‘เปรี๊ยะ ๆ’
ชาร์ลอตเตกับมาริเอล จ้องเขม่นใส่กันราวกับจะมีประกายไฟกระจายออกมา
เฮเลนาเองก็ไม่รู้ละเอียดนัก แต่ได้ยินมาว่าสองคนนี้เคยมีเรื่องกันมาตั้งแต่ก่อนเธอจะเข้าวังหลังแล้ว ครั้งสุดท้ายที่ได้ยินทั้งสองคนสนทนากันเป็นเรื่องเป็นราวน่าจะเป็นเมื่อสักพักมาแล้วในสวนระหว่างอาคาร ในวันที่เธอได้รับดาบเล่มนี้มาจากฟาร์มาสกระมัง
ตอนนั้นเฮเลนายังคิดว่ามาริเอลเป็นคนที่เธอต้องระวังอยู่เลย—
“มาทำอะไรหรือเจ้าคะ? พระสนมฟ้าดารา”
“เรื่องนั้นอิฉันต้องเป็นฝ่ายถามมากกว่านะคะ พระสนมฟ้าจันทรา”
“ทางนี้ถามก่อนเจ้าค่ะ ตอบมาซะสิ”
“ไม่ใช่ธุระอิฉันที่ต้องไปตอบอะไรท่านนี่คะ หัดสงบคำบ้างซะเถอะ”
สถานการณ์ตึงเครียด
ใช้คำนั้นน่าจะเหมาะสมกระมัง
มาริเอลกับโซฟีนา
ชาร์ลอตเตกับเอสเทล
ไม่ว่าทางไหนก็มีจุดที่เหมือนกันคือสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างหลังกำลังถอนหายใจอย่างเอือมระอาทั้งคู่
“ว่าแต่ว่า……กระบองนั่น อย่าบอกนะคะว่าพระสนมฟ้าจันทราก็รู้วิชากระบองด้วย?”
“อึก……น นี่มันไม่ใช่นะเจ้าคะ”
“ถือกระบองมายังสวนระหว่างอาคารที่ท่านพี่หญิงกำลังฝึกฝนอยู่เช่นนี้……แบบนี้นี่เอง แปลว่าพระสนมฟ้าจันทราเองก็อยากรับการฝึกโดยตรงจากท่านพี่หญิงเหมือนกันสินะคะ”
“……ป เปล่านะเจ้าคะ ดิฉันก็แค่คิดว่าต้องออกกำลังกายบ้างเท่านั้นแหละเจ้าค่ะ”
“เป็นเช่นนี้เอง ไม่ทราบว่ามาเข้าใกล้ท่านพี่หญิงด้วยวัตถุประสงค์อันใด แต่หากอยากได้รับการชี้แนะจากท่านพี่หญิงโดยตรงก็ต้องมีความอุตสาหะอย่างแท้จริงด้วยนะคะ ท่านน่ะมีความตั้งใจจะฝึกจริง ๆ งั้นรึ?”
“อุ……”
เมื่อฟังคำจากมาริเอล ชาร์ลอตเตก็หงอไปเล็กน้อย
ไอ้การที่เถียงไม่ออกแบบนี้ ก็แปลว่าวางแผนอะไรอยู่จริง ๆ หรือเปล่านะ
“มาเข้าใกล้ท่านพี่หญิงแบบนี้คิดจะทำอะไรกันแน่คะ?”
“ม ไม่ได้วางแผนอะไรอยู่ทั้งนั้นแหละเจ้าค่ะ!”
“จะจริงน่ะหรือ อิฉันได้ยินได้ฟังมาเหมือนกันนะคะ ว่าคนที่ลงมือทำร้ายท่านลิเลียนหนึ่งในเก้าสนมเอกตำแหน่ง ‘ผู้เลอค่า’ น่ะคือฝ่ายของท่านใช่ไหมเล่า”
“—!”
