วันนี้ผมไปที่โบสถ์เช้ากว่าปกติ
หลังจากฟังคำเตือนยาวเหยียดจากบาทหลวง ผมก็ได้คำอนุญาตสำหรับพาอดอล์ฟออกไปด้วยกัน
ผมก็เข้าใจอยู่หรอกว่าอยากให้มันดูเคร่งครัด แต่มีขั้นตอนเยอะแยะแบบนี้นี่น่ารำคาญจริง ๆ
ไม่แปลกใจเลย มีแต่พวกโง่ที่เอาแต่คิดหาการสนับสนุนจากที่อื่นแล้วก็หาทางควบคุมพวกชนชั้นสูงเท่านั้นล่ะ
พวกภาคีอัศวินใหญ่โตอะไรนั่นก็แค่ชื่อสวยหรู อันที่จริงก็มีแต่พวกชนชั้นสูงคอยเลียกันเอง เอาแต่ผลาญทรัพยากรไปอย่างสูญเปล่า
อดอล์ฟที่ไม่พอใจกับสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบันก็กลายเป็นนักโทษไป และคงเป็นแบบนั้นต่อไปอีกนาน
ถ้าเกิดวิกฤตขึ้นมาจริง ๆ จะมีคนพร้อมรับมืออยู่กี่คนก็ไม่รู้
รู้สึกน่าหงุดหงิดที่ประเทศนี้ยังอยู่ได้เพราะผมต้องเสี่ยงชีวิตไปนู่นนี่ ยิ่งการที่มีคนคอยกินของเหลืออย่างกับไฮยีน่ายิ่งแล้วใหญ่
มีแต่พวกปลิง
ประเทศนี้มันขยะชัด ๆ
เคยคิดอยากให้มีมอนสเตอร์บุกฝ่ากำแพงเข้ามาในเมืองนี้กี่รอบแล้วนะ?
มันต้องสนุกแน่ ๆ
ผมนึกภาพที่มีแม่นั่งร้องไห้เพราะลูกถูกฆ่าตาย โดยที่ทหารวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนออกเลย
พอพังได้สักครึ่งนึงค่อยออกไปช่วยก็คงไม่แย่
ป่านนั้นเมืองคงถล่มไปเยอะแล้วล่ะมั้ง
แต่แผนนี้คงใช้การไม่ได้เพราะว่าเรื่องมันอาจจะสาวมาถึงตัวผมได้ แถมไม่มีปีศาจมาเป็นเบี้ยให้อีกต่างหาก
ถ้าปล่อยให้มีปีศาจไปทำให้ทางโบสถ์เสียหน้า ตัวผมเองก็คงลำบากขึ้นด้วยเหมือนกัน
แต่…..ไม่คิดเลยว่าต้องออกมาเช้าขนาดนี้
เงื่อนไขในการพาอดลอ์ฟออกไปปราบมังกรแห่งโรคภัยคือต้องออกจากฮาเรเนก่อนตะวันขึ้น และต้องหาผ้ามาปิดให้มิด
ทางโบสถ์ได้ประกาศเรื่องนี้ออกสู่สาธารณะชนแล้ว แต่เหมือนการตอบรับจะไม่เป็นไปในทางที่ดีนัก
ปกติแล้วเวลาจะออกไปไหนมาไหนต้องออกไปแสดงตัวให้ประชาชนเห็นก่อน แต่ครั้งนี้เราจะไปโดยที่เลี่ยงปัญหาให้ได้มากที่สุด
แน่นอนว่าต้องมีคนหลายคนที่ไม่พอใจกับการปล่อยอดอล์ฟให้เป็นอิสระ
ที่เป็นแบบนี้เพราะผมแอบไปปล่อยข่าวลือเรื่องอดอล์ฟไว้ก่อนแล้วไงล่ะ
นึกภาพคุณบาทหลวงนั่งปวดหัวกับรายงานแล้วสะใจเป็นบ้า
