ตอนที่ 132 เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
วันต่อมาพวกเขาไม่สามารถไปที่ชายหาดริมแม่น้ำได้ เพราะอากาศร้อนเกินไป ไม่สู้นอนหลับอยู่ที่ห้องตากพัดลมเย็นๆ ดีกว่า
ชุยหังรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ไปทำแบบฝึกทักษะการฟังมาหลายวันแล้วดังนั้นเขาจึงไปที่ห้องไมโครคอมพิวเตอร์ที่อาคารการเดินเรือ หลังจากฟังแบบทดสอบการฟังไปอีกสองสามบทเรียน เขาก็รู้สึกว่าตนเหมือนเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำยังไงอย่างนั้น ถ้าได้ระดับผ่านหรือว่าดี เขาก็จะเลือกที่จะทำใหม่จนกว่าคะแนนจะอยู่ในระดับยอดเยี่ยมเขาถึงจะเข้าสู่บทเรียนต่อไป
เขาใช้เวลาหนึ่งเดือนกว่าก็ทำแบบฝึกทักษะฟังพูดสำหรับครึ่งภาคเรียนจนเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว
เมื่อไปดูความคืบหน้าของตารางจัดอันดับเขาก็นำหน้าไปไกลแล้ว
ในรายวิชาภาษาอังกฤษ เขาก็ยังไม่ยอมใครเลยจริงๆ
โทรศัพท์ของเขาสั่นหลายครั้งแล้ว เพราะเมื่อครู่กำลังทำแบบทดสอบการพูดอยู่ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจ
หลังจากออกมาจากห้องไมโครคอมพิวเตอร์แล้ว เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถึงเห็นว่าสายที่ไม่ได้รับต่างก็เป็นสายที่ซ่งไข่โทรมาทั้งหมด
นอกจากนี้ยังมีข้อความที่ยังไม่ได้อ่านอีกสองข้อความด้วย
[นายทำอะไรอยู่ ทำไมไม่รับโทรศัพท์]
[ยุ่งไหม ถ้าเสร็จแล้วตอบข้อความฉันกลับด้วยนะ]
หลังจากคิดอยู่สักพัก ชุยหังก็ส่งข้อความกลับไปให้เขาหนึ่งข้อความ
[ขอโทษนะครับ ครูฝึกซ่ง เมื่อกี้อยู่ห้องไมโครคอมพิวเตอร์ ปิดเสียงโทรศัพท์มือถือไว้และไม่สะดวกรับโทรศัพท์]
เขาพึ่งจะส่งข้อความฉบับนี้กลับไปด้านซ่งไข่ก็โทรกลับมาหาเขาทันที
“ฮัลโหล นายรีบโทรไปหาหลูจื้อเลยนะ” ฟังดูเหมือนทางด้านซ่งไข่จะรีบร้อนมาก
“มีอะไรหรอ ทำไมผมต้องโทรหาเขาด้วย” ชุยหังถาม
ซ่งไข่พูดขึ้น: “ตอนแรกเขาจะอยู่ที่นั่นเลื่อนตำแหน่งแล้ว แต่ก็พยายามอย่างหนักที่จะโอนย้ายกลับมาให้ได้ ไม่ง่ายเลยกว่าจะโอนย้ายกลับมา แล้วเมื่อวานเขายังเลิกกับผู้หญิงที่ครอบครัวแนะนำให้คนนั้นด้วย บอกว่าไม่เหมาะสมกัน นายว่าเขาเป็นบ้าไปแล้วหรือเปล่า”
ชุยหังตกตะลึง โอนย้ายกลับมาแล้ว เลิกกันแล้ว?
