ทิศเหนือของจักรวรรดิกันเกรฟ—มีกลุ่มของอาณาจักรสามแห่งที่รวมกันเรียกว่าพันธมิตรสามอาณาจักร และที่แนวหน้าการรบกับราชอาณาจักรเอสตีซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกในกลุ่มนั้น วันนี้แปดกองอัศวินใหญ่แห่งจักรวรรดิกันเกรฟ กองอัศวินวิหคดำและกองอัศวินหมาป่าเงินก็กำลังประจำการและเตรียมพร้อมสำหรับการปะทะกับประเทศข้าศึกอยู่เช่นเคย
ถึงกระนั้น หากเทียบกับประเทศทางใต้ซึ่งจักรวรรดิกันเกรฟกำลังรบด้วยอยู่ในตอนนี้—เทียบกับจักรวรรดิอัลเมดาแล้ว เอสตีนั้นก็มีพลังรบที่ต่ำต้อย พันธมิตรสามอาณาจักรนั้นเป็นเพียงประเทศเล็ก ๆ ที่ต่อให้รวมพลังกันทั้งหมดก็ไม่อาจเทียบกับอัลเมดาประเทศเดียวได้ด้วยซ้ำ
การที่แปดกองอัศวินใหญ่ถึงหกกองถูกส่งมาเตรียมพร้อมที่ชายแดนกับพันธมิตรสามอาณาจักร แล้วมีเพียงแค่สองกองถูกส่งไปยังชายแดนกับจักรวรรดิอัลเมดานั้น จึงเป็นเรื่องที่ชวนฉงนใจ
และ สำหรับกองอัศวินวิหคดำซึ่งกำลังป้องกันชายแดนกับราชอาณาจักรเอสตีอยู่—แม่ทัพผู้บัญชากองอัศวินกองนี้ก็คือ ‘ขุนศึกวิหคดำ’ ริกฮาร์ด เรลโนต
ริกฮาร์ดเป็นผู้บังคับบัญชาที่โดดเด่นทั้งด้านการบุกโจมตีและตั้งรับ ยิ่งไปกว่านั้นกองอัศวินวิหคดำที่พรั่งพร้อมไปด้วยทหารเจนศึกนั้นยังขึ้นชื่อในเรื่องความแข็งแกร่ง จนถูกยกย่องว่าเป็นทัพที่แกร่งที่สุดแม้แต่ในบรรดาแปดกองอัศวินใหญ่ด้วยกัน
ทว่า ริกฮาร์ดคนนั้น
“อา—……”
ตอนนี้เขาไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรเลยสักนิดเดียว
ณ ป้อมปราการที่ปกป้องชายแดน—ในห้องทำงานนั้น ริกฮาร์ดกำลังฟุบลงกับโต๊ะทั้งที่ปากเปิดค้างอยู่ครึ่งหนึ่ง แล้วก็เอาแต่เหม่อลอยไปในความว่างเปล่าพลางถอนหายใจอย่างเดียว
ตอนนี้สถานการณ์รบมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรเป็นพิเศษ อันที่จริงเพราะข้าศึกไม่ได้บุกเข้ามาก็เลยออกจะสบายเกินไปเสียอีก ในหมู่ทหารมีแม้กระทั่งเสียงบ่นเบื่อหน่ายกับสถานการณ์รบที่ไม่เคลื่อนไหวมาเป็นเวลาหนึ่งปีนี้แล้วด้วยซ้ำ
ทว่า การที่ริกฮาร์ดไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร มันไม่ได้เป็นเพราะเหตุผลอะไรทำนองนั้น
“โธ่ ได้โปรดตั้งใจหน่อยสิคะ แม่ทัพริกฮาร์ด”
“หนกขูน่า”
“เพราะแม่ทัพเป็นซะแบบนั้น ในหมู่ทหารถึงได้มีบรรยากาศเบื่อหน่ายหย่อนยานกันไปหมดไงล่ะคะ ท่านควรเข้มงวดกว่านี้……”
“อา—……ไม่พอเลยเว้ย”
ริกฮาร์ดบ่นพึมพำขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่พอใจ
และ ผู้ที่อยู่ด้วยกันในห้องทำงานกับริกฮาร์ดนั้นก็คือสตรีร่างสูงผู้หนึ่ง—รองผู้บังคับบัญชากองอัศวินหมาป่าเงิน สเตซี โบลต์ กำลังพยายามเต็มที่ที่จะทำให้ริกฮาร์ดกลับมามีกะจิตกะใจอีกครั้ง
‘โธ่เอ้ย’ สเตซีขมวดคิ้วพลางกอดอกอย่างตำหนิ เพียงอากัปกิริยาแค่นั้นก็ทำให้หน้าอกที่เหลือเฟือนั้นมันถูกดันขึ้นมา จนเกรงว่าหากในสถานที่นี้มีบุรุษอื่นอยู่ด้วย ก็คงจะถูกหน้าอกที่ยกขึ้นนั้นดึงความสนใจไปหมดแล้ว
ทว่าริกฮาร์ดกลับไม่คิดสนใจมองไปทางนั้นเลยแม้แต่นิด
“อะไรไม่พอกันล่ะคะ อุปกรณ์ก็มีเหลือเฟือ เสบียงก็เพิ่งจะถูกเติมไปเมื่อเร็ว ๆ นี้เองนะคะ ที่ไม่พอน่ะมีแค่ความตั้งใจของแม่ทัพเท่านั้นแหละค่ะ”
“ไม่พอเลย……”
“ก็แล้วอะไรล่ะคะที่มันไม่พอ……”
“น้องสาวไม่พอเลยว้อยยย—!!”
