ตอนที่ 80 กังวลใจ
ซาบซึ้งใจ ประทับใจ อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของความรู้สึก แต่มันไม่ได้แปลว่าจะมีความรู้สึกแบบเดียวกัน
เขารู้ดีว่าอาจเป็นเพราะตอนนี้เขากำลังฟื้นฟูรักษาแผลใจของตัวเองอยู่ ก็เลยทำให้รู้สึกประทับใจได้ง่ายๆ
ถ้าหากที่ผ่านมา ตอนที่ตัวเขาเริ่มก้าวเข้ามาอยู่ในแวดวงนี้ คนแรกที่ได้พบคือชย่าอวี่ชิว เขาคงจะรู้สึกว่าโลกใบนี้มันสวยงามมากและแวดวงนี้มันก็สวยงามมากอย่างแน่นอน
จากนั้นก็ยิ้มรับชย่าอวี่ชิว
แต่ว่า ตอนนี้เขาโตแล้ว เขารู้ว่าความรู้สึกไม่ใช่แค่ชั่วครั้งชั่วคราว
ถ้าตอนนี้ตอบรับชย่าอวี่ชิวแล้วภายหลังพบว่าตัวเองไม่สามารถจะมอบความรู้สึกแบบนั้นให้เขาได้จริงๆ ต่อให้ชย่าอวี่ชิวจะยินยอมด้วยตัวเองก็ตาม แต่เขาก็ยังคงรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมต่อชย่าอวี่ชิวอยู่ดี
“นายไม่ต้องรีบให้คำตอบฉันก็ได้ เมื่อกี้ฉันก็บอกไปแล้วไม่ใช่หรอว่าตอนนี้พวกเราเรียนอยู่ที่มหา’ ลัยเดียวกัน เขตเดียวกัน ต่อไปทำงานก็อาจจะได้ทำงานที่เดียวกัน นายเองก็ไม่ต้องไปคิดว่าถ้าในอนาคตเรารักษามันให้คงอยู่ต่อไปไม่ได้จะทำยังไง ในเมื่อพวกเราสองคนอยากคบกันอยู่ด้วยกัน ปัญหาหลายๆ อย่างมันก็ไม่ใช่ปัญหาแล้ว” ชย่าอวี่ชิวพูด
น้ำเสียงของเขาในตอนนี้ไม่เหมือนกับน้ำเสียงที่เคยพูดหยอกล้อกับชุยหังเมื่อก่อนแล้ว
อันที่จริงเมื่อครู่นี้เขาก็อยากจะให้ชุยหังรีบๆ ให้คำตอบกับเขา แต่พอเห็นท่าทีแบบนั้นของชุยหังแล้วเขาก็ไม่อาจฝืนทนได้
จากสถานการณ์ของชุยหังในตอนนี้สำหรับเขาแล้วถ้าชุยหังตอบรับในตอนนี้ มันก็เท่ากับว่าตัวเองฉวยโอกาสเข้าไปหาเขาตอนที่อ่อนแอจริงๆ
“นายมีเรื่องกังวลใจอยู่ใช่ไหม” ชย่าอวี่ชิวถาม
ชุยหังพยักหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไร
“หรือรู้สึกว่าตัวเองพึ่งจะเลิกกับคนนึงก็มาคบกับอีกคนมันทำให้นายดูเป็นคนแบบนั้น?” ชย่าอวี่ชิวถามต่อ
ครั้งนี้ชุยหังไม่ได้ส่ายหน้าและไม่ได้พยักหน้าด้วย
สำหรับปัญหานี้ตัวเขาไม่ได้คิดอะไรมากเลยจริงๆ
เขากังวลว่าถ้าตนตอบตกลงคบกับชย่าอวี่ชิวขึ้นมาจริงๆ หลังจากนั้นรู้สึกว่าความรู้สึกของทั้งคู่ไปกันไม่ได้แล้วเลิกกันขึ้นมา ต่อไปในมหาวิทยาลัยเล็กนี้ยังต้องพบเจอหน้ากันบ่อยๆ ควรจะสู้หน้ากันยังไงดี
อีกอย่างในใจของเขาตอนนี้ก็มีเงาของใครอีกคนอยู่แล้วด้วย
เขานั่งยองๆ ลงกับพื้นจากนั้นหันหน้าทอดสายตามองไกลออกไป
ในตอนที่เขาเอียงหัวนั่นเองก็เหลือบไปเห็นหลูจื้อที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลมากเข้าพอดี
วินาทีนั้นเขาเหมือนกับกระต่ายตื่นตูมตัวหนึ่ง ตกอกตกใจจนเกือบจะกระโดดลุกขึ้นยืน แต่ก็ไม่กล้าแสดงปฏิกิริยามากเกินไป กลัวว่าจะทำหลูจื้อตื่นตกใจไปด้วย
เขามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง?
