ตอนที่ 110 เอาความมั่นใจมาจากไหน
ในที่สุดงานศิลปะการแสดงก็จบลงอย่างน่าพึงพอใจ ทุกคนต่างก็ดีใจมาก
เพียงแต่ตั้งแต่ต้นจนจบซ่งไข่ไม่ได้ขยับไปที่ไหนเลย เอาแต่มองพวกเขาที่กำลังยิ้มหัวเราะกัน
หลังงานศิลปะการแสดง ดูเหมือนว่าทางคณะจะจัดการร่วมรับประทานอาหารให้กับเหล่าครูฝึกทุกคน ดังนั้นจึงเชิญครูฝึกทุกคนไปที่นั่น
เหล่านักเรียนเมื่อไม่มีภารกิจฝึกทหารแล้วภายในใจก็ดูเหมือนจะว่างเปล่า จู่ๆ ก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร
“ไปเถอะ เหลาอู่”
เมื่อเห็นชุยหังที่ดูเหมือนกำลังนั่งเหม่ออยู่ตรงนั้น จ้าวหลินก็ร้องเรียกเขา
“โอเค รอฉันแปปนึง” ชุยหังลุกขึ้นยืนจากที่นั่งในทันที จากนั้นก็ตามทุกคนกลับไป
“ในที่สุดก็สามารถถอดชุดนี้ออกได้แล้ว แล้วฉันก็จะส่งกลับไปให้พ่อให้แม่ฉัน ให้พวกเขาดูว่าด้านบนนี้เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อของลูกชายของพวกเขา” ถังเฉิงกล่าว
ชุยหังพูดขึ้น: “เหล่าซื่อ ฉันแนะนำให้นายเอา84 [1] ซักแช่ทิ้งไว้สักหนึ่งวันนะ แล้วก็ค่อยซักดีๆ แล้วค่อยส่งกลับไป”
“นายหมายความว่าไงไอ้บ้าเหลาอู่?” ถังเฉิงรู้ว่าชุยหังจะต้องเสียดสีตนอีกแล้วอย่างแน่นอน
ชุยหังพูดขึ้น: “ฉันกลัวว่าเหงื่อของนายจะมีความเป็นกรดมากเกินไป แล้วตอนพ่อแม่นายได้รับเสื้อผ้าจะโดนเผามือเอา”
“ฉันรู้อยู่แล้ว ว่าปากของนายไม่มีทางพูดอะไรดีๆ แน่ อย่าหนีนะ คอยดูวันนี้ฉันจะจัดการนาย” ถังเฉิงพูดเสร็จก็วิ่งไปข้างหน้าไล่ตามชุยหัง
ชุยหังหลบตัว จากนั้นวิ่งตรงไปด้านหน้าพร้อมกับตะโกนไปด้วยว่า: “เหล่าซื่อ ถ้านายตามฉันทันนายต้องซื้อลูกอมให้ฉัน ถ้านายตามฉันไม่ทันนายต้องซื้อไอศกรีมให้ฉัน”
ถังเฉิงหัวเราะก่อนจะหยุดยืนแล้วพูดว่า: “ช่างมันละ ฉันไม่ตามแล้วยังไงก็มีแต่ต้องซื้อของให้นาย”
“ไม่มีทางเลือกนี่นา ใครใช้ให้นายโตกว่าฉันล่ะ”
“ฉันก็ไม่อยากโตกว่านายหรอก ยังต้องคอยยอมนายตลอด” ถังเฉิงว่า
ชุยหังยิ้มแย้มพลางพูดว่า: “นั่นก็โทษฉันไม่ได้หรอกนะ ก็โทษพ่อนายแม่นายที่ปล่อยนายออกมาเร็วเกินไปสิ”
ทุกคนหัวเราะขึ้นมา ถังเฉิงพูดพลางชี้นิ้วไปทางชุยหัง: “นายนี่นะ ปากนายนี่นะ ฉันยอมแพ้แล้ว”
กลับถึงหอพักทุกคนต่างก็รีบบุกไปที่ห้องน้ำ ห้องน้ำในเวลานี้สนุกครึกครื้นขึ้นมาอย่างฉุดไม่อยู่เลยทีเดียว
