หลังจากทำให้ทิฟฟานีจมพื้นไปแล้ว ก่อนอื่นเฮเลนาก็ทำการฝึกอบรมประจำวันก่อน และเพราะแถมลูเครเซียซึ่งเคยมีแผนจะให้ทิฟฟานีฝึกสอนเข้ามาด้วย ทำให้ทั้งฟรองซัวส์หรือคลาริสซาพากันตึงเครียดตัวเกร็งตั้งแต่ต้นจนจบ
ถึงกระนั้น ตัวการที่ทำให้ตึงเครียดก็ยังเอาแต่ยิ้มอยู่จนถึงตอนสุดท้ายเลย
หลังจากนั้น ทิฟฟานีก็ได้ถูกคนของกองอัศวินหมาป่าเงินมาเก็บกู้ซากไป ก่อนที่จะจบการฝึกกันในที่สุด
ทว่า—น่าเสียดายแต่ความต้องการของลูเครเซียยังไม่ได้รับการตอบสนอง
ดังนั้นแม้จะใกล้เวลาอาหารเที่ยงแล้วแต่การฝึกก็ได้ถูกยืดออกไปก่อน
ถึงแม้ทั้งสี่คนรวมลูเครเซียจะเพียงแค่นั่งสังเกตการณ์พลางหอบไหล่โยกกันเท่านั้นก็เถอะ
“เอาล่ะ……ดีมาก เข้ามาได้ทุกเมื่อเลยดีอันนา”
“ค ค่ะ……เอ่อ เป็นข้าจะดีหรือคะ?”
ลูเครเซียได้กล่าวว่าอยากเห็นการเอาจริงของเฮเลนา
และคู่ต่อสู้ที่จะทำให้เฮเลนาสามารถเอาจริงได้อย่างน้อยที่สุดก็ต้องมีฝีมือยุทธระดับแปดยอดขุนศึก และหากไม่นับทิฟฟานีแล้วผู้ที่มีฝีมือยุทธโดดเด่นที่สุดในกองอัศวินหมาป่าเงินก็คือดีอันนา
ดังนั้นจึงสรุปว่าให้ลูเครเซียมาสังเกตการฝึกซ้อมต่อสู้ของเฮเลนากับดีอันนานั่นเอง
ดีอันนามีร่างกายที่สูงกว่าเฮเลนาหนึ่งช่วงศีรษะและใหญ่โตกว่าเฮเลนาอีกรอบหนึ่ง
หากดูแค่ขนาดร่างกายก็สูสีกับ “ขุนศึกหมีน้ำเงิน” คนนั้นทีเดียว ถึงกระนั้นเธอก็ยังอ่อนเยาว์อายุเพียงยี่สิบสองปี จึงยากที่จะกล่าวได้ว่าเธอสามารถดึงพลังแฝงที่มีออกมาได้เต็มร้อย
ทว่าก็น่าจะมีฝีมือยุทธเพียงพอในระดับที่ไม่ถูกเฮเลนาโค่นล้มในพริบตา
“ช เช่นนั้น……เอาแล้วนะคะ ท่านเฮเลนา!”
