“อืมม์……”
เฮเลนาตื่นขึ้นมาตั้งแต่ตอนที่ฟ้ายังมืดอยู่
เมื่อคืนสรุปแล้วเธอก็นอนหลับไปตั้งที่ไม่ได้รับประทานอะไร ความรู้สึกหิวกับไม่สบายตัวมันเริ่มจะผุดขึ้นมาพร้อมกันจากส่วนลึกของกระเพาะ ยิ่งไปกว่านั้นเพราะนอนไปโดยไม่ได้อาบน้ำ เส้นผมจึงยุ่งเหยิงกระเซอะกระเซิงไปหมด
ซ้ำร้าย เพราะดันไปไม่ถึงเตียงแต่นอนหลับไปบนพื้นแทน ถึงจะเป็นบนพื้นพรมที่นุ่มนิ่มแต่ก็ยังรู้สึกได้ว่าเจ็บตามข้อนูนของกระดูก
เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้น
และตอนนั้นเอง—ก็ไม่รู้ว่าทำไมใบหน้าของอเลกเซียมันถึงอยู่ใกล้สุด ๆ
“……เอ๋?”
ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน แต่เฮเลนากำลังกอดอเลกเซียอยู่
เกรงว่าเธอคงจะนอนหลับทั้งที่กอดอเลกเซียเอาไว้กระมัง ส่วนทางด้านอเลกเซียเองก็หลับอยู่ จึงยังไม่รู้สึกถึงเฮเลนา
ทว่า ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี
ว่าทำไมเธอถึงได้มากอดอเลกเซียอยู่แบบนี้ได้กัน
“ฮืม……”
“……อืมม์”
เธอลูบผมของอเลกเซียเบา ๆ
เฮเลนาไม่รู้ตัว แต่คงเป็นเพราะดื่มสุราไปไม่น้อยแม้จะเป็นสุราอ่อน ๆ ก็ตาม มันจึงทำให้เธอต้านทานความง่วงไม่ไหว ยิ่งไปกว่านั้น ยังไปดื่มสุราในสภาพที่ไม่ได้รับประทานอะไรเลยมาตั้งแต่เช้า ท้องว่าง ๆ สุราจึงยิ่งออกฤทธิ์แรงเข้าไปอีก
ดังนั้นเธอถึงได้ทำอะไรแปลก ๆ อย่างการหลับไปทั้งที่กอดอเลกเซียเอาไว้แบบนี้
เมื่อคืน—หลังจบงานราตรีก็จำอะไรไม่ค่อยได้ แต่ก็ยังนึกออกว่าตอนที่เฮเลนากลับห้องมาก็เจออเลกเซียอุตส่าห์รอต้อนรับอยู่
แปลว่าเฮเลนานั้น
พอกลับมาถึงห้องก็รู้สึกโล่งใจสุด ๆ จนทิ้งตัวใส่อเลกเซียแล้วก็หลับไปทั้งแบบนั้นนั่นเอง
จะคิดยังไงเฮเลนาก็ผิดเต็ม ๆ
ถึงกระนั้น จะให้กอดอเลกเซียแบบนี้ต่อไปตลอดก็รู้สึกผิด เธอจึงค่อย ๆ ถอนตัวออกมาอย่างช้า ๆ พยายามไม่ให้อเลกเซียตื่น
หลังจากนั้น เธอก็โอบที่ไหล่และหัวเข่าของอเลกเซีย ยกร่างขึ้น และจับให้ไปนอนบนเตียง
เฮเลนาตื่นนอนเวลานี้เป็นปกติอยู่แล้ว แต่สำหรับอเลกเซียนี่มันน่าจะยังเช้าเกินไป
ยิ่งไปกว่านั้น ยังรู้สึกผิดที่ทำให้เธอต้องมานอนบนพื้นเพราะเฮเลนาด้วย เฮเลนานั้นเคยตั้งค่ายกลางป่าเขาจนชินกับการนอนอัดเป็นปลากระป๋องกันอยู่แล้ว แต่กับอเลกเซีย ถึงเธอจะเป็นนางกำนัลรับใช้แต่ก็ยังเป็นบุตรีตระกูลขุนนางไวส์เคานต์ คงจะไม่เคยมีประสบการณ์อย่างการนอนบนพื้นเป็นแน่
“เอาล่ะ”
เมื่อจัดแจงให้อเลกเซียนอนไปแล้ว ก็ถึงเวลาของการฝึกฝนประจำวัน
ก่อนอื่นเริ่มจากเบา ๆ ก่อน โดยเฮเลนาได้เริ่มต้นวิดพื้น ส่งเสียง ‘ฮึบฮึบ’ แค่เพียงในใจ พลางขยับแขนอย่างต่อเนื่อง