เรื่องราวเริ่มขยับไปในทิศทางที่เฮเลนาไม่รู้เรื่องด้วยแล้ว
ดูเหมือนว่าจะเป็นเหตุการณ์ลอบสังหารที่เกิดขึ้นก่อนเฮเลนาเข้าวังหลัง ซึ่งฟาร์มาสเคยพูดถึงก่อนหน้านี้—ผู้ถูกกระทำในคราวนั้นคงเป็นกุลสตรีที่ชื่อว่าลิเลียนกระมัง
‘เรื่องนี้เห็นทีจะพลาดไม่ได้แฮะ’ เฮเลนาเงี่ยหูฟังทั้งสองคนที่กำลังเขม่นกันอยู่ต่อไป
“น นั่นมัน……! ด ดิฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะเจ้าคะ!”
“ถึงตัวท่านไม่ได้ทำอะไร แต่ก็ได้ยินมาว่าเป็นฝีมือของฝ่ายท่านนะคะ”
“พ แพทย์ประจำวังก็ได้ตัดสินว่าเกิดจากอาการป่วยนะเจ้าคะ!”
“แต่การที่แพทย์ประจำวังคนนั้นเป็นคนใกล้ชิดของใต้เท้าอำมาตย์แผ่นดินโนลด์ลุนด์นั่นแหละค่ะ ที่น่าสงสัยที่สุด”
มาริเอลกล่าวพลางเหลือบตามองชาร์ลอตเต
เมื่อเจอกับสายตาของมาริเอลเช่นนั้น ชาร์ลอตเตเองก็ดูตื่นตระหนกอย่างยิ่ง
ทว่า—มันเป็นแบบนั้นจริง ๆ น่ะหรือ
เฮเลนาเอียงคออย่างฉงนใจ
“ตราบเท่าที่ตาอิฉันยังดำอยู่* จะไม่ปล่อยให้แตะต้องท่านพี่หญิงได้หรอกค่ะ”
(*TL: เป็นสำนวนที่หมายถึง ‘ตราบเท่าที่ยังมีชีวิตอยู่’)
“ตาท่านเป็นสีน้ำเงินนี่เจ้าคะ!”
“มันเป็นคำอุปมาค่ะ แค่นี้ก็ไม่เข้าใจหรือ?”
เมื่อเห็นมาริเอลหัวเราะ ‘หึๆ’ อย่างดูแคลนชัดเจน ชาร์ลอตเตก็จ้องกลับอย่างเดือดดาล
ทว่าในด้านศึกน้ำลายดูเหมือนมาริเอลจะเหนือกว่าอย่างมาก
“ท ท่านเองก็ถือกระบองอยู่เหมือนกันนี่เจ้าคะ! คิดจะมาทำอะไรที่นี่กันแน่!”
“อิฉันฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของท่านพี่หญิงอยู่ ช่วงนี้กำลังเรียนวิชากระบองสนุกเลยค่ะ”
“ด ดิฉันเองก็……!”
‘อึ่ก’ ชาร์ลอตเตยั้งปากไปด้วยตนเอง
ไม่รู้ว่ากำลังจะพูดอะไรออกมา แต่ดูเหมือนเจ็บใจอย่างมากทีเดียว
“อุ๊ยแหม ท่านเองก็ อะไรหรือคะ?”
“ฮึ่มม……!”
“หรือจะพูดว่าท่านเองก็อยากจะเรียนวิชากระบองจากท่านพี่หญิงอย่างจริงจังเหมือนกัน?”
“ฮึ้ยย……! พูดมากไปกว่านี้ก็ไม่จบไม่สิ้นซะทีเจ้าค่ะ”!
‘ฟึ่บ’ ปลายกระบองของชาร์ลอตเตได้ถูกชี้ไปทางมาริเอล
เทียบกับบ่ายเมื่อวันก่อนแล้ว ท่าร่างของเธอดูเข้ารูปเข้ารอยกว่าเดิมไม่น้อยเลยทีเดียว
“พระสนมฟ้าดาราน่ะ กำลังร่ำเรียนวิชากระบองจากพระสนมฟ้าสุริยาอยู่ใช่ไหมเจ้าคะ! เช่นนั้นก็มาประลองกับดิฉันสิ!”
“แหม ๆ ……คิดจะประลองกับอิฉันหรือคะ?”
“แน่นอนเจ้าค่ะ! ไม่แพ้หรอกนะเจ้าคะ!”
“เช่นนั้นก็ย่อมได้ อิฉันเองก็ขอสู้อย่างสุดฝีมือเช่นกันค่ะ!”