“เข้ามา”
ทั้งสองคนสู้มือเปล่า และเมื่อเป็นเช่นนั้นผู้ที่มีขนาดร่างกายใหญ่โตก็ย่อมมีระยะโจมตีที่กว้างกว่า แปลว่าดีอันนาจะได้เปรียบนั่นเอง
ทว่า—
ดีอันนาก็นิ่งทื่อไปทั้งที่กำลังตั้งท่าต่อสู้
หากรุกเข้าจากด้านขวา ก็จะใช้มือซ้ายปัดและเข้าประชิดตัว จากนั้นก็โดนซัดกำปั้นขวาเข้าลิ้นปี่
หากรุกเข้าจากด้านซ้าย ก็จะใช้มือขวาปัดและเข้าประชิดตัว จากนั้นก็โดนอัดกำปั้นซ้ายใส่ขากรรไกร
หากเข้ามาทางด้านหน้าก็เอี้ยวคอหลบ ย่นระยะ และจู่โจมสวนกลับไป
หากคิดจะเว้นระยะห่าง เท้าของเฮเลนาก็จะจู่โจมเข้าใส่ทันทีที่เผยช่องโหว่
รับมือทุกการจู่โจม ขัดขวางทุกการเคลื่อนไหว บดขยี้ทุกแผนการ—
อนาคตที่เฮเลนาวาดไว้เช่นนั้น
ดีอันนาเองก็มองเห็นมันได้เช่นกัน ดังนั้นเธอจึงไม่อาจขยับตัว
“คึ……”
“เอ้า เป็นอะไรไปล่ะ เข้ามาเร็วเข้าสิ”
นี่คือ—เฮเลนาในยามเอาจริง
ไม่ใช่เฮเลนาที่จำกัดตัวเองไว้เหมือนเวลาที่ต่อสู้ฝึกซ้อมกับดิอันนาหรือเมห์เลียนาในตอนปกติ
การเอาจริงอย่างไม่มีออมมือที่แสดงให้เห็นเมื่อเผชิญกับศัตรูผู้แข็งแกร่งอย่างแท้จริงเท่านั้น
เมื่อต้องประมือกับเฮเลนาในสภาวะนี้ ผู้ที่สามารถต่อสู้กับเธอได้อย่างเป็นเรื่องเป็นราวก็คงมีเพียงแปดยอดขุนศึก หรือไม่ก็ญาติพี่น้องของเธอเองเท่านั้น กับเฮเลนาที่เอาจริงในสภาวะมือเปล่า ผู้ที่สามารถต่อสู้มือเปล่าเช่นเดียวกันได้อย่างสูสีก็มีอยู่จำนวนน้อยนิด อย่างเช่นลิลิธผู้เป็นน้องสาวนั่นเอง
ดังนั้น
ดีอันนาจึงคุกเข่าลงไป โดยที่ไม่ได้ขยับไปไหนแม้แต่ก้าวเดียว
“……ข้าแพ้แล้วค่ะ ท่านเฮเลนา”
“ต้องเพิ่มฐานของการโจมตีมากกว่านี้อีกหน่อยนะ ตัวเลือกมันไม่จำเป็นต้องเป็นซ้ายขวาหรือตรงกลางเท่านั้น ต่อให้ถูกเรียกว่าขี้โกงก็ตาม แต่การโจมตีที่มาจากนอกความรับรู้ของคู่ต่อสู้มันย่อมได้ผลอย่างแน่นอน”
“ค่ะ ขออภัยด้วย”
“เอาล่ะ……”
ในตอนนั้นเอง เฮเลนาก็ได้คลายการตั้งท่าต่อสู้ออก และหันไปทางลูเครเซีย
ฝ่ายลูเครเซียก็กำลังเอียงศีรษะอย่างฉงนให้กับการสนทนาของเฮเลนากับดีอันนาอยู่
“ท่านลูเครเซีย เข้าใจแล้วหรือยังคะ?”
“……เอ๋ เข้าใจอะไรหรือ?”
“เอ่อ ก็ข้าได้ลองเอาจริงโดยมีดีอันนาเป็นคู่ต่อสู้ ตามความต้องการของท่านแล้วไงคะ”
ในความเป็นจริง การเอาชนะโดยที่ไม่ต้องต่อสู้ถือว่าเป็นเลิศที่สุด
ดังนั้น กับคู่ต่อสู้ที่ระดับต่ำกว่า การเอาชนะด้วยแรงกดดันอย่างท่วมท้นจึงเป็นทางเลือกอันดับหนึ่ง
สร้างสถานการณ์ที่ไม่ว่าจะจู่โจมเช่นไรก็ไร้ผลขึ้นมา และเมื่อคู่ต่อสู้เหนื่อยจะรุกแล้ว เขาหรือเธอก็ต้องรู้ซึ้งถึงความต่างชั้นของฝีมือระหว่างตนเองกับเฮเลนาไปโดยปริยาย
ทว่า
ลูเครเซียก็ยังดูสับสนอยู่ดี
“……ยังไงนะ?”