เพราะเพิ่งจะตื่นนอนจึงรู้สึกว่าร่างกายมันเคลื่อนไหวทื่อ ๆ แต่เรื่องนี้มันก็ช่วยไม่ได้นั่นแหละ ก่อนอื่นก็ต้องทำให้ร่างกายตื่นซะก่อน
แม้สถานการณ์มันจะแปลกประหลาดกว่าปกติตรงที่มีอเลกเซียนอนหลับอยู่บนเตียง แต่เฮเลนาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเป็นพิเศษและยังฝึกฝนร่างกายต่อไป
เมื่อวิดพื้นจบแล้ว ต่อไปก็เป็นการฝึกกล้ามท้อง แม้กล้ามเนื้อหน้าท้องของเฮเลนาจะผ่านการขัดเกลามาจนแน่นปึ้กแล้ว แต่การฝึกฝนนั้นยิ่งทำซ้ำไปมามากเท่าไหร่ก็ยิ่งกลายเป็นพลังได้มากเท่านั้น
แม้เธอจะฝึกวิดพื้น ฝึกกล้ามท้อง และสควอตอยู่เป็นประจำ แต่กล้ามเนื้อที่รับภาระในการฝึกนั้นมันก็เป็นกล้ามเนื้อเดิม ๆ ตลอด แม้จะเรียกว่ากล้ามเนื้อท้องเหมือนกัน แต่อันที่จริงวิธีการฝึกฝนกล้ามเนื้อท้องด้านหน้ากับกล้ามเนื้อท้องด้านข้างมันก็ย่อมแตกต่างกัน
หากมีดัมเบลหรือบาร์เบลที่มีระดับความหนักแตกต่างกัน หรือไม่ก็มีม้านั่งออกกำลังกายให้ใช้งาน ก็คงจะสามารถฝึกฝนแบบปรับระดับตามพละกำลังของแต่ละคนได้
ถึงกระนั้น เฮเลนาก็ไม่มีเงินที่จะไปจัดเตรียมอุปกรณ์อะไรแบบนั้น
แม้เธอจะได้เงินมาไม่น้อยสมัยอยู่ในกองทัพ แต่ส่วนใหญ่แล้วมันก็หายไปกับการร่ำสุราทุกเย็นค่ำและการจัดเตรียมอาวุธชุดเกราะของตนเองไปหมดแล้ว แม้ความจริงกองทัพจะมีอาวุธยุทโธปกรณ์แจกจ่ายให้คนในสังกัดอยู่แล้ว ทว่าหากไม่อยากใช้ของแจกแต่อยากใช้ของรักคู่ใจของตนเอง ก็มีแต่ต้องซื้อด้วยเงินตัวเองเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้นการซ่อมบำรุงก็ยังมีค่าใช้จ่าย แล้วก็ไม่ใช่ว่ามันจะใช้งานต่อไปได้ตลอดกาลด้วย ถ้าจะให้พูดแบบสุดโต่งก็เรียกว่ามันเป็นสินค้าอุปโภคอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้
ลองไปอ้อนขอฟาร์มาสดูดีไหมนะ—เฮเลนาอดไม่ได้ที่จะคิดเช่นนั้นในชั่ววูบ
“อืมม์……”
ระหว่างที่คิดเช่นนั้น อเลกเซียก็ส่งเสียงขึ้นเบา ๆ
แม้เฮเลนาจะตั้งใจไม่ให้หนวกหู แต่ตอนนี้ท้องฟ้าก็เริ่มจะสว่างแล้ว บางทีอเลกเซียคงจะตื่นในเวลาประมาณนี้เป็นปกติอยู่แล้วกระมัง
แม้ปกติแล้วเฮเลนาจะฝึกจนกว่าอเลกเซียจะมาถึงห้อง แต่วันนี้ขอแกล้งคืนสักนิดหน่อยแล้วกัน เธอยิ้มเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้น
มันคือสิ่งที่เธอทำให้ฟาร์มาสอยู่เสมอ
เธอจะลองยื่นน้ำชาให้อเลกเซียที่เพิ่งจะตื่นนอนดู
เฮเลนาเข้าครัวไปตั้งไฟที่กาต้มน้ำ จากนั้นก็ชงชาด้วยน้ำที่เดือดและเย็นลงจนอุ่นกำลังดี
อันดับแรกให้ดื่มชาอุ่น ๆ ให้ชุ่มคอก่อน จากนั้นก็ค่อยให้ดื่มชาร้อน ๆ ซึ่งสามารถรับรสชาติได้ชัดเจน วิธีการดื่มแบบนี้ฟาร์มาสเองก็โปรดปราน
“อืมม์……อ เอ๋? นี่ข้า……”
“อรุณสวัสดิ์ อเลกเซีย”
“เอ๋……ท่านเฮเลนา……ท่านเฮเลนา!?”
