อดอล์ฟขี่ม้าพุ่งเข้าหาชั้นอีกครั้ง
เอาไงดีล่ะ โจมตีหลอกแบบเมื่อกี้อีกครั้งก็ไม่ได้
ที่ชั้นใช้ได้ ก็เพราะอีกฝั่งคงคิดว่า『มังกรมันโจมตีหลอกไม่ได้หรอก』เท่านั้น
ถ้าอยากจะใช้อีกรอบ ก็คงต้องสู้กันไปเรื่อย ๆ จนอีกฝั่งลืมเรื่องนี้ลงไปก่อน
ถ้าเข้ามาตรง ๆ แบบนี้ จะให้สู้กันโดยที่ให้ชั้นทำดาเมจให้น้อยที่สุดก็ยากขึ้นไปอีก
เพราะหลังจากสู้กันเสร็จแล้ว ชั้นต้องขอคำขอที่เป็นประโยชน์กับฝ่ายเดียวกับอดอล์ฟด้วย
ถ้าเป็นไปได้ ก็ไม่อยากให้มันเริ่มจากติดลบล่ะนะ
ชั้นอยากจะเลี่ยงการโจมตีตรง ๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่ตีหลอกก็ไม่ได้ผลแล้ว
ต้องหาทางทำให้อีกฝ่ายเสียจังหวะ
ตาลุงนี่…..อดอล์ฟ ไม่ใช่แข็งแกร่งแค่ด้านสเตตัสอย่างเดียว แต่ด้านจิตใจก็ไม่แพ้กัน
จัดการม้าน่าจะง่ายกว่า
ชั้นสูดหายใจเข้า แล้วก้มหัวลงต่ำ
「กรรรรรรรรรรร!」
เสียงคำรามของชั้นสั่นสะเทือนไปถึงเม็ดทรายรอบ ๆ ก่อให้เกิดพายุทรายเล็ก ๆ
ม้าที่อดอล์ฟขี่อยู่ เมื่อได้ยินเสียง [คำราม] ของชั้นเข้าไปก็เกิดตัวสั่นขึ้นเล็กน้อย
ทรายที่ลอยขึ้นมาช่วยเสริมความน่าเกรงขามให้ด้วย
ความเร็วของม้าก็ลดลงชั่วขณะ แต่แค่ชั่วขณะก็พอแล้ว
โทษทีนะ แต่คงต้องขอให้ทนเจ็บสักหน่อย
「กรร!」
พอชั้นเหวี่ยงแขนออกไป อดอล์ฟก็ดึงบังเหียนไปด้านข้าง
อดอล์ฟชี้ดาบใหญ่มาด้วยมืออีกข้างด้วยหน้าเครียด
เขารีบทำสีหน้าปกติในทันที แต่การที่ปล่อยให้ความรู้สึกออกทางสีหน้าแบบนี้ถือว่าพลาดนะ
หวังว่าจะทำให้ชะงักได้สักวิสองวิ
ท่าทีเหมือนจะมาโจมตี แต่ก็เหมือนจงใจทำอะไรบางอย่างอยู่ด้วย
อย่างตำแหน่งการยืน ถ้าอยู่ตรงนั้นคงโต้กลับชั้นไม่ได้แน่
อย่างมากก็ได้แค่ใช้ดาบนั่นป้องกันไว้เท่านั้น
ชั้นกวาดแขนตัวเองแล้วปัดม้าที่อยู่ตรงหน้าชั้นไป
ทันทีที่แขนชั้นโดน อดอล์ฟก็ปล่อยมือจากบังเหียนแล้วขึ้นมายืนบนหลังม้า
「ฮี้—!」
ม้าโดนชั้นปัดกระเด็นออกไปพร้อมส่งเสียงร้องน่าสงสารออกมา
ส่วนอดอล์ฟกระโดดขึ้นมายืนบนไหล่ขวาชั้น
ซวยละ มาถึงหัวแล้ว
ชั้นหันหน้าไปทางไหล่ขวา อ้าปากออก พร้อมกับคาดเดาทิศทางที่ดาบจะเหวี่ยงมาไปด้วย
และเมื่อชั้นรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งมากระทบฟัน ชั้นก็กัดดาบไว้ในทันที
ชั้นรีบสะบัดหน้าไปด้านซ้าย กระชากดาบออกของอดอล์ฟให้หลุดออกจากมือของเขา
ดาบใหญ่นั้นลอยออกไปปักลงบนพื้นทราย
อดอล์ฟที่ถูกดึงดาบออกจากมือไปก็สูญเสียการทรงตัว แล้วร่วงลงจากไหล่ของชั้น
หมอนี่เก่งกว่าที่คิดไว้ซะอีก
แทนที่จะคอยสะกิดเบา ๆ สู้อัดแรง ๆ ไปสักครั้งจะดีกว่า
ถ้าชั้นใช้ [ฟื้นฟู] ช่วย ก็น่าจะยังคุยกันได้อยู่
ถึงตอนนั้นเวลาคุยกันคงจะน่าอึดอัดก็เถอะ แต่ก็ช่วยไม่ได้
ถ้ามัวแต่สู้แบบสบาย ๆ หัวชั้นนี่ล่ะจะหลุดออกเอง
ชั้นเล็งอดอล์ฟที่กำลังร่วงจากไหล่ของชั้น แล้วฟาดมือลงไปตรงๆ
ใช้แค่ฝ่ามือไม่ใช่เล็บ อีกฝั่งคงไม่ตายหรอก
แต่อดอล์ฟกลับหมุนตัวกลางอากาศแล้วถีบฝ่ามือของชั้น
เป็นแรงส่งให้ตัวเองถึงพื้นเร็วขึ้น
จะดื้อด้านไปถึงไหนกัน…?