“ช้าก่อน”
พอเห็นว่ามันจะกลายเป็นการต่อสู้จริงจังไปแล้ว เฮเลนาจึงอดไม่ได้ที่จะต้องเข้าห้ามปราม
มาริเอลนั้นมีพรสวรรค์ในด้านวิชากระบอง เรื่องนั้นเฮเลนาเองก็ยอมรับ แม้แต่ทิฟฟานีก็ยอมรับเช่นกัน
ทว่ามาริเอลที่เพิ่งจะเริ่มฝึกวิชากระบองมาได้ไม่กี่วันก็ยังนับว่าเป็นมือใหม่อยู่ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจนับว่าอยู่ในระดับที่สามารถมาฝึกซ้อมต่อสู้จริงแบบนี้ได้
การที่เธอสามารถฝึกซ้อมกับทิฟฟานีได้นั้น ก็เป็นเพราะทิฟฟานีได้ออมมือให้เพื่อสอนวิธีต่อสู้กับมาริเอลนั่นเอง
ส่วนชาร์ลอตเตเองก็เพิ่งจะเริ่มฝึกกระบวนท่าพื้นฐานของวิชากระบองไปเมื่อวานนี้ตอนบ่ายเท่านั้นเอง
เพียงแค่นั้นไม่มีทางก้าวหน้าจนสามารถนำมาใช้ต่อสู้ได้หรอก
การฝึกฝนมันคือสิ่งที่ต้องสั่งสมไปทุกวันจึงจะสามารถกลายเป็นพลังให้เราได้ต่างหาก
“มาริเอล ลดกระบองลงซะ”
“เอ๋……ค ค่ะ ท่านพี่หญิง”
“พระสนมฟ้าจันทรา……อ่า ช่างมันละ คุณหนูชาร์ลอตเต เธอเองก็อยากเรียนวิชากระบองรึ?”
“ด ดิฉัน……”
“ถ้าอยากเรียนจริงๆ ข้าก็จะฝึกให้ จะฝึกให้ใหม่ตั้งแต่ต้นจนกลายเป็นทหารเต็มตัวเลย แต่ถ้าไม่มีความตั้งใจจะทำเช่นนั้นก็จงทิ้งอาวุธไปเสีย”
“อึก……!”
ชาร์ลอตเตจ้องเขม่นเฮเลนาด้วยแววตาแหลมคม
ทว่าแน่นอนว่าการจ้องระดับนี้ สำหรับเฮเลนาแล้วก็เหมือนโดนกระต่ายมาเหยียบเงา ไม่เจ็บไม่คันอะไรทั้งสิ้น ดูอย่างไรก็ไม่ต่างอะไรจากสัตว์ตัวเล็ก ๆ ที่กำลังกระเสือกกระสนดิ้นรนเท่านั้นเอง
“จ จะฝึกเจ้าค่ะ……!”
“งั้นก็จับกระบองขึ้นมาซะ มาฝึกหวดลมกับข้า”
“เช่นนั้น ท่านพี่หญิงคะ”
“แม้จะนอกเหนือความคาดหมายไปหน่อย แต่ก็มาฝึกด้วยกันทั้งสองคนนั่นแหละ ข้าน่ะไม่ได้สอนวิชากระบองเพื่อจะให้ทั้งสองคนมาโต้เถียงกันเหมือนเด็กน้อยแบบนั้นหรอกนะ”
‘ฟู่ว’ เธอผ่อนลมหายใจเบา ๆ
ดูเหมือนจะยอมหยุดทะเลาะกันได้สักที ถึงกระนั้นก็ชัดเจนว่าต่างฝ่ายต่างไม่ได้มีความรู้สึกดี ๆ ให้กันสักนิด
แบบนี้ถ้าไม่ดัดนิสัยของชาร์ลอตเตเสียใหม่ทั้งหมดก็คงจะไม่ไหวแน่ ๆ
“เอาเถอะ……อันดับแรก ฟาดลงตามแนวกึ่งกลาง ฝึกไปพร้อมกันข้าง ๆ ข้านี่แหละ”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
“ฮึ”
และแล้วก็เริ่มการฝึก