อเลกเซียทำหน้าเหมือนจะร้อง ‘กึ๋ย’ พลางลุกพรวดขึ้นมา
มันก็สมควรอยู่หรอก
ตามความเป็นจริง แม้อเลกเซียจะเป็นนางกำนัลติดห้องแต่ก็ไม่ใช่ผู้ที่อาศัยอยู่ในห้องนี้ แม้จะมีบางครั้งที่อยู่ในห้องตั้งแต่เฮเลนาตื่นจนกระทั่งเข้านอน แต่ด้วยบรรดาศักดิ์ของเธอแล้วก็ไม่สมควรนอนค้างในห้องนี้อย่างเด็ดขาด
ทั้งที่เป็นแบบนั้น แต่พอตื่นมาดันเจอเฮเลนาอยู่เช่นนี้ ก็ช่วยไม่ได้ที่เธอจะตกใจ
“เอาน่า ก่อนอื่นดื่มชาสักหน่อยไหม?”
“ค คะ? ท ทำไมข้าถึง……”
“นั่งก่อนเถอะ”
ดูเหมือนอเลกเซียจะยังสับสนอยู่
เมื่อคืน แม้จะแค่เล็กน้อยแต่เฮเลนาก็ยังจำได้ว่าเธอหลับไปทั้งที่กอดอเลกเซียเอาไว้ ดังนั้นอเลกเซียก็คงไม่มีทางลืมแน่ ตอนนี้เธอแค่ยังสับสนอยู่ก็เท่านั้น
เธอจะต้องจำได้แน่
แล้วเฮเลนาก็จะต้องโดนดุแน่
นึกภาพอนาคตนั้นออกได้ง่าย ๆ เลย
ทว่าตอนนี้อเลกเซียก็ยังตาปรือ และไปนั่งลงที่โซฟาตามคำบอกของเฮเลนา
ตอนนั้นเองเฮเลนาก็ได้เสิร์ฟชาอุ่น ๆ เพื่อให้เธอได้ดื่มให้ชุ่มคอก่อน
อเลกเซียดื่มมันลงไปโดยที่ไม่ปฏิเสธ จากนั้นก็เป่าลมหายใจออกมาเบา ๆ
“……ม ไม่สิคะ ที่สำคัญกว่านั้น!”
“เอ้า เสร็จแล้วก็ลองดื่มอันนี้ด้วยสิ”
“อุ……อะ ค่ะ”
อเลกเซียรับชาอีกถ้วยหนึ่งไป—ตามที่เฮเลนาบอก
แม้ตอนแรกก็ดูเหมือนเธอจะตกใจกับความร้อนของชาถ้วยนี้พอสมควรก็ตาม
เฮเลนาซดชาสองคนกับอเลกเซียเสียงดัง ‘ซู้ด—’
ดูเหมือนว่ายังไงน้ำชาก็ต้องดื่มแบบร้อน ๆ เพื่อให้รับรสได้จริง ๆ นั่นแหละ แม้ในหน้าร้อนอาจจะอยากดื่มของเย็น ๆ แต่ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงต้นของฤดูใบไม้ผลิ แถมยังเป็นตอนเช้าอยู่ อากาศจึงเย็นอยู่ไม่น้อย
ถึงแม้อันที่จริงเฮเลนาจะได้ออกกำลังกายเบา ๆ ไป จนตอนนี้มีเหงื่อกำลังดีผุดบนหน้าผากแล้วก็เถอะ
“อร่อยดีเนอะ อเลกเซีย”
“น นั่นสินะคะ……”
จากนั้นทั้งสองก็ดื่มชาต่อไปโดยไม่ได้เอื้อนเอ่ยวาจา
แม้อเลกเซียจะเอียงศีรษะอย่างฉงนพลางมองเฮเลนาแบบประหลาดใจอยู่หลายต่อหลายครั้งก็ตาม
“……ห้ะ!”
ตอนนั้นเอง ดูเหมือนว่าในที่สุดเธอก็จะทำความเข้าใจสถานการณ์ทันแล้ว
พอตื่นเช้าขึ้นมา ก็นอนหลับอยู่ที่ห้องของเฮเลนา แล้วก็มาดื่มชาแบบนี้ ไม่ว่าจะคิดยังไงก็ไม่ใช่สิ่งที่อเลกเซียจะทำในยามปกติเลย
และเมื่อนำมาประกอบกับความผิดพลาดของเฮเลนาเมื่อคืน มันก็ย่อมนำไปสู่คำตอบที่ถูกต้องจนได้
“ท่านเฮเลนา!”