“เอ๋……”
“อ่า……เมื่อกี้ก็แค่แข่งจ้องตากันเองนี่?”
“ไม่ค่ะ นั่นมันคือ……”
“เอ๋ ก็หนูเฮเลนาไม่ได้ขยับตัวสักนิดเลยไม่ใช่รึ”
“……ก็ใช่นะคะแต่ว่า”
‘แย่ล่ะสิ’ เฮเลนาขมวดคิ้ว
การอ่านทางกันไปมาที่หากเป็นนักบู๊ด้วยกันย่อมเข้าใจ หรือก็คือศาสตร์แห่งการ “เอาชนะโดยมิต้องต่อสู้” นั้น มันเข้าใจกันได้เฉพาะนักบู๊เท่านั้นนั่นเอง
หากเป็นผู้ที่ไม่สันทัดเรื่องการต่อสู้เช่นลูเครเซีย ก็เป็นธรรมดาที่จะมองเห็นมันเป็นแค่การแข่งจ้องตากัน
ในขณะเดียวกัน ทั้งสามคนที่อยู่ข้าง ๆ ก็กำลังทำหน้าสงสัยเช่นเดียวกับลูเครเซียเช่นกัน
ยังไม่มีสักคนที่ก้าวหน้าถึงขั้นสามารถเข้าใจการรุกรับด้วยการอ่านทางไปมาได้
“……เอ่อ ไม่ค่อยเข้าใจเลยค่ะ!”
“เหมือนกันค่ะ……มันยังไงหรือคะ?”
“ดูไปแล้วนึกว่าเป็นการล้มมวยโดยที่ท่านพี่หญิงนัดหมายกันไว้ล่วงหน้าซะอีกค่ะ”
แม้วาจาของมาริเอลจะค่อนข้างเสียมารยาททีเดียว แต่ใจความสำคัญก็คือไม่มีใครเข้าใจ
ทว่าในทางกลับกัน สำหรับดีอันนากับบรรดาคนของกองอัศวินหมาป่าเงินนั้น
“อ่า……สถานการณ์แบบนั้นต่อให้เป็นดีอันนาก็บุกไม่ได้หรอก ถ้าเป็นเธอล่ะจะทำยังไง?”
“ไม่ไหวหรอก เห็นภาพแค่ว่าต่อให้จู่โจมเข้าไปแบบไหนก็คงถูกฟาดตกไปหมดเลยอ่ะ”
“ไม่มีช่องโหว่สักนิด……สมแล้วที่เป็นท่านเฮเลนา”
ดูเหมือนทางนี้จะเข้าใจกันแฮะ
แปลว่าการต่อสู้ทางจิตวิทยาแบบนี้มันขั้นสูงเกินไปกระมัง
‘อืม’ เฮเลนากอดอก
ในปัจจุบันไม่มีคู่ต่อสู้ที่เฮเลนาจะต่อสู้แบบเอาจริงด้วยได้ ต่อให้ประมือกับทิฟฟานีเธอก็คงไม่สามารถเอาจริงได้เต็มที่นัก จุดแข็งของทิฟฟานีอยู่ที่ยุทธวิธีอันชาญฉลาดกับความสามารถในการบัญชาการทัพ ไม่ใช่การต่อสู้มือเปล่า
แปลว่า สิ่งที่จำเป็นต่อการทำให้ลูเครเซียเข้าใจการเอาจริงของเฮเลนาได้นั้น
“ท่านลูเครเซียคะ”
“อ่า จะช่วยอธิบายให้ฟังหรือจ๊ะ?”
