ชั้นเดินย้อนทางเดิมที่ตะขาบยักษ์ไล่ชั้นมา พร้อมกับตั้งสมาธิที่ [สัมผัสตรวจจับ] ไปด้วย
ทั้งสองคนคงไม่เดินไปที่อื่นหลังจากแยกกันหรอกมั้ง
ถ้าไม่อยู่จริง ๆ ค่อย [กลิ้ง] หรือบินหาเอาก็ได้ ยังไงมันก็โล่งอยู่แล้ว
ระหว่างกลับ ชั้นก็บังเอิญเจออูฐสามหัวตัวหนึ่งกำลังนั่งพักอยู่ข้าง ๆ ต้นกระบองเพชร
ทั้งน้ำทั้งอาหารมาเสิร์ฟให้ต่อหน้าเลยแฮะ
ชั้นยิง [คาไมทาจิ] ออกไปจัดการอย่างไร้ความปราณี เพื่อจะเอากลับไปฝากบอลแรบบิทกับอดอล์ฟ
โทษทีนะ เจ้าอูฐสามหัว
ที่นี่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก
พอชั้นบินขึ้นไปอีกเป็นครั้งที่สาม ก็เห็นทะเลสาปเล็ก ๆ แสนสกปรกอยู่ไกล ๆ
ฐานพวกทากแน่นอน
แต่ถ้าจำไม่ผิด ตอนชั้นเห็นก่อนหน้านี้มันยังเป็นบ่อใสอยู่เลยนี่นา
แสดงว่า [ภาพลวงตา] ต้องหายไประหว่างที่ชั้นสู้กับตะขาบยักษ์อยู่
บางที บอลแรบบิทกับอดอล์ฟอาจจะพักอยู่ที่นั่นก็ได้
เป็นที่ที่มองได้ชัดเจนดี เจ้าทากมีประโยชน์สักที
ที่เลือกไปสู้กับทากเพราะแบบนี้ล่ะมั้ง ถ้าเป็นเจ้าบอลแรบบิทก็เป็นไปได้
พอชั้นเข้าใกล้บ่อน้ำ ก็เจอบอลแรบบิทกับอดอล์ฟอยู่ที่นั่น
เหมือนว่าบอลแรบบิทจะช่วยใช้ [คลีน] ทำความสะอาดน้ำให้ด้วย
ทันทีที่อดอล์ฟได้ยินเสียงฝีเท้าของชั้น เขาก็หันหน้ามา
「กลับมาแล้วรึ? แกไปเพิ่มเลเวลมาแล้วสินะ」
พอได้ยินคำว่าเลเวลจากปากคนปกติแล้วก็รู้สึกแปลกใจอยู่หน่อย ๆ
แต่ว่าผู้กล้าเองก็มี [ตรวจสอบสเตตัส] ด้วย บางทีความรู้เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องพื้นฐานกว่าที่ชั้นคิดก็ได้
「ขอพูดชัด ๆ ไปเลยแล้วกันนะ เป็นไปไม่ได้หรอก ความห่างนั่นไม่ใช่อะไรที่จะก้าวข้ามได้ภายในไม่กี่วัน อิลเชียน่ะแข็งแกร่ง ขนาดตอนสู้กับข้ามันยังไม่เอาจริงเลย ต่อให้มันไม่ใช่ทริกสกปรกอะไรข้าก็เอาชนะมันไม่ได้อยู่ดี」
ถ้าในกรณีปกติล่ะก็นะ แต่ชั้นมีสกิลโกง [ไข่เดินได้] ที่เบิ้ลค่าประสบการณ์เป็นสองเท่าอยู่ด้วย
ถ้าบุกรังมดแบบไม่คิดชีวิต….ก็น่าจะตามทันได้
แต่ส่วนที่ยากคืออธิบายให้อดอล์ฟเข้าใจ
แถมต้องผ่านบอลแรบบิทซะด้วยสิ
ถ้าความรู้เรื่องเลเวลเป็นเรื่องพื้นฐาน ไม่แน่ว่าเรื่องสกิลเองก็อาจจะเป็นความรู้ทั่วไปเหมือนกันก็ได้นะ
เรื่องพวกนี้ ชั้นไม่รู้เลยสักนิด
แล้วมนุษย์ในโลกนี้รู้ตัวตนที่แท้จริงของ [เสียงจากพระเจ้า] กันรึเปล่า?
