(นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ – ตอนที่ 20 งานเลี้ยงน้ำชาของ “สนมฟ้าดารา”—พิจารณาตนเอง

 

“เอาล่ะ”

 

เฮเลนาใช้นิ้วมือของเธอลูบไปตามลำคออ่อน ๆ ทั้งสอง

ก่อนที่ทั้งสองคนจะตอบสนองได้ทัน เฮเลนาก็ได้เคลื่อนตัวไปถึงด้านหลังของพวกเธอด้วยความเร็วสูง และคว้าจับลำคอเอาไว้แล้ว ดูเหมือนว่าขอแค่เฮเลนาออกแรงสักเล็กน้อยก็คงจะหักลำคอระหงนี้ได้อย่างไม่ยากเย็นเลย

มาริเอลและเลทีเซียเองก็เข้าใจถึงเรื่องนั้น

เพราะอย่างนั้น—จึงไม่สามารถหันหลังกลับไปได้

 

“จะสังหารทั้งแบบนี้ก็ช่างง่ายดาย แต่ฝ่าบาทคงไม่ต้องการให้มีคนตายเพิ่มขึ้นกระมัง”

 

“อะ……”

 

“อุ……”

 

‘ฉึบ’ เธอคลายมือออกจากลำคอ

เพียงเท่านั้น ทั้งสองคนก็ปล่อยลมหายใจออกมาพร้อมกันอย่างโล่งอก

ดูเหมือนว่าจะกำลังหวาดกลัวจนพูดคุยอะไรไม่ได้แล้วล่ะมั้ง

 

“รู้จักแว้งกัดมันก็ดี แต่โปรดเลือกคู่ต่อสู้ให้ดีด้วยนะคะ พระสนมฟ้าดารา”

 

เท่านี้งานเลี้ยงน้ำชานี้ก็จบลงแล้วสินะ

ไม่ใช่เรื่องที่น่าเพลิดเพลินตรงไหนเลย ไม่อยากจะเข้าร่วมอะไรแบบนี้อีกแล้ว

แบบนี้สู้ให้ฝึกฝนอยู่ที่ห้องคนเดียวยังสบายกว่าเป็นไหน ๆ

 

เฮเลนาไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองมาริเอลที่กำลังตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว เธอส่งเสียง ‘หึ’ ทางจมูกก่อนจะออกมาจาก “ห้องแปะเจียก”

 

 

 

 

 

 

 

“น เหนื่อยชะมัด……”

 

เมื่อผ่านพ้นงานเลี้ยงน้ำชาที่ “สนมฟ้าดารา” มาริเอลเป็นเจ้าภาพมาได้ เฮเลนาก็กลับมายังห้องของตนเองและล้มตัวลงนอนบนเตียงเต็มแรงพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่

ต้องแสดงละครตบตาต่อเนื่องและใช้หัวสมองที่ไม่ค่อยมีอย่างสุดชีวิต พยายามทำยังไงก็ได้เพื่อรักษาความได้เปรียบเหนือกว่ามาริเอลเอาไว้ พลังกายของเฮเลนาจึงใกล้จะเหลือศูนย์แล้ว

ไอ้แบบนี้ ให้ไปวิ่งอยู่ในสนามรบทั้งวันยังจะสบายกว่าอีก

 

“ยากลำบากหน่อยนะคะ ท่านเฮเลนา”

 

“อา……ตั้งแต่ช่วงกลาง ๆ ก็จำไม่ได้แล้วล่ะว่าพูดอะไรไปบ้าง……”

 

“โดยรวมแล้วก็นับว่าได้ผลลัพธ์ที่ดีนะคะ แม้จะมีจุดที่ควรพิจารณาตนเองอยู่เหมือนกันก็เถอะ”

 

เกี่ยวกับการร่วมงานเลี้ยงน้ำชาในคราวนี้ อเลกเซียได้เสนอแนวคิดในการดำเนินการเอาไว้หลายข้อ และได้ตกลงกันว่าให้เฮเลนาทำตามนั้น

ข้อแรก ให้เฮเลนาแสดงอำนาจที่มีอยู่ในปัจจุบัน

ข้อสอง ให้อีกฝ่ายยอมรับว่าตำแหน่งพระชายาเอกอยู่แค่เอื้อมสำหรับเฮเลนาแล้ว

ข้อสาม ค้นหาจุดอ่อนของมาริเอลและใช้มันเป็นวัตถุดิบในการโจมตีของฝ่ายเรา

 

