ก่อนอื่นเลย มาฟังเรื่องราวจากปากอดอล์ฟก่อนดีกว่า
ถึงชั้นจะขอให้บอลแรบบิทยอมปล่อยหูหลายรอบแล้ว แต่มันก็ไม่ปล่อยสักที
ช่างมันละกัน ถามทั้ง ๆ อย่างนี้ก็ได้
「เปฟุ」
『แก เป็นใคร』
อดอล์ฟยังคงนั่งเงียบ
ขณะที่กำลังคิดว่าจะได้เรื่องรึเปล่า บอลแรบบิทก็ส่งโทรจิตไปอีกครั้ง
『อย่าคิด พูด ทางนั้นไม่ได้ยิน』
สรุปคืออดอล์ฟไม่ได้ขัดขืน แต่จะให้บอลแรบบิทอ่านความคิดแทน
แต่ถ้าทำแบบนั้น ชั้นก็ไม่ได้ยินด้วยน่ะสิ
มันก็จริงที่ชั้นค่อยฟังจากบอลแรบบิททีหลังก็ได้ แต่มันก็มีโอกาสที่จะถูกใส่สีตีใข่เพิ่ม
แถมถ้าทำแบบนั้นก็กลายเป็นต้องแปลสองรอบ เปลือง MP เปล่า ๆ
ตอนนี้เจ้าบอลแรบบิทใช้ [โทรจิต] ได้คล่องเหมือนใช้ปากพูดได้แล้ว
ถึงตอนนี้ ชั้นสามารถพูดได้แล้วสินะว่า [โทรจิต] นี่มันสกิลแปลภาษาครอบจักรวาลชัด ๆ
อดอล์ฟ พอได้ยิน [โทรจิต] จากบอลแรบบิท ก็หันมามองชั้นด้วยความแปลกใจ
「แก….เข้าใจที่ข้าพูดด้วยรึ?」
「กรร」
ชั้นพยักหน้ารับไป
「…ข้าชื่ออดอล์ฟ อาเร็นส์ มีรายงานเข้ามาว่ามีอสูรอันตรายเพ่นพ่านอยู่ ข้าเลยได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวให้มาปราบอสูรที่ว่า….ข้าเป็นนักโทษ」
คำพูดสุดท้ายแลดูจะเป็นคำที่เจ้าตัวไม่อยากพูดนัก
ก็ว่าอยู่ ว่าสถานะแปลก ๆ นั่นมันอะไร สรุปคือเป็นนักโทษสินะ
『ทำไม ถึงสู้กับอีกคน』
หน้าอดอล์ฟตึงเครียดขึ้นในพริบตา
เขากัดริมฝีปากจนเลือดซิบเพื่อระงับความโกรธของตัวเองไว้
「ข้าโดนมันหลอก ไม่น่าเชื่อใจไอ้ปีศาจนั่นเลย」
อดอล์ฟทุบกำปั้นลงพื้น
แล้วเขาก็เริ่มอธิบายเรื่องราวต่อ
ตามที่อดอล์ฟเล่ามา สรุปคือเจ้าหมอนั่นคือ『ผู้กล้า』
ชื่อของชั้น อิลเชีย เดิมทีมาจากชื่อดอกไม้
และคำว่าอิลเชียในภาษาดอกไม้ก็แปลว่า『ผู้ที่กล้าหาญ』ด้วยเหมือนกัน
ถึงจะไม่ชอบใจแต่นั่นคงเป็นส่วนที่เชื่อมถึงกัน
มีเรื่องราวที่เล่ากันมาในฮาเรเนว่าทุก ๆ ห้าร้อยปี จ้าวแห่งอสูรทั้งปวง หรือก็คือราชาปีศาจ จะทำการรวบรวมอสูรพื่อบุกโจมตีดินแดนของมนุษย์