ผมมีคนไร้บ้านที่ติดหนี้บุญคุณอยู่อย่างโพกี้ช่วยกระจายข่าวลือให้ เท่านี้ก็สาวมาไม่ถึงผมแล้ว
เขาไม่มีทั้งเงินตราหรือตำแหน่ง แต่เก่งด้านหลอกคนโง่
ถ้ามีคนคิดจะทรยศก็แค่ฆ่าทิ้งซะก็จบเรื่อง ยังไงก็ไม่มีใครมาสนใจอยู่ดี
พอพาตัวอดอล์ฟออกมาจากคุก เราสองคนก็ปิดบังตัวตนไว้แล้วเดินออกจากเมือง
「….โทษทีนะอิลเชีย ครั้งนี้ ได้ยินมาว่าบีบบังคับข้ากันแบบไร้เหตุผลทีเดียว」
พอได้ยินอดอล์ฟพูดจริงจังแบบนี้แล้ว ทำเอาแทบกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหว
ก็รู้อยู่หรอกว่าเป็นไอ้โง่ แต่ก็ไม่คิดว่าจะโง่ได้ขนาดนี้
「ไม่หรอกครับ ถ้าอยากจะขอบคุณ เอาไว้ขอบคุณตอนที่หาคนร้ายตัวจริงที่ฆ่าคู่หมั้นกับน้องชายคุณได้ก่อนเถอะครับ แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งคุยกันมากจะดีกว่า ถึงตอนเช้าคนจะยังไม่มากแต่ก็ควรระวังไว้ก่อน….」
ผมแสร้งทำเป็นมองดูสภาพรอบ ๆ เพื่อไม่ให้อดอล์ฟเห็นหน้าผมตอนหัวเราะ
พอเดินมาถึงเขตที่อยู่อาศัย จำนวนคนก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
อดอล์ฟเองก็สังเกตเห็นเหมือนกัน จึงหยุดเท้าแล้วพูดขึ้น
「ไปทางอื่นไม่ดีกว่าเรอะ?」
「….ตอนนี้จะทางไหนก็คงไม่ต่างกัน ข้อมูลจากทางโบสถ์คงรั่วไหลออกมาแล้วล่ะครับ ต้องมีคนจงใจปล่อยมันออกมาแน่」
ผมเอามือปิดหน้าไว้ด้วยท่าทีหน่ายใจ
แน่นอนว่าคนที่ปล่อยก็ผมเองนั่นแหละ ทั้งเส้นทาง เวลา และวันที่
ถึงทำแบบนี้จะไม่ดีต่ออดอล์ฟกับทางโบสถ์ แต่ที่ผมทำไปก็เพราะต้องการประกาศจุดยืนของผมให้ชัดเจน
ไม่นานนักก็มีเด็กหนุ่มสามคนวิ่งมาชี้ใส่อดอล์ฟ แล้วก็ตะโกนขึ้น
「อยู่นั่นไง เจ้าฆาตกรอดอล์ฟ!」
「จะหลอกท่านผู้กล้าแล้วหนีไปไม่ได้หรอก!」
หลังสิ้นเสียงตะโกน ชาวบ้านก็เริ่มมามุงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
น่าจะมารอผมกับอดลอ์ฟอยู่แล้ว
คนที่ยังไม่ตื่นก็ถูกปลูกแล้วออกมามุงด้วยเช่นกัน
พอรู้สึกตัวอีกทีอดอล์ฟก็โดนคนอื่น ๆ ล้อมไว้หมดแล้ว
「รีบ ๆ โดนประหารไปซะ!」
มีบางคนเขวี้ยงหินมา
อดอล์ฟหันไปมองก้อนหิน แต่ก็ไม่มีท่าทีจะหลบ
คิดว่าทำแบบนั้นแล้วคนจะเลิกมุงรึไงกัน?