‘พรึ่บ’ ริกฮาร์ดเงยหน้าพรวดขึ้นมา
เรื่องที่ริกฮาร์ดเป็นพวกรักน้องสาวเข้าขั้นสาหัสนั้น เป็นข้อเท็จจริงอันโด่งดังที่รู้กันไปทั่วไม่ใช่แค่ในกองอัศวินวิหคดำแต่เป็นทั้งกองทัพแล้ว ก็เล่นตะโกนอย่างไม่อายใครว่ารักน้องสาวซะขนาดนั้น ขนาดกำลังสู้รบอยู่ยังตะโกนชื่อน้องสาวไปด้วย โดยพื้นฐานแล้วขอแค่เป็นคนที่มีความเกี่ยวข้องกับกองทัพสักเล็กน้อย ก็ไม่มีทางที่จะไม่รู้เรื่องนี้
ซึ่งเมื่อเห็นริกฮาร์ดเป็นแบบนั้น สเตซีก็ยิ่งถอนใจหนักกว่าเก่า
“ค่ะค่ะ น้องสาวไม่ได้อยู่ที่นี่หรอกนะคะ”
“เฮเลนา—! อัลเบรา—! ลิลิธ—!”
“ตะโกนไปก็ไม่มาหรอกค่ะ ยังไงก็ได้โปรดช่วยทำงานด้วยเถอะนะคะ เพราะแม้จะน่าเสียดายแต่ว่าตอนนี้สิทธิ์ในการบังคับบัญชาโดยรวมเป็นของแม่ทัพริกฮาร์ดอยู่ค่ะ”
“ก็นั่นแหละที่ไม่เข้าใจอ่ะ!”
‘ฮึ่ย’ ริกฮาร์ดตะโกนบอกกับสเตซีอย่างหัวเสีย
ซึ่งนั่นมันก็เป็นธรรมดา เพราะที่อยู่ตรงหน้าริกฮาร์ดนั้นคือกองภูเขาของเอกสาร มันคือเอกสารสำคัญที่มีความจำเป็นต่อกองทัพซึ่งอยู่ที่แนวหน้าแห่งนี้ในตอนนี้ เป็นประเภทที่จำเป็นต้องให้ผ่านตาแม่ทัพก่อนทั้งหมด
จำนวนของมัน มากกว่าปกติเป็นเท่าตัว
ริกฮาร์ดต้องทำงานเอกสารทั้งของกองอัศวินวิหคดำและกองอัศวินหมาป่าเงินด้วยตัวคนเดียว
“แล้วทิฟฟานีมันไปไหนกัน!”
“แม่ทัพทิฟฟานีก็กลับไปนครหลวงแล้วไงคะ ดูเหมือนว่าจะต้องทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยวังหลังอยู่ค่ะ”
“ทำไมหนึ่งในแปดยอดขุนศึกต้องลงทุนไปรักษาความปลอดภัยด้วยตัวเองเล่า! จะบ้ารึไง!”
