(นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ – ตอนที่ 103

 

เฮเลนานั่งพูดคุยสารทุกข์สุขดิบกับลิลิธไปพลางเฝ้าดูการฝึกฝนของทั้งสี่คน

ตามที่คาดไว้ เมื่อทิฟฟานีเป็นคู่ต่อสู้ก็ดูท่าว่ามาริเอลจะไม่สามารถรับมือได้ดีนัก ถึงกระนั้น หากคำนึงว่าเธอก็เพิ่งจะเริ่มเรียนวิชากระบองได้วันสองวันเอง ก็นับว่าสู้ได้ดีมากแล้วกระมัง ในอนาคตอาจสามารถเป็นคู่ต่อสู้ให้กับเฮเลนาได้เลยก็เป็นได้ แต่ก่อนจะถึงขั้นนั้นคงต้องผ่านการฝึกฝนที่ไม่จบสิ้นกับสั่งสมประสบการณ์ต่อสู้จริงเสียก่อนล่ะนะ

และแล้วเมื่อได้จังหวะใกล้จะถึงเวลาเที่ยง เธอก็สั่งหยุดการฝึกฝน

มาริเอลที่ต่อสู้กับทิฟฟานีอยู่ก็คงไม่ต้องพูดถึง แต่ฟรองซัวส์กับคลาริสซาที่โดนสั่งให้ซ้อมกระบวนท่าพื้นฐานอย่างต่อเนื่องก็ทำท่าจะหมดแรงแล้วเหมือนกัน ดูเหมือนการเคลื่อนไหวที่ไม่คุ้นเคยจะสร้างภาระให้กับร่างกายมากจริง ๆ ด้วยสินะ

 

“แฮ่ก แฮ่ก……!”

 

“น น้ำ……!”

 

เฮเลนายื่นน้ำให้กับฟรองซัวส์และคลาริสซาที่เข้ามาหาในสภาพใกล้จะเป็นลมเต็มที

ปกติแล้ว แม้จะไม่ได้มีการสั่งห้ามดื่มน้ำในระหว่างการฝึกฝน แต่ส่วนใหญ่พวกเธอก็จะดื่มน้ำกันหลังจากที่จบการฝึกฝนทั้งหมดแล้วเท่านั้นเหมือนอย่างตอนนี้ จากคำพูดของพวกเธอดูเหมือนว่าน้ำที่ดื่มหลังจากฝึกจบแล้วมันจะอร่อยกว่าปกตินั่นเอง

 

“ฟู่ว……เหนื่อยเลยค่ะ”

 

“เป็นพรสวรรค์ในวิชากระบองที่ไม่นึกว่าจะเป็นบุตรีขุนนางเลยนะคุณหนูริเวียร์ ดูเหมือนว่าจะพอสู้กับทหารทั่วไปได้เลยล่ะ”

 

“แหม……เช่นนั้นหรือคะ?”

 

“ใช่ หากไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ในระดับหนึ่ง ต่อให้เป็นแค่การฝึกซ้อมต่อสู้ก็คงไม่มีทางสู้กับดิฉันได้หรอก”

 

“หุ ๆๆ ถ้าเพื่อเข้าใกล้ขอบเขตของท่านพี่หญิงแล้วล่ะก็ ไม่ว่าอะไรมาริเอลผู้นี้ก็จะทำค่ะ”

 

และทางนี้เองกำลังผูกสัมพันธ์ศิษย์อาจารย์คู่ใหม่กันอยู่เหมือนกัน

เรื่องการฝึกซ้อมต่อสู้ของมาริเอล จากนี้ไปฝากให้คนของกองอัศวินหมาป่าเงินเลยดีไหมนะ อย่างน้อยที่สุด ในเมื่อเธอมีพรสวรรค์ที่แตกต่างจากฟรองซัวส์และคลาริสซาเช่นนี้ ก็คงไม่เหมาะที่จะให้ฝึกฝนเหมือน ๆ กันทั้งหมด

‘อืมๆ’ เฮเลนาคิดพลางพยักหน้า

 

“จะว่าไปแล้ว หนูเฮเลนาจ๊ะ”

 

“คะ?”

 

จังหวะนั้นเองลูเครเซียก็เข้ามาพูดกับเธอ

สีหน้าของลูเครเซียดูซีเรียสเล็กน้อย เธอกอดอกพลางถอนหายใจออกมาเบา ๆ

 

“ฉันมีเรื่องจะขอร้องหนูเฮเลนาสักหน่อยน่ะ”

 

“อะไรหรือคะ?”