และเมื่อราชาปีศาจปรากฏตัวขึ้น ชายผู้มีพลังที่จะกำจัดมันได้ก็จะกำเนิดขึ้นในแดนศักดิ์สิทธิ์ฮาเรเน ซึ่งชายที่ว่าก็คือผู้กล้านั่นเอง
ผู้กล้าจะถูกเลี้ยงดูตั้งแต่เด็ก ๆ โดยโบสถ์ เพื่อรับการฝึกฝนแบบพิเศษ
เรื่องราวที่จะวนเวียนซ้ำไปทุกห้าร้อยปี
มีคนอยู่ไม่มากที่เชื่อเรื่องนี้ แต่โบสถ์กลับเจอผู้กล้าจริง ๆ ซะงั้น
พอมีบุคคลสำคัญอยู่ภายใต้การดูแล ทางโบสถ์ก็ได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากเมืองใกล้เคียงทั้งหลาย
และนั่นก็ทำให้โบสถ์เน่าเฟะอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ประชาชนขาดแคลนไปโดยปริยาย
ส่วนทางผู้กล้าก็ถูกเลี้ยงดูตามใจจนเกินไป
เมื่ออดอล์ฟรู้สึกตัวว่าถ้าปล่อยไปจะต้องเป็นปัญหา ก็เลยพยายามจะเปลี่ยนแปลงผู้กล้า จนในที่สุดทางโบสถ์ก็เกินความแค้นในตัวอดอล์ฟอยู่ลึก ๆ
และสุดท้าย ก็จบลงด้วยการประลองดาบระหว่างอดอล์ฟกับผู้กล้าต่อหน้าฝูงชน ผลคืออดอล์ฟเอาชนะผู้กล้าไปได้ เรื่องทั้งหมดนี่เกิดขึ้นเมื่อสี่ปีก่อน
หลังจากการประลองครั้งนั้น ผู้กล้าก็เริ่มออกเดินทางตามที่ตำนานว่าไว้ไปพร้อมเพื่อนร่วมทางหลายคน
เหมือนจะกลับมาปีละครั้ง แต่คนที่ไปด้วยไม่กลับมาด้วยสักคน
บ้างก็ตายไป บ้างก็แต่งงานไปแล้ว บ้างก็ทนความลำบากไม่ไหวจนหนีไปเอง
อดอล์ฟไม่รู้เรื่องมากนักเพราะโบสถ์ห้ามไว้ไม่ให้เจอกับผู้กล้า แต่เขาก็พูดไว้อย่างเศร้า ๆ ว่า「ตอนนั้นคงไม่มีใครคาดถึง แต่บางที คนพวกนั้นอาจจะถูกฆ่าตายไปหมดแล้วก็ได้」
มีครั้งนึงเคยเห็นเด็กสาวคนหนึ่งที่ดีอกดีใจอย่างมากหลังถูกเลือกโดยท่านผู้กล้า
ผู้หญิงคนนั้นมีชื่อเสียงอยู่ในฮาเรเนเล็กน้อย ตอนออกจากเมืองไปก็มีคนมาคอยอวยพรให้
ชื่อเสียงของผู้กล้าโด่งดังขึ้นเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่กลับมาก็จะมีฝูงชนมาคอยส่งเสียงยืนรับอยู่เสมอ
