สรุปแล้วการฝึกก็จบลงทั้งแบบนั้น แล้วเฮเลนาก็กลับห้องรับประทานอาหารกลางวันจากนั้นก็เริ่มฝึกในส่วนของตนเอง ทั้งฟรองซัวส์ คลาริซา และมาริเอลต่างก็ยังมีแรงกายน้อย แค่ฝึกฝนช่วงเช้าก็หมดแรงไปตาม ๆ กันแล้ว
ในระหว่างที่กำลังสร้างเสริมแรงกายอยู่นี้หากให้ฝืนเกินตัวอาจนำไปสู่การบาดเจ็บได้ ดังนั้นจนกว่าทั้งสามจะมีแรงกายเพรียบพร้อมในระดับหนึ่ง เธอจึงให้ฝึกแค่เฉพาะช่วงเช้าเท่านั้น
ช่วยบ่ายเฮเลนาก็ต้องฝึกในส่วนของตนเองด้วย ดังนั้นตอนนี้คงสภาวะปัจจุบันไว้ก่อนน่าจะดี
และนอกจากวิดพื้น ซิตอัป สควอตที่เป็นการฝึกร่างกายประจำวันอยู่แล้ว เธอยังฝึกเสต็ปการเต้นรำพื้นฐานที่ลูเครเซียสอนมาให้อีก อย่างน้อยที่สุดก็ได้รับคำยืนยันมาแล้ว ว่าขอแค่เธอเต้นตามสเต็ปพื้นฐานนี้ได้อย่างแน่นอนก็สามารถไปออกงานไว้อาลัยครบรอบหนึ่งปีได้โดยไม่มีปัญหา
ที่เหลือก็แค่ให้ลูเครเซียช่วยตรวจสอบดูอีกครั้งก่อนวันงานจริง เท่านั้นก็เป็นอันเสร็จสิ้น
แม้จะรู้สึกหงุดหงิดที่ขาขยับไม่ได้ดังใจแต่เธอก็พยายามจดจำเสต็ปเอาไว้ อะไรที่ไม่เคยทำมาก่อนเลยตลอดเวลายี่สิบแปดปี จู่ ๆ จะมาบอกให้จำในทันทีมันก็เป็นไปไม่ได้ มีแต่ต้องทำซ้ำไปมาหลายครั้งเพื่อให้ร่างกายจดจำเท่านั้น
เธอย้อนนึกถึงคำสอนของลูเครเซียพลางพยายามอย่างสุดชีวิตที่จะเต้นโดยไม่มองเท้า ปล่อยร่างกายให้ไหลไปตามกระแส ย่ำเท้าไปเรื่อย ๆ
ระหว่างที่ทำอยู่เช่นนั้น อาหารเย็นก็มาถึง
และหลังจากนั้น—ฟาร์มาสก็มาเยือนจนได้
“ไม่พบกันเสียนานนะ สนมฟ้าสุริยาของเรา”
“ยากลำบากหน่อยนะคะท่านฟาร์มาส”
ฟาร์มาสที่มาคู่กับเกรเดียเหมือนทุกครั้งรีบสั่งให้เกรเดียกลับไปและให้อเลกเซียออกจากห้อง จากนั้นก็นั่งลงตรงหน้าเฮเลนา
ไม่ได้พบหน้ากันแค่ไม่กี่วันแท้ ๆ แต่มันกลับรู้สึกว่านานมากทีเดียว
“เอ่อ……ว่าไงดีนะ มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างไหม”
“ก็มีหลาย ๆ เรื่องนะคะ……”
“โฮ่ เราเองก็มีธุระนิดหน่อยเลยมาไม่ได้น่ะ ตอนที่เราไม่มามีอะไรเกิดขึ้นงั้นรึ?”
