความเจ็บปวดขมฝาดและซับซ้อน เมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เขายังอยากจะต่อยหน้าตัวเองสักที
ทำเกินไปมากจริงๆ แล้วแบบนี้หลูจื้อจะคิดว่าเขาเป็นคนยังไง
แต่เขาพูดชัดเจนไปแล้ว เขารู้แล้วว่าชุยหังเป็นเกย์ ชอบผู้ชายด้วยกัน
เชื่อว่าเขาคงจะออกห่างจากชุยหังไปเอง
สายลมในยามค่ำคืนพัดโชยมา ทำให้รู้สึกได้ถึงความหนาวเย็น
ชุยหังนั่งอยู่ในมุมนั้นสักพัก ฟังเสียงหัวเราะมีความสุขของคู่รักคู่หนึ่งผ่านมาจากที่ที่อยู่ไม่ไกลมากนัก
เขาถึงได้ค้นพบว่าตัวเขาในตอนนี้ไม่คิดถึงหลิวเฮ่อมากขนาดนั้นแล้ว
บางทีความชอบของพวกเขาสองคนคงจะไม่ได้ลึกซึ้งกันมากตั้งแต่แรก เพราะมิฉะนั้นชุยหังคงจะไม่ยืนกรานที่จะรักษาตัวไว้และไม่ให้เขาสักทีหรอก?
หลังจากสร่างได้สักพัก ชุยหังก็รู้สึกว่าตัวเองสบายขึ้นมากและได้สติตื่นตัวมากพอสมควรแล้ว เขาจึงค่อยๆ มุ่งหน้าลากตัวเองกลับไปทางหอพัก
เมื่อมาถึงชั้นล่างของหอพัก เขาก็เหมือนจะเห็นเงาของใครคนหนึ่ง อยู่ห่างออกไปไม่ไกลมากนัก ภายใต้แสงไฟริมถนนเขามองมาทางชุยหัง
รูปร่างของเขา แล้วก็เสื้อของเขาที่สวมอยู่ เขาน่าจะเป็นหลูจื้อ
ดูเหมือนว่าเขาจะเคลื่อนไหวไวกว่าชุยหังมาก
ชุยหังไม่ได้หันกลับไปยืนยันว่าคนๆ นั้นใช่หลูจื้อหรือเปล่าแต่เขาเดินขึ้นตึกไปเลย
เพื่อนในห้องไม่กี่คนของเขาพอเห็นเขากลับมาต่างก็พากันมองเขาอย่างแปลกใจ เมื่อได้กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งจากตัวเขา ต่างก็พากันถามว่าเขาออกไปทำอะไรมา
จ้าวหลินรีบปิดประตูห้องทันทีพลางถาม: “เสียงเบาหน่อย เดี๋ยวคนอื่นกับหัวหน้าห้องที่อยู่ห้องตรงข้ามได้ยินเข้าแล้วเอาไปบอกอาจารย์ล่ะก็จบเห่แน่”
ชุยหังแอบรู้สึกซาบซึ้งอยู่ภายในใจ พวกเขาพึ่งจะได้พบเจอรู้จักกันแค่ไม่กี่วันเท่านั้น แต่กลับรู้สึกว่าสนิทสนมกันจนไม่เหมือนคนแปลกหน้าที่พึ่งเจอเลย
“เป็นไรไปหรอเสี่ยวอู่?” หลังจากที่ประตูถูกปิดลงถังเฉิงก็ถามขึ้น
ชุยหังพลางปีนขึ้นไปบนเตียงพลางพูดไปด้วยว่า: “ไม่เป็นไร อารมณ์ไม่ค่อยดีก็เลยแอบๆ หนีออกไป”
“นายนี่มันกล้าจริงๆ เลยนะไม่กลัวจะถูกใครเห็นเข้าหรือไง” วังเฉียงถาม
ชุยหังฝืนยิ้มออกมาพลางพูด: “วู่วามไป วู่วามไป คราวหลังจะไม่ทำอีกแล้ว”
เขาไม่ได้บอกว่าตัวเองออกไปกับหลูจื้อ เพราะแบบนั้นจะไปกระทบต่อภาพหลูจื้อในอุดมคติของทุกคน
อีกอย่างเขากำลังคิดว่านับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ควรจะพูดว่านับตั้งแต่วินาทีที่ตัวเองจูบหลูจื้อไปนั้น เขาคงจะตัดสินใจที่จะหลีกเลี่ยงออกห่างจากชุยหังให้ไกลแล้ว