ไว้จบเรื่องแล้วชั้นก็อยากสำรวจในส่วนนี้เหมือนกัน
「เพราะงั้น ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าเถอะ แกอยากจะช่วยมนุษย์สัตว์คนนั้นสินะ?
อิลเชียเชื่อว่าข้าตายไปแล้ว ถ้าข้าเผยคำโกหกของมันต่อหน้าคนจำนวนมากได้ ต่อให้เป็นโบสถ์ก็ปกป้องมันไม่ได้แล้ว」
…..หยุดเรียก อิลเชีย อิลเชีย สักทีเถอะ
「เจ้ามังกร คงจะดีกว่าถ้าให้แกคอยอยู่ที่นี่ ข้าจะพานางกลับมาเอง」
ถ้าทุกอย่างมันไปได้สวยตามที่คิดล่ะก็นะ…..แต่ชั้นไม่คิดว่าหมอนั่นมันจะยอมง่าย ๆ น่ะสิ
อดอล์ฟเอง ถ้าแอบเข้าเมืองไปโต้ง ๆ ก็อาจจะโดนมองเป็นนักโทษหลบหนีแล้วโดนจับขังอีกรอบก็ได้
อดอล์ฟมองว่าถ้าชั้นเข้าไปด้วย โอกาสชนะจะต่ำกว่างั้นเหรอ?
ถึงตอนนั้นทั้งเมืองคงวุ่นวาย แล้วถ้ามองจากมุมมองอดอล์ฟก็คงลำบากขึ้นล่ะนะ
แต่ถึงอดอล์ฟจะอยู่หรือไม่อยู่ ยังไงผู้กล้ามันก็เล็งชั้นอยู่ดีนี่?
ชั้นก็ไม่อยากกระโจนไปยืนอยู่กลางที่ที่มีคนเยอะหรอก แต่สถานการณ์มันบังคับ
「กรรร」
ชั้นคำรามขึ้นเบา ๆ แล้วคายกระบองเพชรกับเนื้ออูฐจากในปากออก
เพราะชั้นเคลื่อนที่โดนเน้นความเร็ว ก็เลยสลับระหว่างกลิ้งกับเดินสี่ขาไปมา ทำให้ใช้มือไม่ได้
เอาไปย่างไฟก็ไม่มีปัญหาแล้วน่า
「นี่มัน…..」
「กรรร」
「กินได้….แน่รึ..? ขะ ขอบใจนะ….」
「เปฟุ….」
ทั้งคู่แลดูนิ่ง ๆ แฮะ
อพ อะไรกัน? ไม่หิวกันเหรอ?
ย่างเปล่า? เดี๋ยวย่างให้เอามั้ย?
พอชั้นใช้ [ลมหายใจแผดเผา] เผา น้ำลายของชั้นก็ระเหยออกไป
บอลแรบบิทยอมแพ้ที่จะขัดขืนแล้วกินเข้าไป
อดอล์ฟก็ทำใจได้ก่อนจะกินไปเหมือนกัน
「กรร」
ชั้นส่งเสียงเรียกบอลแรบบิท
บอลแรบบิท ช่วยฝากถามอดอล์ฟหน่อยสิ
มีที่ไหนที่ทาสมนุษย์สัตว์สามารถอยู่ได้อย่างปลอดภัยรึเปล่า
บอลแรบบิทเลิกกัดหัวอูฐตรงหน้าแล้วหันมาหาอดอล์ฟ
「เปฟุ」
『นีน่า สงบสุข ที่อยู่ ที่ไหน』
「นีน่า?」
อดอล์ฟถามกลับมาพร้อมเอียงคอเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าแล้วก็พูดว่า 「อ้อ แม่หนูคนนั้นสินะ」
「….ไม่」
….นั่นสินะ ทุกอย่างมันคงไม่สะดวกสบายขนาดนั้นหรอก
ต่อให้เราช่วยเธอออกมาได้ ปัญหาที่อยู่ต่อจากนั้นก็ยังเป็นเรื่องใหญ่อยู่ดี
ถ้า [ละอองเกล็ดมังกร] มันหายไปตอนวิวัฒนาการครั้งหน้าก็ดีสิ
「….ไม่ใช่ว่าไม่มีหรอก」
มีเรอะ?