 

“อันที่จริง……เป็นเรื่องของแองเจลิกาน่ะจ้ะ”

 

‘อ๋อ’ ตอนนั้นเองเฮเลนาก็นึกออก

ถ้าจำไม่ผิดฟาร์มาสก็เคยบอกอยู่เหมือนกัน ว่าอยากให้จัดการฝึกฝนให้แองเจลิกา

เธอก็ไม่ได้มีข้อโต้แย้งอะไรเป็นพิเศษอยู่แล้ว จึงพยักหน้ารับ

 

“ได้รับฟังเรื่องราวมาจากฝ่าบาทแล้วค่ะ”

 

“อุ๊ยแหม……งั้นหรือจ๊ะ?”

 

“ค่ะ ฝ่าบาทกล่าวว่าท่านลูเครเซียกำลังกลัดกลุ้มมากทีเดียว ว่าการกระทำของท่านแองเจลิกานั้นไม่เหมาะสมกับฐานะราชนิกุล”

 

“ใช่แล้วล่ะจ้ะ”

 

‘เฮ้อ’ ลูเครเซียถอนใจเฮือกใหญ่

แม้แองเจลิกาจะยังเด็ก แต่ความเป็นเด็กก็ไม่สามารถเป็นข้ออ้างในการให้อภัยได้ทุกเรื่อง ตราบใดที่แองเจลิกายังมีตำแหน่งทางการเป็นน้องสาวของฟาร์มาสผู้เป็นจักรพรรดิองค์ปัจจุบัน การกระทำทั้งหมดของเธอก็จะโดนนับว่าเป็นการกระทำของราชวงศ์ไปโดยปริยาย

การกระทำโดยไม่ยั้งคิดอย่างเช่นการไปตบใส่เฮเลนาในงานราตรีไว้อาลัยครบรอบหนึ่งปีก็อาจทำให้ราชวงศ์ถูกดูแคลนได้ด้วย เพราะอย่างนั้นกระมังลูเครเซียถึงได้กำลังกลุ้มใจอยู่

 

“เพราะงั้นก็เลยคิดว่าอยากให้หนูเฮเลนาช่วยฝึกให้ใหม่ซะหน่อยนะ……”

 

“สำหรับข้าแล้วไม่มีปัญหาค่ะ แต่ไหนแต่ไรข้าก็เป็นสตรีที่รู้จักแต่การทหาร หากข้าจะสามารถทำประโยชน์อะไรให้ได้ก็ได้โปรดสั่งมาได้เลยค่ะ”

 

“อื้ม หากเธอว่าแบบนั้นก็ขอบใจนะ”

 

ลูเครเซียยิ้มออกมาเหมือนว่าโล่งใจแล้ว

หากการชี้แนะของเฮเลนาสามารถทำให้แองเจลิกามีความสุขุมมากขึ้นได้ก็นับว่าดีที่สุด และการฝึกทหารใหม่นั้นก็ได้ช่วยทำให้ทหารที่หยิ่งทนงตนเติบโตขึ้นมานักต่อนัก

ลองถึงมือเฮเลนาแล้วก็คงจะสามารถทำให้แองเจลิกาปรับปรุงตัวได้แน่นอน

 

“แต่ว่านะคะ ท่านลูเครเซีย”

 

“?”

 

“แม้ข้าจะได้รับความรักใคร่โปรดปรานจากฝ่าบาทอยู่แต่ก็ยังไม่ได้มีฐานะเป็นพระชายาเอก ส่วนท่านแองเจลิกานั้นเป็นราชนิกุลอย่างแท้จริง หากมีการอ้างถึงความแตกต่างของฐานันดรศักดิ์ขึ้นมา ข้าก็จะไม่สามารถบอกกล่าวอะไรอย่างเข้มงวดได้ค่ะ”

 

“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก ฉันจะส่งมอบตัวแองเจลิกาให้วังหลังไปเลย ในระหว่างที่ดำเนินการฝึกอบรมอยู่ที่นี่ การกระทำหมิ่นเบื้องสูงทั้งหมดของหนูเฮเลนาให้ถือว่าพระพันปีลูเครเซียคนนี้อนุญาตเองจ้ะ”

 

“ขอบพระคุณค่ะ เช่นนั้นแล้ว……แปลว่าจัดเต็มได้เลยใช่ไหมคะ?”