“อ่า ข้าเองก็ไม่ค่อยรู้ละเอียดนักหรอกค่ะ……”
‘เฮ้อ’ สเตซีถอนหายใจ
สาเหตุใหญ่ที่สุดที่ทิฟฟานีกลับไปนั้น สเตซีรู้ดี มันเป็นเพราะเฮเลนา เรลโนต ผู้ที่ทิฟฟานีเคารพรักที่สุดและยังเป็นน้องสาวของริกฮาร์ด ตอนนี้อยู่ในวังหลังนั่นเอง
แม้สเตซีเองก็เคยได้รับการฝึกฝนจากเฮเลนามาบ้าง แต่ก็สำหรับคนอื่น ๆ อย่างทิฟฟานี เมห์เลียนา และดิอันนานั้นบูชาเฮเลนาจนเกือบจะเป็นอาการป่วยแบบหนึ่งกันไปแล้ว ดังนั้นเมื่อได้รับคำสั่งจากจักรพรรดิฟาร์มาสมายังกองอัศวินหมาป่าเงินว่า “ให้ส่งหนึ่งกองร้อยจากกองอัศวินหมาป่าเงินมาคุ้มกันวังหลัง” ทิฟฟานีจึงตีความเข้าข้างตัวเองว่า “ไม่ได้เขียนไว้ว่าห้ามแม่ทัพไปด้วยสินะ” แล้วก็กลับนครหลวงไปซะอย่างงั้น โยนทุกสิ่งทุกอย่างทิ้งไว้ให้ริกฮาร์ดกับสเตซี
แม้แต่จากมุมของทิฟฟานีเองก็มองว่านี่มันสร้างความลำบากให้กันแท้ ๆ
“ห้ะ—!”
“เป็นอะไรไปหรือคะ”
“ไม่ผิดแน่! ตอนนี้! มีน้องสาวของข้าอยู่ที่ไหนสักแห่ง!”
“คิดไปเองนั่นแหละค่ะ ได้โปรดทำงานต่อเถอะ”
“ไม่ ไม่ผิดแน่! มีน้องสาวอยู่ที่ไหนสักแห่ง! สัมผัสกลิ่นอายแบบนี้มัน ลิลิธ!”
“อ่า ก็คงอยู่ที่ไหนสักแห่งจริง ๆ นั่นแหละค่ะ อย่างเช่นประเทศข้าง ๆ น่ะนะ”
ชื่อลิลิธนั้นสเตซีก็เคยได้ยินมาก่อน
ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นชื่อน้องสาวคนสุดท้อง ลูกสาวคนโตคือเฮเลนา ลูกสาวคนรองคืออัลเบรา ลูกสาวคนที่สามคือลิลิธ เพราะริกฮาร์ดชอบตะโกนทิ้งขว้างประจำเธอก็เลยดันพลอยจำได้ไปด้วย
ยังไงก็ตาม เมื่อสเตซีจัดการเอกสารในมือตัวเองเสร็จ เธอก็นำไปวางไว้บนโต๊ะของริกฮาร์ดต่อ
เสียงตอนวางมันไม่ใช่ ‘แปะ’ แต่เป็น ‘ปึง!’
“ค่ะ มีพวกนี้เพิ่มอีกนะคะ”
“จะฆ่ากันรึไง!!”
“หากจะบ่นก็โปรดไปบ่นกับแม่ทัพทิฟฟานีนะคะ ถึงข้าจะได้รับฝากให้บัญชากองอัศวินหมาป่าเงินในยามจำเป็นอยู่ แต่อย่างไรก็เป็นแค่รองผู้บังคับบัญชาค่ะ”
สเตซียักไหล่ จากนั้นก็ยืดตัวตรงอีกครั้ง
วันคืนที่ยุ่งหัวปั่นกับเอกสารเช่นนี้ เธอเองก็อยากจะให้มันหยุดสักทีเหมือนกัน สเตซีเพิ่งจะมาเป็นรองผู้บังคับบัญชาของกองอัศวินหมาป่าเงินได้ประมาณสามปี แต่ความจริงเธอเองก็ชักจะเบื่อหน่ายแล้ว
งานเอกสารพวกนี้หากเป็นแม่ทัพก็คงจะยิ่งหนักหนากว่านี้เป็นแน่ ได้ลองมีประสบการณ์เป็นรองผู้บังคับบัญชาแล้วก็ทำให้คิดอย่างจริงจังว่าชักจะไม่อยากเป็นแม่ทัพซะแล้วสิ
“โธ่เว้ยยย—! เฮเลนา—!”
“ค่ะค่ะ”
“อัลเบรา—!!”
“ค่ะค่ะ”
“ลิลิธ—!!”
“ค่าค่า”
“เจ้าไม่ใช่น้องสาวของข้าสักหน่อย!”
