การประมือกันของเฮเลนากับลิลิธดำเนินต่อเนื่องไปหลังจากนั้นอีกสองชั่วโมง
แต่เพราะซี่โครงได้หักจากการโจมตีครั้งสุดท้ายของเฮเลนา ตั้งแต่นั้นจึงไม่ได้ต่อสู้กันรุนแรงมากนัก
กระนั้นเอง หากมองจากสายตาของอเลกเซียหรืออิซาเบลมันก็ยังเป็นการต่อสู้ที่เหนือมนุษย์อยู่ดี ทว่าน่าเสียดายที่เฮเลนาไม่รู้สึกตัวถึงความจริงข้อนี้
และแล้วในที่สุดก็ถึงเวลาที่สองพี่น้องจะพูดคุยกัน
“แหม……วิเศษไปเลยนะ แค่มองดูก็รู้แล้วว่าเป็นของชั้นหนึ่งน่ะ”
“ใช่ไหมล่ะ? ข้าเองก็ชอบมาก”
“อื้อ รู้สึกได้เลยว่างานในแต่ละจุดอัดแน่นไปด้วยเทคนิคอันละเอียดอ่อนของช่างฝีมือ ได้รับของที่วิเศษเช่นนี้จากฝ่าบาทเนี่ย ช่างน่าอิจฉาจังเลยนะ”
ทั้งสองคนพูดคุยราวกับกำลังเชยชมงานศิลปะชั้นยอดชิ้นหนึ่ง ทว่าสิ่งที่วางอยู่ตรงหน้าทั้งสองนั้น
มันคือดาบ
ดาบใหญ่ที่มีความยาวพอ ๆ กับส่วนสูงของเฮเลนา ซึ่งได้รับการประดิดประดอยอย่างประณีตละเอียดอ่อน ไม่ใช่เฉพาะกับเฮเลนา แต่ผู้ที่มีตาถึงเช่นลิลิธเมื่อได้ดูก็ย่อมรู้สึกว่ามันงดงามกว่าอัญมณีก้อนโตเสียอีก เพราะฉะนั้นเฮเลนาถึงได้กำลังอวดมันอยู่เช่นนี้นั่นเอง
“ถึงกับได้รับของขวัญที่วิเศษขนาดนี้มาเนี่ย ฝ่าบาทคงจะโปรดปรานพี่สาวมากเลยสินะ”
“อืม……ก็คงใช่นะ”
เจตนาแท้จริงของฟาร์มาสซึ่งปกปิดเอาไว้แม้แต่กับแอนตัน แน่นอนว่าเธอไม่สามารถบอกกับน้องสาวได้ ดังนั้นเฮเลนาจึงยอมรับไปทั้งอย่างนั้น
ถ้าจะบอกว่าโปรดปรานก็ไม่ผิดนัก แต่มันคงไม่ใช่ความโปรดปรานแบบที่ลิลิธกำลังคิดอยู่ล่ะมั้ง ขึ้นชื่อว่าวังหลังก็คือสถานที่ให้บุรุษสตรีทำอะไรต่อมิอะไรกัน ทว่าเฮเลนาได้อยู่ที่นี่มาหนึ่งสัปดาห์และใช้เวลากลางคืนร่วมกับฟาร์มาสหลายครั้ง ทว่าเขาไม่เคยทำอะไรมากไปกว่าจุมพิตในตอนเช้าเลย
เฮเลนาเองก็เป็นฝ่ายทำคืนแค่ครั้งเดียว นอกนั้นก็มีแต่โดนฟาร์มาสปั่นหัวเล่นทั้งนั้น
“จะว่าไปแล้ว วันนี้อัลเบราไปไหนล่ะ?”
“ตอนไปเยี่ยมสุสานก็ยังอยู่ด้วยกันนะ แต่มีแค่ข้าที่มาหาพี่สาวน่ะ”
“หืม งั้นมาโผล่หน้าให้เห็นสักหน่อยก็ไม่เห็นเป็นไรนี่นา”
“ตอนนี้พี่สาวรองมีเด็กอยู่ในท้องน่ะ”
“ว่าไงนะ!?”
