“เอาล่ะ อันดับแรกต้องเริ่มจากกายบริการยืดกล้ามเนื้อก่อน การทำกายบริหารมีประโยชน์กับการเคลื่อนไหวทุกรูปแบบ ก่อนอื่นก็ต้องยืดร่างกายทั้งร่าง ขยับกล้ามเนื้อที่แข็งทื่อ เพื่อให้การฝึกฝนได้ผลดีขึ้นไปอีก”
“ค่ะ! ท่านเฮเลนา!”
เฮเลนากับฟรองซัวส์กำลังเริ่มทำกายบริหารกันสองคนภายในห้อง
ย่อเข่าลงและยืดออก หมุนเอวไปมา กางขาออกเพื่อยืดกล้ามเนื้อ หลังจากยืดทั่วทั้งตัวแล้วจึงยืนขึ้น
ปกติแล้วเฮเลนาก็ไม่ได้ทำกายบริหารยืดกล้ามเนื้อมากขนาดนี้ แต่ฟรองซัวส์เป็นมือใหม่ดังนั้นเธอจึงปรับเพื่อให้เหมาะสมกระมัง
และอเลกเซียก็ยังคงมองดูภาพของสองคนนั้นด้วยแววตาเย็นชาเหมือนตายไปแล้วอยู่
“อันดับแรกมาทดสอบว่ามีความสามารถทางด้านกีฬาขนาดไหนกันก่อนดีกว่า”
“รับทราบค่ะ!”
“ถ้างั้นฟรองซัวส์ ก่อนอื่นลองวิดพื้นดูซิ”
“ค่ะ! ต้องทำอย่างไรหรือคะ!”
“อืม อันดับแรกก็เอาสองมือแตะพื้นแล้วก็ทรงตัวเอาไว้ด้วยปลายเท้านะ”
ฟรองซัวส์เอาสองมือแตะพื้นตามคำสั่งของเฮเลนา จากนั้นก็ยืดขาออกให้ปลายเท้าสัมผัสพื้น
“จากนั้นก็งอแขนหย่อนร่างกายลง แล้วก็ยืดแขนเพื่อดันยกร่างกายขึ้นมา”
“ค่ะ!”
ฟรองซัวส์เป่าลมหายใจ ‘ฟู่ว’ เพื่อเป็นการตั้งสมาธิ จากนั้นก็ค่อย ๆ งอสองแขนหย่อนร่างกายลงไป
จากนั้นก็
‘แหมะ’ ล้มลงไปทั้งอย่างนั้น
“ฮี่……”
“……”
ทำไม่ได้แม้แต่ครั้งเดียวเลยเนี่ย เฮเลนาเองก็เผลออึ้งจนพูดไม่ออกไปเหมือนกัน
บุตรีขุนนางโดยปกติแล้วก็ไม่มีความจำเป็นต้องวิดพื้นกัน และพลังกล้ามเนื้อก็ไม่มีเลยสักนิดอยู่แล้ว ความจริงแล้วร่างกายคนเราก็ต้องเคลื่อนไหวจากการใช้ชีวิตประจำวันบ้าง ทว่าสำหรับบุตรีขุนนางแล้วธุระส่วนตัวต่าง ๆ เหล่านั้นก็มีสาวใช้หรือนางกำนัลคอยจัดการให้หมด
ดังนั้นการที่ฟรองซัวส์ไม่มีแรงเลยก็เป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้ไม่ยากนัก
“ข ขออภัยด้วยค่ะ!”
“ไม่หรอก……ไม่เป็นไร นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าจะทำไม่ได้แม้แต่ครั้งเดียวแบบนี้……ทว่าพละกำลังที่ขาดไปก็แค่ฝึกฝนมันขึ้นมาหลังจากนี้ไปก็พอแล้วล่ะ”
“ค ค่ะ!”
“เอาล่ะต่อไปก็ซิตอัป ข้าจะกดขาไว้ให้ เอาสองมือไพล่หลังศีรษะแล้วก็ลองยกร่างกายขึ้นมาด้วยแรงจากกล้ามเนื้อหน้าท้องอย่างเดียวดู”
“ค่ะ!”
