「….ก็ สำหรับตัวที่มีสัญชาติสัตว์ป่าแล้ว การตอบสนองยังถือว่าช้าอยู่ล่ะนะ」
ผมสะบัดเพื่อสลัดเลือดที่ติดอยู่ที่ดาบออก ก่อนจะเสียบกลับเข้าไปในฝัก
ถอนหายใจแล้วนั่งลงบนก้อนหินใกล้ ๆ
ผมหันไปมองศพของมอนสเตอร์ที่ผมเพิ่งจะฆ่าทิ้งไป…..กัลแพนเธอร์
เจ้านี่มีสกิล [สัญชาตญาณสัตว์ป่า] ไม่ผิดแน่
ผมอยากลองดาบใหม่ที่ได้มาไม่นาน ดาบที่มีชื่อว่าเจ้าหญิงกระหายเลือด……แต่ท่าทางมอนสเตอร์ระดับต่ำคงจะไม่มีค่าพอให้ทดลองใช้
จะยืดการต่อสู้ให้นานกว่านี้ก็ได้ แต่นั่งดูมอนสเตอร์ทรมานมันน่าเบื่อจะตาย
ให้ตายสิ ทำไมตัวผมต้องมานั่งรออยู่กลางทะเลทรายกันนะ?
ไม่สิ ผมสมัครใจมาเองต่างหาก
ข่าวลือที่ว่ามีมังกรแห่งโรคภัยปรากฏตัวขึ้นใกล้ ๆ ก็คงเป็นเรื่องงมงายทั้งเพ
อย่างก็คงเป็นแค่มังกรดำระดับ C ไม่ก็กิ้งก่าตัวโตแค่นั้นเอง
แต่ประเด็นอยู่ที่อดีตหัวหน้าอัศวินอดอล์ฟต่างหาก ผมต้องหาทางดึงตัวเขาออกมาให้ได้
ตอนผมไปขอบาทหลวง กลับไม่อนุญาตเพราะไม่ปล่อยตัวนักโทษจากแค่ลมปากของพ่อค้าหน้าโง่คนนึง
เมื่อก่อนจะยอมง่ายกว่านี้แท้ ๆ ชักเริ่มน่ารำคาญแล้วสิ
คิดว่าที่อยู่สบายแบบนี้ได้เป็นเพราะใครกัน?
จากนั้นผมเลยส่งทีมสำรวจไปตรวจสอบว่ามีมังกรแห่งโรคภัยอยู่จริง ๆ หรือเปล่า ถ้ามีผมจะได้ขอให้ปล่อยตัวอดอล์ฟชั่วคราวเพื่อให้ไปปราบมังกรกับผม……แต่ดูท่าทางแล้วทีมสำรวจก็คงจะกลับมาพร้อมหัวกิ้งก่าแทน
ที่บาทหลวงยอมรับปากก็คงเพราะรู้ว่ามีแต่เรื่องไร้สาระ
เพราะงั้น จากตรงนี้เลยต้องเป็นหน้าที่ของผม
ถ้ามังกรแห่งโรคภัยไม่มีอยู่จริง ๆ ผมก็แค่ปลอมขึ้นมาสักตัวก็พอแล้ว ง่ายจะตาย
ต่อให้เป็นบาทหลวงโง่ ๆ นั่นก็คงคาดไม่ถึงหรอก
ไม่นานนัก ผมก็เห็นคนจำนวนหนี่งค่อย ๆ โผล่มา
ทีมสำรวจกลับมาแล้วสินะ
ห้า หก เจ็ด…?
ทีมนี้ควรจะแปดคนนี่ หายไปไหนคนนึงกัน?
แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้อะไรกลับมา สมกับเป็นทีมมือใหม่ อีกคนที่หายไปโดนแซนด์เซนติพีดไล่ไปแล้วรึไง?
…….อ้าว หัวหน้าหายไปไหนกัน?
คนที่หายไปคือฮาเกนเองเหรอ?
ทั้ง ๆ ที่พวกนี้ควรจะกลับมาด้วยความดีใจ ทำไมแต่ละคนถึงทำหน้าหวาดกลัวกันอย่างนั้น?
ดู ๆ แล้วก็ไม่มีอะไรตามมา ไม่น่าจะมีเหตุผลอะไรให้ต้องรีบกันขนาดนั้น
แปลว่าต้องไปเจออะไรบางอย่างมางั้นสิ?
ถ้าไปเจอกับมังกรแห่งโรคภัยมาจริง ๆ การที่กลับมาตั้งเจ็ดคนคงเป็นไปไม่ได้แน่
บางคนบาดเจ็บ แต่ไม่มีคนไหนมีบาดแผลร้ายแรง
พอเห็นว่าไม่มีมังกร ขากลับก็คงไม่อยากไปสำรวจมือเปล่าก็เลยโจมตีมอนสเตอร์ระหว่างทางด้วยรึไงกัน
「นี่ เกิดอะไรขึ้น? ฮาเกนไปไหน?」
ผมส่งเสียงเรียกออกไป
ทีมสำรวจคนนึง พอเห็นผมก็ลงจากหลังม้าแล้วมองมาทางชั้น
「ทะ ท่านอิลเชีย! มาทำอะไรตรงนี้กันครับ?」
「ผมกังวลกับเรื่องนี้น่ะสิ ฮาเกนคิดว่าเรื่องที่พ่อค้าคนนั้นพูดไม่เป็นความจริงอยู่แล้วแล้วต่อให้มีจริงก็บอกว่าจะจัดการให้ ผมเลยนึกว่าจะไม่เป็นอะไรซะอีก」
「ปะ เป็นเรื่องจริงนะครับ! อันตรายมากด้วย! มีมังกรแห่งโรคภัยอยู่จริง ๆ ครับ!」
สองคนที่อยู่ข้างหลังตะโดนขึ้น
「คุณฮาเกน โดนกินไปแล้ว」
「ถะ ถึงผมจะโดนปัดลงจากหลังม้า แต่ยังโชคดีที่หาจังหวะหนีออกมาได้….」
ตกใจเลย
มีมังกรแห่งโรคภัยอยู่จริง ๆ งั้นเหรอ?