อัลเบรา น้องสาวคนรองซึ่งได้แต่งงานกับคู่ที่หมั้นหมายกันไว้ตั้งแต่เด็ก
ระยะหลังมานี้เฮเลนาเองก็ยุ่งอยู่ในสนามรบจึงไม่ได้เจอกับเธอมาประมาณสองปี ทว่าตอนนี้อัลเบราก็อายุยี่สิบห้าแล้ว ในที่สุดก็มีลูกได้ซะทีสินะ
‘ดีจัง’ เธอลูบอกด้วยความโล่งใจ สองปีก่อนนั้นเฮเลนาเห็นเธอกำลังหดหู่เพราะแต่งงานมาแล้วยังไม่มีวี่แววว่าจะมีลูกเสียที หากในที่สุดก็มีโชคเรื่องบุตรแล้วแบบนี้เฮเลนาเองก็ดีใจด้วย
“เพราะงั้นเลยบอกว่าไม่สามารถมาพบพี่สาวได้น่ะ”
“……มาพูดคุยกันสักหน่อยก็ไม่เห็นเป็นไรนี่นา”
“พี่สาวรองบอกว่าหากเจอกับพี่สาวก็จะอยากสู้ขึ้นมาน่ะ ส่วนข้าถ้าถือดาบก็สู้พี่สาวรองไม่ได้เลยเป็นคู่มือให้ไม่ได้อยู่แล้ว มันคงไม่ดีถ้ามาสู้กับพี่สาวแล้วเด็กในท้องเป็นอะไรขึ้นมาน่ะนะ”
“ฮึ่ม……”
ถ้ามีเหตุผลแบบนั้นมันก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ
กับอัลเบราแล้ว เธอไม่ได้เจอหน้ามาสองปี ซึ่งก็แปลว่าไม่ได้ประมือกันมาสองปีแล้วนั่นเอง
เฮเลนาเอง ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะประลองด้วยเหมือนกัน ดังนั้นอัลเบราก็อาจจะคิดถูกแล้วที่ตัดใจไม่มาเจอหน้ากันซะเลย
“คุณพ่อเองก็เป็นห่วงนะ”
“พ่อน่ะรึ?”
“อืม ข้าก็ไม่ได้ฟังเรื่องราวมาอย่างละเอียดนัก แต่พี่สาวก็เหมือนกับถูกคุณพ่อฝืนบังคับมาเข้าในวังหลังนี่นา? ดูเหมือนทีแรกจะคิดว่ายังไงพี่สาวที่อายุยี่สิบแปดก็คงไม่มีทางได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาทที่อายุสิบแปดอยู่แล้ว……แต่ตอนนี้พระสนมที่ได้รับความรักใคร่โปรดปรานที่สุดคือพี่สาวใช่ไหมล่ะ?”
“……อืม ก็คงเป็นแบบนั้นนะ”
‘ฮึ่ม’ เธอทำปากบึนเล็กน้อย
ได้ยินเรื่องความต่างของอายุจากปากคนอื่นเนี่ย มันก็รู้สึกเศร้านิด ๆ ยังไงไม่รู้เหมือนกันนะ
“อืม คุณพ่อเลยบอกว่า ‘ต้องขอบคุณที่เป็นแบบนั้นถึงได้เคลื่อนไหวง่ายขึ้น แต่ไม่เข้าใจว่าไอ้หญิงสูงอายุแบบนั้นมันมีดีตรงไหนกันนะ’ แล้วก็เอียงคอแบบงง ๆ น่ะ”
“เจอกันครั้งหน้าจะต่อยสักเปรี้ยง”
“ออมแรงด้วยล่ะพี่สาว คุณพ่อไม่ได้แกร่งเหมือนคุณแม่นะ”
ฟังคำลิลิธแล้วก็นึกขึ้นมา
มารดาของเฮเลนา อัลเบรา ลิลิธ—เรย์ลา เรลโนต
มารดาผู้แข็งแกร่งที่สุด ระดับที่เฮเลนาเองก็คิดว่าเธอยังคงก้าวไปไม่ถึง
“คุณแม่งั้นรึ……ข้าเองก็คิดว่าตัวเองแกร่งขึ้นมาพอสมควร แต่ยังไม่รู้สึกว่าจะเอาชนะคุณแม่ได้เลยแฮะ”
“ข้าก็เหมือนกันค่ะพี่สาว คุณแม่น่ะแกร่งเกินไป”
“ผู้หญิงที่สู้กับพวกเราสามพี่น้องพร้อมกันแล้วยังเอาชนะได้อย่างหมดจดเนี่ย คงมีแต่คุณแม่ล่ะนะ”