ดังนั้นจึงวางแผนการโดยมีคำโกหกว่า “ฝ่าบาทชอบคนอายุมากกว่าและไม่สนใจเด็กอมมือ” เป็นศูนย์กลาง และค้นหาวัตถุดิบในการโจมตีออกมาจากคำพูดของมาริเอลนั่นเอง ผลลัพธ์โดยรวมก็คงจะไม่ได้แย่เกินไปนัก

แต่เดิมทีแล้ว ตอนที่เจอกันครั้งแรกทางนี้ก็เป็นฝ่ายถูกพ่นคำโกหกใส่ก่อน ดังนั้นจึงไม่ต้องเกรงใจอะไรทั้งสิ้น และเอาคำโกหกพวกนั้นมาเป็นวัตถุดิบในการโจมตีซะเลย

 

“มีทั้งจุดที่น่าชื่นชม และจุดที่ควรพิจารณาตนเองค่ะ”

 

“……อันดับแรกช่วยชมทีสิ”

 

“ในตอนสุดท้าย ฝีมือรวดเร็วที่คว้าลำคอของทั้งสองท่านได้ในพริบตานั้นยอดเยี่ยมมากค่ะ เจอแบบนั้นไปคงไม่คิดจะลอบทำร้ายท่านเฮเลนาทีเผลอแล้วแน่นอน ถึงจะนอกเหนือการคำนวนไปหน่อยแต่มันก็ช่วยนำผลลัพธ์ที่ดีมาให้ค่ะ”

 

“อา งั้นรึ งั้นก็ดีแล้ว”

 

“ต่อไปก็จุดที่ต้องพิจารณาตนเองนะคะ”

 

“จุดที่ชมหมดแล้วเหรอ!?”

 

ไม่อยากเชื่อว่ามีแค่ข้อเดียว

ที่ทำไปก็ไม่ได้ทำเพราะอยากให้อเลกเซียชมหรอกนะ แต่อุตส่าห์ฝืนตัวเองตั้งขนาดนั้น ช่วยชมกันอีกนิดไม่ได้หรือไง

 

“ที่ป่าวประกาศไปว่าฝ่าบาทชอบคนอายุมากกว่าก็ไม่มีปัญหาค่ะ แต่หลังจากนั้นมันออกจะเป็นปัญหาอยู่สักหน่อย นั่นน่ะขนาดข้าเองฟังแล้วยังคิดว่าเป็นคำพูดของหญิงแพศยาเลยค่ะ”

 

“เอ๋……ชอบคนอายุมากกว่าเนี่ย ไม่ได้แปลว่าชอบสตรีที่ประสบการณ์โชกโชนหรือไงกัน?”

 

“ไม่ใช่เลยค่ะ พูดให้ชัดเลยก็คือโดยพื้นฐานแล้วขุนนางควรจะรักนวลสงวนตัว นั่นมันเหมือนท่านเฮเลนาได้ป่าวประกาศไปว่า ‘แม้ฉันจะแปดเปื้อนมือชายอื่นมาแล้วแต่ก็ยังเป็นที่รักในวังหลังนะจะบอกให้’ เลยล่ะค่ะ”

 

“เอ๋—……”

 

การเลียนแบบเหล่าหญิงโรงคณิกาที่วิกเตอร์ชอบไปเที่ยวนั่นเป็นเรื่องไม่ดีงั้นหรือ

แต่พูดตามตรง เธอเองก็รู้สึกชื่นชมสตรีที่มีเสน่ห์แบบนั้นอยู่เหมือนกัน ถึงเฮเลนาจะเลียนแบบไม่ได้เลยก็เถอะ

มันก็คงจะเป็นเพราะประสบการณ์สินะ ในการต่อสู้ของลูกผู้หญิงนั้นเฮเลนาก็เป็นแค่ทหารใหม่ที่ยังไม่ได้ออกศึกแรกเลยด้วยซ้ำไป

 

“นั่นมัน……ไม่ดีงั้นหรือ?”