“ขอโทษค่ะ”
“……ไม่สิ ข้ายังไม่ได้พูดอะไรเลยนะคะ”
ต้องชิงขอขมาก่อน
ไม่ว่าจะคิดยังไงเฮเลนาก็ผิดเต็ม ๆ ดังนั้นนอกจากขอโทษก็ทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว
“เฮ้อ……ชักหิวซะแล้วสิคะ เพราะเมื่อคืนดันนอนหลับไปโดยไม่ได้รับประทานอาหารเย็นเลย”
“ข้าก็เหมือนกัน”
“คิดว่ามันเป็นเพราะใครกันล่ะคะ”
เฮเลนาหลบตา
ดูเหมือนอเลกเซียจะเข้าใจสถานการณ์โดยสมบูรณ์แล้ว
ว่าเป็นเพราะเธอโดนเฮเลนากอดล็อกไว้จึงไม่สามารถกลับไปได้ จำใจต้องใช้เวลาหนึ่งคืนอยู่ในห้องนี้
“เอาเถอะ ก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ……”
“งั้นรึ?”
“แม้นอนพื้นจะเจ็บร่างกายนิดหน่อย แต่ก็ถือว่าประหยัดเวลาที่จะต้องเดินทางจากเรือนพักของนางกำนัลมายังห้องของท่านเฮเลนาได้ค่ะ อย่างไรก็ไม่ใช่ว่ามีคนที่รอข้ากลับไปอยู่เสียหน่อย”
“เช่นนั้นข้าเองก็ไม่ถือหรอกนะ เวลาที่ฝ่าบาทไม่ได้มาเสด็จมาเจ้าจะนอนค้างบ้างก็ได้”
“……นั่นสินะคะ”
อเลกเซียมองดูเฮเลนา
จากนั้นก็ยักไหล่แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา
“ไม่สิ……ไม่เอาดีกว่าค่ะ”
“หืม? ทำไมล่ะ?”
“เปล่าหรอกค่ะ จะให้มีข่าวลือแปลก ๆ ก็ไม่ได้ด้วย”
“หมายความว่าไงกันน่ะ?”
“ถ้าไม่เข้าใจ ท่านเฮเลนาก็เป็นแบบนั้นของท่านต่อไปดีแล้วล่ะค่ะ”
‘ไม่เข้าใจสักนิด’ เฮเลนาเอียงศีรษะอย่างฉงนให้กับคำพูดของอเลกเซีย
แค่ให้อเลกเซียมาค้างมันจะไปมีปัญหาอะไรได้ยังไงกัน
ทว่าอเลกเซียก็เมินความสงสัยนั้นของเฮเลนาและลุกขึ้นยืน
“เอาล่ะ ไหน ๆ วันนี้ก็ต้องขอบคุณท่านเฮเลนาที่เริ่มงานได้เร็วขึ้นเล็กน้อยแล้ว”
“หืม?”
“ต้องขอบคุณท่านเฮเลนาวันนี้ก็เลยสามารถเริ่มงานได้เร็ว ดังนั้นวันนี้จะตั้งใจกว่าทุกทีหน่อยนะคะ”
“……อ อืม”
อเลกเซียกล่าวด้วยแววตาที่ไม่ได้ยิ้มแย้ม ทว่าปากนั้นกลับฉีกยิ้มจนเหมือนจันทร์เสี้ยว
จากนั้นเธอก็ยืดข้อนิ้วมือดัง ‘กร๊อบ’
“เอาล่ะ”
“อ อืม?”
“ก่อนอื่น โปรดถอดชุดเดรสนั่นออกค่ะ หลังจากนั้นก็อาบน้ำกันดีกว่า มีเวลาเลือกชุดที่จะใส่เหลือเฟือเลยนะคะ วันนี้ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วอยากจะขอให้ข้าได้จัดทรงผมให้ท่านด้วยค่ะ แล้วก็อยากจะขอแต่งหน้าให้ด้วยนะคะ อุปกรณ์แต่งหน้านั้นข้ามีอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ต้องกังวลไปเลยค่ะ”
เฮเลนาได้เตรียมใจแล้ว
ว่าต่อจากนี้ เธอจะต้องได้กลายเป็นตุ๊กตาแต่งตัวของอเลกเซียไปเป็นเวลายาวนานแน่ ๆ