(นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ – ตอนที่ 93

 

จะอย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นเฮเลนาก็จัดการฝึกให้กับทั้งสี่คนแค่เฉพาะช่วงเช้า แล้วก็เลิกการฝึก ณ ตรงนั้น

อนึ่ง ภาพวาดที่มีเฮเลนาเป็นแบบนั้น สุดท้ายเธอก็ไม่ได้ดูมัน สารรูปของเธอในตอนนี้แค่จะมองตัวเองยังไม่อยากจะมอง เรื่องอะไรเธอจะต้องลงทุนไปดูมันในภาพวาดด้วยล่ะ

จากนั้นเฮเลนาก็กลับมาที่ห้อง จากนั้นก็รับประทานอาหารเที่ยงอันเย็นชืดที่อเลกเซียนำมา

 

และแล้ว เธอก็ว่าง

 

“……ไม่มีอะไรทำเลยแฮะ”

 

“เมื่อไม่นานมานี้เพราะมีงานพิธีไว้อาลัยครบรอบหนึ่งปีก็เลยไม่มีเวลาว่างได้พักผ่อนเลยด้วยสินะคะ”

 

“อ่า”

 

ไม่ว่าจะเป็นบทเรียนจากลูเครเซียในช่วงบ่ายหรือการฝึกซ้อมเต้นรำ เมื่อไม่นานมานี้เธอยุ่งมากทีเดียว

ดังนั้น พอได้มีช่วงบ่ายที่ไม่จำเป็นต้องทำอะไรขึ้นมาหลังจากไม่มีมานาน จึงรู้สึกว่ามีเวลาล้นเหลือซะงั้น

ที่สำคัญ เฮเลนาไม่มีงานอดิเรกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงยิ่งมีเวลาว่างล้นมือเข้าไปใหญ่

 

“เช่นนั้น ช่วงบ่ายจะทำอะไรดีคะ”

 

“ฮืม……”

 

ไม่ต้องทำอะไรอย่างซ้อมเต้นรำ แล้วก็ไม่จำเป็นต้องเรียนมารยาทชายาเอกแล้วด้วย

ไม่มีนัดงานเลี้ยงน้ำชากับใครเข้ามา ส่วนฟาร์มาสถ้าจะมาก็ต้องเป็นหลังจากอาหารมื้อเย็นไปแล้ว

แปลว่า

 

“ดีล่ะ”

 

“จะทำอะไรหรือคะ?”

 

“ฝึกวิชาดีกว่า”

 

“ก็นั่นสินะคะ”

 

อเลกเซียพยักหน้าราวกับว่าเข้าใจวงจรความคิดของเฮเลนาหมดแล้ว

ซึ่งมันก็แน่นอน อย่างน้อยที่สุดเท่าที่อเลกเซียได้เห็นมา การเปลี่ยนอิริยาบทและฆ่าเวลาที่ดีที่สุดสำหรับเฮเลนาก็คงหนีไม่พ้นการฝึกวิชานั่นเอง

 

“เช่นนั้นจะฟันดาบไหมคะ? หรือว่าจะวิดพื้นคะ? หรือว่าจะฝึกกล้ามท้องอย่างผิดศีลธรรมด้วยท่ายกขาโชว์กางเกงชั้นในนั่นดีคะ?”

 

“อย่าใช้วิธีเรียกแปลก ๆ แบบนั้นดิ”

 

“ก็เป็นความจริงนี่คะ”

 

สำหรับอเลกเซียแล้ว ดราก้อนแฟล็กที่เฮเลนาทำนั้นเป็นการฝึกที่ชวนฉงนใจมาก

อย่างน้อยที่สุด หากเปลี่ยนเป็นตัวอเลกเซียเอง เธอก็คิดว่าเธอคงไม่สามารถทำมันได้แม้แต่ครั้งเดียวด้วยซ้ำ

การยกขาขึ้นจนเหมือนกับยืนกลับหัว จากนั้นก็ค่อย ๆ หย่อนขาลงมาโดยไม่ให้ขาแตะพื้น แล้วก็ยกมันกลับขึ้นไปอีกครั้ง—การมีกล้ามเนื้อหน้าท้องที่ทำเรื่องแบบนี้ได้มันผิดปกติขนาดไหน เฮเลนานั้นคงจะไม่เข้าใจเป็นแน่

แต่ก็เพราะอย่างนั้นกระมัง เฮเลนาถึงได้มีกล้ามท้องขนาดที่ทำให้ลูเครเซียพูดไม่ออก

 

