หลังจากออกมาจากห้องของ “สนมฟ้าจันทรา” คุณหนูชาร์ลอตเต เอียนสเวิร์ธแล้ว อันดับแรกเฮเลนาก็กลับมาที่หน้าห้องของตัวเองก่อน
ห้องของชาร์ลอตเตอยู่ทางด้านขวาของห้องเฮเลนา และทางด้านซ้ายเองก็มีประตูรูปแบบเดียวกันอยู่เช่นกัน การไปทักทายข้างนึงแล้วไม่ทักทายอีกข้างมันคงดูเสียมารยาทเกินไป หากคาดเดาจากรูปแบบของห้องก็พอจะบอกได้ว่าถ้าห้องทางขวาเป็น “สนมฟ้าจันทรา” ดังนั้นทางซ้ายนี่ก็น่าจะเป็น “สนมฟ้าดารา” สินะ
อย่างไรก็ตาม เธอจะทำพลาดแบบเมื่อกี้อีกไม่ได้เด็ดขาด จากท่าทีของชาร์ลอตเตตอนสุดท้ายแล้วดูเหมือนว่าจะเฮเลนาจะถูกเกลียดเข้าแล้วแหง ๆ บางทีอาจจะถูกมองเป็นคุณป้าที่ชอบพูดจุ้นจ้านไม่เข้าเรื่องไปแล้วก็ได้
‘เอาเถอะ จากมุมมองของคนอายุเท่าชาร์ลอตเตแล้วเราก็เป็นคุณป้าจริง ๆ นี่นา’ เธอคิดแบบคนยอมแพ้ไปแล้วครึ่งหนึ่ง ก่อนจะไปหยุดยืนหน้าห้องที่อยู่ติดกันทางซ้าย
ถึงใจจริงจะอยากวิดพื้นให้ใจสงบลงสักหน่อย แต่น่าเสียดายที่ตรงนี้คือโถงทางเดิน แม้แต่เฮเลนาเองก็ยังไม่ทิ้งความเป็นหญิงไปขนาดที่จะมาฝึกร่างกายในที่ที่อาจมีคนผ่านไปมาแบบนี้
“เอาล่ะ ลุยเลยละกัน……”
เธอเคาะประตูอันหรูหรานั้นเบา ๆ
พอเคาะปุ้บก็มีเด็กสาวซึ่งเป็นสาวใช้ที่แต่งเครื่องแบบไม่เหมือนนางกำนัลออกมา เหมือนกับห้องก่อนหน้านี้
“ค คะ?”
“ข้าเฮเลนา เรลโนต จะมาอยู่ห้องข้าง ๆ ตั้งแต่วันนี้ เจ้าของห้องอยู่ไหม?”
“ค ค่ะ! กรุณารอสักครู่นะคะ!”
ประตูถูกปิดลง แล้วก็ได้ยินเสียงปึงปังเหมือนรีบร้อนดังออกมาจากข้างใน ดูเหมือนว่าจะซุ่มซ่ามกว่าสาวใช้เมื่อกี้ที่ห้องของชาร์ลอตเตอยู่นิดหน่อย
ถึงกระนั้นก็รู้สึกว่ามีความจริงใจกว่าด้วยเหมือนกัน เฮเลนานึกชอบใจอยู่เช่นนั้นในขณะที่รอหน้าประตู
ไม่นานนักประตูก็เปิดออก—–ผู้ที่มารับเธอคือคนละคนกับสาวใช้เมื่อกี้
“ยินดีต้อนรับค่ะ ท่านบุตรีมาร์ควิส เฮเลนา เรลโนต”
ถึงชาร์ลอตเตก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นเด็กสาวผู้เป็นโฉมงามของแวดวงสังคมชั้นสูง แต่บุตรีขุนนางตรงหน้าเองก็งดงามน่ารักอีกเช่นเดียวกัน
เส้นผมสีดำสนิทที่ยาวถึงกลางหลังนั้น แม้จะเป็นสีดำซึ่งเป็นสีที่ดูหนักแน่นแต่มันกลับให้ความรู้สึกงดงาม ใบหน้าของเธอมีดวงตาที่กลมโตและสันจมูกที่ได้รูป กับริมฝีปากเล็ก ๆ อมชมพู เรียกได้ว่าเป็นสาวงามราวกับสวรรค์สร้างเลยทีเดียว
ชุดที่เธอสวมอยู่ดูเหมือนจะเป็นชุดเดรสเรียบง่ายสำหรับใส่อยู่ห้อง——แต่ถึงกระนั้นการที่ไม่รู้สึกฉูดฉาดเกินงามเหมือนที่รู้สึกกับชาร์ลอตเตน่าจะเป็นเพราะใบหน้าที่ให้อารมณ์เหมือนฤดูใบไม้ผลิมาเยือนนั่นล่ะมั้ง
“ช ใช่…….ขออภัยที่มาเยือนกะทันหัน ข้าจะมาอยู่ห้องข้าง ๆ ตั้งแต่วันนี้ ชื่อว่า เฮเลนา เรลโนตค่ะ”
“ทางนี้ก็ฝากเนื้อฝากตัวเช่นกันนะคะ ดิฉัน มาริเอล รีเวียร์ค่ะ”
“……รีเวียร์?”