“ค่ะ เอ่อ……”
มีอะไรมากมายเกินไปจนไม่รู้จะเริ่มอธิบายจากเรื่องไหนก่อนดี
ที่เขามาครั้งก่อนมันคือเมื่อไหร่กันหว่า
จะว่าไป ก็น่าจะไม่ได้มาตั้งแต่ที่เธอเริ่มฝึกช่วงเช้าร่วมกับฟรองซัวส์ ซึ่งก็คือตั้งแต่วันนั้นที่เฮเลนาได้เจอกับทิฟฟานีหลังจากไม่ได้เจอมานานในสวนระหว่างอาคารนั่นเอง
“ข้าไม่ได้ยินจากท่านฟาร์มาสมาก่อนก็เลยตกใจค่ะ ไม่นึกมาก่อนเลยว่า ‘ขุนศึกหมาป่าเงิน’ ทิฟฟานีจะมารักษาความปลอดภัยในวังหลังด้วยตัวเองเช่นนี้”
“อ่า……เจ้าคนนั้นสินะ”
ฟาร์มาสเกาผมเหมือนเหนื่อยใจเล็กน้อย
แล้วพร้อมกันนั้นก็ถอนใจเบา ๆ
“เราบอกไปแค่ว่าให้ส่งหนึ่งกองร้อยจากกองอัศวินหมาป่าเงินมาเพื่อรักษาความปลอดภัยในวังหลัง คงจะคิดผิดไปหน่อยที่ให้ทางนั้นคัดเลือกคนมาเองล่ะมั้ง ไม่นึกมาก่อนว่าทิฟฟานี รีดจะนำกำลังพลมาด้วยตนเองแบบนี้น่ะ”
“……ใครจะไปนึกว่าแปดยอดขุนศึกจะมาด้วยตัวเองสินะคะ”
“ดูเหมือนแนวหน้าการรบจะวุ่นวายอยู่นิดหน่อยเพราะอยู่ในสภาวะที่มีเพียงแค่ ‘ขุนศึกวิหคดำ’ ปกป้องมุมหนึ่งของแนวหน้าระหว่างพันธมิตรสามอาณาจักรอยู่ สำหรับเราแล้วก็อยากให้ ‘ขุนศึกหมาป่าเงิน’ กลับไปแนวหน้าโดยเร็ว แต่เจ้าตัวดันไม่ยอมตอบตกลงโดยง่ายนี่สิ”
“อ่า……”
ทิฟฟานีที่ยึดถือเฮเลนาสำคัญที่สุดคงจะไม่ยอมพยักหน้ารับโดยง่ายเป็นแน่
แต่แรกเริ่มเดิมที เพราะเฮเลนาถูกส่งไปประจำการที่แนวหน้าการรบกับจักรวรรดิอัลเมดา ส่วนทิฟฟานีไปประจำการที่แนวหน้าการรบกับพันธมิตรสามอาณาจักร ก็เลยเหมือนเธอมีความอับเฉาสะสมอยู่ค่อนข้างมากแล้ว ในสภาวะปัจจุบันเช่นนี้ทิฟฟานีคงไม่ยอมแยกจากกันอีกครั้งเพื่อกลับไปแนวหน้าแน่ ๆ
หากว่ากันตามตรงแล้ว แม้เหล่าแปดยอดขุนศึกจะเป็นแม่ทัพที่เก่งกาจแต่ในทางกลับกันก็เป็นแหล่งรวมของพวกนิสัยยุ่งยากด้วยเหมือนกัน
“มีเรื่องอื่นอีกไหม?”
“ค่ะ……เอ่อ พักหลังมานี้ข้าเริ่มจัดการฝึกอบรมในช่วงเช้าให้กับพระสนมคนอื่น ๆ ค่ะ”
“สนมคนอื่น ๆ ที่ว่า หมายถึงลูกสาวของเคานต์เรเวินสินะ”
“ค่ะ ฟรองซัวส์ก็ด้วย นอกจากนี้ยังมีบุตรีขุนนางที่ชื่อว่าคลาริสซา เออร์เนมันน์ด้วยค่ะ ไม่ทราบว่ารู้จักหรือเปล่าคะ?”
“ลูกสาวคนที่สามของเคานต์เออร์เนมันน์สินะ เราก็รู้จักแค่ข้อมูลในเอกสาร แต่ถ้าจำไม่ผิดน่าจะมอบตำแหน่ง ‘ผู้ไพเราะ’ ให้ไว้ เธอสนิทสนมกับเจ้างั้นรึ?”
“ค่ะ เธอเป็นสหายของฟรองซัวส์มาอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นก็เลยมารับการฝึกร่วมกันน่ะค่ะ”
“อืม ก็คงไม่เป็นไรหรอก น่าจะช่วยแก้ปัญหาขาดการออกกำลังกายของเหล่าสนมได้พอดีล่ะนะ”
ฟาร์มาสพยักหน้ารับอย่างใจกว้าง
แม้วังหลังอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของฟาร์มาส แต่สำหรับอิสระเพียงเล็กน้อยเช่นการฝึกฝนร่างกายเขาก็คงยอมรับอยู่แล้ว แต่เดิมทีมันก็เป็นกิจกรรมในช่วงเช้าที่ฟาร์มาสไม่ได้มาเยือน ดังนั้นเธอจึงคิดว่าเขาไม่น่าจะตั้งข้อจำกัดอะไร
“อีกอย่าง ‘สนมฟ้าดารา’ คุณหนูมาริเอลก็มาเข้าร่วมด้วยค่ะ”
“…… ‘สนมฟ้าดารา’ น่ะรึ?”