กลายเป็นว่าที่แท้คืนนั้นที่ตนเจอเขา เขาไม่ได้กลับมาเพื่อทำเรื่องโยกย้ายแต่กลับมาแล้วจริงๆ
ตอนนั้นที่เขาไม่ได้พูดสาเหตุก็เพียงเพราะว่ายังมีผู้หญิงคนนั้นอยู่
ตอนนี้แม้แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ถูกเขาเคลียร์แล้ว เขาบอกเลิกกับหล่อนไปแล้ว
“บางทีอาจจะเป็นเพราะพวกเขาไม่เหมาะสมกันจริงๆ ก็ได้” ชุยหังยังคงปลอบใจตัวเอง
ซ่งไข่พูดขึ้น: “นายอย่าบอกฉันนะว่านายไม่รู้ว่าเขากลับมาทำไม ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงเลิกกับผู้หญิงคนนั้น”
“ผมไม่รู้จริงๆ นี่นา ผมไม่ได้พูดอะไรกับเขาเลยนะ” ชุยหังว่า
เขาไม่เชื่อจริงๆ ว่าเขาจะมีความสามารถที่จะทำให้หลูจื้อตัดสินใจได้อย่างหุนหันพลันแล่นขนาดนี้
“สถานที่ที่เขาไปมาก่อนนั้นง่ายที่จะสร้างผลงานในการปฏิบัติหน้าที่ทางราชการ เลื่อนขั้นง่าย ครอบครัวเขาใช้เส้นสายความสัมพันธ์ช่วยหาให้เขา ตอนนี้เขาจะเป็นจะตายก็จะกลับมาให้ได้ บอกว่าไม่อยากอยู่ไกลบ้านมากเกินไปและเขาก็คิดถึงคุณย่าของเขาด้วย เรื่องนี้คนในครอบครัวเขายังพอจะฝืนใจยอมรับได้ แต่การเลิกกับแฟนนี่คงไม่ได้เห็นแก่ครอบครัวแน่ ๆ ใช่ไหม” ซ่งไข่ว่า
ชุยหังยังคงไม่เข้าใจความคิดของตัวเอง ซ่งไข่พูดเรื่องพวกนี้กับตน วิเคราะห์เรื่องพวกนี้คือต้องการจะให้ตนเข้าใจอะไร
เขาต้องการจะสื่อว่า หลูจื้อทำเรื่องพวกนี้ทั้งหมดก็เพื่อตน เพราะเขาเคยรับปากกับตนให้ตนเฝ้ารอเขาด้วยความซื่อสัตย์จริงใจ ดังนั้นเขาจึงกลับมาและเพราะวันนั้นตนพูดเรื่องผู้หญิงคนนั้นกับเขา บอกเขาไม่ต้องมารบกวนตนอีก เขาก็เลยเลิกกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว?
แต่ว่าถ้าเป็นเพราะตนจริงๆ เขาก็ไม่ได้โทรศัพท์มาหาตนนี่นา?
ถ้าหากว่าตนโทรไปหาเขาแล้วหลูจื้อบอกว่าแค่อยากจะอยู่ใกล้บ้านจริงๆ และกับผู้หญิงคนนั้นก็ไม่เหมาะสมจริงๆ แล้วแบบนี้ตนจะมีจุดจบยังไง
หรือจะให้พูดว่าฉันไม่เชื่อหรอก นายจะต้องทำเพื่อฉันแน่ๆ แบบนั้นจะไม่หลงตัวเองถึงขั้นสุดมากเกินไปหน่อยหรอ
“นายโทรไปหาเขาหน่อยเถอะ เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ”
ตอนที่ 133 ไม่มีทางเป็นฉัน
ชุยหังครุ่นคิด ในหัวสมองของเขาตอนนี้มึนชาไปหมด
วันนั้นหลูจื้อคว้าตัวของตนไว้ไม่ใช่เพราะต้องการจะจูบอย่างรุนแรง ที่จริงเขาอยากจะบอกเรื่องนี้กับตนใช่ไหม
แต่ทว่าตนไม่ได้ให้โอกาสนี้กับเขา
หรือว่าวันนั้นเขาอยากจะถามตนว่าต้องการยังไงกันแน่ แล้วตนก็หันหลังเดินกลับออกไปก่อน
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้หลูจื้อก็โอนย้ายกลับมาแล้ว และกลับมาเป็นคนโสดอีกครั้งแล้วด้วย
ว่าตามที่ซ่งไข่พูด ทั้งหมดนี้ก็เพื่อตนทั้งหมด
ในภาพแห่งความทรงจำของชุยหัง เขาไม่มีทางที่จะสำคัญขนาดนั้น
ถึงแม้ว่าเขาจะคาดหวังมาโดยตลอดว่าจะมีใครบางคนทำทุกอย่างเพื่อเขาโดยไม่สนใจอะไร แต่เมื่อคน ๆ นี้ปรากฏขึ้นจริงๆ เชื่อว่าชุยหังต้องยินดีที่จะทุ่มเทกลับเพื่อเขาแน่
สิ่งที่อยู่ต่อหน้าของเขาในตอนนี้ก็คือเรื่องของหลูจื้อ
หลังจากถูกหลิวเฮ่อทรยศหักหลัง ชุยหังไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ว่าตนจะได้พบกับผู้ชายดีๆ ที่สูญพันธุ์ไปแล้วประเภทนี้
ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนจะจินตนาการเพ้อฝันถึงหลูจื้อ แต่ว่าสิ่งที่คิดก็ไม่เคยอยากให้เขาเปลี่ยนแปลงหรือยอมประนีประนอมเพื่อตนเลย เพียงแค่ในใจมันมีเมล็ดพันธุ์ที่กำลังหยั่งราก แตกหน่อ และอันที่จริงตนก็พอจะรับรู้ได้ล่วงหน้าแล้วว่าอาจจะไม่มีผลลัพธ์ใดๆ
ตอนนี้เขายังคงสงสัยว่าถ้าสิ่งที่ซ่งไข่พูดเป็นความจริงทั้งหมด หลูจื้อทำเพื่อตนจริงๆ ถึงยอมกลับมา ถึงได้ยอมเลิกกับผู้หญิงคนนั้น จัดการเรียบร้อยหมดแล้วแต่ก็ไม่ได้บอกกับตน
ถ้าซ่งไข่ไม่บอกตน เขาตัดสินใจที่จะพูดเมื่อไหร่
หรือว่าเขายังอยากจะรอให้ตนทนไม่ไหวแล้วติดต่อหาเขา?