เฮเลนาลองไล่เรียงสารานุกรมตระกูลขุนนางที่มีอยู่ในหัวของเธอดู แต่ก็ไม่มีชื่อรีเวียร์อยู่ในนั้น
อาจเป็นเพราะเฮเลนาลาจากสังคมชั้นสูงไปนานก็เลยจำไม่ได้เอง แต่ถ้าจำไม่ได้ก็น่าจะแปลว่าเป็นตระกูลที่ค่อนข้างเล็กล่ะมั้ง
อาจจะดูเหมือนเปิดโปงความไม่รู้ของตัวเอง แต่ว่า——
“อ้อ จะไม่รู้จักก็ไม่แปลกหรอกค่ะ ตระกูลของดิฉันเพิ่งจะได้รับศักดิ์เป็นบารอนตั้งแต่รุ่นของบิดานี่เอง ใคร ๆ ก็เรียกกันว่าขุนนางหน้าใหม่น่ะค่ะ”
บางทีมาริเอลอาจจะเห็นความลังเลของเฮเลนาก็เลยช่วยอธิบายให้
หลังจากนั้นก็กล่าว ‘เชิญข้างในค่ะ’
“ดิฉันเข้าใจดีว่าในทางฐานันดรศักดิ์แล้วไม่ควรพูดคุยอย่างเท่าเทียมกับท่านบุตรีมาร์ควิสเฮเลนา แต่ที่นี่คือวังหลังและดิฉันเองก็ได้รับตำแหน่ง ‘สนมฟ้าดารา’ มาอีกด้วย จึงขออนุญาตพูดจาเช่นนี้นะคะ”
“ไม่หรอก ข้าก็แทบไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับทางตระกูลเลย เป็นแค่มือสมัครเล่นที่ไม่รู้เรื่องสังคมชั้นสูงสักนิดเลยค่ะ การที่ไม่รู้ชื่อของคุณหนูมาริเอล ข้าต้องขอโทษจากใจด้วยจริง ๆ”
“ขอบคุณค่ะ พระสนมฟ้าสุริยา”
เฮเลนาได้รับเชิญให้นั่งบนโซฟา จากนั้นก็มีสาวใช้คนเมื่อกี้ออกมาเสิร์ฟชาดำให้ด้วยท่าทางเกร็ง ๆ พอลองดูแล้วห้องนี้เองก็มีสาวใช้ตั้งสี่คนเหมือนกัน ทำผิดกฎกันโต้ง ๆ แบบนี้มันดีแล้วหรือ
เฮเลนานั่งลงบนโซฟาตามที่ได้รับเชิญ และมาริเอลก็นั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามเช่นเดียวกัน
“แล้วพระสนมฟ้าสุริยามีธุระอะไรกับดิฉันหรือคะ?”
“เปล่าค่ะ จะว่าไปแล้วก็น่าอาย……คือข้าจะเข้ามาอยู่ในวังหลังตั้งแต่วันนี้ไป ก็เลยคิดว่าจะมาทักทายพระสนมฟ้าดาราซึ่งเป็นผู้มาก่อนสักหน่อยน่ะค่ะ”
“ขอบคุณค่ะที่สุภาพขนาดนี้ ถ้ามีเรื่องเดือดร้อนอะไรก็เชิญมาบอกกล่าวกันได้เลยนะคะ”
ท่าทางของเธอที่กำลังยิ้มแย้ม ‘ฮุ ๆ’ เบา ๆ นั้น ดูราวกับเป็นอวตารของนางฟ้าหรือเทพธิดาก็ไม่ปาน
อย่างน้อยนั่นก็เป็นรอยยิ้มที่เจิดจ้าเหลือเกินสำหรับเฮเลนาผู้ใกล้จะสามสิบแล้ว
“ขอบคุณค่ะพระสนมฟ้าดารา ถ้างั้นก็ขอโทษนะคะที่กระทันหันไปหน่อย แต่ข้ามีเรื่องอยากจะถามสักสองสามเรื่องน่ะ”
“ถ้าดิฉันตอบได้ก็จะตอบค่ะ เชิญเลย”
“งั้นก็——”
ความกังวลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเฮเลนาในตอนนี้ ก็คือเรื่องของคืนนี้
ฝ่าบาท——จักรพรรดิฟาร์มาสจะมาที่ห้องของเฮเลนา ซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจสักนิดว่าจะต้องต้อนรับแบบไหนถึงจะเหมาะสมในฐานะขุนนาง
ในเวลาแบบนี้ลองถามมาริเอลที่แม้อายุน้อยกว่าแต่นับว่าเป็นรุ่นพี่และเชี่ยวชาญเรื่องสังคมชั้นสูงดูน่าจะดี
ทว่า
“เอ่อ……ฝ่าบาทเคยเสด็จมาเยือนที่ห้องของพระสนมฟ้าดาราบ้างหรือเปล่าคะ?”
