พอกลับมาถึงห้องพักชุยหังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพลางคิดไปคิดมาก่อนจะส่งข้อความผ่านวีแชทไปให้หลิวเฮ่ออีก: [ที่นี่ร้อนมาก ตอนกลางคืนนอนไม่หลับเลย คิดถึงนาย]
จากนั้นเขาก็วางโทรศัพท์มือถือลงพลางพูดเกลี้ยกล่อมตัวเองว่าให้รีบนอนได้แล้ว
ค่ำคืนนี้ผ่านไปอย่างเงียบสงบ หลิวเฮ่อก็ไม่ได้ตอบกลับข้อความใดๆ ของชุยหังเลย
ชุยหังถูกแสงแดดยามเช้าที่สาดส่องเข้ามาปลุกให้ตื่น แสงแดดอุ่นๆ ส่องเข้ามาถึงก้นเขาแล้วจนมันเริ่มรู้สึกร้อนๆ ขึ้นมาแล้ว
แม้ว่าตอนนี้จะยังเป็นช่วงเวลาเช้าตรู่แต่กลับสัมผัสไม่ได้ถึงความเย็นสบายเลยสักนิด
เมื่อเขาลืมตาขึ้นก็พบว่าเพื่อนที่เป็นคนทางใต้ทั้งสองคนใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยอีกทั้งยังพับเก็บผ้าห่มจนเสร็จแล้วด้วย ตอนนี้ก็นั่งอ่านหนังสืออยู่
ด้านชย่าอวี่ชิวยังคงนอนเปลือยท่อนบนนอนหลับตาพริ้มอยู่เลย
พอแสงแดดส่องกระทบลงมาแล้วยิ่งทำให้กล้ามเนื้อตามร่างกายของเขาดูแข็งแรงไม่มีใครเกินถึงกับทำให้ชุยหังเผลอมองอย่างเคลิบเคลิ้ม
“พวกนายทำไมตื่นเช้ากันจัง” ชุยหังหันไปทักทายเพื่อนอีกสองคน
คนหนึ่งในนั้นที่สวมแว่นตาพูดขึ้น: “ชินแล้วล่ะ เป็นโรคประหลาดที่ติดมาจากตอนเตรียมสอบเข้ามหา’ ลัย”
อีกคนพูดขึ้น: “เมื่อวานนอนหลับสบายก็เลยตื่นเช้าน่ะ”
ชุยหังได้แต่แอบถอนหายใจ ดูเหมือนว่าคนทางใต้จะปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศที่นี่ได้ง่ายกว่าสินะ
ก็ในเมื่อเขาเป็นคนทางเหนือยังไม่เคยใช้ชีวิตอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวขนาดนี้มาก่อนเลย
“เมื่อวานฉันนอนไม่หลับเลย ร้อนเกินไป” ชุยหังพูดขึ้น
“พอได้นะ เมื่อวานตอนกลางคืนเปิดหน้าต่างนอนมีลมพัดเข้ามาก็พอเย็นขึ้นมาบ้าง” คนที่ใส่แว่นตาพูดขึ้น
เอาเถอะ ชุยหังยอมรับว่าตัวเองพ่ายแพ้แล้วตอนนี้
ชย่าอวี่ชิวพลิกตัวกลับตามเนื้อตัวที่เป็นประกายวิบวับอยู่ทั้งหมดนั้นก็คือเม็ดเหงื่อ
จากนั้นเขาก็ค่อยๆ บิดขี้เกียจ อ้าปากหาววอดๆ แล้วค่อยลืมตาตื่น
“ทำไมพวกนายตื่นเช้ากันจังอะ” เขาถาม
ชุยหังพูดขึ้น: “ฉันก็พึ่งตื่นเหมือนกัน ส่วนพวกเขาน่าจะตื่นนานแล้ว”
“สุดยอดไปเลย เมื่อวานฉันนั่งรถไฟมานานกว่าหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ เหนื่อยจนแทบไม่ไหว” ชย่าอวี่ชิวพูด
ชุยหังพูดขึ้น: “ดูเหมือนว่านายจะสดชื่นขึ้นไม่น้อยเลยนะ”
ชย่าอวี่ชิวอ้าปากหาวขึ้นมาอีกรอบก่อนจะถามว่า: “ตอนนี้กี่โมงแล้ว”
ชุยหังเปิดโทรศัพท์มองดูเวลาขณะเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะดูวีแชทของตัวเองด้วยแต่ปรากฏว่ายังไม่มีข้อความอะไรตอบกลับมาเลย
เขารู้สึกผิดหวังนิดหน่อยแต่ก็ไม่ลืมบอกเวลากับชย่าอวี่ชิว
“พึ่งจะหกโมงกว่าเองนายนอนต่อเถอะ”
ชย่าอวี่ชิวพูดขึ้น: “นอนคนเดียวมันน่าเบื่อ ฉันนอนกอดนายได้ไหม”
สองคนนั้นพากันหัวเราะคิกคักแต่นั่นทำชุยหังตกอกตกใจมากทีเดียวก่อนพูดว่า: “ลืมไปซะเถอะร้อนจะตายอยู่แล้ว อีกอย่างฉันก็ไม่ง่วงแล้วด้วย ถ้านายไม่อยากนอนก็ลุกได้แล้ว”
ชย่าอวี่ชิวพลิกตัวลุกขึ้นนั่ง ตั้งแต่หัวจรดเท้าของเขามีแค่กางเกงขาสั้นตัวน้อยๆ แค่ตัวเดียว บวกกับร่างกายที่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อของเขาดูไปแล้วก็ดึงดูดคนมากทีเดียว
ชุยหังตั้งใจเบือนสายตามองไปทางอื่นไม่มองเขา
“พวกนายหิวกันหรือยัง พวกเราออกไปกินอาหารเช้าสักหน่อยไหม” ชย่าอวี่ชิวพูด
ชุยหังคิดไปคิดมาก่อนจะพูดตอบ: “ก็ได้ พอดีเลยจะได้ไปดูด้วยว่าที่นี่มีอะไรบ้าง”
ส่วนอีกสองคนนั้นหันมองหน้ากันก่อนจะพูดว่า: “ไม่ไปล่ะ เช้าๆ ตื่นขึ้นมาอ่านหนังสือแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”
เหตุผลนี้ทำเอาชุยหังถึงกับพูดอะไรไม่ออกเลย
แต่ว่าในเมื่อพวกเขาไม่อยากไป แน่นอนว่าเขาก็ไม่ได้ร้องขออะไรต่อ
ชย่าอวี่ชิวเปิดกระเป๋าค้นเอาชุดบาสเกตบอลออกมาใส่ ดูแล้วสบายๆ
เขาพูดขึ้น: “เสี่ยวชุยไปเถอะ พวกเราไปกัน”
ชุยหังตอบกลับ: “อืม ไปเถอะ”
ส่วนเขาก็สวมกางเกงขาสั้นกับเสื้อแขนสั้น จากนั้นหยิบเอากระเป๋าตังค์กับโทรศัพท์มือถือแล้วเดินตามหลังชย่าอวี่ชิวออกไป
กินข้าวเสร็จหลิวเฮ่อก็คงจะตื่นพอดี ถึงตอนนั้นเขาจะเห็นข้อความวีแชทของตนไหมนะ แล้วอาจจะตอบข้อความกลับมาว่าเขาก็คิดถึงตัวเองเหมือนกันก็ได้?