“เอาเถอะ……จะฟันดาบก็แล้วกัน”

 

“เช่นนั้นก็ไปสวนระหว่างอาคารกันค่ะ ข้าจะติดตามไปด้วย”

 

“เข้าใจแล้ว”

 

เฮเลนาถือดาบเล่มใหญ่ที่ได้รับเป็นของขวัญมาจากฟาร์มาส แล้วก็ออกไปนอกห้อง

มุ่งไปยังสวนระหว่างอาคารซึ่งเธอใช้ชี้แนะฝึกสอนให้กับฟรองซัวส์ คลาริสซา มาริเอลสามคนอยู่เป็นประจำ

เกรงว่าป่านนี้สามคนนั้นคงจะกำลังพักผ่อนอยู่ที่ห้องกระมัง ได้ฝึกวิชาคนเดียวหลังไม่ได้ทำมานานก็ไม่เลวเหมือนกัน

 

เมื่อมาถึงสวนระหว่างอาคารพร้อมกับอเลกเซีย อันดับแรกเธอก็ยกดาบขึ้นมา

ต่อให้มีพละกำลังระดับเฮเลนาก็ตาม แต่กับดาบเล่มนี้ซึ่งมีน้ำหนักพอสมควรนั้น การเคลื่อนไหวแรกก็ยังทำได้อย่างเชื่องช้า แต่หากทำให้มันเคลื่อนไหวครั้งแรกได้แล้ว หลังจากนั้นก็จะสามารถร่ายดาบโดยปล่อยมันให้ไหลไปตามแรงเหวี่ยงได้

‘เอาล่ะ’ เฮเลนารวบรวมสมาธิ แล้วก็จับดาบตั้งท่า

 

ในตอนนั้นเอง

 

“……ยังทำซ้ำซากเหมือนเดิมอยู่อีกนะเจ้าคะ”

 

ไม่รู้ทำไม—ชาร์ลอตเตถึงมาอยู่ที่นั่นเพียงลำพัง

เธอไม่ได้พากลุ่มลิ่วล้อมาด้วยเหมือนทุกครั้ง และแม้กระทั่งสาวใช้ก็ไม่ได้อยู่ด้วย การได้เห็นชาร์ลอตแบบนี้นับว่าเป็นเรื่องแปลกตามากทีเดียว

‘ฮืม’ เฮเลนาขมวดคิ้ว

ทว่าอย่างไรก็ตาม เฮเลนาก็ตัดสินใจเมินเธอไปก่อน มันเป็นการฉลาดมากกว่าที่จะไม่ไปสนใจชาร์ลอตเต

ขืนไปยุ่งด้วยแบบมั่วซั่วแล้วโดนล้อเรื่องชุดที่ใส่อยู่นี่ก็แย่น่ะสิ

 

“พระสนมฟ้าจันทราคะ พระสนมฟ้าสุริยากำลังจะฝึกวิชา……”

 

“แล้วดิฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้หรือไงเจ้าคะ?”

 

“เปล่าค่ะ ไม่ได้หมายความเช่นนั้น……”

 

อเลกเซียลองพูดบอกดู แต่ดูเหมือนชาร์ลอตเตนั้นตั้งใจที่จะดูการฝึกของเฮเลนา

บางทีชาร์ลอตเตเองอาจอยู่คนเดียวว่าง ๆ อยู่เหมือนกันก็เป็นได้

หากไม่ได้คิดจะมาเกะกะ งั้นก็ตามใจเถอะ

เฮเลนาประเมินเช่นนั้น แล้วเริ่มวางเนื้อหาการฝึกของวันนี้

 

การฝึกซ้อมต่อสู้กับภาพจินตนาการที่แจ่มชัด คือวิธีฝึกพื้นฐานของเฮเลนาในยามที่ได้จับดาบ

แม้บางครั้งเธอจะฝึกท่าพื้นฐานซ้ำ ๆ ด้วย แต่จะมองว่าส่วนใหญ่แล้วฝึกด้วยการฝึกซ้อมต่อสู้ก็ได้กระมัง

แม้จะมีจุดด้อยที่ว่าอย่างไรมันก็เป็นเพียงภาพจินตนาการ แต่ในทางกลับกันก็มีข้อดีว่าไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธที่ลบคมหรืออาวุธสำหรับฝึกซ้อมก็ได้

 

“เอาล่ะ”

 

