คืนวันนั้นฟาร์มาสไม่ได้มาเยือน
ถึงกระนั้นก็ไม่ใช่ว่าไม่มาโดยไม่บอกกล่าว เพราะได้มีการฝากแจ้งมายังอเลกเซียล่วงหน้าแล้ว โดยบอกว่ามีหลายเรื่องต้องทำเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับพิธีไว้อาลัยครบรอบหนึ่งปีในวันรุ่งขึ้น เขาจึงไม่สามารถมาได้
ดังนั้นเฮเลนาจึงไม่ได้คิดอะไรเป็นพิเศษ หลังอาหารเย็นก็ฝึกร่างกายเรียกเหงื่อกายเบา ๆ จากนั้นก็เข้านอน
แล้วเธอก็ตื่นเช้ามาก่อนตะวันขึ้นก่อนจะฝึกร่างกายเบา ๆ เหมือนทุกครั้ง จากนั้นต้อนรับอเลกเซียตามปกติก่อนจะรับประทานอาหารเช้า
เมื่อรับประทานเสร็จ เธอก็ลุกขึ้นเพื่อเตรียมจะไปดำเนินการฝึกช่วงเช้าให้กับศิษย์สามคนเหมือนเช่นเคยในวันนี้
“ท่านเฮเลนาคะ วันนี้มีกำหนดการเข้าร่วมพิธีไว้อาลัยครบรอบหนึ่งปีนะคะ”
“หืม……อา ก็ได้ยินมาแล้วล่ะ”
“เช่นนั้น ท่านกำลังคิดจะไปไหนหรือคะ?”
“เปล่าน่ะ ก็ว่าจะไปฝึกให้สามคนนั้นเหมือนทุกทีไง……”
เมื่อได้ฟังคำตอบของเฮเลนา อเลกเซียก็ถอนหายใจอย่างไม่คิดปิดบัง
ความรู้สึกส่วนใหญ่ที่แสดงออกมาในสีหน้าของเธอก็คือ “กะแล้วเชียว” พฤติกรรมของเฮเลนามันดูออกง่ายขนาดนั้นเชียวรึ
“พิธีไว้อาลัยในวันนี้กำหนดว่าจะจัดขึ้นตั้งแต่เวลาเที่ยงตรงนะคะ”
“ใช่……แต่กว่าจะถึงเที่ยงก็ยังมีเวลาอยู่นี่นา”
“เช่นนั้นท่านคิดจะไปร่วมพิธีไว้อาลัยครบรอบหนึ่งปีของจักรพรรดิองค์ก่อนที่จัดโดยประเทศชาติในชุดเดรสซอมซ่……เคลื่อนไหวง่ายนั่นน่ะหรือคะ?”
‘อุ’ เฮเลนาพูดไม่ออก
เธอไม่ได้คิดเรื่องชุดไว้เลย อันที่จริงในงานพิธีทางการแบบนั้นเฮเลนาเองก็ไม่รู้ว่าควรจะแต่งกายแบบไหนดี
เมื่อเห็นท่าทีเช่นนั้นของเฮเลนา อเลกเซียก็ได้แต่กุมขมับเบา ๆ
“มีกำหนดการว่าอีกไม่นานฝ่าบาทพระพันปีลูเครเซียกับหัวหน้านางกำนัลอิซาเบลจะมาหาค่ะ”
“……งั้นรึ”
“ค่ะ แน่นอนว่ามาเพื่อเตรียมเครื่องแต่งกายให้ท่านเฮเลนาค่ะ”
“……”
ลึกในใจแล้วรู้สึกว่ายุ่งยากน่ารำคาญอยากจะหนีไปให้พ้น ๆ แต่คงทำแบบนั้นไม่ได้
อย่างน้อยที่สุดหากลูเครเซียจะมา เธอก็ต้องอยู่ต้อนรับในสภาพที่พร้อมที่สุด
“จำสิ่งที่ฝ่าบาทพระพันปีลูเครเซียสอนได้อยู่ไหมคะ?”