และเมื่ออดอล์ฟคิดว่าการที่ผู้กล้าออกเดินทางมาจะทำให้เขาเปลี่ยนไป ตอนนั้นเองที่น้องชายกับคู่หมั้นอดอล์ฟถูกฆ่าตาย
โชคร้ายที่ทางโบสถ์กลับไม่ยอมสืบค้นความจริงของคดีนี้ ผู้รับผิดจึงกลายเป็นอดอล์ฟไป
ระหว่างที่อดอล์ฟถูกจับขัง ผู้กล้าก็เข้ามาเยื่ยม เป็นการพบกันครั้งแรกในรอบสี่ปี
ผู้กล้าไม่คิดแค้นอดอล์ฟเลยสักนิด ซ้ำยังให้สัญญาว่าจะช่วยขอให้โบสถ์ช่วยสืบค้นคดีนี้อีกครั้งด้วย
อดอล์ฟที่หลงคิดว่าสี่ปีนี้ทำให้ผู้กล้าเปลี่ยนไปจริง ๆ ก็เลยเชื่อคำพูดของผู้กล้าไป
ข้อแลกเปลี่ยนของผู้ปล้าคือให้อดอล์ฟเป็นตัวช่วยในการปราบมังกรแห่งโรคภัย แต่แท้จริงแล้วอดอล์ฟโดนหักหลังมาตั้งแต่ต้น
และถ้าผู้กล้ากลับไปถึงฮาเรเนเมื่อไหร่ อดอล์ฟก็จะเปลี่ยนสถานะเป็นนักโทษหลบหนี ซึ่งจะทำให้ญาติและครอบครัวของเขาถูกประหารไปด้วย
พอชั้นได้ฟังเรื่องราวก็รู้สึกโกรธขึ้นมาแทน
ถึงจะฟังดูโอเวอร์ไปสักนิด แต่ก็ไม่ใช่เรื่องโกหก
ไม่งั้นคงโดน [โทรจิต] จับได้ไปแล้ว
แต่อดอล์ฟเองก็ไม่รู้ว่าทำไมหมอนั่นถึงยอมปล่อยชั้นไป
ถ้าเจ้าตัวออกไปปราบมังกร แล้วมังกรนั่นก็มาอาละวาดในเมือง แบบนั้นชื่อเสียงของผู้กล้าจะตกต่ำลงมากกว่า
แล้วแบบนี้ นีน่าที่อยู่ในฮาเรเนจะเป็นยังไงล่ะ
ในเมื่อหมอนั่นเป็นผู้กล้า คงจะฆ่าใครแบบเปิดเผยไม่ได้
แต่ว่านีน่าต้องโดนฆ่าแน่ ๆ
คงจะเอาไปฆ่าทิ้งแบบลับ ๆ สักที่
ยังไงชั้นก็ต้องไปช่วยนีน่า แต่ดูยังไงมันก็ต้องมีแผนรอรับชั้นไว้อยู่แล้ว
มันบอกให้ชั้นไปภายในสี่วันข้างหน้าตอนบ่าย ๆ สินะ?
ที่มันกำหนดเวลานี้มา แปลว่ามันต้องมีอะไรแน่ ๆ
ตราบใดที่ยังเดาความคิดของอีกฝ่ายไม่ได้ ขืนโผล่หัวไปฮาเรเนตามที่บอกมีแต่จะอันตราย
จะให้ชั้นบุกเข้าไปตรง ๆ ก็ไม่ได้
ที่นั่นน่าจะมีคนอยู่เยอะกว่าหมู่บ้านของมิเรีย โกลาหลแน่
เล่นทีเผลอโดยการ [กลิ้ง] ไปแล้วเข้าโจมตีก่อนกำหนดดีมั้ยนะ? หรือจะอาละวาดอยู่ข้างนอกจนพวกนั้นพานีน่าออกมาดี?
