พิธีไว้อาลัยครบรอบหนึ่งปี
พิธีที่ถูกจัดด้วยบรรยากาศเคร่งครัดนั้น คือพิธีการไว้อาลัยการเสียชีวิตของดีล จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่องค์ก่อน และยังเป็นการสำแดงอำนาจของฟาร์มาส จักรพรรดิองค์ปัจจุบันอีกด้วย
อันดับแรก ฟาร์มาสต้องกล่าวทักทายต่อเหล่าอาคันตุกะและขุนนางที่เข้าร่วม จากนั้นก็ถวายดอกไม้เคารพแด่จักรพรรดิองค์ก่อน และยังมีการถวายถ้อยคำอาลัยโดยฟาร์มาสเองด้วย หลังจากนั้นก็ถึงตาเหล่าอาคันตุกะได้กล่าวทักทายบ้าง และสุดท้ายมันก็จะกลายเป็นงานเลี้ยงบุฟเฟต์แบบยืนรับประทานซึ่งแต่ละคนจะได้มีโอกาสพูดคุยทำความรู้จักกัน
เฮเลนาเข้าร่วมพิธีอยู่จนถึงตรงนั้นโดยที่เธอไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากยืนนิ่งเป็นรูปปั้นอยู่ด้านหลังฟาร์มาส
และจากนั้น—ก็ถึงเวลาของงานเลี้ยงยืนรับประทาน
เธอทำตามคำสอนของลูเครเซียว่า “ห้ามรับประทานอาหารเด็ดขาด” อย่างซื่อสัตย์ แม้จะเป็นงานเลี้ยงบุฟเฟต์ แต่เฮเลนาก็ไม่ได้แตะต้องอาหารใดเลยแม้แต่อย่างเดียว
ในสมรภูมิก็เคยต้องต่อสู้โดยไม่ได้กินอะไรเป็นเวลาหนึ่งถึงสองวัน การอดอาหารเที่ยงแค่มื้อเดียวเฮเลนาย่อมเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
ทว่า—ช่างน่าเสียดาย แต่เป็นตัวสถานการณ์ต่างหากที่เธอไม่คุ้นชินเอาเสียเลย
“เห็นฝ่าบาททรงมีพระพลานามัยแข็งแรงดีกระหม่อมก็ยินดียิ่ง”
“อืม ทางนี้ก็ยินดีที่ท่านมาร่วมไว้อาลัยบิดาของเรา จากนี้ไปก็ขอให้ประเทศของเรากับราชอาณาจักรดายน์สเลฟมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันเหมือนเช่นเคยเล่า”
“กระหม่อมเฟอร์ดินันด์ ในฐานะองค์ชายที่สาม ขอสาบานว่ามิตรไมตรีระหว่างประเทศเราและจักรวรรดิกันเกรฟจะไม่เปลี่ยนแปลงพะยะค่ะ”
“อืม จากนี้ไปก็ฝากตัวด้วยล่ะ”
มีคนนั้นทีคนนี้ทีโผล่มาทักทายฟาร์มาสกันแบบนี้ไม่หยุดหย่อน
เหมือนทุกคนคิดว่านี่คือโอกาสเหมาะในการสร้างสัมพันธ์อันดีกับฟาร์มาส ทั้งขุนนางในประเทศและอาคันตุกะจากประเทศข้างเคียงต่างก็มากันจนนับไม่หวาดไม่ไหว ซึ่งในระหว่างที่ฟาร์มาสกำลังรับการกล่าวทักทายอยู่เฮเลนาก็ได้แต่ยืนฟังโดยอยู่ห่างออกมาด้านหลังหนึ่งก้าว
และ
“แหม่ แต่ก็สมเป็นฝ่าบาทจักรพรรดิฟาร์มาสจริง ๆ นะพะยะค่ะ ไม่ทราบมาก่อนเลยว่าท่านได้รับโฉมงามเช่นนี้เป็นพระชายาด้วย”
“อ่า ก็ยังไม่ได้เป็นชายาที่แท้จริงของเราหรอก เฮเลนาเอ๋ย ทักทายหน่อยสิ”
“ค่ะ ยินดีที่ได้พบเป็นครั้งแรก ข้าเฮเลนา เรลโนตค่ะ”
มันก็จะต้องมีการแนะนำตัวของเฮเลนาเสริมเข้ามาด้วยทุกรอบ
เพราะพูดประโยคเดิมมาซ้ำ ๆ จนเหมือนเป็นรูปแบบตายตัวไปแล้ว เธอจึงสามารถพูดได้โดยไม่ติดขัดแม้แต่น้อย
“โฮ่ หากกล่าวว่าเรลโนต……ก็เป็นนามสกุลของท่านมหาเสนาบดีไม่ใช่หรือครับ”