ในแปดยอดขุนศึกรุ่นปัจจุบันมีสตรีอยู่หนึ่งคน “ขุนศึกหมาป่าเงิน” ทิฟฟานี รีด เป็นแม่ทัพหญิงวัยสี่สิบกว่า ทว่าเธอไม่ได้มีฝีมือยุทธ์อันล้ำเลิศเป็นพิเศษ หากสู้กันตัวต่อตัวเฮเลนาคงจะแกร่งกว่าด้วยซ้ำ
ทว่าอีกหนึ่งในสาเหตุที่เฮเลนาเป็นเพียงรองผู้บังคับบัญชาของ “ขุนศึกพยัคฆ์แดง” ในขณะที่ทิฟฟานีเป็น “ขุนศึกหมาป่าเงิน” นั้น คือสติปัญญาอันชาญฉลาดของทิฟฟานี
ทิฟฟานีนั้นได้รับการเรียกขานว่าเก่งกาจในศึกตั้งรับ ว่ากันว่าต่อให้ข้าศึกนำทัพที่มีกำลังพลมากกว่าสิบเท่ามาบุกโจมตีป้อมปราการ เธอก็จะสามารถต้านรับไว้ได้อย่างน้อยหนึ่งเดือน
และ—
“ก็เป็นอดีต ‘ขุนศึกหมาป่าเงิน’ นี่นะ”
เรย์ลา เรลโนต
ชื่อก่อนแต่งงานว่า เรย์ลา กาลี
เธอคือ “ขุนศึกหมาป่าเงิน” ที่เคยครองตำแหน่งมาก่อนทิฟฟานี เป็นบุคคลที่ได้รับการกล่าวขานว่าคือ “ขุนศึกหมาป่าเงิน” ที่แข็งแกร่งที่สุดจากทุกรุ่น
“กองกำลังอัศวินหมาป่าเงิน” ได้ชื่อว่าเป็นกองกำลังอัศวินหญิงเนื่องจากทหารชั้นเสนาธิการประกอบด้วยสตรีทั้งหมด และทหารองค์รักษ์ของ “กองกำลังอัศวินหมาป่าเงิน” ก็มักจะได้รับหน้าที่คุ้มภัยให้กับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์ซึ่งเป็นเพศหญิงอีกด้วย “กองกำลังอัศวินหมาป่าเงิน” ซึ่งรับทำหน้าที่ซึ่งมีเพียงสตรีที่ทำได้นั้นเป็นความใฝ่ฝันของสตรีที่สังกัดในกองกำลังอัศวินหลาย ๆ คน
หลังจากที่แต่งงานกับแอนตันและตั้งท้อง เรย์ลาก็ได้ถอนตัวจากสนามรบ โดยมีผู้ที่เสียดายการลาออกนั้นอยู่มาก
หากร่างกายของเธอไม่ได้ถูกโรคภัยรุมเร้าเสียก่อน ป่านนี้เธออาจหวนคืนสู่สนามรบหลังจากที่ลูก ๆ เติบใหญ่แล้วก็เป็นได้
“ให้ตายสิ ไม่มีอะไรจะโหดไปกว่าการฝึกของคุณแม่อีกแล้วล่ะ”
“อ้าว แล้วการฝึกของ ‘กองกำลังอัศวินพยัคฆ์แดง’ มันเป็นยังไงล่ะ?”
“ก็แค่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ นั่นแหละ พวกผู้ชายเนี่ยอ่อนแอกันจริง ๆ เลย”
“……ถ้าเป็นพี่สาวก็คงคิดแบบนั้นแหละนะ”
แม้จะมีข้อยกเว้นอย่างเกรเดีย วิกเตอร์ หรือบาร์โตโลเม แต่สำหรับเฮเลนาแล้วบุรุษเป็นคู่ต่อสู้ที่อ่อนแอ
โดยเฉพาะพวกที่ดูถูกว่าทางนี้เป็นสตรีน่ะนะ
และเฮเลนาก็ได้สังหารพวกบุรุษเช่นนั้นไปไม่รู้กี่รายแล้วในสมรภูมิ
“ว่าไปแล้ว……ข้าก็มีเรื่องอยากถามนะ”
“หือ?”
“พี่ชายสบายดีมั้ย?”
“ข้าเองก็ได้ยินแค่จากข่าวลือน่ะนะ เพราะโดยพื้นฐานแล้ว ‘กองกำลังอัศวินพยัคฆ์แดง’ ประจำการอยู่ที่แนวหน้าของจักรวรรดิอัลเมดาน่ะ ส่วนท่านพี่อยู่ที่แนวหน้าของพันธมิตรสามอาณาจักร”
“งั้นเหรอ?”