ขนาดผมเองยังเคยเห็นแค่ภาพจากในหนังสือเท่านั้นเอง
แล้วก็…..ฮาเกนโดนกินไปด้วย
หมอนั่นเป็นไอ้โง่ เป็นคนมีความมั่นใจ ชอบบุกเข้าไปอย่างบ้าบิ่น แต่ก็เป็นไอ้โง่
นึกว่าจะพอสู้กับมังกรแห่งโรคภัยได้ซะอีก
「อืม……….คนรอดมาเยอะเกินไปนะ」
สำหรับตัวตนอย่างมังกรแห่งโรคภัยแล้ว ตายแค่คนเดียวมันน้อยเกินไป
บางทีมันอาจจะเลเวลน้อยอยู่ก็ได้
ทางโบสถ์คงไม่เชื่อว่าเป็นมังกรแห่งโรคภัยจริง ๆ
อาจจะไม่พอให้ปล่อยตัวอดอล์ฟด้วยซ้ำ
คงต้องสุมไฟเพิ่มแล้วสินะ
「จะ จริง ๆ นะครับ! เป็นมังกรแห่งโรคภัยไม่ผิดแน่ มันจัดการฮาเกนได้ไม่ต่างอะไรกับบิดข้อมือทารก….」
จัดการกับคนหัวโล้นเหมือนบิดข้อมือทารกน่ะ มอนสเตอร์ระดับต่ำกว่านั้นก็ทำได้
จริง ๆ เลย เจ้าพวกที่ดูสเตตัสไม่ได้นี่มันน่าหัวเราะจริง ๆ
เข้าไปสู้โดยที่ไม่รู้พลังของศัตรู หรือกระทั่งพลังของตัวเอง
ช่างน่าสมเพช
สำหรับผม เจ้าพวกนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับก้อนกรวด
「ไม่ใช่หรอก ที่บอกว่ารอดเยอะเกินไปน่ะ ไม่ได้หมายถึงแบบนั้น」
「เอ๋?」
「คนเจ็ดคนถูกฆ่า อีกคนรอดมาได้แบบปางตาย….มาเจอผมที่มาดูเหตุการณ์เพราะกังวล แล้วรายงานก่อนจะตายไป แบบนั้นต่างหากที่ผมอยากจะเห็น ถ้าแค่หัวหน้าหายไปคนนึงแล้วที่เหลือมีแต่รอยข่วนคงโดนหัวเราะตายเลย」
「ขะ ขอโทษนะครับท่านอิลเชีย ผมไม่ค่อยเข้าใจว่าหมายถึงอะไร….」
ก่อนที่ทหารจะพูดจบ ผมก็ชักดาบออกมาแล้วฟันไปตรงหน้าอกของเขา
ทรายคนนั้นลงไปนอนกับพื้นในทันที
นึกว่าฟันไปเบา ๆ เพราะจะลองผลของดาบแล้วซะอีก
หมอนี่อ่อนแอเกินไปแล้ว
ถ้ามีมอนสเตอร์ฝ่าเข้ามาในฮาเรเนได้ ฮาเรเนคงล่มสลายกันพอดี
แล้วแบบนี้จะมีทหารไว้ทำไมกัน?
ดาบต้องสาปดูดเลือดของทหารที่ผมพึ่งจะฟันไปเข้ามา
เหมือนว่ามันจะช่วยฟื้นฟู HP ของผมได้ แต่ในเมื่อผมยังไร้บาดแผล มันก็คงไม่มีผลอะไร
อยากจะทดสอบพลังของดาบนี้อีกสักหน่อยจัง
[ได้รับค่าประสบการณ์ 76 แต้ม]
เฮ้อ ไปล่ามดซะยังจะดีกว่า
แถมฆ่าคนยิ่งทำให้เพิ่มเลเวลฉายายากอีก ไม่อยากเท่าไหร่
「ทะ ท่านอิลเชีย?」
「เกิด…เกิดอะไรขึ้น?」「ทำไมถึง….」
เหลือหกคน….ต่อให้หนีไปก็คงตามทันอยู่ดีล่ะมั้ง
คงไม่ต้องเรียกเพกาซัสหรอก
「ก็ถึงบอกไงว่ารอดเยอะเกินไป สมองช้าจริง ๆ เลยนะ」
ผมหัวเราะขึ้นก่อนจะใช้ดาบฟันอากาศ แล้วห้าคนที่เหลือก็กรีดร้องขึ้นก่อนจะหนีไปจากกำแพงเมืองด้วยสีหน้าหวาดกลัว
「อะ อสูร!」
ใครสักคนตะโกนขึ้นมาพร้อมกับเสียงร้องของคนอื่น ๆ
ใจร้ายจังนะ ผมต่างหากที่เป็นคนฆ่าอสูร
ไว้จบเรื่องนี้แล้ว คงต้องรีบไปอธิบายกับบาทหลวงแล้วขอให้ปล่อยตัวอดอล์ฟมาก็แล้วกัน
จะปล่อยให้อดอล์ฟโดนประหารเพราะฆ่าคู่หมั้นตัวเองน่ะไม่ได้หรอก ผมไม่คิดจะรอถึงตอนนั้นหรอกนะ
「….[ควิก]」
พอร่ายเวทเสร็จ ผมก็ควงดาบในมือหนึ่งรอบ
ได้เวลาไล่ตามแล้วสิ