“ข้าเป็นบุตรสาวของมหาเสนาบดีแอนตัน เรลโนตค่ะ”
“โอ้……! แหม่ ไม่ทราบมาก่อนเลยว่าท่านมหาเสนาบดีมีบุตรสาวที่งดงามเช่นนี้ สมกับเป็นฝ่าบาทฟาร์มาส ทรงตาถึงในการเลือกสตรีจริง ๆ”
“ชมไปก็ไม่มีอะไรจะให้หรอกนะ”
ฟาร์มาสตอบพลางฝืนหัวเราะ ‘หึหึ’
อีกด้านหนึ่ง เฟอร์ดินันด์ผู้เป็นอาคันตุกะก็ยิ้มแห้ง ๆ เช่นเดียวกัน แต่ก็ยังไม่ลืมโค้งคำนับอย่างสุภาพนอบน้อม
“เอาล่ะ ฝ่าบาทเองก็คงยุ่ง กระหม่อมคงขอตัวแต่เพียงเท่านี้แล้ว”
“อืม เชิญมารื่นเริงกับงานราตรีคืนนี้ด้วยล่ะ”
“พะยะค่ะ เช่นนั้นไว้พบกันใหม่”
เฟอร์ดินันด์กล่าวก่อนจะหันหลังจากไป
นี่ยังนับว่าค่อนข้างดีแล้วที่การทักทายยังจบได้ในเวลาอันสั้น ในบรรดาขุนนางในประเทศมีบางคนถึงกับพูดเรื่องไร้สาระเรื่อยเปื่อยยาวไปเลยด้วยซ้ำ หากเทียบกับคนพวกนั้นแล้วนับว่าเฟอร์ดินันด์มีสามัญสำนึกมากทีเดียว
ถึงกระนั้น เฮเลนาก็สังเกตเห็นว่าเขาได้ขยิบตาให้เฮเลนาโดยที่ไม่ให้ฟาร์มาสรู้ด้วย
“……ชายคนเมื่อครู่คือองค์ชายที่สามของราชอาณาจักรดายน์สเลฟ เฟอร์ดินันด์ คีล ดายน์สเลฟ แม้สิทธิ์ในการสืบทอดราชบัลลังก์จะต่ำ แต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นบุรุษที่มีความสามารถน่ะ”
“ค่ะ”
และหัวสมองของเฮเลนาก็ถึงขีดจำกัดเต็มเอี้ยดไปหมดแล้ว
ตั้งแต่เมื่อครู่ เหล่าขุนนางหรืออาคันตุกะที่เข้ามาก็จะทักทายเฮเลนาด้วยอีกคน และเมื่อพวกเขาจากไปฟาร์มาสก็จะกล่าวคำอธิบายให้ฟังแบบนี้
เฟอร์ดินันด์นับว่ายังดี แต่ลองได้ฟังชื่อขุนนางที่ไม่รู้จักมาก่อนสักนิดเรียงกันมาเป็นตับเธอเองก็ปวดหัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมื่อชื่อขุนนางแต่ละคนล้วนยาวเฟื้อยเกินเหตุ ยุ่งยากน่ารำคาญที่จะจดจำทั้งนั้น
ทว่าเธอก็ต้องเชื่อฟังคำสอนของลูเครเซียว่า “จงจำหน้ากับชื่อให้ได้ตั้งแต่เห็นครั้งแรก” ดังนั้นเฮเลนาจึงกำลังใช้พลังสมองทั้งหมดไปกับการจดจำชื่อคนนั่นเอง
“ไม่เป็นไรนะ?”
“……หากให้กล่าวตามตรงก็จำชื่อขุนนางคนแรก ๆ ไม่ได้แล้วล่ะค่ะ”
“ไม่จำเป็นต้องจำให้ได้ในครั้งเดียวหรอก ทว่าให้จดจำใบหน้าไว้ให้ได้ก็พอ อย่างน้อยที่สุดหากหลังจากนี้โดนเข้ามาทักอีกครั้งแล้วแยกแยะได้ว่าเคยพบกันมาก่อนหรือไม่ เท่านั้นก็ดีพอแล้ว”
แนวทางของฟาร์มาสค่อนข้างง่าย แตกต่างจากลูเครเซีย
และเมื่อมีแนวทางที่สบายกว่าอยู่เช่นนี้ ก็เป็นธรรมดาที่เธอจะเลือกมัน
แม้เธอพอจะคุ้นหน้าแม่ทัพของแต่ละประเทศซึ่งมาในฐานะผู้คุ้มกันของอาคันตุกะต่างชาติอยู่บ้าง แต่น่าเสียดายว่าพอเป็นตัวขุนนางของต่างประเทศแล้วเธอย่อมไม่มีทางรู้จักมาก่อน
อนึ่ง—บรรดาแม่ทัพเหล่านั้น พอมาอยู่ต่อหน้าเฮเลนาแล้วก็ทำตัวลีบกันไปหมดเลย
“ขออภัยพะยะค่ะ ฝ่าบาท”
ตอนนั้นเอง แขกคนต่อไปก็มาเยือน