ภายในใจของชุยหังยิ่งยุ่งเหยิงวุ่นวายมากกว่าเดิม เขากำลังกังวลว่าหลูจื้อจะเข้าใจความสัมพันธ์ของเขากับชย่าอวี่ชิวผิดไป
เพราะเขารู้แล้วว่าตัวของชุยหังเป็นอะไร อีกอย่างนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็นชุยหังกับชย่าอวี่ชิวอยู่ด้วยกันแบบนี้ด้วย
โดยเฉพาะครั้งที่แล้ว ชย่าอวี่ชิวยังซื้อของกินให้เขาเป็นกองเลยด้วย…
ความรู้สึกของเขาในเวลานั้นเหมือนกับกล้ามเนื้อหัวใจตายไปแล้วยังไงอย่างนั้น มันหยุดนิ่ง สมองหยุดทำงานไปชั่วขณะ
เขารู้สึกตัวเองใจร้อนขึ้นมานิดหน่อย ตัวเองควรจะเข้าไปทักทายหลูจื้อสักหน่อย จากนั้นก็อธิบายให้เขาฟังว่าพวกเขาแค่ออกมาเดินเล่นด้วยกันเพราะตนอารมณ์ไม่ดีก็เท่านั้น
แต่เรื่องพวกนี้มันก็เป็นแค่สิ่งที่ผุดขึ้นมาให้หัวสมองของเขาตอนนี้ก็เท่านั้น เขายังคงไม่ขยับ จากนั้นก็ยืนมองหลูจื้อหมุนตัวเดินจากไป
ตอนนี้เขาถึงสังเกตได้ว่าในมือของหลูจื้อกำลังถือโทรศัพท์แนบไว้ข้างหู ดูเหมือนว่าเขาจะกำลังโทรศัพท์หาใครสักคนอยู่
คงจะเป็นแฟนสาวของเขาสินะ เขาเคยบอกว่าเขามีแฟนแล้ว
พอคิดถึงเรื่องนี้ก็ยิ่งทำให้ชุยหังรู้สึกปวดใจมากกว่าเดิมอีก
“ไปเถอะ อย่าเอาแต่นั่งอยู่ตรงนี้เลย คนที่เขาไม่รู้อะไรอาจจะคิดว่าฉันกำลังรังแกนายอยู่ก็ได้ ฉันไม่ใช่พวกที่ชอบใช้ความรุนแรงในครอบครัวแบบนั้นหรอกนะ” ชย่าอวี่ชิวตั้งใจจะพูดล้อเล่นออกมาอย่างผ่อนคลาย
แต่ว่าอารมณ์ที่แสดงออกมาทางใบหน้าของเขาในตอนนี้มันก็ดูอึดอัดมากจริงๆ
ในเมื่อเขาทำตัวชัดเจนกับชุยหังแล้ว เขาย่อมอยากได้ท่าทีที่ชัดเจนของชุยหังด้วย
แต่ดูจากท่าทีของชุยหังแล้ว เขาก็ต้องอดทนฝืนใจไม่เร่งเร้ามากเกินไป
เรื่องของความรู้สึก มันบังคับกันไม่ได้จริงๆ ไม่ใช่ว่าคนๆ นั้นไปแล้ว คนนี้จะสามารถเข้าไปแทนที่ได้ในทันที