ตรงนี้จะบอกออกไปตรง ๆ ว่า ‘คืนนี้ฝ่าบาทจะมาอ่ะ’ ก็คงไม่ได้
ถึงเธอจะไม่รู้ว่ามาริเอลเป็นคนแบบไหน แต่เมื่ออยู่ในวังหลังก็ย่อมต้องการได้รับความรักใคร่โปรดปรานจากจักรพรรดิเป็นธรรมดา ขืนบอกไปว่าจักรพรรดิจะมาที่ห้องของตนออกไปในสถานการณ์แบบนี้ คงมีโอกาสที่จะเกิดความอิจฉาริษยาต่อเฮเลนาได้
ดังนั้นก็เลยตั้งใจจะถามแบบอ้อม ๆ
ทว่า
มาริเอลก็หรี่ตาลงในทันที
“……น่าเสียดาย ทว่าตั้งแต่ได้รับตำแหน่ง ‘สนมฟ้าดารา’ มา ฝ่าบาทก็ยังไม่เคยเสด็จมาเยือนสักครั้งเลยค่ะ”
“เอ๋”
“บางทีฝ่าบาทอาจจะทรงยุ่งมากก็ได้ เท่าที่ได้ยินมาฝ่าบาทก็ไม่เคยเสด็จไปเยือนพระสนมฟ้าจันทราเหมือนกันค่ะ ดิฉันเองก็อาบน้ำทุกวันไม่เคยขาดเพื่อให้พร้อมรับความรักใคร่โปรดปรานได้ทุกเมื่อ แต่……”
ตายล่ะสิ
สัญญาณเตือนภัยเริ่มดังลั่นในใจของเฮเลนา
——คืนนี้ ฝ่าบาทจะเสด็จมาเยือนที่นี่ค่ะ
คือกำหนดการในคืนนี้ที่อิซาเบลเป็นคนบอกมา
ก่อนหน้านี้เฮเลนาคิดว่า ฟาร์มาสคงจะชื่นชอบเรื่องพวกนี้อยู่แล้วจึงคิดจะมาคืนนี้เพื่อมาลองของกับพระสนมคนใหม่ที่เพิ่งจะมาถึงล่ะมั้ง
แต่ในความเป็นจริง จักรพรรดิกลับยังไม่ได้แตะต้องทั้ง ‘สนมฟ้าดารา’ ที่งดงามคนนี้ แล้วก็ ‘สนมฟ้าจันทรา’ ที่งดงามคนนั้นเลย
ทั้งที่เป็นแบบนั้นแต่กลับจะมาหาเฮเลนา——
“ง งั้นหรือคะ……ขอโทษด้วยค่ะ”
“ไม่หรอกค่ะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ในฐานะพระสนมด้วยกันก็ย่อมสนใจเรื่องการเสด็จมาเยือนของฝ่าบาทเป็นธรรมดาใช่ไหมล่ะคะ”
“ข้าเองก็อายุเยอะกว่าฝ่าบาทตั้งมากแบบนี้ คงจะไม่ได้รับความรักใคร่โปรดปรานหรอก พระสนมฟ้าดารากับพระสนมฟ้าจันทรายังดูสาวดูสวยกว่าข้าตั้งเยอะ”
นี่คือใจจริงของเฮเลนา ดูยังไงเธอก็ไม่มีอะไรไปสู้ชาร์ลอตเตกับมาริเอลได้เลยสักนิด
ยกเว้นถ้าเป็นเรื่องพลังลูกผู้หญิง (ทางกายภาพ) ล่ะก็มีความมั่นใจอยู่มากเลยทีเดียว
“แต่ว่าถ้าเกิดฝ่าบาทเสด็จมาล่ะก็ เราควรจะต้อนรับยังไงดีหรือคะ? ข้าอยู่แต่ในสนามรบมาตลอดจนถึงตอนนี้ก็เลยไม่รู้เรื่องสามัญสำนึกแบบนั้นเลย”
“นั่นสินะคะ ถ้าฝ่าบาทจะเสด็จมา ก่อนอื่นก็ควรทำร่างกายให้สะอาดค่ะ เรื่องอาบน้ำจะขาดไปไม่ได้เป็นอันขาด”
อืม ๆ
ทำร่างกายให้สะอาดไว้ก่อนก็น่าจะดีจริง ๆ นั่นแหละ อย่างน้อยที่สุด บุตรีขุนนางที่มอมแมมตัวเหม็นเนี่ยใครอยู่ด้วยก็คงไม่รู้สึกดีหรอก