“ค่ะ ที่ดีอันนายอมแพ้ให้กับข้า มันเป็นผลมาจากการที่เธอรับรู้ได้จากการตั้งท่าต่อสู้ของข้า ว่าไม่ว่าจะจู่โจมเช่นไรก็จะถูกฟาดตกไป ทำให้เธอลังเลที่จะทำการจู่โจมออกมาค่ะ เป็นการ ‘เอาชนะโดยมิต้องต่อสู้’ นั่นเองค่ะ”
“……ไม่ค่อยเข้าใจเลยนะจ๊ะ”
“ข้าก็คิดเช่นว่าต้องเป็นนั้นค่ะ ทว่ากับคู่ต่อสู้โดยส่วนใหญ่แล้ว ข้าสามารถทำให้ยอมแพ้โดยมิต้องต่อสู้ได้ทั้งนั้น……”
ลูเครเซียได้กล่าวว่าอยากเห็นการเอาจริงของเฮเลนา
เธอย่อมไม่สามารถแสดงการฝึกซ้อมต่อสู้แบบออมมือโดยมีดีอันนาหรือเมห์เลียนาเป็นคู่ต่อสู้ให้ชมได้
แปลว่า มีแต่ต้องเรียกคู่ต่อสู้ที่เฮเลนาสามารถต่อสู้อย่างเอาจริงได้มาที่นี่เท่านั้น
“งั้นรึ……น่าเสียดายจังนะ แปลว่าฉันไม่สามารถดูการเอาจริงของหนูเฮเลนาได้งั้นรึ?”
“กับทิฟฟานี หากคิดจะทำก็คงสามารถเอาชนะได้โดยไม่ต้องสู้เช่นกันค่ะ”
“งั้นก็เป็นไปไม่ได้สินะ……”
‘น่าเสียดาย’ ลูเครเซียบึนปาก
ทว่าเฮเลนาตั้งใจที่จะทำให้ความปรารถนาของลูเครเซียเป็นจริง เมื่อบอกว่าอยากเห็นการเอาจริงก็ต้องแสดงมันให้เห็นให้จงได้
เพื่อการนั้นแล้ว สิ่งที่เธอสามารถทำได้ก็คือ
“ไม่ค่ะ ข้าจะเรียกคู่ต่อสู้ที่ข้าสามารถเอาจริงด้วยได้มาที่นี่”
“…… ‘ขุนศึกพยัคฆ์แดง’ หรือ ‘ขุนศึกหมีน้ำเงิน’ น่ะรึ? น่าเสียดายแต่นอกจากฟาร์มาสแล้วบุรุษอื่นห้ามเข้ามาในวังหลังนะจ๊ะ”
“ไม่มีปัญหาเลยค่ะ”
ปัญหาก็คือ คู่ต่อสู้คนนั้นอาจจะกลับไปแล้วก็ได้
สำหรับเรื่องนั้น ให้อเลกเซียหรือใครก็ได้ช่วยนำจดหมายออกไปก็แล้วกัน
ฝ่ายลูเครเซีย เมื่อได้ฟังคำของเฮเลนาก็ขมวดคิ้ว
“สตรีที่แข็งแกร่งขนาดนั้น มีคนอื่นด้วยรึ? แม่ทัพเรย์ลาก็เสียไปด้วยโรคภัยแล้วนี่นา……”
“ค่ะ มีค่ะ”
เฮเลนาพยักหน้ารับอย่างมั่นใจ
คู่ต่อสู้เพียงหนึ่งเดียวที่สามารถต่อสู้อย่างเอาจริงกับเฮเลนาซึ่งยืนอยู่ ณ จุดสูงสุดของฝีมือยุทธในฐานะสตรี
เมื่อต้องเพิ่มเงื่อนไขไปว่าเป็นการต่อสู้มือเปล่า มันก็มีอยู่แค่คนเดียวเท่านั้น
“ลิลิธน้องสาวข้าค่ะ”
“……ตระกูลของเธอมันยังไงกันจ๊ะเนี่ย?”
คำตอบของเฮเลนา
ทำให้ลูเครเซียต้องยิ้มแห้ง ๆ พลางพึมพำออกมาอย่างเหนื่อยใจเช่นนั้น