นครหลวงอันเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวรรดิกันเกรฟ—สิ่งที่ตั้งตระหง่านสำแดงตัวตนอยู่ ณ ใจกลางนั้น คือราชสำนักซึ่งเป็นศูนย์กลางของการบริหารบ้านเมือง
สถานที่นั้นซึ่งประกอบไปด้วยหอยอดแหลมมากมาย หากมองจากที่ห่างไกลอาจดูเหมือนกลุ่มของภูเขาเข็มก็เป็นได้ สถานที่ซึ่งประชาชนทั่วไปไม่อาจแม้แต่จะเข้าใกล้และแม้แต่ขุนนางระดับสูงก็ไม่สามารถเข้าไปได้หากไม่ได้รับอนุญาต มันถูกรายล้อมด้วยกำแพงสูงในทุกทิศทางยกเว้นประตูทางเข้าด้านหน้า และที่ประตูหน้านั้นก็มีทหารหลายนายคอยเฝ้ามองและตรวจค้นทุกคนที่จะเข้าไป
มีรถม้าคันหนึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังประตูหน้าซึ่งเชื่อมโยงสู่ราชสำนักนั้น
โดยทั่วไปแล้ว รถม้าที่จะเข้าไปยังราชสำนักมักเป็นรถม้าชั้นสูง (โค้ช) หรือไม่ก็รถม้าสำหรับคนนั่ง (แคริดจ์) ของผู้มีฐานะทางสังคมสูงส่ง เป็นรถม้าแบบที่มีคนขับคอยนำทางและพอจะมองเห็นเงาลางของบุคคลผู้มีฐานะสูงส่งได้เล็กน้อยผ่านทางหน้าต่างของรถม้า
ทว่ารถม้าคันที่กำลังมุ่งหน้ามานั้น—คือรถม้าสัมภาระ
สตรีงดงามผู้หนึ่งกำลังจูงม้ามาในฐานะคนขับ และรถม้านั้นก็ไม่มีแม้แต่ผ้าม่านติดอยู่จนสัมภาระภายในต้องปะทะกับลมเย็น แน่นอนว่าไม่มีแม้แต่เงาคนอยู่ในนั้นเลย
“ข้ามาตามหมายเรียกตัวของฝ่าบาท”
“ครับท่าน! มารายงานชัยชนะในการรบหรือครับ!”
“เปล่า ไม่ใช่น่ะ”
สตรีที่ได้รับการแสดงวันทยหัตถ์จากทหารรักษาพระองค์ส่ายหน้า
โดยปกติแล้ว ทหารรักษาพระองค์คือทหารที่รับบัญชาจากราชวงศ์โดยตรง ดังนั้นไม่ว่าจะพบกับขุนนางแบบไหนพวกเขาก็จะปฏิสัมพันธ์อย่างเท่าเทียมทั้งหมด ไม่เช่นนั้นแล้วอาจมีขุนนางที่ใช้ฐานะในทางที่ผิดเพื่อปฏิเสธการตรวจค้นได้
เพราะฉะนั้นจึงมีแต่คนที่ไม่ประจบประแจงต่อขุนนางไม่ว่าระดับไหนและทำหน้าที่อย่างขันแข็งจริงจังเท่านั้น ที่จะสามารถยืนอยู่ในฐานะทหารรักษาพระองค์ที่ประตูทางเข้าด้านหน้าได้
สตรีผู้นั้นเอากระดาษหนึ่งแผ่นออกมาจากกระเป๋า และแสดงมันให้ทหารรักษาพระองค์ดู
มันคือหนังสือคำสั่งที่ประทับตราขององค์จักรพรรดิไว้
โดยปกติแล้วหากผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับราชสำนักจะเข้าไปภายในก็จำเป็นต้องมีของเช่นนี้ ทว่า—
“ห หา!?”
“ไม่มีปัญหาใช่ไหม เข้าไปล่ะนะ”
“ค ครับท่าน! ขออภัยด้วยครับ!”
เมื่อเห็นทหารรักษาพระองค์ตกตะลึงตาโตเช่นนั้น สตรีผู้นั้นก็ถอนหายใจพลางดึงบังเหียนม้าเดินเข้าไป
ก็เป็นธรรมดาที่จะตกใจล่ะนะ—เธอนึกอย่างหมดหวังในใจเช่นนั้นในขณะที่นำรถม้าผ่านประตูหน้าเข้ามา
ชื่อของสตรีผู้นี้คือ บุตรีขุนนางมาร์ควิส เฮเลนา เรลโนต
และขณะในเดียวกัน เธอยังเป็นเฮเลนา เรลโนต สตรีวัยยี่สิบแปดปี ผู้เป็นนักรบซึ่งเคยทำหน้าที่รองผู้บังคับบัญชาของ “ขุนศึกพยัคฆ์แดง” หนึ่งในแปดยอดขุนศึกผู้กล่าวกันว่าเป็นจุดสูงสุดของพลังต่อสู้แห่งจักรวรรดิกันเกรฟอีกด้วย
“เฮ้อ……”
เธอถอนหายใจเบา ๆ และมองดูสถานที่ซึ่งตนได้มาเยือนอีกครั้ง
ราชสำนัก—เธอไม่ได้มีธุระอะไรกับที่นั่นหรอก
สถานที่ซึ่งเฮเลนากำลังมุ่งไป มันอยู่ตรงข้ามลึกเข้าไปอีก
“……ทำไมข้าจะต้องไปเข้าวังหลังด้วยนะ”
นักรบผู้มีฝีมือชนิดหาตัวจับยาก เฮเลนา เรลโนต
ตั้งแต่วันนี้ไปเธอคนนี้—จะต้องเข้าสู่วังหลัง