“โปรดนึกซะว่าเป็นน้องสาวแล้วก็ทำงานด้วยเถอะค่ะ”
“จะไปนึกได้ยังไงฟะ!”
พวกเขาสนทนาโต้ตอบกันไปมาเหมือนกำลังต่อรองกันเช่นนั้น
‘ฟู่ว’ สเตซีรวบรวมเอกสารในมือแล้วกระแทกมันเข้ากับโต๊ะเพื่อจัดกองให้เรียบร้อย ก่อนจะนำไปวางบนโต๊ะของริกฮาร์ดอีก แม้จะโดนตะโกนใส่ว่า “ยักษ์มารชัด ๆ!” แต่เธอก็เมินมันไป
“เช่นนั้น ข้าขอไปตรวจตรากองทัพสักหน่อยนะคะ”
“แม่งเอ้ย……”
สเตซีหันหลังให้กับริกฮาร์ดที่กำลังร้องไห้กระซิก ๆ พลางเผชิญหน้ากับเอกสาร จากนั้นก็ออกมานอกห้อง ‘อืม’ เธอยืดร่างกายที่ฝืดแข็งไปหมดแล้วก็บิดคอไปมา พลางตั้งมั่นในใจว่าคงจะต้องไปกวดขันกองทัพที่ตอนนี้คงกำลังเบื่อหน่ายหย่อนยานกันอยู่สักหน่อย
ในจังหวะนั้นเอง
“รองผู้บังคับบัญชาสเตซีคะ!”
“มีอะไรรึ”
“คือว่า……มีแขกมาขอพบแม่ทัพริกฮาร์ดน่ะค่ะ”
“แขกงั้นรึ?”
‘ช่างน่าแปลกเสียจริง’ สเตซีขมวดคิ้ว
ที่แนวหน้าสุดของการรบแบบนี้ มันแทบจะไม่มีการเข้าเยี่ยมกันอยู่แล้ว ต่อให้อยู่ในสภาวะคงตัวและมีกองอัศวินประจำการอยู่ก็ตาม แต่มันก็ไม่เปลี่ยนความจริงว่าที่นี่คือสมรภูมิ หาได้ยากยิ่งที่จะมีใครที่ถ่อมายังสมรภูมิเช่นนี้ด้วยตนเองโดยไม่มีเหตุจำเป็น
แถมแขกนั้นยังมาเพื่อเข้าพบแม่ทัพอีก ยิ่งแปลกเข้าไปใหญ่
“อย่าปล่อยให้ผ่านเข้ามาล่ะ อาจเป็นสายลับของข้าศึกก็ได้”
“แต่ว่า……”
“แม่ทัพริกฮาร์ดคือผู้บังคับบัญชาสูงสุด จะปล่อยให้พบกับคนนอกมั่วซั่วไม่ได้ มีโอกาสที่เขาจะตกเป็นเป้าของการลอบสังหารอยู่”
“รับทราบแล้วค่ะ จะบอกปฏิเสธไปว่าแม่ทัพกำลังยุ่งอยู่ก็แล้วกันนะคะ”
“ฝากด้วยล่ะ”
สเตซีสนทนาโต้ตอบกับเจ้าหน้าที่ระดับล่างเช่นนั้น แล้วก็พยักหน้า
ต่อให้เกิดอะไรขึ้นกับริกฮาร์ด กองอัศวินวิหคดำก็ไม่ได้อ่อนแอขนาดที่จะล่มสลายลงไป เกรงว่าต่อให้ริกฮาร์ดล้มไประหว่างการรบ รองผู้บังคับบัญชาก็คงสามารถรับช่วงบัญชาการทัพทั้งหมดต่อได้
ทว่า ความตายของแม่ทัพก็ย่อมสร้างผลกระทบที่ไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นเธอจึงไม่อาจปล่อยให้สิ่งอันตรายอย่างเช่นแขกจากภายนอกมาเข้าพบแม่ทัพได้
ในฐานะทหารแล้ว นี่เป็นการตัดสินใจที่ปกติธรรมดามาก
“เอาล่ะ……ไปต่อเลยแล้วกัน”
สเตซีไม่รู้เลย
ว่าผู้ที่มาเยี่ยมริกฮาร์ดในวันนี้ ก็คือหนึ่งในน้องสาวที่รักสุดชีวิตของริกฮาร์ด น้องสาวสามลิลิธ ซึ่งหลังจากได้ไปเยี่ยมเฮเลนาผู้เป็นพี่สาวมาก็เลยกะว่าจะแวะมาดูหน้าพี่ชายสักหน่อยนั่นเอง—
หลายวันให้หลัง
“สเตซี แก—!!!”
