ชั้นเดินฝ่าความมืดไป มุ่งหน้ากลับไปที่ถ้ำ
อ่าา บ้าเอ๊ย ยังเจ็บทั้งตัวอยู่เลย
ไม่คิดเลยว่าแค่ใช้ [ศาสตร์ร่างมนุษย์] จะต้องเจ็บตัวขนาดนี้
นี่ชั้นต้องเป็นมังกรไปตลอดชีวิตรึไง
ตั้งใจจะทำให้บอบช้ำยันจิตใจเลยรึยังไงนะ
นี่ชั้นต้องทนทุรนทุรายทุกครั้งที่ใช้เลยเหรอ
ครั้งหน้าคงต้องตรวจสอบสกิลพิลึก ๆ ทุกครั้งก่อนจริง ๆ นั่นล่ะนะ
ขนาดเจ้าตูบนั่นยังมีสกิลแยกหัวออกมา ถ้าจะมีสกิลที่ใช้แล้วแล้วร่างระเบิดตู้มคงไม่แปลก
ชั้นไม่เหมาะจะเป็นมนุษย์งั้นเหรอ…..หรือว่าเลเวลสกิลยังสูงไม่พอ?
นี่ต้องเป็นแบบนั้นอีกกี่ครั้งเลเวลสกิลถึงจะขึ้นกันล่ะเนี่ย
แบบนี้มันทรมานในค่ายทหารชัด ๆ
พอชั้นเห็นถ้ำ ก็ปรากฏว่ามีแสงไฟอยู่ตรงใกล้ ๆ ทางเข้า
นั่นมัน….ฮิคาริดาเกะลอยได้?
ฮิคาริดาเกะคือเห็ดเรืองแสงที่ชั้นเอามาใช้แทนหลอดไฟอยู่ในถ้ำ
ปกติชั้นก็จะปิดมันไว้โดยเอาขนเกรย์วูล์ฟคลุม
เห็ดนั่นมันหนีออกมาเองไม่ได้แน่
พอตั้งใจดูให้ดี ๆ ก็เห็นผู้หญิงสองคนอยู่ที่หน้าถ้ำ
ผู้หญิงคนที่ตัวเตี้ยกว่าถือฮิคาริดาเกะไว้ในมือ ดูท่าเธอจะใช้แทนไฟฉาย
ส่วนมืออีกข้างถือค้อนไว้ที่ใหญ่จนเกินพอดี
แล้วทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงมีหูสัตว์งอกอยู่บนหัวด้วย?
เป็นครึ่งมนุษย์งั้นเหรอ?
เอาเถอะ ชั้นเองก็เป็นมังกร คงไม่ต้องตกใจ
อีกคนสวมเกราะหนักอยู่
มีร่างกายที่ดูผอมบาง ไม่รู้ขยับในชุดแบบนั้นได้ยังไง
สรุปคือเป็นสาวครึ่งสัตว์กับนักดาบหญิงสินะ
หรือว่าถึงเวลาแล้วที่มนุษย์จะมาเยี่ยมเยือนบ้านชั้นแล้ว
นี่เป็นโอกาสทองที่ชั้นจะบอกว่าตัวเองเป็นมังกรที่เป็นมิตร รักสงบ และมีอารยะธรรม
ต้องกะจังหวะเผยตัวดี ๆ แล้วสิ
ชั้นแอบอยู่หลังต้นไม้ คอยจับตาดูสถานการณ์ไว้
นักผจญภัยทั้งสองกำลังสำรวจรูปปั้นที่อยู่ตรงหน้าถ้ำจากหลาย ๆ มุม
โฮ่ กำลังอึ้งอยู่ล่ะ
ทึ่งกับความเทพของรูปปั้นของชั้นซะสิ
รู้สึกทั้งดีใจทั้งอายเลยแฮะ
ทั้งสองคนยืนอยู่หน้ารูปปั้น อ้าปากค้างเล็กน้อย พร้อมเอานิ้วจิ้ม ๆ
เฮะเฮะ ผลงานจากการที่ชั้นทำซ้ำไปซ้ำมาหลายต่อหลายครั้งไงล่ะ
หม้อก็ส่วนนึง แต่รูปปั้นพวกนี้มีอิมแพคกว่าเยอะ
หลังจากแอบดูไปสักพัก ผู้หญิงหูสัตว์ก็วางฮิคาริดาเกะกับค้อนลงบนพื้น แล้วเริ่มจับรูปปั้น
โฮ่โฮ๋ ช่วยไม่ได้ล่ะนะ
จะแตะลูบคลำเท่าไหร่ก็เอาเลย
ชั้นอนุญาตให้จับได้อยู่ในใจ แล้วทันใดนั้นเธอก็หยิบกิ่งไม้ใกล้ ๆ ขึ้นมา ฟาดลงใส่รูปปั้น
เฮ้ย ยัยบ้า! ทำอะไร๊!