“อื้อ ข้าก็ไม่ค่อยรู้ละเอียดนัก แต่สงครามนี้คงยังไม่จบง่าย ๆ หรอก สงครามสองด้าน……ไม่สิ สามด้านนี้น่ะ อย่างน้อย ๆ ก็คงดำเนินต่อไปอีกหนึ่งปีนั่นแหละ”
อย่างน้อยที่สุดก็หนึ่งปี
ฟาร์มาสได้บอกว่าจะทำให้ราชสำนักวุ่นวายเป็นเวลาหนึ่งปี
ดังนั้นเขาจะทำให้สงครามยืดเยื้อเป็นเวลาหนึ่งปี และอาจมีทหารจำนวนมากต้องเสียชีวิต
ลิลิธที่แต่งเข้าอาณาจักรข้างเคียงไปคงจะยังปลอดภัยดี ประเทศที่ลิลิธแต่งเข้า—ราชอาณาจักรเดนสเลฟนั้นมีความสัมพันธ์เป็นพันธมิตรกับจักรวรรดิกันเกรฟอยู่
ทว่าสำหรับอัลเบราที่แต่งเข้าตระกูลเคานต์ซึ่งอาศัยในนครหลวง หากเกิดสถานการณ์ที่นครหลวงถูกบุกโจมตีขึ้นมาเธออาจจะได้รับอันตรายก็ได้
เพื่อไม่ให้เป็นเช่นนั้น เฮเลนาจึงไม่อาจละเลยการฝึกฝนได้ เนื่องจากเธอจะต้องนำทัพในยามคับขัน
“……คุณพ่อบ่นอีกแล้วล่ะ ว่าไม่มีใครจะสืบทอดตำแหน่งที่ปรึกษาหลวงน่ะ”
“เรื่องนั้น……ช่วยไม่ได้นี่นา ในสถานการณ์ปัจจุบันท่านพี่คงกลับมานครหลวงไม่ได้ แปดยอดขุนศึกทุกคนต้องออกไปรบ จะให้ท่านพี่มีสิทธิ์พิเศษไม่ได้หรอก”
“อื้อ เพราะงั้นถ้าลูกของพี่สาวรองเป็นเด็กผู้ชายก็อาจจะกลายมาเป็นบุตรบุญธรรมของตระกูลเรลโนตก็ได้นะ”
“จะได้มีน้องชายตอนอายุเท่านี้หรือเนี่ย น่าสนุกดีนะ”
‘หึหึ’ เฮเลนาหัวเราะ
เด็ก ๆ ในตระกูลเรลโนตมีกันอยู่สี่คน
ลูกสาวคนโตเฮเลนา ลูกสาวคนรองอัลเบรา ลูกสาวคนที่สามลิลิธ
และ—พี่ชายคนโต ริกฮาร์ด เรลโนต
“ก็นะ…..ใครจะไปคิดว่าบุตรชายของที่ปรึกษาหลวงจะเป็น ‘ขุนศึกวิหคดำ’ ล่ะ”
“อืม เพราะแบบนั้นข้าก็เลยไม่ได้เลื่อนตำแหน่งซะทีด้วย”
เขาคือ—“ขุนศึกวิหคดำ” ริกฮาร์ด เรลโนต
หนึ่งในแปดยอดขุนศึกที่น่าภาคภูมิของกันเกรฟ
แต่เดิมที ที่มีการกำหนดแปดยอดขุนศึกขึ้นมาก็เพื่อไม่ให้อำนาจทางการทหารไปรวมอยู่ที่จุดใดจุดหนึ่งมากเกินไปนั่นเอง อำนาจการสั่งการพลังรบโดยรวมจะอยู่ที่จักรพรรดิแต่เพียงผู้เดียว ส่วนยอดขุนศึกแต่ละคนก็จะมีอำนาจสั่งการได้แค่ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของตนเองเท่านั้น
ดังนั้น—ในแปดยอดขุนศึกจึงไม่มีคนจากตระกูลเดียวกัน
นี่ก็เป็นอีกเหตุผลใหญ่ที่เฮเลนาซึ่งมีพลังเหนือกว่าแปดยอดขุนศึกจำนวนครึ่งหนึ่งกลับหยุดอยู่ที่ตำแหน่งรองผู้บังคับบัญชาเช่นนี้
“เอาล่ะ……งั้นข้ากลับก่อนนะพี่สาว รักษาตัวด้วยล่ะ”
“อา รักษาสุขภาพด้วย ไม่ต้องรอปีหน้าก็ได้ ว่างเมื่อไหร่ก็มาล่ะ”
สองพี่น้องกล่าวพลางจับมือกัน
หากไม่รู้เรื่องราวภายใน นี่อาจเป็นภาพที่ชวนให้ยิ้มก็เป็นได้
ทว่าสำหรับนางกำนัลสองคนที่มองดูอยู่นั้น
“……ตระกูลนี้มันอะไรกันคะ”
“ชู่!”