 

“ไม่ดีค่ะ ไม่ดีอย่างมากเลย มันสามารถใช้เป็นวัตถุดิบในการโจมตีที่ปรึกษาหลวงแอนตัน เรลโนตได้ค่ะ ยังดีที่นี่เป็นงานเลี้ยงน้ำชาของพระสนมฟ้าดารา หากนี่เป็นงานเลี้ยงน้ำชาของพระสนมฟ้าจันทราผู้เป็นตัวหมากของมาร์ควิสโนลด์ลุนด์ล่ะก็ เรื่องนี้อาจจะถูกใช้เป็นวัตุดิบในการโค่นล้มใต้เท้าอัครมหาเสนาบดีก็เป็นได้ค่ะ”

 

“……ขอโต้ดค่ะ”

 

ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากก้มศีรษะให้ ว่าไปแล้วก็คิดจริง ๆ นะว่าให้เฮเลนากับอเลกเซียสลับตัวกันไปเลยไม่ดีกว่าหรือไง

ทำไมอเลกเซียถึงได้รู้ละเอียดขนาดนี้นะ

 

“แล้วที่ป่าวประกาศไปว่าได้ใช้กลเม็ดไม้เด็ดเพื่อมัดใจฝ่าบาทจักรพรรดิน่ะ มันก็จะส่งผลถึงการประเมินค่าของท่านเฮเลนาเองด้วยค่ะ แต่เดิมทีพระชายาเอกควรจะต้องรักนวลสงวนตัว หากข่าวลือนี้แพร่ออกไปจากวังหลังไปสู่ราชสำนักเบื้องหน้าล่ะก็ ท่านเฮเลนาอาจไม่ได้รับการยอมรับในฐานะพระชายาเอกก็เป็นได้ ซ้ำร้ายหากถูกมองว่าเป็นบุตรีมาร์ควิสที่ชอบเล่นกับไฟซ้ำไปซ้ำมาเช่นนั้นแล้ว ในอนาคตเมื่อท่านเฮเลนามีพระทายาทขึ้นมา มันอาจนำไปสู่ข้อสงสัยว่าเชื้อพันธุ์นั้นเป็นของฝ่าบาทจริงหรือไม่ค่ะ”

 

“……ก็คิดว่าไม่น่าจะมีนะ”

 

“ในปัจจุบันนี้ ผู้ที่ฝ่าบาทเสด็จมาเยือนมีแค่ท่านเฮเลนาค่ะ ตราบใดที่ยังมีความสัมพันธ์ชายหญิง เรื่องนั้นมันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้นะคะ”

 

……

อยากพูดชะมัด ว่าเจตนาของฟาร์มาสคืออะไร ว่าเมื่อคืนนี้ฟาร์มาสมาทำอะไรที่นี่

ไอ้ความรักใคร่โปรดปรานของมังกรที่สมกับเป็นความรักใคร่โปรดปรานน่ะ มันมีแค่จุมพิตตอนก่อนจะกลับไปเท่านั้นเอง

……นึกไปแล้วก็เขินขึ้นมานิดหน่อย

ทำไมฟาร์มาสถึงได้ล้อเล่นอะไรแบบนั้นกันนะ

 

“ต่อไป การที่ท่านบอกพระสนมฟ้าดาราว่าให้สำนึกถึงระดับของตระกูลค่ะ”

 

“คุณหนูมาริเอลเป็นบุตรีบารอน ส่วนข้าเป็นบุตรีมาร์ควิส ก็มีความต่างชั้นกันอยู่นี่นา”

 

“จริงอย่างที่กล่าวมาค่ะ ทว่า เรื่องนี้ข้าก็ไม่ได้บอกเองด้วย……แต่ท่านเฮเลนาไม่คิดว่ามันแปลกหรือคะ?”

 

เฮเลนาเอียงศีรษะด้วยความฉงน

จะบอกว่าอะไรแปลกงั้นหรือ คิดว่าที่แปลกที่สุดคงจะเป็นตัวตนของเฮเลนานี่ล่ะมั้ง

 

“ ‘สนมฟ้าสุริยา’ เป็นบุตรีของอัครมหาเสนาบดีเรลโนต, ‘สนมฟ้าจันทรา’ เป็นเครือญาติของอำมาตย์แผ่นดินโนลด์ลุนด์ เช่นนั้นแล้วย่อมเป็นธรรมดาที่ตำแหน่ง ‘สนมฟ้าดารา’ ที่เหลืออยู่ก็ย่อมเป็นบุคคลสำคัญเหมือนกันไม่ใช่หรือคะ?”

 

“……”

 

จะว่าไปแล้วก็จริงตามนั้น

ถึงจะพูดว่าเป็นแค่บุตรีขุนนางบารอนหน้าใหม่ แต่ความจริงแล้วคงไม่ใช่ตัวตนระดับแค่นั้นสินะ

 

“ตระกูลรีเวียร์คือประธานของบริษัทการค้าแอน-มาโลว์ค่ะ”

 

“บริษัทการค้าแอน-มาโลว์……?”