เฮเลนากดขาของฟรองซัวส์ที่กำลังนอนราบเอาไว้ แล้วฟรองซัวส์ก็เอาสองมือไว้หลังศีรษะตามคำสั่ง จากนั้นก็ออกแรงเพื่อยกร่างกายขึ้นมา
ทว่า—
“มุ กึ กึ กึ!”
“……”
“อุ กึ อุ อุ!”
“……”
ร่างกายของฟรองซัวส์ไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย
ไม่นึกเลยว่าแม้แต่ซิตอัปก็ทำไม่ได้แม้แต่ครั้งเดียวเนี่ย เฮเลนาชักอยากจะกุมขมับ
ทว่าเมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะสั่งสอนในฐานะอาจารย์ เธอก็จะทิ้งศิษย์ไปไม่ได้
“พอได้แล้วล่ะฟรองซัวส์”
“อู……ข ขออภัยด้วยค่ะ!”
“ไม่มีปัญหาหรอก แค่ฝึกฝนหลังจากนี้ไปก็พอแล้ว”
เฮเลนายอมรับคำขอโทษจากฟรองซัวส์ไปเช่นนั้น
กล้ามเนื้อไม่ใช่สิ่งที่จะสร้างได้ในวันเดียวคืนเดียว การฝึกฝนร่างกายต้องทำอย่างต่อเนื่อง และตราบใดที่เรายังทำมันอยู่ร่างกายก็จะช่วยตอบสนองให้
ดังนั้นการทำมันต่อไปเรื่อย ๆ จึงมีความหมายนั่นเอง แม้ตอนนี้ยังทำไม่ได้ก็ไม่จำเป็นต้องเศร้าเสียใจไปเลย
“เอาล่ะ……นั่นสินะ ไปสวนระหว่างอาคารก็แล้วกัน”
“ท่านเฮเลนาคะ เรื่องเสื้อผ้าจะทำอย่างไรคะ?”
“ไปทั้งแบบนี้ก็ได้ ส่วนฟรองซัวส์ก็……ไปเปลี่ยนเป็นชุดที่เคลื่อนไหวสะดวกกว่านี้มาหน่อยได้ไหม”
“ร รับทราบค่ะ!”
จะให้ออกกำลังกายทั้งชุดเดรสก็กระไรอยู่
ไม่รู้ว่าเธอมีเสื้อผ้าที่เคลื่อนไหวสะดวกอยู่บ้างไหม แต่ฟรองซัวส์ก็พยักหน้ารับ
“เอาล่ะงั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมาที่สวนระหว่างอาคารนะ”
“รับทราบค่ะ!”
เมื่อได้ฟังเฮเลนาบอก ฟรองซัวส์ก็ตอบเช่นนั้นแล้วออกไปจากห้อง
เฮเลนาตัดสินใจว่าจะล่วงหน้าไปก่อน เธอมุ่งหน้าไปยังสวนระหว่างอาคารโดยมีอเลกเซียติดตามไป
ตอนนี้ยังไม่จำเป็นต้องใช้ดาบ เฮเลนาจึงไม่ได้ถือมันไปด้วย
หลังจากรออยู่ในสวนไม่นานนัก ฟรองซัวส์ก็กลับมา
“ชุดแบบนี้ใช้ได้ไหมคะ!”
“อ่า แบบนั้นก็ได้”
“ขอบพระคุณค่ะ!”
ชุดของฟรองซัวส์เป็นชุดกระโปรงวันพีซที่ดูจืดกว่าชุดเดรสเมื่อครู่
แม้จะเรียกได้ไม่เต็มปากว่าเป็นชุดที่เคลื่อนไหวสะดวก แต่ชุดนี้ก็คงไม่มีปัญหาแหละ เวลาล้มอาจจะเห็นชุดชั้นในก็เป็นได้ แต่ที่นี่คือวังหลังที่ไม่มีบุรุษจึงไม่ต้องระมัดระวังอะไรอยู่แล้ว
‘อันดับแรกให้ทำอะไรดีนะ’ เฮเลนาคิด
จนถึงตอนนี้เธอไม่เคยรับศิษย์มาก่อนแล้วก็ไม่เคยไปเป็นศิษย์ใครมาก่อนด้วย ดังนั้นก็เลยกลุ้มใจไม่รู้ว่าจะปฏิบัติกับศิษย์ยังไงดีเหมือนกัน
งั้นเอาแบบนี้ก่อนแล้วกัน
“เอาล่ะฟรองซัวส์”
“ค่ะ!”