คืนนั้นหลังจากที่ชุยหังสร่างเมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์จนหมดก็กลับไปนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นตอนกินเหล้าอีก ภายในใจยิ่งทวีความยุ่งเหยิงเข้าไปใหญ่ อยากจะย้อนเวลากลับไปจริงๆ จะทำให้ทั้งหมดเหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้นเลย
ตอนที่ 69 นกที่ตื่นเช้ามีหนอนให้กิน
ท่ามกลางสายลมโบกพัดในยามเช้าตรู่ ชุยหังตื่นนอนเป็นคนแรก เมื่อคืนที่ผ่านมาเขาหลับไม่สบายเลย
เมื่อนึกถึงเรื่องที่ตัวเองทำกับหลูจื้อไว้ตอนออกไปดื่มกัน ก็ยิ่งทำให้รู้สึกวุ่นวายใจนิดหน่อย
เขาไม่ใช่พวกหลงใหลในรูปลักษณ์ภายนอก เพียงแต่ในแวดวงเกย์เขาเห็นพวกออกสาวดูตุ้งติ้งมาก็มากแล้ว เมื่อได้เจอชายแท้ร่างกายแข็งแรงอย่างหลูจื้อ แถมหน้าตายังหล่อเหลามากแบบนั้น ถ้าจะอยากมองให้มากหน่อยก็คงจะไม่ผิดอะไรมากหรอก?
เขาค่อยๆ พลิกตัวปีนลงจากเตียง แล้วก็ออกไปล้างหน้าล้างตาแปรงฟัน
หลังจากกลับมาถึงห้องก็พบว่าจ้าวหลินตื่นแล้ว เขาหันมาถาม: “เชรด เหลาอู่ทำไมวันนี้นายตื่นเช้าจัง”
ชุยหังตอบกลับเสียงเบา: “นอนไม่หลับก็เลยลุกเลย”
“กี่โมงแล้ว” จ้าวหลินถาม
“น่าจะตีห้ากว่าๆ มั้ง” ชุยหังตอบ
“งั้นนายลุกมาทำไมเร็วขนาดนั้น” จ้าวหลินแทบไม่อยากจะเชื่อ
“อืม นายจะลุกเลยไหม” ชุยหังถาม
จ้าวหลินคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า: “ก็ได้ ไหนๆ ก็ตื่นแล้ว”
ชุยหังเอากะละมังกับอุปกรณ์อาบน้ำของตัวเองเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย จากนั้นก็ปีนขึ้นเตียงนอนแล้วเริ่มพับผ้าห่มของตัวเอง
เนื่องจากชุยหังอยู่เตียงชั้นบน พอทำเสียงดังขึ้นนิดๆ หน่อยๆ ก็พลอยทำเอาถังเฉิงที่อยู่เตียงด้านล่างตื่นไปด้วย
“เหลาอู่ นายบ้าไปแล้วหรือไง ทำไมถึงลุกมาพับผ้าห่มอะไรแต่เช้าขนาดนี้”
ชุยหังตอบ: “นกที่ตื่นเช้ามีหนอนให้กินไง”
“หยุดโม้เลย ก็แค่วันนี้นายตื่นเร็ว” ถังเฉิงบ่นพึมพำ
ชุยหังพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ: “เมื่อก่อนมันคือหนอนที่ตื่นเร็วจะถูกนกกินไง”
“ไม่ว่าจะพูดยังไงนายก็หาเหตุผลได้หมดแหละ สรุปเมื่อคืนออกไปทำอะไรมา ดื่มเหล้ามาใช่ไหม” ถังเฉิงถาม
เมื่อชุยหังนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันก็กระทบต่อความรู้สึกของเขาทันที แต่สุดท้ายเขาก็ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดตอบ: “ไม่มีอะไร เมื่อวานอารมณ์ไม่ค่อยดี แล้วพวกนายก็ไม่อยู่ด้วย ตัวคนเดียวก็ไม่มีอะไรทำด้วย”
“นายออกไปเอง?” ถังเฉิงถาม
ชุยหังตอบกลับ: “แล้วจะให้ฉันไปกับใคร?”