ความคิดของผู้ชายแท้ ชุยหังไม่มีทางเข้าใจได้เลย ดังนั้นเขากลัดกลุ้มใจมากจริงๆ ไม่รู้ว่าตนควรจะคิดยังไงดี
“ไม่จำเป็นต้องเป็นเพราะผมมั้ง?” เขาบอกกับซ่งไข่
ซ่งไข่พูดขึ้น: “ไม่ใช่เพราะนาย หรือจะให้เป็นเพราะฉัน?”
ชุยหังพูดต่อ: “อันนี้ผมก็ไม่รู้แล้ว ในเมื่อเขาไม่ได้โทรมาหาผมเลย”
“นายแน่ใจหรอว่าเขาไม่ได้โทรไปหานาย?” ซ่งไข่ถาม
ชุยหังครุ่นคิดและพูดว่า: “ผมมั่นใจ เมื่อกี้ผมดูโทรศัพท์สายที่ไม่ได้รับทั้งหมดก็มีแต่ของคุณ”
ซ่งไข่เงียบไปชั่วขณะและพูดว่า: “งั้นฉันก็ไม่รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ว่านอกจากนายแล้ว เขาอยู่ที่นี่คงจะไม่เคยคบค้าสมาคมกับใครแล้ว…”
“แฟนคนก่อนของเขาล่ะ?” ชุยหังถาม
เขารู้สึกเหมือนสมองเป็นตะคริวไม่มีผิด นึกถึงที่หลูจื้อเคยพูดถึงแฟนสาวที่เลิกกันไปเพราะไม่ได้เจอกันนานขึ้นมา
บางทีวันนั้นอาจจะมีประโยคบางประโยคที่ตนพูดทำให้เขานึกอะไรขึ้นมาได้ คิดอยากจะเรียกคืนความรู้สึกเมื่อครั้งก่อน
จิตใจยุ่งเหยิงไปหมด ยุ่งเหยิงมากจริงๆ
ที่จริงในใจของเขากำลังคาดหวังตั้งตารอแล้วก็หวาดกลัวด้วย
สิ่งที่คาดหวังแน่นอนว่าต้องคิดว่า เผื่อหลูจื้อกลับมาเพื่อตนจริงๆ ล่ะ?
แต่ว่าความหวาดกลัวนั้นแสดงออกมาชัดเจนมากกว่า เพราะการคบกับผู้ชายแท้จะเป็นเหมือนแมลงเม่าบินเข้ากองไฟเอาได้ง่ายๆ …
ชายแท้ที่ถูกเบี่ยงเบนจะสามารถเอียงเอนไปได้นานแค่ไหนกัน?
เป็นแบบเดียวกับหนังสติ๊ก ที่เวลามันตีกลับมาก็แค่ทิ้งรอยแผลเป็นลึกๆ เอาไว้บนใบหน้าของชุยหังเท่านั้น
ดังนั้นเขาจึงถอนหายใจออกมาคิดอยากจะทำให้ตัวเองลืม อย่าไปคิดเรื่องที่มันไม่สมจริงตั้งแต่แรกพวกนี้อีก
แต่ว่าในใจของเขามีความคิดหนึ่งที่ทำให้เขาทนไม่ไหวยังอยากจะเลื่อนโทรศัพท์ไปดู
ในบรรดาสายที่ไม่ได้รับมีเพียงแค่สายของซ่งไข่เท่านั้นจริงๆ
เขาถอนหายใจยาวอย่างโล่งอกและกำลังตัดสินใจจะยอมแพ้ แต่กลับเหมือนจะเหลือบเห็นการแจ้งเตือนจากส่วนอื่น คือสายไม่ได้รับจากหลายเลขที่ถูกบล็อกมีถึงสิบห้าครั้ง
เขาตัวสั่นเทากดเข้าไปดู ตอนนี้ถึงคิดขึ้นได้ว่าเมื่อคืนวานนี้ตนดึงหมายเลขโทรศัพท์ของหลูจื้อเข้าไปไว้ในรายชื่อบัญชีดำแล้ว…