ครึ่งเดือนนี้ ทุกคนต่างก็รู้สึกว่าลำบากมากจริงๆ
ตอนนี้การฝึกทหารสิ้นสุดลงไปแล้ว ในที่สุดก็สามารถเปลี่ยนกลับเป็นชุดเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
ชุยหังกลับไม่ได้รีบร้อนขนาดนั้น ในเมื่อตอนนี้คนเยอะเกินไป ถึงไปตอนนี้ก็ไม่มีที่อยู่
เขาไม่ค่อยชอบแย่งชิงอะไรกับคนอื่นเขา แล้วก็ไม่ค่อยชอบเข้าไปร่วมสนุกครึกครื้นด้วย
เมื่อเก็บขลุ่ยของเขาเรียบร้อยแล้ว ชุยหังก็นอนลงบนเตียงเหม่อๆ ลอยๆ มองดูรูปภาพของหลูจื้อในโทรศัพท์มือถือ
จากครั้งที่แล้วที่เขาติดต่อตนมา บอกว่าให้ตนรอ มันห่างมากว่าหนึ่งอาทิตย์แล้ว ทำไมเขาถึงไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลยล่ะ
หรือว่าพวกทหารต่างก็ชอบเล่นหายตัวแบบนี้
เขาเคยดูพวกหนังเกี่ยวกับการทหารมาบ้าง ตอนที่พวกทหารกำลังปฏิบัติภารกิจดูเหมือนจะติดต่อกับโลกภายนอกได้ยากมาก
แต่ว่าดูท่าทางจากรูปภาพพวกนั้นที่เขาส่งมาแล้วคงจะไม่ใช่กำลังปฏิบัติภารกิจอะไร
อีกอย่างถ้าหากเป็นปฏิบัติภารกิจจริงๆ ล่ะก็ นั่นก็ต้องเป็นความลับทางการทหาร ต้องไม่สามารถถ่ายรูปส่งออกด้านนอกได้
ในเมื่อไม่ใช่ปฏิบัติภารกิจ สรุปแล้วไปทำอะไรกันแน่ ลึกลับซับซ้อน?
เขามั่นใจในตัวเองมากขนาดนั้นเลย แค่มาบอกกับตนว่าให้ตนรอ ตนก็จะต้องเฝ้ารออย่างแน่นอน?
ไม่ทันรู้ตัวเขาก็นอนหลับไปเสียแล้ว
รอจนกระทั่งตอนที่เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนกำลังคุยกันจากประตูห้อง
เขาพลิกตัวลุกขึ้น สมองยังคงไม่ค่อยตื่นตัวเท่าไหร่
จากนั้นเมื่อเขาได้สติสักพักแล้วถึงได้พบว่าภายในห้องพักไม่มีคนอยู่เลยแม้แต่คนเดียว
เขามองไปทางประตูห้อง ทุกคนอยู่ตรงประตูจริงๆ ด้วยและกำลังยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา
“พวกนายทำอะไรน่ะ” เขาเอ่ยถาม
ไม่มีคนตอบเขา ดูเหมือนจะยังได้ยินว่ามีคนในกลุ่มกำลังพูดอะไรต่อสักอย่าง
ในใจของชุยหังรู้สึกสงสัยนิดหน่อย จากนั้นจึงพลิกตัวลงจากเตียงเดินไปที่ประตูแล้วดึงประตูเปิดออก
ทุกคนต่างก็เปลี่ยนชุดเป็นชุดลำลองกันหมดแล้ว มีแค่เขาคนเดียวที่ยังคงใส่ชุดฝึกทหารเหมือนกับคนโง่ออกไปปรากฏตัวที่หน้าประตู