“เพื่อนบ้านเดียวกันของนายคนนั้นอ่ะ?” ถังเฉิงถามออกมาอย่างไม่คิดอะไร
ชุยหังนึกถึงชย่าอวี่ชิวก่อนจะตอบกลับว่า: “เขาออกไปกับคนอื่นมาแล้ว”
“ทำไมล่ะ ทิ้งนายแล้ว?” ถังเฉิงพูดล้อเล่น จากนั้นก็พลิกตัวเอาผ้าห่มม้วนตัวเอง
“ไปไกลๆ เลย อะไรคือทิ้งฉันแล้ว นายยังอยากจะนอนต่อไหมไม่อย่างนั้นจะเอาน้ำสาดนายแล้วนะ” ชุยหังว่า
ถังเฉิงรีบตอบทันที: “พอแล้ว พี่ห้า ผมผิดไปแล้วครับ นายให้ฉันนอนอีกหน่อยเถอะ เมื่อคืนนอนไม่ค่อยสบายเลยเพราะมัวแต่เป็นห่วงว่านายจะนอนตกเตียง…”
หลังจากชุยหังได้ฟัง ขณะเดียวกับที่แอบรู้สึกผิดอยู่นั้น ภายในใจก็รู้สึกอบอุ่นมากๆ
เดิมคิดว่าจะจัดการเขาซะ แต่พอได้ฟังคำพูดของเขาแบบนี้แล้วก็ช่างมันเถอะ
เขาวางผ้าห่มของตัวเองลงอย่างเงียบๆ แล้วนั่งอยู่บนเตียงมองเหม่อออกไปข้างนอก
แสงแดดที่ดูอบอุ่นในยามเช้า สาดส่องผ่านทางหน้าต่างกระทบลงบนพื้นห้อง ทำให้คนมองรู้สึกผ่อนคลายสบายใจ
มองแสงแดดอุ่นๆ เคลือบผิวใบไม้ด้านนอก ยิ่งทำให้รู้สึกสบายอารมณ์
สีท้องฟ้าและแสงแดดค่อยๆ ปกคลุมพื้นดิน ทำให้มันเริ่มสว่างขึ้นมา
ทุกคนต่างก็ทยอยตื่นนอนแล้ว ห้องอื่นๆ เริ่มจะมีเสียงพูดคุยสนทนากันดังขึ้นมาแล้ว ห้องน้ำก็มีเสียงน้ำไหลดังสะท้อนออกมาไม่ขาดสาย
“เหลาอู่ ผ้าห่มนายพับเสร็จแล้วหรอ” หลังจากถังเฉิงตื่นนอนก็หันมาถามชุยหัง
ชุยหังโชว์ให้เขาดูพลางพูดขึ้น: “ฉันกลัวว่าจะรบกวนพวกนายนอนหลับก็เลยไม่ได้ทำต่อ”
“ไม่เป็นไร มันจะดังสักเท่าไหร่กันเชียว แล้วแต่นายเลยอยากทำอะไรก็ทำเลย”
ชุยหังพูดต่อ: “ไม่เป็นไรหรอก ยังมีเหล่าต้าอยู่ทั้งคน”
หลังจากจ้าวหลินได้ฟังก็พูดขึ้นอย่างจำใจ: “เชรด เหลาอู่ นี่นายเห็นฉันเป็นแม่บ้านใช้ฟรีไปแล้วหรอ”
ชุยหังพูดตอบ: “เหล่าต้า เดี๋ยวผมเลี้ยงข้าว”
“เอาเถอะ เพื่อข้าวมื้อนี้ของนาย ฉันจะช่วยพับอีกสักรอบแล้วกัน”