“ก่อนอื่นมาตรวจสอบกันว่าเจ้าเคลื่อนไหวได้แค่ไหน ลองเข้ามาโจมตีใส่ข้าสิ”
“จ โจมตีใส่ท่านเฮเลนาหรือคะ!?”
“ใช่ แน่นอนว่าจะโจมตีแบบตั้งใจให้โดนเลยก็ได้ ข้าจะไม่โจมตีตอบโต้อะไรทั้งสิ้น ดังนั้นวางใจเถอะ”
หากใช้พละกำลังของเฮเลนาอัดเข้าใส่ฟรองซัวส์ เกรงว่าน่าจะไม่ใช่แค่กระดูกแต่คงกระเทือนไปถึงอวัยวะภายใน แม้ตอนสู้กับลิลิธเฮเลนาเองก็ไม่ได้ออมมือ แต่ตัวลิลิธเองก็ผ่านการฝึกฝนร่างกายมาอย่างดีในแบบของเธอแล้วเหมือนกัน
ทว่ากับฟรองซัวส์ที่ไม่ได้ฝึกฝนอะไรมาเลยเธอย่อมทำแบบเดียวกันไม่ได้
“ต แต่ว่าจะให้ทำเช่นนั้นกับท่านเฮเลนาน่ะ!”
“วางใจเถอะน่าข้าไม่มีทางโดนโจมตีอยู่แล้ว”
“ง งั้นหรือคะ!?”
“ใช่ ดังนั้นสบายใจได้ แล้วแสดงพลังที่แท้จริงของฟรองซัวส์ให้ข้าดูที”
เธอหันหน้าเข้าหาฟรองซัวส์แล้วตั้งท่าเตรียมพร้อม
ทว่าแม้เพียงแค่ตั้งท่าเท่านั้น
แต่เฮเลนาที่เป็นดั่งพยัคฆ์ร้ายผู้ทะยานในสมรภูมิ เพียงแค่ตั้งท่าก็ก่อเกิดเป็นแรงกดดันขึ้นมาแล้ว
ฝ่ายฟรองซัวส์แม้จะตัวสั่นอยู่เล็กน้อย แต่ก็ค่อย ๆ ลอกเลียนท่าทางตั้งท่าขึ้นมาบ้าง
“ถ ถ้างั้น! เอาแล้วนะคะ!”
“เข้ามาเลยฟรองซัวส์”
“ย่ะ!”
การโจมตีนั้นสำหรับเฮเลนาแล้วมันช้าจนยุงบินเกาะได้
ทว่านั่นคงจะเป็นกำลังทั้งหมดของฟรองซัวส์แล้ว กำปั้นขวานั้นค่อย ๆ พุ่งเข้ามาหาเธอ
เฮเลนาหลบมันได้อย่างง่ายดาย แล้วในเวลาเดียวกันร่างของฟรองซัวส์ก็เสียหลักและล้มไปทางด้านหน้า
“ฮี่……”
“มันยังไม่จบนะ เอ้า เข้ามาเลยสิ”
“อ เอาแล้วนะคะ!”
ฟรองซัวส์ได้ยืนขึ้นมาแล้วโจมตีเข้าใส่เฮเลนาอีก
ทว่าความเร็วนั้น สำหรับเฮเลนาแล้วเธอสามารถหลบหลีกมันได้ในพริบตาเดียวเลย
คราวนี้เฮเลนาได้ปัดกำปั้นซ้ายที่พุ่งเข้ามาออกไปเบา ๆ
“ฮี่!”