ฟาร์มาสหรี่ตา
มันคือสายตาที่แสดงความเคลือบแคลง แต่เดิมทีเธอก็ได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดในงานเลี้ยงน้ำชาให้ฟาร์มาสฟังไปแล้ว ดังนันเขาจึงประเมินค่ามาริเอลไว้อย่างต่ำเตี้ยที่สุด
ในสภาวะเช่นนั้น หากมาริเอลมาเข้าร่วมการฝึกอบรมของเฮเลนาก็เป็นธรรมดาที่เขาจะรู้สึกสงสัย
“ข้าเองก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่อย่างน้อยที่สุดก็ดูไม่มีเจตนาร้ายต่อข้า ดังนั้นก็เลยให้เข้าร่วมฝึกด้วยน่ะค่ะ”
“……ฮืม แต่เท่าที่ฟังเรื่องราว คิดว่าเธอน่าจะเป็นศัตรูกับเฮเลนาอยู่นี่นา”
“ค่ะ แต่พักหลังมานี้เธอยอมคบหาด้วยอย่างค่อนข้างสนิทสนมทีเดียว ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมเรียกข้าว่า ‘ท่านพี่หญิง’ ก็เถอะ……อย่างเมื่อวันก่อน ข้าได้รับประทานหม้อไฟสี่คนกับฟรองซัวส์ คลาริสซา แล้วก็คุณหนูมาริเอลด้วย คุณหนูมาริเอลถึงขนาดยอมช่วยจัดเตรียมวัตถุดิบให้ทั้งหมดเลยค่ะ”
“……”
ฟาร์มาสนิ่งเงียบไป
เขาเอามือแตะคาง ดูเหมือนกำลังใช้ความคิดอะไรบางอย่างอยู่
น่าเสียดายที่หัวสมองของเฮเลนาไม่ดีนักจึงไม่เข้าใจแม้แต่น้อยว่ามันมีอะไรให้ฟาร์มาสต้องกังวลขนาดนั้น
“……ฮืม”
“อ เอ่อ”
“เปล่าน่ะ ไม่ต้องใส่ใจหรอก เท่าที่ฟังดูก็เหมือนจะไม่มีเจตนาร้ายนะ ทว่าอย่าประมาทโดยเด็ดขาดล่ะ เจ้าคนนั้นน่ะ แม้ฐานันดรของตระกูลจะต่ำแต่ในด้านอำนาจการเงินแล้วไม่มีใครเทียบได้เลย”
“รับทราบแล้วค่ะ”
แม้จะเคยได้ยินเรื่องนี้จากอเลกเซียมาแล้วแต่ก็พยักหน้ารับไปก่อน
ถ้าแม้แต่ฟาร์มาสยังพูดเช่นนั้น แปลว่าอำนาจทางการเงินของตระกูลมาริเอลคงจะน่าเกรงขามโดยแท้ คงมีอำนาจทางการเงินเหนือล้ำซะจนแม้แต่ฟาร์มาสก็ไม่สามารถดูแคลนได้สินะ
ไม่เช่นนั้นแล้วมาริเอลก็คงไม่ได้รับการปฏิบัติในฐานะหนึ่งในสามสนมฟ้าซึ่งใกล้เคียงพระชายาเอกที่สุดเช่นนี้
“แต่ได้ยินแบบนี้ก็วางใจแล้วล่ะ ดูเหมือนจะไม่มีเรื่องเดือดร้อนอะไรเป็นพิเศษสินะ”
“เรื่องเดือดร้อน หรือคะ?”
“หวั่นใจอยู่ว่า ‘สนมฟ้าจันทรา’ อาจมายุ่มย่ามกับเจ้าหรือเปล่าน่ะ เจ้าคนนั้นเป็นอย่างไรบ้างล่ะ?”