“หา? เป็นอะไรไปคะ แม่ทัพริกฮาร์ด”
“ดูนี่ซะ—!!”
สิ่งที่ริกฮาร์ดซึ่งอยู่ ๆ ก็บุกเข้ามาในลานฝึกซ้อมของกองอัศวินหมาป่าเงินอย่างกะทันหันได้แสดงให้ดูนั้น คือกระดาษแผ่นหนึ่ง
นั่นมันน่าจะเป็นจดหมายจากลิลิธหนึ่งในน้องสาวที่เขารักยิ่งกว่าใคร ซึ่งเพิ่งจะส่งถึงมือเขาในวันนี้เองนี่นา สเตซีจำได้เพราะว่าเธอเป็นคนนำมันไปส่งให้กับเขาด้วยตนเอง
ดังนั้นก็นึกว่าวันนี้เขาจะอารมณ์ดีซะอีก
“หืม……เอ่อ”
“แกเองสินะ! ที่บังอาจบอกว่าอย่าปล่อยให้แขกเข้ามาหาข้าน่ะ!!!”
“ค่ะ ก็ใช่นะคะ อย่างนี้นี่เอง ไม่นึกเหมือนกันว่าน้องสาวจะมาเยี่ยมแบบนี้”
เนื้อหาที่เขียนอยู่ในจดหมาย—มันคือสิ่งที่ร้ายแรงมากพอจะทำให้ริกฮาร์ดสั่นสะท้าน
ลายมือสวย ๆ ที่ไม่มีจุดเด่นอะไรของลิลิธเขียนไว้ว่า “ก่อนหน้านี้ข้าแวะไปดูหน้าคุณพี่ชายที่ป้อมปราการมา แต่โดนบอกมาว่าดูเหมือนจะเข้าพบไม่ได้ล่ะ ถึงจะไม่ได้เจอกันแต่ก็พยายามเข้านะคะคุณพี่ชาย” ซึ่งก็ไม่แปลกที่ริกฮาร์ดอ่านแล้วจะเดือดดาล
“อย่างนี้นี่เอง”
“คงจะเตรียมใจไว้แล้วใช่ไหม—!! สเตซี!!”
“อ่า ก็เข้าใจดีแล้วล่ะค่ะ”
ไหน ๆ การฝึกก็กำลังหย่อนยานกันอยู่พอดี
จังหวะนี้ขอยืมแรงผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของจักรวรรดิสักหน่อยก็แล้วกัน
สเตซีตัดสินใจเช่นนั้น แล้วก็ถอยห่างจากริกฮาร์ดอย่างรวดเร็ว ไปหลบอยู่ด้านหลังของกองอัศวินหมาป่าเงิน
“สเตซี! ข้าจะฆ่าแก!!”
“เอาล่ะพวกเจ้า จากนี้ไปเราจะเริ่มการฝึกซ้อมต่อสู้จริงกัน! แปดยอดขุนศึกมารับบทเป็นคู่ต่อสู้ให้แบบนี้ไม่ได้มีบ่อย ๆ หรอกนะ! เป็นโอกาสดีที่จะได้ยืมมือช่วยฝึกซ้อม!”
“ค่ะ!”
“หลีกไปว้อยย—!!”
และแล้ว ในวันนี้ก็ได้เกิดการฝึกฉุกเฉิน ที่สมาชิกกองอัศวินหมาป่าเงินทุกคนช่วยกันหยุดยั้งริกฮาร์ดผู้กำลังเดือดดาล
การฝึกที่จัดขึ้นเป็นการฉุกเฉินนี้ช่วยสร้างโอกาสในการรับชมฝีมือของผู้อยู่ในจุดสูงสุดแห่งยุทธที่ชื่อว่าแปดยอดขุนศึกแบบใกล้ชิด รวมทั้งเปิดโอกาสในการเรียนรู้จากฝีมือยุทธดังกล่าวอีกด้วย
เพราะเรื่องในคราวนี้ การฝึกของกองอัศวินหมาป่าเงินก็เลยพัฒนามากขึ้นและยกระดับฝีมือของเหล่าทหารไปอีกขั้น มันได้ผลดีจนมีบางคนออกความเห็นว่าจากนี้ไปควรจะจัดแบบนี้กันเป็นประจำเลยดีกว่า—แต่นั่นมันก็เป็นแค่เรื่องของวันหลังแล้วล่ะ