 

นี่คือการยืนยันครั้งสุดท้ายกับลูเครเซีย

หากตรงจุดนี้ลูเครเซียตอบออกมาว่า “เบามือหน่อยนะจ๊ะ” เฮเลนาก็จะดำเนินการฝึกฝนแบบเพลา ๆ มือในระดับหนึ่ง ทว่าถ้าทำเช่นนั้นก็คงไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของแองเจลิกาให้ลึกถึงสันดานได้

หากได้ชี้แนะอย่างเข้มงวดแบบจัดเต็ม ก็คงสามารถเปลี่ยนใจของเธอได้จากก้นบึ้ง

ดังนั้น—เธอจึงได้จ้องมองลูเครเซียอย่างแหลมคม และถามออกไปเช่นนั้น

 

เมื่อได้ฟังคำพูดของเฮเลนา ลูเครเซียก็รู้สึกได้รับแรงกดดันเล็กน้อย

ทว่า เธอก็พยักหน้ารับ

 

“จ้ะ……ช่วยจัดการอย่างเต็มที่เถอะ”

 

“รับทราบแล้วค่ะ”

 

ได้รับคำอนุญาตจากลูเครเซียมาแล้ว

เท่านี้ต่อให้แองเจลิกาโวยวายแค่ไหนก็ไม่มีความหมาย แล้วก็จะสามารถฝึกฝนแบบจัดเต็มในสไตล์ของเฮเลนาได้

เมื่อจะได้ฝึกทหารใหม่หลังไม่ได้ทำมาเสียนาน ก็เหมือนใจมันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา

 

“เช่นนั้น ท่านลูเครเซียคะ……เกี่ยวกับการฝึกอบรมของท่านแองเจลิกานั้น”

 

“อืม”

 

“ข้าได้รับคำเชิญให้ไปขี่ม้าท่องเที่ยวทางไกลกับฝ่าบาทในอีกสองสามวันให้หลังอยู่ ค่อยเริ่มการฝึกหลังจากนั้นได้ใช่ไหมคะ?”

 

“จ จ้ะ แบบนั้นก็ได้”

 

“เช่นนั้น เมื่อการไปขี่ม้าท่องเที่ยวกับฝ่าบาทจบแล้ว ก็โปรดบอกให้ท่านแองเจลิกามาที่สวนระหว่างอาคารในเช้าวันถัดมาได้เลยค่ะ นั่นสินะคะ……สักหนึ่งเดือนก็น่าจะเพียงพอกระมัง”

 

‘อืม’ เฮเลนาพยักหน้า

เธอตัดสินใจแล้วว่าจะทำการฝึกแบบจัดเต็ม ดังนั้นจึงไม่อาจปล่อยให้มีการทำตัวออดอ้อนเหลาะแหละได้

ทว่าลูเครเซียกลับเอียงศีรษะราวกับว่ากำลังสับสนอะไรบางอย่าง

 

“เอ๋……หนึ่งเดือน?”

 

“ค่ะ ปกติแล้วการฝึกอบรมทหารใหม่จะทำกันสามเดือน แต่ข้าจะจัดการให้แบบรวดเร็วขึ้นสักหน่อยค่ะ ระหว่างช่วงเวลานั้นต้องขอความกรุณาท่านลูเครเซียพยายามอย่าได้เข้ามาใกล้วังหลังเด็ดขาด ส่วนฝ่าบาทข้าก็จะกล่าวทูลให้ไม่ต้องเสด็จมาเยือนเป็นเวลาหนึ่งเดือนเช่นกันค่ะ”

 

“อ เอ๋……? หมายความว่าไงน่ะ?”

 

“ค่ะ ก็จะฝึกแบบจัดเต็มยังไงล่ะคะ”

 

เพราะไม่เข้าใจความสงสัยของลูเครเซีย เฮเลนาจึงได้แต่เอียงศีรษะอย่างฉงนใจ

 

“……เอ่อ นี่คือแค่ฝึกใช่ไหมจ๊ะ?”

 

“ใช่ค่ะ ตลอดเวลาหนึ่งเดือนจะให้นอนค้างที่ห้องของข้า การดูแลตนเองก็จะให้ทำด้วยตนเองทั้งหมด จะทำการแก้ไขอย่างเข้มงวดจัดเต็มจนกว่านิสัยที่บิดเบี้ยวนั้นจะกลับมาถูกต้องค่ะ ในระหว่างนั้นหากมีท่านลูเครเซียอยู่ด้วยก็อาจนำไปสู่ความออดอ้อนเหลาะแหละของท่านแองเจลิกาได้ ฝ่าบาทเองก็เช่นเดียวกันค่ะ”

 

“เอ๋……?”