“อืม……ก็ น่าจะกล่าวได้ว่าไม่มีอะไรเป็นพิเศษนะคะ”
“สนมฟ้าจันทรา” ชาร์ลอตเต เอียนส์เวิร์ธ
หากให้พูดตามตรง พักหลังมานี้เฮเลนาไม่ได้สนใจเธอเลยจนเกือบจะลืมตัวตนไปแล้ว
เธอเป็นเครือญาติของโนลด์ลุนด์ซึ่งเป็นศัตรูทางการเมืองกับแอนตันผู้เป็นบิดา ดังนั้นที่จริงแล้วเฮเลนาก็ควรต้องระมัดระวังเอาไว้ ทว่าก็คงต้องบอกว่าชาร์ลอตเตนั้นยังเป็นเด็กน้อยเกินไป
ทั้งที่หากดูจากอายุแล้วฟรองซัวส์ยังอายุน้อยกว่าอีกแท้ ๆ
ในตอนนี้ไม่มีเรื่องเดือดร้อนอะไรเป็นพิเศษ
แต่ว่าหากจะให้พูดสักเรื่องหนึ่งล่ะก็
“มีเรื่องที่ว่า ข้าได้รับการสั่งสอนเต้นรำจากท่านลูเครเซียมาค่ะ……ทว่ายังรู้สึกกังวลว่าจะเต้นได้ดีหรือไม่”
“อ่า จะว่าไปแล้วก็เห็นพูดว่าสอนให้แล้วเหมือนกัน”
“แค่สเต็ปพื้นฐานเท่านั้นคะ แต่ข้าก็ยังต้องฝึกซ้อมอยู่เลย ไม่รู้ว่าจะเต้นได้ดีก่อนถึงวันจริงหรือไม่……”
“อืม”
ในเรื่องการเต้นรำเธอเป็นมือสมัครเล่นโดยสมบูรณ์ คงได้แต่ต้องค่อย ๆ คลำทางไปเองเท่านั้น
อย่างไรเธอก็ได้รับการสั่งสอนการเคลื่อนไหวพื้นฐานมาแล้ว ที่เหลือขึ้นอยู่กับว่าเธอจะเคลื่อนไหวตามนั้นได้อย่างคล่องแคล่วแค่ไหน
ทว่าฟาร์มาสก็ปรบมือราวกับจะบอกว่ามีข้อเสนอดี ๆ
“ดีล่ะ เช่นนั้นลองมาเต้นรำกับเราดูตั้งแต่ตอนนี้เลยเป็นไง”
“เอ๋”
“ในวันจริงเมื่อไปออกงานราตรีเจ้าก็ต้องเต้นรำกับเราอยู่ดี ทดลองเอาไว้ตั้งแต่ตอนนี้ก็ไม่เลวใช่ไหม”
ฟาร์มาสลุกขึ้นยืน
มันก็จริงตามที่เขาพูด หากคิดถึงฐานะของเฮเลนาแล้วเธอก็คงไม่ได้เต้นรำกับใครอื่นอีกนอกจากฟาร์มาส ขืนไปเต้นรำกับชายอื่นอาจถูกมองว่าเป็นการคบชู้สู่ชายได้
ทว่า—ใจของเธอมันยังไม่พร้อมเลย
“ค คือว่า ต ตอนนี้เลยเนี่ย……”
“ลำบากใจอะไรรึ? ตอนนี้ที่ยังไม่ได้ดื่มสุราน่าจะเหมาะสมที่สุดไม่ใช่รึไง”
“ก ก็จริงอยู่นะคะ……แต่ว่า……”
หากเป็นการฝึกสเต็ปคนเดียว เธอเริ่มทำได้ดีพอสมควรแล้ว
ทว่าก็ต้องเน้นว่า หากทำเองคนเดียวเท่านั้น
ถ้าต้องเพิ่มคู่เต้นรำเข้าไปอีก แค่คิดก็ทำให้เธอรู้สึกเกร็งขึ้นมาแล้ว
“เอ้า เฮเลนาเอ๋ย ยืนขึ้นสิ”
“อุ……ค่ะ”
เฮเลนายืนขึ้นตามคำของฟาร์มาสอย่างเลี่ยงไม่ได้
จากนั้นเธอก็จับมือขวาของฟาร์มาสที่ยื่นมาให้ และลดระยะห่างเข้าหากันและกันอย่างเชื่องช้า
เมื่อใกล้จนแทบจะหายใจรดกัน มือซ้ายของฟาร์มาสก็เลื่อนมายังเอวของเฮเลนา
“……หืม”
“ม มีอะไรหรือคะ?”
“เปล่าหรอก โทษทีนะ เราแค่คิดมาสักพักแล้วน่ะ”
และพร้อมกับลมหายใจร้อนผ่าวที่ข้างหูของเธอ
ฟาร์มาสก็ได้กล่าวว่า
“เฮเลนาเนี่ย ผอมเพรียวมากเลยนะ”
คำพูดนั้น ได้ทำให้หัวใจของเฮเลนาตื่นเต้นยินดีอย่างห้ามไว้ไม่อยู่