เขามองไปในกลุ่มคนเหล่านั้นถึงพบว่าเป็นครูฝึกประจำห้องสอง กำลังคุยอะไรสักอย่างอยู่ตรงนั้นกับทุกคน
ตอนที่ 111 คนอื่นบอกให้นายทำตัวดีๆ หน่อย
แต่ว่าดูเหมือนเขาจะดื่มมาเยอะไปแล้ว ทั่วทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยสีแดงฝาด ในดวงตาก็เต็มไปด้วยเส้นเลือด
การร่วมรับประทานอาหารเมื่อครู่ดูเหมือนว่าพวกเขาเองคงได้อิสระเปิดกว้างพอควร
พวกเขาอยู่ที่กองทัพคงจะไม่ได้รับอนุญาตให้ดื่มเหล้า
ครั้งนี้ได้ออกมาลำบากขนาดนี้ อันที่จริงการที่ให้พวกเขาได้ผ่อนคลายกันสักหน่อยก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าสมควร
เมื่อเห็นชุยหังทำหน้าตามึนงงสับสนอยู่หน้าประตูห้อง ครูฝึกประจำห้องสองก็พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า: “นาย มานี่”
ท่าทางกึ่งเมาของเขาทำให้ชุยหังรู้สึกฉงนงงงวยอย่างยิ่ง
แต่ว่าเขาคงจะรู้จักตนแน่ เพราะคนที่เรียกตนว่าพี่สะใภ้เป็นครั้งแรกก็คือเขา
“เร็วหน่อยสิ ทำไมต้องให้เป็นผบ.หมวดของพวกเราเรียกนายถึงจะทำตามฮะ” ครูฝึกประจำห้องสองเห็นชุยหังนิ่งมึนไปจึงถามขึ้นมาอีกเสียง
คนที่ดื่มเหล้ามากต่างก็มักจะนิสัยอารมณ์เกินคนจริงๆ นะ
ชุยหังรู้ว่าผบ.หมวดที่เขาพูดถึงก็คือหลูจื้อ
เขาไม่อยากให้เขาฉวยโอกาสในช่วงที่มีฤทธิ์แอลกอฮอล์แบบนี้พูดอะไรอย่างอื่นออกมาอีก ดังนั้นจึงรีบเดินเข้าไปหา
“มา หลีกทางให้เขาเข้ามา” ครูฝึกประจำห้องสองกล่าว
ทุกคนค่อยๆ ทยอยถอยออกแล้วให้ชุยหังเดินผ่านไป
ครูฝึกประจำห้องสองคว้าหมับเข้าที่มือของชุยหังในทันที จากนั้นก็พูดกับเขาว่า: “นายจำฉันได้หรือยัง”
“เอ่อ?”
“ฉันถามนายว่าจำฉันได้ยัง”
“จำได้แล้วครับ จำได้แล้ว”
“ฉันชื่ออะไร” ครูฝึกประจำห้องสองถามต่อ
ชุยหังตะลึงงัน เขายังไม่รู้จริงๆ ด้วย
“นายจำได้แล้วหรอ ทำไมถึงยังไม่รู้จักชื่อของฉันอีก พวกนายพึ่งจะได้ฟังชื่อของฉันไปเมื่อกี้นี้บอกเขาสิว่าฉันชื่ออะไร” ครูฝึกห้องสองว่า
เหล่าซื่อที่อยู่ด้านข้างกระทุ้งชุยหังเบาๆ จากนั้นกระซิบว่า: “เวินเผิง”
“อ้อ ครูฝึกเวิน” ชุยหังพูด
บนใบหน้าของเวินเผิงแลดูหงุดหงิดนิดหน่อย แรงที่มือก็เพิ่มมากขึ้นด้วย
“ครูฝึกเวินบ้าอะไรเล่า ฝึกทหารเสร็จไปแล้ว ต่อไปถ้าเจอกันอีกก็เป็นพี่น้องแล้วได้ยินหรือยัง”
เป็นไปตามที่ว่าคนที่พึ่งดื่มเหล้ามายั่วไม่ได้เลยจริงๆ