จำลองจินตนภาพที่ตกค้างอยู่ในใจขึ้นมาใหม่อย่างสมจริงและชัดเจนที่สุด

ภาพที่เธอวาดขึ้นมาไม่ใช่ทั้งผู้ที่ต่อสู้ราวกับสัตว์ป่าดุร้ายอย่าง ‘ขุนศึกหมีน้ำเงิน’ บาร์โตโลเม เบอร์การ์ซาร์ด, ไม่ใช่ผู้ที่ยืนอยู่บนสุดยอดความเชี่ยวชาญในฐานะมนุษย์อย่างอดีต ‘ขุนศึกพยัคฆ์แดง’ เกรเดีย โรมุลุส, ไม่ใช่ผู้ที่เคลื่อนไหวของคนและม้าเป็นหนึ่งเดียวอย่าง ‘ขุนศึกอาชาขาว’ ลุดวิก เออร์เนมันน์ที่ขึ้นบนหลังม้า, ไม่ใช่พลธนูแกร่งร้อยดอกไม่พลาดเป้าอย่าง ‘ขุนศึกวิหคดำ’ ริกฮาร์ด เรลโนต—แต่เป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดที่เอาชนะตัวตนทั้งหมดนั้นได้อย่างง่ายดาย

ตัวตนที่เฮเลนายังบรรลุไปไม่ถึงแม้กระทั่งปลายเท้าด้วยซ้ำ

 

มารดาผู้แข็งแกร่งที่สุด—อดีต ‘ขุนศึกหมาป่าเงิน’ เรย์ลา เรลโนต

 

เรย์ลานั้นตัวเตี้ยกว่าเฮเลนา ส่วนสูงประมาณไล่เลี่ยกับลิลิธเท่านั้น

ทั้งที่เป็นเช่นนั้น แต่ในมือทั้งสองข้างของเธอกลับถือดาบยาวซึ่งสั้นกว่าดาบใหญ่ของเฮเลนาเพียงเล็กน้อยเอาไว้ข้างละเล่ม

มันเป็นอาวุธที่ปกติแล้วนักรบจะต้องใช้งานโดยจับเอาไว้ด้วยสองมือพร้อมกัน

ทว่ามารดาผู้นี้กลับสามารถใช้งานมันได้อย่างอิสระ ประหนึ่งเป็นส่วนเดียวกับแขนของตนเอง

 

“ฮ่ะ!”

 

เมื่อเผชิญหน้ากับมารดา เฮเลนาก็นึกภาพตอนที่ตัวเองชนะไม่ออกเลยแม้สักนิดเดียว

มารดาผู้แข็งแกร่งขนาดที่ต่อให้เฮเลนา อัลเบรา ลิลิธสามคนช่วยกันรุม ก็ยังเอาชนะได้อย่างง่ายดาย

สตรีผู้ที่ทั้งชั่วชีวิตเคยพ่ายแพ้เพียงแค่สองครั้งเท่านั้น—

 

เฮเลนายกดาบขึ้นและมุ่งเข้าประชิดเรย์ลา

หากคู่ต่อสู้คือมารดา ลูกเล่นจิ๊บจ๊อยก็ไม่มีผลอะไรทั้งนั้น เรย์ลามีสัมผัสที่หกอันแกร่งกล้าถึงขั้นที่สามารถปัดลูกธนูซึ่งยิงมาจากมุมอับสายตาได้โดยไม่ต้องหันไปมองด้วยซ้ำ อย่างน้อยที่สุดหากเปลี่ยนเป็นเฮเลนา เธอก็คงจะไม่รู้ตัวจนกระทั่งมันเข้ามาถึงระยะที่จวนตัวแล้วก็หลบได้แค่แบบฉิวเฉียดที่สุดเท่านั้นเอง

ดังนั้น วิธีต่อสู้ที่เธอจะใช้จึงเรียบง่ายอย่างมหันต์—

 

เพียงจู่โจมใส่ด้วยการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเฮเลนาเท่านั้น

 

ดาบใหญ่ที่ฟาดลงไปอย่างสุดเรี่ยวแรงนั้นถูกหลบหลีกได้อย่างง่ายดาย

เธอจึงเปลี่ยนไปฟันกวาดแนวขวางอย่างลื่นไหลตามกระแสเพื่อโจมตีซ้ำ ทว่าในตอนนั้นมารดาก็ไม่ได้อยู่ ณ ที่ตรงนั้นอีกแล้ว