 

“ใช่ค่ะ บริษัทการค้าใหญ่แอน-มาโลว์ ว่ากันว่าเงินภาษีที่พวกเขาจ่ายให้จักรวรรดินั้น เอาเงินของบริษัทอื่น ๆ ทั้งหมดมารวมกันก็ยังเทียบไม่ได้เลย เป็นบริษัทการค้าอันดับหนึ่งในจักรวรรดิกันเกรฟค่ะ ได้ยินมาว่าก่อตั้งโดยพี่น้องแอนเจลา รีเวียร์กับมาโลว์ลูต รีเวียร์ เอาคำแรกมารวมกันเป็นแอน-มาโลว์ และเคนเธม รีเวียร์ ผู้เป็นบุตรของมาโลว์ลูตและยังเป็นเป็นประธานอย่างเป็นทางการคนปัจจุบัน ก็ได้รับรางวัลจากการบริจาคเงินให้ราชสำนักด้วยการแต่งตั้งให้เป็นขุนนางค่ะ คุณหนูมาริเอลคือบุตรสาวของบารอนเคนเธม รีเวียร์ผู้นั้นยังไงล่ะคะ”

 

“……เอ๋”

 

เรื่องมันยาวเกินไปจนไม่เข้าใจสักนิด

ยังไงก็ตาม พอจะจับใจความได้แค่ว่ามาริเอลเป็นลูกสาวของคนใหญ่คนโตในบริษัทการค้าแอน-มาโลว์สินะ

 

“เอ่อ…..หมายความว่า?”

 

“หมายความว่า ความจริงแล้วตระกูลรีเวียร์มีอำนาจทางการเงินที่ใหญ่หลวงจนไม่อาจนับว่าเป็นตระกูลขุนนางบารอนทั่วไปได้ยังไงล่ะคะ ต่อให้ใช้อำนาจของตระกูลมาร์ควิสก็ยากที่จะทำลายตระกูลของพวกเขา คุณหนูมาริเอลเองก็คงเข้าใจเรื่องนั้นเหมือนกัน”

 

“เอ๋……”

 

อุตส่าห์พูดใส่ไปซะเต็มเหนี่ยวแบบนั้น

อยากจะทุบตัวเองที่เคยพูดด้วยใบหน้าภาคภูมิใจว่า ‘ดูท่าว่าจะไม่อยากหลงเหลือชื่อตระกูลไว้แล้วสินะคะ’ จริง ๆ เลย

 

“ทว่าคงไม่เป็นปัญหาหรอกค่ะ ยังไงซะตระกูลรีเวียร์กับเรลโนตก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันอยู่แล้ว ใต้เท้าอัครมหาเสนาบดีเองก็เป็นคนเข้มงวด ดังนั้นเงินสินบนคงทำอะไรไม่ได้หรอกกระมัง ยิ่งไปกว่านั้นถ้าต้องปะทะกันจริง ๆ ขึ้นมา เมื่อพิจารณาการกระทำที่เสียมารยาท คำข่มขู่ และถ้อยคำรุนแรงของคุณหนูมาริเอลที่ทำต่อท่านเฮเลนาแล้ว หากเป็นท่านแอนตันย่อมต้องสามารถชิงความได้เปรียบเอาไว้ได้แน่นอนค่ะ”

 

“……”

 

พอแล้ว

ยกทุกอย่างให้แอนตันกับอเลกเซียจัดการเลยก็แล้วกัน

เฮเลนาขออยู่แบบไม่ต้องคิดอะไรดีกว่า

 

“เรื่องที่ควรพิจารณาตนเองก็มีเท่านี้แหละนะคะ”

 

“…..ค่ะ”

 

“อ้อ แล้วก็มีอีกเรื่องที่ข้ายังไม่ได้บอกค่ะ”

 

พอสักทีเถอะ จริง ๆ นะ

ตอนนี้เธอแค่อยากจะพัก

ดังนั้น ไม่ต้อง—

 

“คืนนี้ ฝ่าบาทจะเสด็จมาเยือนที่นี่ค่ะ”

 

“อีกแล้ว!?”

 

เฮเลนาที่กำลังพยายามข่มความง่วงเพลียอยู่ได้แต่ตะโกนออกมาเช่นนั้น

 

Comment

Options

not work with dark mode
Reset