แต่ว่าเผยนิสัยแท้จริงแบบนี้ก็น่าสนุกทีเดียวเลย
“อ้อ ผมเข้าใจแล้ว” ชุยหังกล่าว
แรงที่มือของเวินเผิงผ่อนเบาลงเล็กน้อย แต่ว่าก็ยังไม่ปล่อยชุยหังแล้วพูดต่อว่า: “ในเมื่อนายจำฉันได้แล้ว วันนี้พวกเราแยกจากกันก็จะไม่ใช่ครูฝึกของพวกนายอีกแล้ว ต่อไปถ้าเจอกันอีกทุกคนต่างก็คือเพื่อน ถ้าหากมีเรื่องอะไรที่สามารถใช้ฉันได้ก็ต้องบอกฉันได้ยินหรือยัง”
ชุยหังครุ่นคิด นี่คงเป็นคำพูดตอนเมาที่แท้จริงสินะ
นี่เขาคิดว่าคนพวกนี้เป็นเพื่อนร่วมรบของเขาไปแล้วหรือไง
นี่ควรจะเป็นคำพูดที่เมื่อทหารกำลังจะแยกตัวออกจากค่ายทหารพูดกับเหล่าเพื่อนร่วมรบว่า ต่อจากนี้ไปลาก่อนเจียงหู ยังไงก็ต้องจดจำมิตรภาพในช่วงที่ยังเป็นทหารร่วมรบกันด้วย
แต่ว่ากับพวกเขาคงไม่นับมั้ง?
คิดไปคิดมา การที่จะต้องมาคิดเล็กคิดน้อยแบบนี้กับคนที่ดื่มมากไปแบบนี้ถือว่าไม่มีความจำเป็นเลย ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าแล้วพูดว่า: “ผมจำไว้แล้วครับ”
ตอนนี้เวินเผิงถึงได้ยอมปล่อยมือชุยหัง จากนั้นก็กำลังจับมือกับคนอื่นๆ แถมยังพูดไปด้วยว่า: “คำพูดเมื่อกี้นี้ ไม่ใช่แค่พูดให้เขาฟังคนเดียว พวกนายทุกคนต่างก็ต้องจำเอาไว้ ถ้าหากฉันรู้ว่าพวกนายมีเรื่องอะไรที่สามารถใช้ฉันได้แล้วไม่บอกฉันล่ะก็ฉันจะโกรธมากได้ยินหรือยัง”
“ได้ยินแล้วครับครูฝึก” มีคนพูดขึ้น
“ยังจะเรียกครูฝึกอีก ต่อไปเรียกเวินเผิงได้ยินไหม” เวินเผิงกล่าว
“อืม ได้ยินแล้ว”
เวินเผิงคว้ามือของชุยหังเอาไว้อีกครั้งแล้วพูดว่า: “เอ่อคือมีอีกประโยคที่ต้องพูดกับนาย”
“ครูฝึกว่ามาเลยครับ” ชุยหังตื่นเต้นนิดหน่อย
เวินเผิงอืดอาดเล็กน้อย อ้าปากพะงาบๆ นานกว่าจะพูดออกมา: “ทำตัวดีๆ หน่อย คนอื่นให้ฉันมาบอกกับนาย”
ชั่ววินาทีนั้น ชุยหังก็รู้ในทันทีว่าคนอื่นที่ว่านั้นคือใคร
เดิมทีเขาอยากจะถามให้แน่ชัดว่าคนอื่นคนนั้นให้เขามาบอกต่อตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ว่ามีคนตั้งมากมายอยู่ในเหตุการณ์ เขาจึงไม่มีวิธีจะเอ่ยปาก
“อืม ผมรู้แล้ว เดิมทีผมก็เป็นคนซื่อสัตย์อยู่แล้ว”
——
[1] 84 ในที่นี้กล่าวถึง 84 消毒泡 腾片 (84 disinfectant effervescent tablets) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคชนิดหนึ่ง