ไม่ได้ให้ทำขนาดนั้นสักหน่อย!
แน่นอนว่ากิ่งไม้หัก แต่ในใจก็รู้สึกหวิว ๆ อยู่ไม่น้อย
ถ้ามันเป็นรอยขึ้นมาชั้นร้องไห้แหง
โหดร้ายซะจริง
จากนั้น ทั้งสองคนก็หยิงฮิคาริดาเกะขึ้นมา แล้วเข้าไปในถ้ำ
ข้างในมีพรมกับหม้อที่ชั้นอุตส่าห์ทำขึ้นมา เกลือกับเครื่องเทศที่ชั้นสะสมไว้ แล้วก็เนื้อตากแห้ง
ชั้นอยากรู้ว่าทั้งสองคนจะมีปฏิกิริยายังไง ก็เลยค่อย ๆ ย่องจากหลังต้นไม้ไปปากถ้ำ
อ๊ะ จริงสิ กิ้งก่าดำยังอยู่ข้างในนี่นา
「ก่าาห์!」
ชั้นตะโกนเข้าไปในถ้ำ แล้วรีบซ่อนตัว
หวังว่ากิ้งก่าดำจะตื่นแล้วรีบหนีออกมานะ
「คิชี่!」
「Τι είναι αυτό;!」「 Μαύρη Σαύρα!」
มีเสียงร้องสามเสียงดังขึ้นมาจากข้างในถ้ำ
แล้วกิ้งก่าดำก็วิ่งออกมาโดดใส่ชั้น
「คิชิ! คิชี่!!」
ชั้นลูบหัวกิ้งก่าดำเพิ่อให้เธอใจเย็นลง แล้วก็หันเข้าไปดูในถ้ำ
ทั้งคู่กำลังดูหม้อของชั้นอยู่ แล้วก็คุยอะไรกันบางอย่าง
ถ้าชั้นออกไปบอกแบบ『ของชั้นเองล่ะ』อีกฝั่งจะ『ว้าว เป็นมังกรที่ฉลาดเหมือนมนุษย์เลย』รึเปล่านะ
ไม่รู้สิ
แต่พวกนั้นอาจจะแค่เห็นชั้นเป็นมังกรที่บังเอิญผ่านมาก็ได้
อืม จะทำยังไงดีน้า
ระหว่างแอบดูทั้งสองคน ชั้นก็คิดแผนนู่นนี่ไว้เยอะแยะ แต่ก็ตีตกไปซะหมด
「คิชิชิ?」
กิ้งก่าดำจ้องมาทางชั้นด้วยความสงสัย
พอชั้นหันไปสนใจกิ้งก่าดำ ก็เห็นสาวหูสัตว์หันหน้ามาทางนี้
ชั้นรีบเอาตัวแนบกับกำแพงเพื่อซ่อนตัวทันที
อันตราย อันตราย
เกือบโดนเห็นแล้วสิ
จะทำยังไงดี?
ถ้าชั้นมัวแต่หลบ ๆ ซ่อน ๆ แบบนี้ ที่เตรียมการไว้ก็ต้องสูญเปล่าทั้งหมด
ที่ชั้นตกแต่งข้างในไว้ไม่ใช่แค่ให้มันน่าอยู่ แต่เพื่อบอกว่าชั้นไม่ใช่แค่มอนสเตอร์ด้วย
จะทำอะไรดีนะ?
ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
ในที่สุดก็ต้องใช้ [ศาสตร์ร่างมนุษย์] ที่ปิดผนึกไว้จนได้
ถึงมันจะห่วยแตกก็เถอะ แต่มันก็ดูเป็นรูปมนุษย์อยู่บ้าง
ยังไงก็ดีกว่าร่างมังกร บางทีที่มันเน่าอาจจะเพราะเป็นครั้งแรกมันก็เลยไม่เสถียรก็ได้
「ก่าห์」
「คิชิ?」
ชั้นร้องเบา ๆ พลางลูบหัวกิ้งก่าดำ
ต้องทำให้แน่ใจว่ากิ้งก่าดำจะไม่โจมตีชั้นหลังเปลี่ยนร่าง
「คิชิ คิชิ!」
กิ้งก่าดำยิ่งร้องขึ้นไปใหญ่
วางใจได้น่า
ถึงชั้นจะแปลงเป็นมนุษย์ได้สมบูรณ์ ชั้นก็ไม่คิดจะแยกกับกิ้งก่าดำหรอก
ชั้นคิดในใจพลางลูบหัวกิ้งก่าดำ
บางทีชั้นอาจจะเเค่เห็นแก่ตัวก็ได้
ชั้นสูดหายใจเข้า แล้วนึกภาพในหัว
เอาล่ะ นายทำได้
ใช่แล้ว ครั้งที่แล้วแค่ชั้นจินตนาการไม่พอเเค่นั้นเอง
[เลเวลของสกิลทั่วไป [ศาสตร์ร่างมนุษย์] เพิ่มขึ้นจาก 1 เป็น 2]
มีตัวอักษรปรากฏขึ้นในหัวเมื่อชั้นใช้ [ศาสตร์ร่างมนุษย์]
ร่างกายชั้นร้อนขึ้น แล้วก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไป
ไม่รู้เพราะชั้นชินแล้วรึเปล่า หรือว่าร่างกายมันปรับตัวแล้วกันแน่ แต่ความเจ็บปวดมันลดน้อยลงกว่าครั้งที่แล้ว
ทำได้แน่!