แม้ใจจะคิดว่า ‘จำไม่ไม่ไหวแล้วอ่ะ’ และถึงขีดจำกัดแล้วก็ตาม แต่เฮเลนาก็ยังหันไปมอง ซึ่งแม้ในใจจะคิดแบบนั้นอยู่แต่สีหน้าไร้อารมณ์ของเฮเลนาก็ไม่ได้สั่นคลอนเลย
เพราะอย่างนั้นฟาร์มาสก็เลยคิดไปเองว่าเฮเลนากำลังใจเย็นสบาย ๆ อยู่
“โนลด์ลุนด์เองรึ”
“ขออภัยที่มากล่าวทักทายช้าไปหน่อยพะยะค่ะฝ่าบาท การที่พิธีการคราวนี้ดำเนินไปได้อย่างราบรื่นเช่นนี้ กล่าวได้ว่าเป็นเพราะพระปรีชาสามารถอันโดดเด่นของฝ่าบาทโดยแท้จริง ในฐานะข้าราชบริพารแล้วกระหม่อมยินดีเป็นอย่างยิ่งพะยะค่ะ”
“เลิกยอกันเถอะน่าโนลด์ลุนด์ เจ้าเป็นผู้รับภาระหนักที่สุดในการเตรียมการนี่ เอาไว้หลังพิธีครั้งนี้จบลงอย่างปลอดภัยเราจะมอบรางวัลตอบแทนผลงานของเจ้าก็แล้วกัน”
“ขอบพระทัยฝ่าบาทเป็นอย่างยิ่ง”
ชายร่างอ้วนท้วม—อับราฮัม โนลด์ลุนด์กล่าวพลางโค้งศีรษะคำนับ
ไม่ว่ายังไงก็เป็นชายที่เธอทำใจให้ชอบไม่ลงจริง ๆ ทั้งที่ร่างกายอ้วนท้วมแต่ใบหน้าเองก็ไม่มีเสน่ห์อัธยาศัยอันใด สัมผัสได้เลยด้วยซ้ำว่ามีแต่ความโลภที่รั่วล้นออกมา
ดังนั้นเฮเลนาเองจึงเพียงแต่คำนับกลับไปเบา ๆ เท่านั้น
“แนะนำอีกครั้งแล้วกัน นี่คือเฮเลนา สนมที่เรารักใคร่โปรดปรานที่สุดในตอนนี้”
ฟาร์มาสกล่าวโยนหัวข้อสนทนามาที่เฮเลนา
และเมื่อฟาร์มาสกล่าวเช่นนั้น ก็แปลว่าเฮเลนาจำเป็นต้องกล่าวทักทายนั่นเอง
ทำไมเธอต้องกล่าวทักทายตามมารยาทกับโนลด์ลุนด์ ศัตรูทางการเมืองของแอนตันผู้เป็นบิดาด้วยนะ—แม้ในใจจะนึกเช่นนั้น แต่ในเมื่อนี่เป็นความคิดของฟาร์มาสมันก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ
“เฮเลนา เรลโนตค่ะ”
“ขอบพระคุณครับ พระสนมฟ้าสุริยา กระผมคือมหาอำมาตย์อับราฮัม โนลด์ลุนด์ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“ข้าเองก็ขอขอบคุณท่านที่คอยสนับสนุนฝ่าบาทด้วยนะคะ”
“นับว่ากล่าวยกยอกันเกินไปแล้ว ต้องขอบพระคุณจริง ๆ ครับ โนลด์ลุนด์ผู้นี้จะขอทำงานให้เหมาะสมคู่ควรกับตำแหน่งมหาอำมาตย์ต่อจากนี้ไปเช่นกัน”
“อืม เช่นนั้นโนลด์ลุนด์ เจ้าไปพูดคุยปรึกษากับบรรดาอาคันตุกะสักพอประมาณ และเมื่อจบแล้วเราฝากให้เจ้ากล่าวทักทายตอนปิดงานด้วย หลังจากนั้นก็นำทางอาคันตุกะไปยังเรือนรับรองซะ”
“รับทราบพะยะค่ะ”
โนลด์ลุนด์กล่าวพลางประสานมือและโค้งคำนับ จากนั้นก็ค่อย ๆ จากไป
แม้ดูยังไงนี่มันก็คือการสั่งไล่ไปให้พ้นชัด ๆ แต่ดูเหมือนโนลด์ลุนด์จะไม่ตีความว่าเป็นแบบนั้น แม้แต่เฮเลนาก็ยังดูรู้ว่าเขาจากไปด้วยอารมณ์ยินดี
ส่วนฟาร์มาสก็กำลังทำหน้าบอกบุญไม่รับ
“เฮเลนาเอ๋ย ใกล้จะจบแล้วล่ะ อดทนอีกเดี๋ยวนะ”
“……ค่ะ”
ใจจริงของเฮเลนาอยากจะกลับไปพักผ่อนให้ไว ๆ
ทว่าต่อให้พิธีจะจบแล้ว แต่วันนี้มันก็ยังไม่จบลง
เพราะหลังจากนี้ยังคงมีงานราตรีรอคอยเธออยู่อีก—