 

“แต่ปกติแล้วการฝึกอบรมนี้มันมีไว้เพื่อเรียนรู้การทำงานเป็นกลุ่มด้วยนี่สิ……”

 

‘ฮืม’ เฮเลนาเอามือเท้าคางอย่างใช้ความคิด แล้วก็หันไปมองศิษย์สามคนที่กำลังพักผ่อนอย่างหมดเรี่ยวแรงอยู่

พอลองนึกดูแล้ว กับสามคนนี้เธอเองก็ใช้หลักสูตรการฝึกที่ใจดีมากทีเดียว บางทีการที่คลาริสซายังมีความเหลาะแหละ และการที่ฟรองซัวส์ไม่พัฒนาเท่าที่ควร มันอาจเป็นเพราะเฮเลนาเข้มงวดไม่พอก็เป็นได้

‘ดีล่ะ’ เธอเดินเข้าไปหาทั้งสาม

 

“ฟรองซัวส์ คลาริสซา มาริเอล”

 

“ค ค่ะ!”

 

“ค่ะ!”

 

“ค่ะ ท่านพี่หญิง!”

 

“ในอีกหลายวันให้หลังข้าจะทำการฝึกอบรมแบบเข้มงวดจัดเต็มให้กับท่านแองเจลิกาพระขนิษฐาของฝ่าบาท เพราะเป็นการฝึกแบบประกบใกล้ชิดตลอดหนึ่งเดือน ข้าจึงไม่สามารถมาฝึกอบรมให้พวกเจ้าได้”

 

“อ เอ๋!”

 

“ทว่า หากพวกเจ้าทุกคนอยากที่จะรับการฝึกอบรมอันเข้มงวดของข้าด้วย ข้าก็จะไม่ห้าม อันที่จริงจะยินดีต้อนรับเลยด้วยซ้ำ แน่นอนว่าจะปฏิเสธการฝึกอบรมนี้ก็ได้ แต่ในกรณีนั้นพวกเจ้าก็คงต้องฝึกอยู่ในห้องของตนเองไปจนกว่าข้าจะเสร็จจากการฝึกอบรมในอีกหนึ่งเดือนให้หลังล่ะนะ……ว่ายังไงล่ะ?”

 

เธอจ้องมองทั้งสามคน

ผู้ที่ลุกขึ้นมาเป็นคนแรก ก็คือฟรองซัวส์

 

“ค่ะ! ท่านเฮเลนา! ได้โปรดให้ข้าได้รับการชี้แนะด้วยค่ะ!”

 

“ดี”

 

“อ อิฉันเองก็จะขอรับการฝึกด้วยค่ะ! จะไล่ตามการชี้แนะของท่านพี่หญิงให้ทันให้ดูค่ะ!”

 

“ย่อมได้”

 

“เอ๋……มันมาแบบนี้ข้าก็ต้องตอบตกลงด้วยใช่ไหมเนี่ย? นี่มัน……อ เอ่อ……ถึงจะคิดว่า ‘ถ้าไม่เข้มงวดมากไปก็จะดีมากเลยน้า’ แต่ก็ขอความกรุณาด้วยคนค่ะ”

 

“ไม่ต้องฝืนก็ได้นะ คลาริสซา”

 

“ไม่หรอกค่ะ อ่า……เอาเป็นว่าข้าขอฝึกด้วยคนค่ะ”

 

แม้จะมีความแตกต่างในแรงจูงใจอยู่บ้าง แต่ดูเหมือนทั้งสามคนจะตอบตกลงกันทั้งหมด

หากได้สามคนนี้มาฝึกฝนร่วมกับแองเจลิกา ก็จะช่วยให้เกิดความสามัคคี จากนั้นทุกคนก็จะเรียนรู้การทำงานเป็นกลุ่ม เรียนรู้ความสำคัญของเพื่อนพ้อง แล้วก็กลายเป็นทหารเต็มตัวกันได้ในที่สุด

 

“ดีมาก เช่นนั้นทุกคนก็ตั้งตารอกันได้เลยนะ”

 

“ค่ะ!”

 

เฮเลนาที่เปี่ยมด้วยความกระตือรือร้น กับเหล่าคุณหนูที่ตอบตกลงโดยไม่ได้เข้าใจเลยว่าต่อจากนี้จะต้องเจอกับอะไรบ้าง

เมื่อได้เห็นภาพนั้น

 

“……แองเจลิกาจะไม่เป็นไรใช่ไหมนะ?”

 

“อืม คิดว่าคงไม่ถึงตายหรอกค่ะ ถ้าเป็นพี่สาวล่ะก็นะ”

 

ลูเครเซียก็หลุดพึมพำออกมา ส่วนลิลิธก็ได้ตอบกลับไปเบา ๆ เช่นนั้นเอง

 

(นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊

(นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊

Comment

Options

not work with dark mode
Reset