เอาเถอะ แค่นี้ก็พอแล้วดีกว่า ก่อนที่จะคุมไม่อยู่
ผมก้าวออกไปข้างหน้า แล้วยกปลอกดาบมาปัดก้อนหินออก
「…เหมือนว่าข่าวลือจะแพร่หนักแล้วสิ ผมจะพยายามจัดการให้เท่าที่ทำได้แล้วกันครับ」
ผมพูดกับอดอล์ฟเบา ๆ แล้วหันหน้าไปหาฝูงชน
「ที่ผมเลือกหัวหน้าอัศวินอดอล์ฟมาก็เพราะเขาเป็นคนมีฝีมือเหมาะสมกับปัญหาครั้งนี้ ถึงเขาจะเป็นอดีตหัวหน้าอัศวินไปแล้ว แม้จะไม่นานแต่เขาก็เป็นอาจารย์ของผมด้วยเช่นกัน อาจจะมีเหตุผลส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่บ้าง แต่ผมไม่ได้ถูกชักจูงโดยใครทั้งนั้น
และผมก็เชื่อด้วยว่าหัวหน้าอัศวินอดอล์ฟนั้นบริสุทธิ์ รางวัลที่เขาจะได้จากการปราบปรามครั้งนี้ก็มีแค่การสืบสวนคดีใหม่อีกครั้งเท่านั้น ไม่มีอะไรมากกว่านั้นอย่างแน่นอน ขอยืนยันด้วยนามของผมในฐานะผู้กล้า
ถ้ามีปัญหาอะไรกับการปล่อยตัวหัวหน้าอัศวินอดอล์ฟในครั้งนี้ ผมจะเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมดเอง เพราะฉะนั้น…ขอให้เราผ่านไปด้วยเถอะครับ」
ผมก้มหัวให้เล็กน้อย
รอบข้างเงียบลงในทันที แล้วคนที่ขวางทางอยู่ก็ค่อย ๆ เดินออกไปทีละคนสองคน
「รีบไปก่อนจะโดนล้อมอีกรอบจะดีกว่านะครับ」
ผมพูดขึ้นเบา ๆ แล้วพาอดอล์ฟที่ยังสับสนกับสถานการณ์อยู่ออกมา
「…..ขอโทษด้วยจริง ๆ นะ!」
พอพ้นส่วนที่มีคนเยอะมาได้ อดอล์ฟก็กัดปากตัวเองจนเลือดซิบ
ผมมุ่งหน้าไปต่อโดยที่นึกสมเพชอดอล์ฟอยู่ในใจ
เอาล่ะ ประกาศจุดยืนไปเรียบร้อย
ถึงผมจะบอกปฏิเสธไป คนอื่นก็คงมองว่า『ผมโดนอดอล์ฟหลอก』อยู่ดี
แล้วก็ที่บอกว่าจะรับผิดชอบอะไรนั่น ผมไม่คิดจะทำอะไรทั้งนั้นอยู่แล้วล่ะ
ยังไงผมก็เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของประเทศนี้ ทางโบสถ์ต้องออกมารับหน้าให้อยู่แล้ว แถมไม่มีใครคิดจะให้ผมไปรับผิดชอบหรอก
ในเมื่อโบสถ์เป็นฝ่ายอนุญาตมา ถ้ามันเกิดปัญหา ฝ่ายที่จะถูกกดดันก็คือทางโบสถ์เอง
ที่สำคัญกฏหมายของฮาเรเนว่าไว้ว่าถ้ามีนักโทษหลบหนี คนที่จะมารับผิดแทนก็คือญาติและครอบครัวของนักโทษ
ถึงอาจจะมีคนเอาไปพูดเสีย ๆ หาย ๆ ยังไงมันก็ไม่มีผลเท่าไหร่หรอก
เพราะอัตลักษณ์ในฐานะผู้กล้าของผมคือคนอ่อนต่อโลกและผู้ที่คอยมองโลกในแง่ดียังไงล่ะ