หมอนั่นบอกว่าจากที่นี่ถึงฮาเรเนใช้เวลาสองวัน แต่ถ้าชั้น [กลิ้ง] แบบเต็มที่ก็อาจจะถึงได้ภายในครึ่งวัน
มันได้เห็นสกิลของชั้นไปแล้ว แต่คงนึกไม่ถึงว่า [กลิ้ง] นี่มันมีประโยชน์ขนาดไหน
ชั้นเล่นทีเผลอได้
แต่แผนนี้ขาดความแน่นอน
ไม่มีอะไรมายืนยันว่ามันจะพานีน่าออกมาเป็นเป็น ๆ
เดิมทีโอกาสชนะของชั้นก็ต่ำอยู่แล้ว ต่อให้ [กลิ้ง] หนีก็อาจจะหนีไม่พ้น
อย่างน้อยชั้นก็ควรเพิ่มเลเวลไว้สักนิดก่อนจะเข้าเมือง
ถ้าเป็นไปได้ ชั้นก็อยากช่วยครอบครัวของอดอล์ฟด้วยเหมือนกัน
แต่แค่พาตัวนีน่าอย่างเดียวก็ยากเกินพอแล้ว
และต่อให้ชั้นจัดการผู้กล้าได้จริง ๆ ครอบครัวอดอล์ฟก็อาจจะโดนประหารต่ออยู่ดี
ปัญหาไม่ได้อยู่แค่จัดการผู้กล้า แต่ต้องหาทางเล่นงานความเชื่อมั่นที่มีอยู่ในตัวผู้กล้าด้วย
แต่เรื่องแบบนั้นชั้นทำเองไม่ได้
จากที่ฟังมา ต่อให้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ทางโบสถ์ก็จะช่วยปิดให้อยู่ดี
ไม่สิ หมอนั่นไม่รู้ว่าอดอล์ฟยังไม่ตายนี่นา
ชั้นอาจจะใช้เรื่องนี้เล่นงานหมอนั่นถึงขึ้นที่โบสถ์ยังช่วยไม่ได้ก็ได้นะ
ถ้าพลาดก็ตาย แต่ถ้าลงมือถูกเวลาก็จะกลายเป็นไพ่ตายได้
『สี่วันนี้ จะเอายังไง』
บอลแรบบิทถามอดอล์ฟโดยที่ยังคงเอาหูล้อมรอบคออยู่
บอลแรบบิทเอ๋ย ได้ฟังเรื่องราวก็น่าจะรู้แล้วนี่ว่าคนคนนี้เป็นผู้เสียหายชัด ๆ
「…สะ สี่วันเรอะ!?」
「เปฟุ!」
อดอล์ฟทำท่าจะลุกขึ้น แต่บอลแรบบิทกดเอาไว้ก่อน
อดอล์ฟก้มหน้าลงแล้วค่อย ๆ นั่งลงไปเหมือนเดิม
「กรร?」
สี่วันแล้วจะเกิดอะไรขึ้นเหรอ?
『สี่วัน แล้วทำไม?』
บอลแรบบิทช่วยแปลให้ทันทีที่ชั้นคิด
แต่ทำไมมันฟังดูก้าวร้าวกว่านิดหน่อยกันนะ
…..แกตั้งใจสินะ
「อา โทษที เปกาซัสของอิลเชียสามารถกลับไปถึงฮาเรเนได้ภายในวันเดียว แล้วถ้าเขาไปรายงานกับโบสถ์…..ครอบครัวของข้าก็จะถูกประหารภายในสี่วัน หรือไม่ก็ห้า」
สี่หรือห้าวัน?
ไม่ใช่ว่าหมอนั่นก็พูดอะไรคล้าย ๆ กันอยู่เหรอ?
『อีกห้าวัน….ไม่สิ เร็วกว่านั้นจะดีกว่า สี่วัน…อื้ม สี่วันกำลังดี ถ้ามุ่งหน้าไปทางเหนือเรื่อย ๆ จะเจอกับเมืองที่ผมจากมา อีกสี่วัน ช่วยมาที่นั่นช่วงบ่าย ๆ ด้วยนะ ถ้ารีบหน่อยคงไปถึงได้ในสองวัน』
บังเอิญงั้นเหรอ?
ไม่สิ หมอนั่น….
「บางที อิลเชีย….อาจจะให้โบสถ์ประหารทาสคนนั้นไปด้วยก็ได้ ในฮาเรเนมีการแบ่งชั้นกีดกันมนุษย์สัตว์อยู่มาก ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ซะทีเดียว」
พออดอล์ฟว่าจบ เขาก็หลบสายตาจากชั้นไป