ตอนที่ 81 คำสารภาพรักที่แสนจริงใจ
ชุยหังไม่สามารถให้คำตอบกับชย่าอวี่ชิวได้จึงทำได้แค่ปฏิเสธข้อเสนอของเขาไปอย่างลำบากใจ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามเขาไปข้างหน้า
เดินไปบนถนนแถวสวนอุทยานในมหาวิทยาลัย มองดูผืนหญ้าและดอกไม้ที่เจริญเติบโตอย่างสวยงามแล้วมันทำให้อารมณ์ของชุยหังค่อยๆ ผ่อนคลายมากขึ้นเรื่อยๆ
“นายไม่ต้องลำบากใจอะไร ควรจะพูดยังไงก็พูดแบบนั้น ในเมื่อตอนนี้นายยังตัดสินใจไม่ได้ก็ค่อยๆ คิด” ชย่าอวี่ชิวพูดขึ้นอีกประโยค
ชุยหังพูดต่อ: “อืม ขอฉันคิดหน่อยนะ”
“โอเค แค่เอาไปคิดก็โอเคแล้ว อย่างน้อยก็ย่อมดีกว่าตัดโอกาสฉันทิ้งไปเลยล่ะนะ” ชย่าอวี่ชิวพูด
ชุยหังมองท่าทางของเขาก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
“ถ้าเพื่อนมัธยมคนนั้นของนายรู้เข้า เดาว่าคงอยากจะถลกหนังฉันเต็มทีแน่” เขาพูด
“ถลกหนังนายทำไม? นายคิดว่าตัวเองเป็นตัวเตียวม่วง [1] ตะวันออกหรือไง” ชย่าอวี่ชิวเริ่มพูดล้อเล่นขึ้นมาอีกแล้ว
ชุยหังพูดตอบ: “หนังของฉันราคาสูงกว่าเตียวอีกนะ”
ที่จริงบรรยากาศระหว่างพวกเขาสองคนในตอนนี้ยังคงอึดอัดมากพอสมควร นี่ก็นับว่าเป็นการฝืนคุยแก้บรรยากาศเท่านั้น
จากนั้นก็เดินมาถึงร้านค้าร้านเล็กๆ ที่พวกเขามาด้วยกันเมื่อวันก่อนโดยไม่รู้ตัว ชย่าอวี่ชิวถามขึ้น: “นายอยากกินอะไร”
ชุยหังรีบส่ายหน้าทันทีพลางตอบคำถาม: “ฉันไม่อยากกินอะไรเลย”
“ไม่ต้องกลัว กินของๆ ฉันก็ไม่ได้แปลว่าต้องกลายเป็นคนของฉันซะหน่อย” ชย่าอวี่ชิวพูดยิ้ม
ชุยหังพูดตอบ: “ไม่ใช่ คือไม่ได้อยากกินอะไรเลยจริงๆ”
“เป็นอะไร หรือว่าสิ่งที่ฉันพูดกับนายวันนี้มันทำให้นายตกใจมากเกินไป?”