ไปเลย!
ถึงจะไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นยังไง แต่ก็น่าจะดูเหมือนมนุษย์กว่าครั้งก่อน
「คิชี่!」
ชั้นหันไปหากิ้งก่าดำ แต่แล้วก็หันกลับแล้วเดินเข้าไปในถ้ำทันที
ทั้งสองคนอยู่ใกล้ทางเข้ากว่าที่คิดไว้
สีหน้าของทั้งคู่มีแต่ความหวาดกลัวเท่านั้น
ท่าทางอย่างกับเจอมอนสเตอร์สุดสยองเลย…..
เอ่อ…..หรือข้างหลังชั้นมีตัวอะไรอยู่
「Μην αφαιρείτε την απόλυτη!」 「είναι φυσικό!」
หลังจากทั้งสองตะโกน สาวหูสัตว์ก็พุ่งเข้ามาหา
เหวี่ยงค้อนยักษ์ใส่ร่างชั้นเต็มจัง ๆ
เพราะชั้นอยู่ในร่างมนุษย์ พลังป้องกันก็เลยลดลงไปครึ่งนึงด้วย
ที่โดนเข้าไปอาจจะถึงตายเลยก็ได้
「บุก่าห์!」
ชั้นโดนอัดปลิวไป แต่ก็แลนดิ้งได้อย่างปลอดภัย
แล้วนักดาบหญิงที่ก่อนหน้านี้ยืนอยู่ข้างหลัง ก็ยื่นดาบออกไปข้างนอก
「[Φως του φεγγαριού]」
พอพูดออกมา แสงจันทร์ก็ตกลงมากระทบดาบ แปรเปลี่ยนเป็นบอลแสงพุ่งเข้ามาโจมตีชั้น
ชั้นโดนไปห้านัด แล้วก็ลงไปนอนกองกับพื้น
「ก่าห์ ก่าาห์……」
ผู้หญิงหูสัตว์กำลังจะซ้ำชั้นอีกที แต่นักดาบหญิงห้ามเอาไว้ก่อน
แล้วทั้งคู่ก็รีบวิ่งหนีไป
「คิ คิชี่ー!」
กิ้งก่าดำที่รออยู่ข้างนอก มองสองคนนั้นที่วิ่งหนีไปกับชั้นที่นอนเป็นปุ๋ยอยู่ ก่อนจะพยายามตามไป
แต่ชั้นจับหางห้ามเอาไว้ได้กอ่น
พอร่างของทั้งสองคนลับสายตาไป ร่างชั้นก็กลับมาเป็นดังเดิม นอนอยู่บนพื้น
「ก่าาห์….」
「คิชิ」
กิ้งก่าดำเดินเข้ามาเลียตรงแก้ม
กำลังจะปลอบใจชั้นอยู่เหรอ?
ทั้ง ๆ ที่ชั้นกำลังจะทรยศกิ้งก่าดำแท้ ๆ
「คิชี่!」
กิ้งก่าดำร้องขึ้นมาอีกรอบ แล้วหันไปดูรูปปั้นที่อยู่หน้าถ้ำ
เป็นรูปปั้นของมังกรกับมนุษย์ยืนประกบทางเข้าอยู่ แต่ที่กำลังมองไปคือของมนุษย์
กิ้งก่าดำเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ดีขนาดไหนกันนะ?
นอกจากจะไม่ตกใจชั้นเรื่องที่แปลงร่างแล้ว ยังพยายามจะช่วยปลอบใจชั้นด้วย บางทีเจ้ากิ้งก่าดำอาจจะฉลาดกว่าที่ชั้นคิดไว้มากก็ได้