“……อา ก็โดยคร่าว ๆ ล่ะนะ”
ช่วงบ่ายเมื่อวานเป็นการตรวจสอบการเต้นครั้งสุดท้าย พร้อมกับการสอนเกี่ยวกับมารยาทการวางตัวของเฮเลนาในงานพิธีและงานราตรี
แม้จะมีเรื่องยุ่งยากหลายอย่างแต่เธอก็พอจะจดจำได้ทั้งหมดแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นหากจวนตัวจริง ๆ ก็แค่ขอให้ฟาร์มาสช่วยก็ได้มั้ง
แต่เดิมฟาร์มาสเองก็รู้ว่าเธอไม่เคยเข้าร่วมงานพิธีพวกนี้อยู่แล้ว คนฉลาดอย่างฟาร์มาสน่าจะช่วยเหลือเฮเลนาได้ในหลาย ๆ เรื่อง
ตอนนั้นเองก็มีเสียงเคาะประตู ‘ก๊อกก๊อก’
“ค่ะ”
“พระสนมฟ้าสุริยา ฝ่าบาทพระพันปีลูเครเซียเสด็จมาแล้วค่ะ”
“กรุณารอสักครู่นะคะ”
อเลกเซียตอบรับและเปิดประตู
และพร้อมกันนั้นผู้ที่เข้าห้องมาก็คือลูเครเซียที่มาพร้อมกับอิซาเบล
“ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงแล้วนะจ๊ะ หนูเฮเลนา”
“ขอบพระคุณท่านลูเครเซียที่อุตส่าห์สละเวลามาชี้แนะทั้งที่น่าจะยุ่งนะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ หวังว่าเธอจะวางตัวได้ดีนะ”
จากนั้นเมื่อลูเครเซียโบกมือให้สัญญาณ อิซาเบลก็นำกล่องไม้ออกมา
กล่องที่ค่อนข้างใหญ่ถูกวางลงบนพื้นแล้วก็เปิดออก
ภายในนั้น—คือชุดเดรสสีชาดที่งดงาม
“ของขวัญจากฝ่าบาทจักรพรรดิค่ะ รับสั่งว่าให้สวมชุดนี้ในงานราตรีวันนี้”
จากนั้น อิซาเบลก็ได้รับกล่องไม้อีกใบมาจากนางกำนัลที่อยู่ด้านหลัง
กล่องนี้ต่างจากกล่องที่มีชุดเดรส มันเป็นกล่องที่ทำให้รู้สึกถึงสถานะอันสูงส่ง เพียงแค่ตัวกล่องก็คงมีราคาเท่ากับค่ากินอยู่หนึ่งเดือนของสามัญชนแล้วกระมัง
และสิ่งที่อยู่ภายในกล่องนั้นก็คือ—
“อันนี้คือชุดทางการของชายาเอกน่ะ อาจจะดูยุ่งยากน่ารำคาญไปหน่อย แต่อย่างไรในพิธีการพวกนี้ก็ต้องสวมชุดทางการเข้าร่วมนั่นแหละ”
มันคือชุดเดรสสีขาวที่มีการประดับตกแต่งมากซะจนรู้สึกว่าเกินพอดี
แทนที่จะเป็นชุดซึ่งประดับตกแต่งซะจนรุ่มร่ามแบบนี้เฮเลนากลับชอบชุดเดรสสีชาดที่เรียบง่ายมากกว่า ทว่าในเมื่อชุดเดรสขาวนี้เป็นชุดทางการ เธอก็จำเป็นต้องใส่มันไปออกงานพิธี
ถึงแม้ชุดเดรสแบบนี้ดูยังไงก็มันไม่เหมาะกับเฮเลนาก็ตาม—
“เอาล่ะ ลองสวมดูก่อนดีกว่า แต่คิดว่าสัดส่วนน่าจะพอดีอยู่แล้วล่ะนะ”
“ค ค่ะ……”
พร้อมกับคำกล่าวของลูเครเซีย เฮเลนาก็ได้ถอดชุดเดรสที่เคลื่อนไหวง่ายออก เหลือเพียงชุดชั้นใน
แม้ให้เธอสวมเองจะเร็วกว่ามาก แต่เฮเลนาซึ่งอย่างน้อยก็เป็นบุตรีขุนนางและยังได้รับการปฏิบัติเสมือนพระชายาย่อมไม่ได้รับอนุญาตให้ทำเช่นนั้น เธอได้แต่ยอมปล่อยให้อเลกเซียกับอิซาเบลช่วยกันสวมเดรสให้เธออย่างว่าง่าย
แม้จะไม่ชินเอาเสียเลย แต่แม้แต่เรื่องนี้เธอก็แค่ต้องอดทนไปจนว่าฟาร์มาสจะควบคุมราชสำนักได้เท่านั้น
ทว่าลูเครเซียที่ได้เห็นเฮเลนาเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วก็ต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่
“……ย ยอดไปเลยนะจ๊ะ”
“คะ?”