เอาเถอะ อย่างน้อยชั้นก็จัดการทั้งม้าทั้งดาบได้แล้ว
อดอล์ฟค่อยๆลุกขึ้น โดยจ้องมาหาชั้นอย่างไม่วางตา
พอชั้นเริ่มขยับ อดอล์ฟก็ย่อตัวลง
「ยะ หยุดเถอะค่ะ! คุณมังกรน่ะ คุณมังกร……」
เสียงของนีน่าดังขึ้นจากข้างหลัง
พออดอล์ฟได้ยินเข้า ก็เลื่อนสายตาจากชั้นไปหานีน่าในทันที
เพราะตอนแรกนีน่านอนพักอยู่ใกล้ทะเล อดอล์ฟเลยไม่ทันสังเกต
「มะ มนุษย์? ทำไมถึง….」
ดีล่ะ ถ้าเป็นตอนนี้อาจจะพอคุยกันได้
ชั้นก้าวถอยหลังไปสองสามก้าว ยอมสละความได้เปรียบไป
อดอล์ฟเองก็เหมือนจะเข้าใจว่าตนมองข้ามบางอย่างไปในตอนแรก บรรยากาศหนักอึ้งรอบ ๆ ตัวจึงผ่อนคลายลง
อดอล์ฟหันไปมองตำแหน่งที่ดาบปักอยู่อีกครั้ง ก่อนจะหันกลับไปหานีน่า
「เฮ้! ผู้หญิงที่อยู่ตรงนั้นน่ะ! ปลอดภัยดีรึเปล่า!」
「คะ คุณมังกร แค่ช่วยปกป้องนีน่าเองเนี๊ย!」
พอนีน่าตอบกลับมา อดอล์ฟก็หันมามองชั้นอย่างด้วยความสับสน
แล้วบอลแรบบิท พอเห็นว่าน่าจะปลอดภัยแล้ว ก็วิ่งลากหูมายืนข้าง ๆ ชั้น
「เปะ เปฟุ」
『บอกว่า ขอคุยด้วย』
อดอล์ฟดูยิ่งแปลกใจมากขึ้นเมื่อบอลแรบบิทโผล่มา
ภาพที่บอลแรบบิทวิ่งมาอยู่ข้าง ๆ มังกรอย่างชั้น คงจะดูแปลกในสายตาคนอื่นน่าดู
อดอล์ฟมองสลับระหว่างบอลแรบบิทกับนีน่า ก่อนจะเอ่ยปากออกมา
「ขะ เข้าใจแล้ว ข้ายอมแพ้แล้วกัน ทีนี้ก็เล่าเรื่องของแกมาเลย….ขอบอกไว้ก่อนแล้วกัน ข้ามีคนมาด้วยอีกคน」
อดอล์ฟยกมือขึ้นทั้งสองข้าง เพื่อแสดงว่าตนไม่คิดจะสู้แล้ว
ดีล่ะ ไปได้สวย
เทียบกับทหารชุดก่อนแล้ว คนนี้คุยง่ายกว่าเยอะ
บางทีชั้นอาจจะขอให้เขาช่วยพานีน่าไปได้ก็ได้
ชั้นไม่รู้ว่ามุมมองของอีกฝั่งต่อทาสเป็นยังไง เพราะงั้นมันอาจจะเป็นการข่มขู่มากกว่าการขอร้อง
ระหว่างคุยต้องคอยระวังไม่ให้เจ้าบอลแรบบิทพูดอะไรแผลง ๆ ไปด้วยสิ
「อิลเชีย โทษทีนะแต่ขอเปลี่ยนแผนสักหน่อย ลดดาบลงแล้วออกมาได้แล้ว ข้าอยากจะคุยกับมังกรตัวนี้ก่อน」
อดอล์ฟมองไปข้างหลังชั้นแล้วพูดขึ้น
….หือ? เอ๋ อิลเชีย?
หมอนี่ รู้ชื่อชั้นได้ยังไง?