ในเวลาเดียวกันนั้นฟรองซัวส์ก็ล้มแหมะลงในสวนระหว่างอาคาร
ทั้งที่เฮเลนาทำให้ร่างกายเธอเสียสมดุลไปแค่นิดเดียวแท้ ๆ แต่ดูเหมือนเธอจะยังไม่รู้จักการควบคุมร่างกายของตัวเองเลยสินะ
“ฮืม……เริ่มจากสร้างพลังกายก่อนก็แล้วกัน”
“ค ค่ะ!”
“เอาล่ะ อันดับแรกจะสอนการฝึกออกหมัดตรงก่อนนะ ฟรองซัวส์เองก็ไม่มีอาวุธด้วย ดังนั้นวิชาต่อสู้มือเปล่าน่าจะเหมาะกว่า”
“ขอฝากตัวด้วยค่ะ!”
“งั้นก่อนอื่นก็ตั้งท่ากำหมัดเอาไว้ตรงเอว……”
“ค่ะ!”
ไม่สามารถวิดพื้นแม้แต่ครั้งเดียว ไม่สามารถซิตอัปแม้แต่ครั้งเดียว การเคลื่อนไหวก็ช้า พละกำลังก็ไม่มี ทว่ามีเพียงความตั้งใจอยากพัฒนาที่มีกว่าคนอื่นเป็นเท่าตัว
เฮเลนาเองก็เพิ่งเคยพบคนที่ดูมีค่าให้ฝึกฝนขนาดนี้เป็นครั้งแรก
“ฟังนะ ตอนที่แทงหมัดออกมาต้องรักษาสมดุลของร่างกายเอาไว้ให้ดี หากเอียงตัวไปด้านหน้าเช่นนั้นจะทำให้ล้มได้ง่าย”
“ค ค่ะ!”
“ใช่แล้ว คำนึงถึงสมดุลการทรงตัวของร่างกายไว้เป็นอันดับแรกแบบนั้นแหละ”
ก่อนอื่นให้เธอฝึกซ้อมออกหมัดตรงก่อนน่าจะดี เมื่อทำเช่นนั้นแล้วก็จะเป็นการสร้างกล้ามเนื้อแขนอย่างเป็นธรรมชาติ
หลังจากนั้นจึงค่อยให้ฟรองซัวส์วิดพื้นเท่าที่จะทำไหว และในตอนจบของการฝึกสอนก็จะให้ประลองอย่างจริงจังกับเฮเลนาดู แต่ก็คงต้องประลองโดยที่เฮเลนาไม่ลงมือแม้แต่น้อย
“ดีมากแบบนั้นแหละ พยายามสัมผัสถึงแก่นที่อยู่กลางลำตัวของตนเองให้ดี”
“ค่ะ!”
เฮเลนาฝึกฝนฟรองซัวส์โดยการชี้แนะให้ยืนตัวตรง พลางช่วยแก้ไขทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหวที่ผิดเพี้ยนไป
ถ้าเกิดเธอมีฝีมือขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว ก็อาจให้มาเป็นคู่ฝึกวิชาต่อสู้มือเปล่ากับเฮเลนาได้ เมื่อเป็นแบบนั้นเฮเลนาก็จะได้สามารถประมือกับคนจริง ๆ ได้ทุกเมื่อ
และในการฝึกวิชาต่อสู้มือเปล่าก็ไม่มีการถือของหนักเหมือนการแกว่งดาบ ดังนั้นมันอาจส่งผลแบบเดียวกับการฝึกวิ่งก็ได้
‘อืมอืม’ เฮเลนาพยักหน้า
หลังจากนั้น พอเธอลองมองไปที่โถงทางเดินตัดผ่านซึ่งมองเห็นได้จากสวนโดยบังเอิญ
“……”
ที่ตรงนั้น
ก็มีบุคคลหนึ่งซึ่งมักจะอยู่ตรงนั้นทุกที แต่ครั้งนี้กลับต่างไปจากทุกที
“สนมฟ้าดารา” มาริเอลกำลังทำตาแดงก่ำ และจ้องมองมาด้วยสีหน้าโกรธเคืองจนแม้แต่เฮเลนาก็รู้สึกได้