วิธีพูดประหลาดเป็นบ้า ตกใจหมดเลย
แต่อดอล์ฟเหมือนจะไม่อยากพูดมันออกมาเท่าไหร่
มีปัญหาอะไรอีกล่ะ?
「แต่ข้าไม่คิดว่ามังกรจะเข้าไปได้หรอกนะ」
อ้อ เรื่องนั้นนั่นเอง
แย่หน่อย…..แต่ชั้นเตรียมใจเรื่องนั้นไว้แล้ว
พออดอล์ฟเห็นท่าทางชั้น เขาก็เริ่มพูดต่อ
「ใกล้ ๆ กับฮาเรเน จะมีอีกประเทศหนึ่งที่ชื่อว่าอาเดเซีย เมื่อไม่นานมานี้อาเดเซียเพิ่งจะไปทำสนธิสัญญากับเมืองที่มีมนุษย์สัตว์อาศัยอยู่มาก พวกนั้นเลยไม่ปฏิบัติกับมนุษย์สัตว์เยี่ยงทาสเหมือนฮาเรเน กลับกันยังตั้งใจจะปลดมนุษย์สัตว์ให้เป็นอิสระด้วย ถ้าอาเดเซียรู้ว่าเธอเป็นทาสที่หนีมาจากฮาเรเน จะต้องรับเธอไว้ด้วยความยินดีแน่」
เข้าใจละ ถ้าพานีน่าไปที่นั่นก็จะยังมีความหวังอยู่สินะ
ชั้นขอให้อดอล์ฟช่วยเขียนแผนที่บนทรายให้
ถ้าบินผ่านฮาเรเนไป บินไปเป็นเส้นตรงก็จะเจอเอง
「กรร」
จะว่าไปก็ควรคิดเรื่องของตัวชั้นไว้ด้วยเหมือนกัน
ถ้าชั้นเสนอหน้าไปโผล่ในฮาเรเน คงอยู่ในทะเลทรายต่อไม่ได้แล้ว
ที่ที่มีคนน้อย ถ้าเขียวขจีด้วยได้ยิ่งดี ชั้นเอือมทะเลทรายเต็มทนแล้ว
「เปฟุ」
『เราด้วย ที่อยู่ คนน้อย อาหารอร่อย』
อาหารก็สำคัญเนอะ
พอได้ยินบอลแรบบิทพูด อดอล์ฟก็วาดแผนที่เพิ่มขึ้นจากเดิม
「ทางตะวันออกของอาเดเซียจะมีแม่น้ำสายใหญ่อยู่ และผ่านจากตรงนั้นจะเป็นป่าอันไพศาล ว่ากันว่าเป็นพื้นที่อันตรายที่วีรชนหลายคนต้องไปจบชีวิตที่นั่น……แต่นอกจากที่นั่นก็คงไม่มีแล้ว เพราะแถว ๆ นี้ส่วนใหญ่ก็มีแต่ทะเลทรายทั้งนั้น」
ป่า กับแม่น้ำ….?
หรือว่า อาจจะเป็นป่าที่กิ้งก่าดำอยู่?
เห็นว่าเป็นป่าใหญ่ด้วย อาจจะใช่ก็ได้
「ที่นั่นแทบไม่มีคนอยู่ นอกซะจาก….ลิตวาล ชนเผ่าอันตรายที่อาศัยอยู่ในป่า ข้าเองก็รู้ไม่มาก ได้ยินแค่ว่ามีจำนวนอยู่น้อย เพราะงั้นแกคงไม่ไปเจอเข้าง่าย ๆ หรอก」
งั้นก็แย่น่ะสิ…?
แต่ว่าที่อื่นที่ไม่มีคนเพ่นพ่านก็ไม่มีแล้ว
ยังไงก็คงต้องเป็นที่นั่นสินะ….
เอาเถอะ ถ้าศัตรูเก่ง ค่าประสบการณ์ก็สูงตามไปด้วย
「มีอีกทางนึงคือไปทิศตรงกันข้าม ทางนั้นน่าจะปลอดภัยกว่า แค่ทางผ่านมีสงครามกลางเมืองเกิดขึ้นอยู่ แต่แบบนั้น….」
ทางนั้นขอผ่านดีกว่าแฮะ…
โลกนี้มันมีแต่ที่อันตรายรึไงนะ