“ไม่ขนาดนั้น ก็แค่คิดไม่ถึง” ชุยหังพูด
ชย่าอวี่ชิวลูบหัวตัวเองแล้วพูดขึ้น: “ขนาดตัวฉันเองยังคิดไม่ถึงเลย ตอนมัธยมยังแอบรู้สึกว่าเพื่อนคนนั้นแปลกมากเลย แต่ว่าไม่ได้มีความรู้สึกดูถูกหรืออะไรแบบนั้นเลยจริงๆ นะ ในเมื่อมันเป็นเรื่องที่ตัวเองเลือกและไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อนด้วย เพียงแค่รู้สึกว่าฉันคงจะไม่มีทางกลายเป็นคนประเภทนั้นไปได้ ก่อนหน้านี้ฉันมักจะใจเต้นแค่กับสาวๆ หน้าตาสวยๆ เท่านั้น ถ้าไม่ใช่เพราะมามหา’ ลัยแล้วมาเจอนาย ฉันก็ไม่อยากจะเชื่อว่าฉันจะพูดอะไรแบบนี้ออกมาได้”
ชุยหังยิ่งไม่รู้ว่าจะแสดงปฏิกิริยาตอบกลับยังไงกับคำพูดแสดงความรู้สึกที่ไม่ได้เสริมแต่งอะไรแบบนี้ ไม่มีสำนวนคำศัพท์สวยหรูอะไร และไม่มีส่วนที่จะมาปลุกปั่นความรู้สึกใดๆ มันจริงใจมาก แล้วก็ทำให้ช็อกมาก
“ฉันรู้สึกมึนนิดหน่อย ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้ยินนายพูดอะไรแบบนี้” ชุยหังกล่าว
“ตอนที่อาบน้ำด้วยกันกับฉัน นายก็เอาแต่หลบหลีกฉันใช่ไหม” จู่ๆ ชย่าอวี่ชิวก็เปลี่ยนเรื่องเสียอย่างนั้น
ชุยหังนิ่งไปสักพักก่อนจะพูดตอบ: “อืม ก็นับว่าใช่นะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็เห็นหมดทุกอย่างแล้วใช่ไหม” ชย่าอวี่ชิวเริ่มพูดเล่นขึ้นมาอีกแล้ว
ชุยหังคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบเขา: “ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ”
“เพราะฉะนั้นนายก็ควรจะรับผิดชอบถูกปะ?” ชย่าอวี่ชิวถาม
ชุยหังไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับยังไงดี ความรับผิดชอบครั้งนี้เขารับมันไว้ไม่ไหวจริงๆ
“พวกเราเดินกลับกัน?” ชุยหังพูดอ้อมเปลี่ยนเรื่องจากหัวข้อเมื่อครู่นี้อย่างอึดอัดใจ
ชย่าอวี่ชิวถอนหายใจออกมาก่อนจะพูดขึ้น: “นี่ฉันพึ่งจะดึงเข้าเรื่องแท้ๆ นายก็ไม่ไหวซะละ ฉันรู้จุดอ่อนของนายแล้วล่ะ”
ชุยหังพูดขึ้น: “จุดอ่อนของฉันมีเยอะมาก ที่นายเจอก็เป็นแค่หนึ่งในนั้นเท่านั้นแหละ”
“ไม่เป็นไร อันนี้เป็นจุดสำคัญ” ชย่าอวี่ชิวพูด
ชุยหังก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าอย่างไม่ช้าไม่เร็ว รักษาระยะห่างจากชย่าอวี่ชิวด้วยอาการเก้อเขิน แต่ก็แอบกังวลอีกว่าเขาจะทำอะไรพรวดพราดขึ้นมาอีก
เมื่อกลับถึงใต้ตึกหอพักชย่าอวี่ชิวก็พูดขึ้น: “ต้องให้ฉันไปส่งนายข้างบนไหม”
“ไม่ต้องหรอก ฉันว่าผู้คุมหอน่าจะอยู่ ยังไงนายก็ขึ้นไปไม่ได้” ชุยหังพูด
“โอเค ถ้าอย่างนั้นฉันกลับก่อนนะ กลับไปรอคำเรียกจากนายต่อละ” ชย่าอวี่ชิวพูด
ชุยหังพูดตอบ: “อืม บ๊ายบาย”
หลังยืนมองส่งชย่าอวี่ชิวกลับไปแล้ว ชุยหังก็หมุนตัวกลับก่อนจะชนกับใครบางคนเข้าเต็มๆ
“แฟน?”
——
[1] ตัวเตียวม่วง เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่ถูกนิยมเอาขนมาทำเสื้อผ้า