ในช่องว่างเพียงชั่วขณะ ร่างนั้นก็ได้เข้ามาอยู่ในมุมบอดของเฮเลนา

แน่นอนว่าเฮเลนาเองก็ไม่ได้คิดแต่แรกแล้วว่าการโจมตีแค่นี้จะสามารถจัดการกับมารดาได้

 

เธอหมุนตัวฟาดดาบออกไปอย่างสุดแรงเกิด ใช้ความร้ายกาจที่สุดของดาบใหญ่ซึ่งก็คือความยาวของมัน

แม้จะคาดหวังกับความคมได้ไม่มากนัก แต่มันก็สามารถเสริมแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ได้ ส่งผลให้เมื่อเข้าเป้ามันก็จะมีพลังมากพอที่จะดีดศัตรูให้กระเด็นไปได้เลยทีเดียว และยิ่งเป็นกระบวนท่าที่ใช้ร่างกายทั้งร่างประสานกันก็ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง

ด้วยกำลังแขนที่ได้ขัดเกลามาอย่างถึงที่สุด

ด้วยกล้ามเนื้อหน้าท้องที่ได้ขัดเกลามาอย่างถึงที่สุด

ด้วยกล้ามเนื้อแผ่นหลังที่ได้ขัดเกลามาอย่างถึงที่สุด

ด้วยกำลังขาที่ได้ขัดเกลามาอย่างถึงที่สุด

ความแข็งแกร่งทั้งหมดที่เฮเลนามี ได้ถูกเชื่อมโยงไปสู่การเคลื่อนที่ของดาบใหญ่—

 

“โอ้วววววววว!!!”

 

เธอปล่อยการโจมตีต่อเนื่องอันรวดเร็วประหนึ่งเทพเจ้า ใช้พลังทั้งหมดในร่างกายอย่างไม่เสียดาย

เกรงว่าต่อให้คู่ต่อสู้เป็นบาร์โตโลเม หากเป็นในชั่วขณะนี้เธอก็คงรวดเร็วจนสามารถกดดันเขาได้ และหากเป็นการซ้อมประลองกับวิกเตอร์ เมื่อเธอสามารถเคลื่อนไหวได้ถึงระดับนี้ก็จะสามารถเอาชนะไปได้เลย มันเป็นความรวดเร็วในระดับนั้น

ทว่า

เรย์ลาที่เฮเลนารู้จักนั้น

 

การโจมตีระดับแค่นี้ มันไม่ทำให้เธอระคายด้วยซ้ำ

 

เรย์ลาเล็ดลอดผ่านช่องว่างในรอยดาบของเฮเลนา และบางทีก็ใช้ดาบของตนปัดดาบของเฮเลนาออกไป พลางร่นระยะเข้ามาใกล้

ระยะโจมตีของเฮเลนายาวกว่าเล็กน้อย

ทว่าความได้เปรียบเพียงแค่นั้น ต่อหน้ามารดาแล้วมันไม่มีความหมายอะไรเลย

 

“ขึ่ก……!”

 

ไหล่ของเฮเลนาตกวูบลง

ดาบของเรย์ลาได้ถูกสอดเข้ามาที่ลำคอของเฮเลนาอย่างลื่นไหล

ส่วนดาบของเฮเลนานั้นไม่ได้สัมผัสร่างของเรย์ลาเลยแม้แต่น้อย

 

การต่อสู้—จบลงแล้ว

 

“ยังห่างไกลเหลือเกิน……”

 

ทว่าก็ต้องกล่าวไว้ก่อน ว่าความแข็งแกร่งของเรย์ลานั้นเป็นเพียงสิ่งที่จินตนาการของเฮเลนาสร้างขึ้นมา

แปลว่า มีเพียงเฮเลนาแค่คนเดียวที่มองเห็นร่างนั้น หากมองจากมุมของคนอื่น ยังไงก็จะเห็นว่าเธอระบำดาบอยู่เพียงลำพังเท่านั้นเอง

ทว่า

 

ชาร์ลอตเตที่จ้องมองดูการฝึกวิชาของเฮเลนาอยู่นั้น

 

“……”

 

ก็ได้หลับตาลง ก่อนจะพ่นลมหายใจหนึ่งเฮือกใหญ่

แล้วก็เดินจากไปจากสวนระหว่างอาคารโดยไม่ได้เอ่ยคำใดเลย

 

(นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊

(นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊

Comment

Options

not work with dark mode
Reset