“ก็สั่งให้เอาคอร์เซ็ตมาเผื่อด้วยอยู่หรอก……แต่ดูเหมือนจะไม่ต้องใช้แล้วล่ะ มันดูไม่มีทางรัดให้แน่นไปกว่านี้ได้อีกแล้วน่ะ”
“ง งั้นหรือคะ?”
“จ้ะ กล้ามท้องแบ่งเป็นกี่ลูกเนี่ย……”
ก็จริงอยู่ที่ว่าร่างกายของเธอมันฝึกมามากกว่าคนอื่น แต่มันต้องตกใจขนาดนั้นด้วยรึ เฮเลนารู้สึกฉงน
แม้เฮเลนาจะไม่รู้ แต่ความจริงแล้วในงานพิธีหรืองานราตรีแบบนี้ เป็นธรรมดาที่บุตรีขุนนางจะผูกคอร์เซ็ตไว้รอบเอวเพื่อให้ดูผอมบางขึ้น และก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะต้องพึ่งพาสาวใช้สองคนในการช่วยกันรัดมันให้แน่นที่สุด
ในบรรดาบุตรีขุนนางเหล่านั้นบางคนถึงกับมีอาการเลือดคั่งเพราะสาเหตุนี้เลยด้วยซ้ำ
ทว่าเอวของเฮเลนาที่เค้นแล้วเค้นอีกผ่านการขัดเกลามาจนแทบไม่สามารถรัดด้วยคอร์เซ็ตได้อีกแล้ว
และเพราะฝึกฝนร่างกายอยู่เป็นประจำ เอวของเธอจึงผอมบางเป็นรูปทรงในอุดมติของหญิงสาว
หากตัดเรื่องที่ว่ามันเป็นกล้ามเนื้อทั้งนั้นออกไปล่ะก็นะ
เฮเลนาได้ถูกจับสวมชุดทางการของพระชายาเหมือนเป็นตุ๊กตาแต่งตัว
เมื่อได้เห็นเฮเลนาที่เปลี่ยนชุดจนเรียบร้อยแล้ว ลูเครเซียก็ปรบมือ
“อืม เหมาะมากเลยจ้ะ หนูเฮเลนา”
“……เช่นนั้น หรือคะ”
“จ้ะ ฉันรับรองให้เลย เอาล่ะที่เหลือก็แค่รอให้ฟาร์มาสมาถึงล่ะนะ หนูเฮเลนายังจำที่สอนเมื่อวานได้เรียบร้อยดีอยู่ใช่ไหม?”