“จากนั้นก็ ดูเหมือนท่านจะไม่ได้พาสาวใช้มาด้วย ดังนั้นพระสนมฟ้าสุริยาก็ควรจะชงชาเย็น ๆ ด้วยตัวเองเพื่อเสิร์ฟให้ฝ่าบาทนะคะ หากไม่มีใบชาดิฉันจะแบ่งให้ก็ได้”
“อ้อ ถ้าแค่ใบชาก็พอมีอยู่บ้าง ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
‘ควรเสิร์ฟชาเย็น ๆ แทนที่จะเป็นเหล้าสินะ’ เฮเลนาจดลงใส่สมุดโน้ตในใจ
เข้าใจมาตลอดว่าหากต้อนรับผู้ชายก็ควรจะเป็นเหล้า แต่ดูเหมือนสังคมชั้นสูงจะไม่ใช่แบบนั้นแฮะ
“แล้วก็เพื่อให้ฝ่าบาทอยากกระทำกับท่าน สวมชุดที่วาบหวิวหน่อยก็น่าจะดีค่ะ”
“ช ชุดวาบหวิว เหรอคะ?”
“ใช่ค่ะ ฝ่าบาทเองก็คงไม่สะดวกใจนักที่จะพาหญิงสาวที่เพิ่งพบขึ้นเตียง ดังนั้นเราถึงต้องเป็นฝ่ายชักชวนเองยังไงล่ะ พระสนมฟ้าสุริยาเองก็มีรูปร่างที่งดงามอยู่แล้ว ควรเผยหน้าอกเพื่อแสดงความเซ็กซี่หน่อยดีกว่าค่ะ”
“ต แต่ว่า ชุดแบบนั้นน่ะ…”
“ถ้างั้นก็ต้อนรับในชุดชั้นในไปเลยสิคะ ฝ่าบาทเองก็เป็นผู้ชายย่อมอดทนไม่ไหวแน่นอนค่ะ”
‘ฮุๆ’ มาริเอลหัวเราะ
ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่าจะต้องต้อนรับยั่วยวนทั้งชุดชั้นในด้วย แต่ว่าถ้าอยากจะได้รับความรักใคร่โปรดปรานวิธีนั้นก็อาจจะดีที่สุดจริง ๆ
ทว่าเฮเลนาก็ไม่ได้อยากได้ความรักใคร่โปรดปรานอะไรอยู่แล้ว เพราะงั้นแค่จำเอาไว้เป็นความรู้อ้างอิงก็พอแล้วกัน
“แบบนั้น……ฟังดูน่าอายอยู่นะคะ”
“การมียางอายเป็นสิ่งดี แต่กับผู้ชายแล้วบางครั้งรุกเข้าหาก็อาจจะดีกว่าค่ะ ดิฉันเองก็เปลือยกายรอคอยทุกคืน แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้เสด็จมาเยือนเลย”
“……นั่นก็ระวังจะเป็นหวัดเอานะคะ”
ไม่อยากเชื่อว่าไม่ใช่รอทั้งชุดชั้นใน แต่เปลือยกายรอเลยหรือเนี่ย
ถ้านั่นเป็นสามัญสำนึกทั่วไปในหมู่ขุนนางล่ะก็ เฮเลนาจัดว่าเป็นพวกไม่รู้ประสีประสาขนาดไหนกัน
“ข ขออภัย……ชักจะปวดหัวขึ้นมานิดหน่อยแล้วค่ะ”
“อ้าว……ให้เรียกแพทย์หลวงมาดีไหมคะ?”
“ไม่ ไม่เป็นไรค่ะ คิดว่าถ้าได้พักสักหน่อยก็คงหาย เพราะงั้นขอตัวก่อนนะคะ……”
เรื่องมันชวนช็อกซะจนปวดหัวขึ้นมาเลย
อันดับแรกกลับไปที่ห้องทำใจให้สงบก่อนดีกว่า เรื่องใช้สมองเอาไว้หลังจากนั้น
“รักษาตัวด้วยนะคะ”
“ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”
เพราะกำลังปวดหัวจี๊ด ๆ กับเครียดลงกระเพาะ เธอจึงไม่รู้สึกตัวเลย
ว่าขณะที่มองเฮเลนาเดินจากไป มาริเอลได้ยกมุมปากแสยะยิ้มขึ้นมา