เฮเลนาเพียงแค่ฝึกกระบวนท่าพื้นฐานเหมือนที่เคยทำมา ไม่ได้มีการประกบสอนเหมือนเมื่อช่วงเช้า ซึ่งเธอเองก็ได้บอกมาริเอลไปแล้วด้วยว่านี่เป็นการฝึกของเธอเอง ดังนั้นจะไม่สามารถช่วยดูให้ได้มากนัก
พวกเธอยืนเรียงกันฝึก แม้มันจะเป็นภาพแปลก ๆ ที่เฮเลนาใช้ดาบใหญ่ส่วนอีกสองคนใช้กระบองก็ตามที
‘วืด วืด’ เสียงหวดดาบและกระบองได้ดังสะท้อนไปในสวนระหว่างอาคาร
จากนั้นการฝึกก็ดำเนินต่อไปอยู่พักหนึ่ง
แม้ภาระน้ำหนักที่แบกรับของเฮเลนาจะโหดกว่าอีกสองคนมาก แต่ผู้ที่หมดแรงก่อนกลับเป็นชาร์ลอตเต และในเวลาไล่เลี่ยกันการเคลื่อนไหวของมาริเอลเองก็เริ่มทื่อไปเนื่องจากความเหนื่อยล้า
‘งั้นประมาณนี้ก็ได้มั้ง’ เฮเลนาจึงตัดสินใจพักก่อนด้วยเช่นกัน
“เอาล่ะ พักกันสักหน่อย”
“……เช่นนั้นสาวใช้ของดิฉันจะชงน้ำชาให้นะเจ้าคะ เอสเทล!”
“รับทราบแล้วค่ะ”
เมื่อได้ฟังคำของชาร์ลอตเต เอสเทลก็พยักหน้ารับแล้วเริ่มชงน้ำชา
ทีแรกกะจะวานให้อเลกเซียช่วยทำ แต่ชาร์ลอตเตเองก็รู้จักเอาใจใส่ในแบบของเธอเหมือนกันกระมัง
“อุ๊ยแหม พระสนมฟ้าจันทรา มีใบชาระดับที่จะทำให้อิฉันพึงพอใจด้วยหรือคะ?”
“……หนวกหูเจ้าค่ะ ใบชามันไม่ได้ตัดสินกันที่ราคาเสียหน่อย”
“แหม เรื่องนั้นมันก็ไม่แน่หรอกนะคะ ใบชาน่ะอย่างไรใช้ของชั้นสูงก็น่าจะดีกว่า……”
“มาริเอล”
“……เอาเถอะ แบบนั้นก็ได้ค่ะ”
เฮเลนากล่าวห้ามสั้น ๆ กับมาริเอลที่เริ่มจะพูดจาถากถางชาร์ลอตเตขึ้นมาอีกแล้ว
ถ้ายังจะทะเลาะกันแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ล่ะก็ สู้อย่าให้มาฝึกพร้อมกันเลยอาจดีกว่าก็เป็นได้
แต่ว่า—
“……ฮืม”
ก่อนอื่นเธอก็ค่อย ๆ ลองจิบชาที่เอสเทลชงมาให้ พลางพยักหน้าอย่างใช้ความคิด
ชาร์ลอตเตนั้นยังเด็กนัก และยังอารมณ์ร้อน ซ้ำร้ายยังมีความเอาแต่ใจ นิสัยเช่นนี้คงจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อฝึกดัดสันดานเสียใหม่
อีกทางหนึ่ง มาริเอลเองหมู่นี้แม้จะเริ่มเคลื่อนไหวได้ดีขึ้นแล้ว แต่ดูเหมือนจิตใจของเธอจะยังไม่เติบโตเท่าไรนัก เช่นนั้นก็คงจำเป็นต้องฝึกเพื่อดัดนิสัยด้วยเหมือนกัน
ซึ่งก็หมายความว่า
“……จัดบูทแคมป์ให้ชาร์ลอตเตด้วยเลยก็แล้วกัน”
แม้ว่าเจ้าตัวยังไม่ทันได้ยินยอมรับรู้อะไรด้วยเลยสักนิด
แต่นั่นก็คือวินาทีที่การเข้าร่วมบูทแคมป์ของ ‘สนมฟ้าจันทรา’ ชาร์ลอตเต เอียนส์เวิร์ธ ได้ถูกตัดสินไปเรียบร้อยแล้ว