“ค่ะ ก็ได้อยู่……”
ไม่ใช่ว่าเธอจำทุกสิ่งทุกอย่างได้ทั้งหมดเป็นอย่างดี ทว่าอย่างน้อยก็คงพอจำมันไปจนจบวันนี้ได้อยู่
ที่เหลือหากไม่มีอะไรเหนือความคาดหมายก็คงไม่มีปัญหา
ทว่านี่เป็นชุดที่ค่อนข้างหนักทีเดียว
เพราะเฮเลนาฝึกฝนร่างกายเป็นประจำอยู่แล้วความหนักแค่นี้ก็เลยไม่เป็นปัญหา แต่หากเป็นบุตรีขุนนางทั่วไปอาจรู้สึกเจ็บไหล่เจ็บเอวขึ้นมาบ้างก็ได้
โดยเฉพาะบริเวณไหล่ มันมีเครื่องประดับเยอะเกินไปจนแทบขยับแขนไม่ได้ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขยาดกับชุดนี้ซึ่งแค่จะดื่มชาก็ท่าทางจะลำบากแล้ว
ถึงกระนั้นหากยังฝืนขยับก็ชวนให้คิดว่าตรงไหล่ชุดมันอาจจะขาดได้อีก
ยิ่งเป็นพละกำลังของเฮเลนาด้วยแล้วก็มั่นใจได้เลยว่ามันจะต้องขาดแน่ ๆ
เธออยู่ในสภาพสวมชุดที่ไม่อาจผ่อนคลายได้เลยแบบนั้น พลางดื่มชาที่อเลกเซียชงให้ และรอคอย
จากนั้น—ประตูก็ถูกเคาะ
“ทำให้เจ้าต้องรอแล้ว สนมฟ้าสุริยาของเรา”
ที่อยู่ตรงนั้นคือฟาร์มาสที่มาพร้อมกับเกรเดีย
เป็นครั้งแรกเลยที่ได้พบกันในช่วงกลางวันแบบนี้ ทว่าการไปปรากฏตัวในงานพร้อมกับฟาร์มาสก็คงเป็นหนึ่งในหน้าที่การวางตัวในฐานะพระชายา
“กำลังรออยู่เลยค่ะ ฝ่าบาท”
“อืม เตรียมตัวพร้อมแล้วนะ?”
“เพราะฟาร์มาสมาช้า ก็เลยมีเวลาพอจะดื่มชากันหลังจากเตรียมตัวเสร็จเลยนะ”
“งั้นต้องขออภัยด้วยครับเสด็จแม่ เอาล่ะ ยื่นมือมาสิ เฮเลนา”
“ค ค่ะ”
เธอจับมือของฟาร์มาสซึ่งยื่นมาให้
เพราะกลัวหากขยับมั่ว ๆ แล้วชุดมันจะขาด เธอจึงเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังมาก
“เช่นนั้นฝากจัดการที่เหลือด้วยนะครับเสด็จแม่”
“จ้ะ วางใจเถอะ”
“ไปกันเถอะเฮเลนา”
เธอก้าวออกจากห้องพร้อมกับฟาร์มาส
เป็นธรรมดาว่างานพิธีไว้อาลัยครบรอบหนึ่งปีย่อมต้องจัดขึ้นที่ใดสักแห่งในนครหลวง
ซึ่งหมายความว่าเธอจะต้องออกไปภายนอกวังหลังนั่นเอง
“อา……”
เธอมุ่งไปพร้อมกับฟาร์มาส สู่ปากทางเข้าซึ่งได้ผ่านเข้ามาเมื่อวันแรกที่เข้าวังหลัง
ที่ตรงนั้นซึ่งเคยคิดว่าคงจะไม่สามารถออกมาได้อย่างน้อยก็อีกหลายปี
เฮเลนาเดินผ่านมันไปพร้อมกับฟาร์มาส มุ่งหน้าสู่ราชสำนักซึ่งอยู่ถัดไปจากนี้
สถานที่ซึ่งเธอกำลังจะมุ่งไปต่อจากนี้ คืองานพิธีที่จัดในฐานะประเทศ มีแม้แต่บุคคลสำคัญจากต่างชาติมาเยือนกันอย่างมากมาย
งานพิธีไว้อาลัยครบรอบหนึ่งปีของดีลจักรพรรดิองค์ก่อน กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว—