[นิยายแปล] เกิดใหม่เป็นไข่มังกร – ตอนที่ 95

 เมื่อฉันพายูโนะกับคนอื่น ๆ อีกสามคนกลับมา เราต่างก็ยืนตะลึง

 

 หอคอยใหญ่กลางหมู่บ้านหายไปแล้ว จำนวนบ้านก็ลดลง

 แถมสภาพพื้นดินกลับเปลี่ยนไปอีก

 ตรงกลางหมู่บ้านก็มีเสียงเอะอะดังมาด้วย

 

 「เฮ้ยเฮ้ย แบบนี้ มาช้าไปใช่มั้ยเนี่ย?」

 

 มือธนูดัซพึมพำออกมาเบา ๆ

 นี่มันคนละเรื่องกับที่ฉันกังวลเลย

 เพราะฉันไปเจอแหล่งกบดานของพวกโจรเข้าในป่า ฉันเลยกลับไปรวมกลุ่มกับคนอื่น ๆ เพราะคิดว่าพวกมันอาจจะโจมตีหมู่บ้านก็ได้

 

 แม้จะผิดกับที่คิดไว้มากโข แต่ก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดี

 ถ้าฉันรวบรวมข้อมูลต่อ ฉันกับยูโนะก็คงอยู่ด้วย สถานการณ์อาจจะไม่เลวร้ายขนาดนี้

 

 

 หลังจากฟังเรื่องราวจากชาวบ้าน ดูเหมือนว่าจะมีมังกรขนาดกลางสองตัวบุกเข้ามา แล้วสู้กันกลางหมู่บ้าน

 ผลคือสภาพอย่างที่เห็น

 มังกรตัวนึงแพ้และตายไป ส่วนอีกตัวบาดเจ็บหนักจนร่วงลงไปข้างล่างผา และคิดว่าน่าจะตายไปแล้ว

 

 แถมยังมีเรื่องที่มีคนที่น่าจะตายไปแล้ว ก็กลับมาอาละวาดในหมู่บ้านด้วย บางคนก็ว่าถูกชุบชีวิตเป็นซอมบี้บ้าง กินเห็ดพิษบ้าง ต่าง ๆ นา ๆ

 

 ทำให้ฉันนึกถึงเรื่องเนโครแมนเซอร์ที่ฉันตีตกไป

 ถึงฉันจะคิดว่าไม่ใช่เพราะหลุมศพยังอยู่ดี แต่พอมีคำว่าซอมบี้ออกมามันก็ทำให้นึกถึงเรื่องนั้น

 อย่าบอกนะว่าพวกโจรนั่นมันมีเนโครแมนเซอร์ด้วย?

 ใช้อสูรระดับนั้นมันอันตรายเกินไป ไม่สิ สำหรับพวกนอกกฎหมายอย่างพวกมันแล้ว อาจจะไม่สำคัญก็ได้

 

 

 ฉันพาคนอื่น ๆ อีกสามคนไปที่บ้านของมาริเอล

 ถ้าเป็นเธอล่ะก็ คงจะได้ข้อมูลแบบไม่มีการใส่สีตีไข่

 บางอย่างมันบอกว่าเธอคนนี้อยู่ในหมู่บ้านนี้มานานแล้ว

 

 แต่พอไปถึงก็ไม่เจอมาริเอล พอลองไปถามคนอื่น ก็เหมือนว่าเธอจะอยู่ที่หอประชุมในหมู่บ้าน

 ที่นั่นกลายเป็นสถานที่สำหรับคนที่บ้านถูกพังไปให้พักอาศัย แล้วก็เป็นสถานที่สำหรับรักษาคนบาดเจ็บด้วย

 มาริเอลที่ใช้เวทขาวได้ถึงอยู่ที่นี่

 

 พอมาริเอลเห็นฉัน เธอก็หยุดเดิน

 

 「ฉันเมลเทีย ที่มาหมู่บ้านเมื่อครั้งก่ออน」

 

 ฉันไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับคำขอคราวที่แล้ว

 ก่อนหน้านี้ เรารับคำขอมาแบบลับ ๆ เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายในหมู่บ้าน เรื่องนี้มาริเอลเป็นคนขอมาเอง

 

 เราเปลี่ยนที่คุยไปเป็นที่บ้านของมาริเอล

 แต่ว่าสุดท้ายเรื่องราวมันก็ไม่ต่างจากที่ฟังมาจากคนอื่น ๆ นัก

 เหมือนว่ามาริเอลจะมีบางอย่างที่ไม่ได้บอก แต่เธอก็คงไม่บอกเราทั้งหมดอยู่ดี

 

 ฉันเอาข่าวลือต่าง ๆ ที่ได้ยินมาไปยืนยันกับมาริเอลอีกครั้ง

 เมื่อคุยเสร็จ ฉันก็ยกเรื่องที่มีแหล่งกบดานของโจรขึ้นมา แล้วก็ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในป่า

 

 แต่ก็เหมือนทุกที ถ้ามีคนถามก็ต้องบอกว่ามาริเอลห้าม พวกเราเข้าไปกันเอง

 

 เธออยากจะให้คนเชื่อว่า『ผู้พิทักษ์แห่งพงไพรพิโรธเพราะมีคนฝ่าฝืนกฎ』เป็นเหตุผลของเรื่องทั้งหมด

 

 ถ้าชาวบ้านรู้ว่าเหตุเกิดเพราะอะไรพวกเขาก็จะโล่งใจ แถมยังลดจำนวนคนที่เข้าไปในป่าอันตรายได้ด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

 เดิมทีเรื่องทั้งหมดมันก็เริ่มมาจากการที่ชายที่ชื่อว่าโดซเข้าไปในป่านี่นะ

 

 ก็เพราะอย่างนั้น ถึงให้ชาวบ้านรู้ว่ามาริเอลอนุญาตให้เราเข้าไปไม่ได้

 

 ขณะที่ฉันกำลังจะกลับ มาริเอลก็ทักขึ้น

 

 「อ๊ะ จริง ๆ ก็มีคำขออยู่อันนึงล่ะเน่อ ช่วยรับฟังหน่อยได้มั้ย?」

 

 พอฉันหันกลับไป มาริเอลก็ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้แล้ว

 

 「จำมิเรียได้รึเปล่า? ตอนที่เราคุยกันครั้งก่อน เธอเป็นเด็กที่นั่งอยู่กับฉันตอนแรกน่ะ」

 

 ฉันนึกย้อนกลับไปเมื่อมาริเอลพูดชื่อนั้นขึ้น

 จำได้ว่ามีเด็กผู้หญิงอยู่คนนึงก่อนที่ฉันจะมา

 เด็กผู้หญิงไว้ผมบ๊อบ ผิวพรรณ์เหมือนตุ๊กตา

 

 「เด็กคนนั้นอยากออกเดินทางไปข้างนอกน่ะ ฉันอยากให้เธอฝากดูแลหน่อย ถ้าช่วยสอนเรื่องต่าง ๆ ให้เธอด้วยจะดีมากเลย เธอไปคุยกับมิเรียก่อนจะตัดสินใจก็ได้เน่อ」

 

 ได้ยินมาว่านอกจากมาริเอลแล้ว คนที่ใช้เวทขาวได้ในหมู่บ้านนี้ก็มีแค่มิเรีย จะปล่อยให้คนที่ความสามารถแบบนี้ไปจะดีเหรอ? หรือว่ามีเหตุผลอื่นซ่อนอยู่กัน?

 

 ฉันเองก็ได้ยินเรื่องที่ว่ามิเรียเป็นคนพามังกรตัวนึงเข้ามาด้วย โดนกล่าวโทษเลยโดนไล่ออกจากหมู่บ้านงั้นเเหรอ?

 แต่ดูจากสีหน้าของมาริเอลแล้ว นั่นคงไม่ใช่เหตุผล

 

 จะให้ดูแลนักเวทขาวไร้ประสบการณ์ฉันก็ไม่มีปัญหา แต่อยากฟังเรื่องราวทั้งหมดก่อนมากกว่า

 ควรจะไปเจอกับเจ้าตัวก่อนสินะ

 

 「ไว้จะเอาไปคิดระหว่างที่ออกสำรวจป่าแล้วกันนะ」

 

 ว่าแล้วฉันก็ออกจากบ้านของมาริเอลไป

 

 

 เมื่อได้คำอนุญาตจากมาริเอล เราก็เข้าไปในป่าโนอาห์

 ระหว่างทาง เราก็เจอปีศาจประเภทหมาป่า แมงมุม หรือหมีที่เป็นดิน แต่เพราะมีสี่คนเราเลยไม่มีปัญหาอะไร

 

 ดัซจะยิงศรพิษออกไปก่อน แล้วให้ยูโนะจัดการศัตรูที่โดนธนูเข้าไป

 ฉันจะบุกเข้าจากอีกทางโดยใช้ดาบหรือไม่ก็เวทแสง สุดท้ายก็ให้โรมิน่าฟื้นฟูโดยใช้เวทขาวของเธอ

 

 ครั้งก่อนเราต้องหนีมังกรแห่งโรคภัยตัวเล็กนั่น แต่ถ้าเป็นตอนนี้ฉันเชื่อว่าเราสู้มันได้

 

 「แต่ว่านะ เมลเทีย มันจะมีโจรแอบซุ่มอยู่จริง ๆ เร้อ?」

 

 พอเราข้ามผามาได้ ดัซก็ถามฉัน

 

 「อา ฉันเห็นมากับตา อีกไม่นานก็คงถึงแล้วล่ะ ฉันมั่นใจว่าจำถูก วางใจได้」

 

 「พอเธอเล่ามาก็เลยไปลองตรวจสอบดู ลองคุยกับพ่อค้ารายใหญ่ในประเทศเราแล้วแต่ก็ไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่าง ถ้าพิเปอริสจำนวนมากขนาดนั้นหายไปจริง ๆ เรื่องมันไม่เงียบขนาดนี้หรอก มันใช่พิเปอริสจริง ๆ เร้อ?」

 

 「ถ้านายอุตส่าห์ไปหาข้อมูลมาขนาดนั้นก็น่าจะมาบอกกันบ้างนะ」

 

 「หนีมาจากทวีปอื่นรึเปล่า? คนลักลอบนำเข้าพิเปอริสมันมีอยู่แล้ว คงไม่อยากให้เรื่องแดงขึ้นหรอก แต่พอลองฟังเรื่องราวแล้วมาที่หมู่บ้าน ก็รู้สึกแปลก ๆ อยู่เหมือนกัน」

 

 ดัซโตมาเป็นเด็กกำพร้า อยู่ในเมืองที่มีความปลอดภัยต่ำ ดูเหมือนว่าเขาเคยจะทำงานให้กับพวกมาเฟียอะไรทำนองนี้มาก่อน

 เพราะงั้น ถ้าเขาจะรู้เรื่องอะไรแบบนี้ก็ไม่แปลก

 ถ้าดัซบอกว่า「รู้สึกแปลก ๆ」บางทีคงหมายถึงว่าที่นี่ไม่เหมาะสำหรับกบดาน หรือสถานการณ์มันไม่ถูกต้อง

 

 ถึงวิธีการพูดของเขาจะดูสบาย ๆ แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่จะพูดเรื่องไร้สาระแน่

 แต่ว่าฉันก็เห็นพิเปอริสจริง ๆ

 

 「มันก็เป็นไปได้ แต่ฉันมั่นใจเลยว่าเป็นกลิ่นของพิเปอริสแน่ ๆ ยูโนะเองก็เห็นใช่มั้ยล่ะ?」

 

 「ไม่รู้สิค้า นั่นเป็นครั้งแรกเลยที่ยูโนะจังเห็นของหรูขนาดนั้น ยูโนะจังเคยเล่ารึยังว่าที่บ้านจนมากจนเกือบโดนแม่ขายทิ้ง ยูโนะจังเลยหนีออกจากบ้านมาน่ะ? ถึงกับต้องย่างรองเท้าพ่อกินเลยนะ เอ บางทีถ้าเอาไปกินกับพิเปอริสอาจจะอร่อยขึ้นก็ได้」

 

 ยูโนะพูดออกมาอย่างภูมิใจขณะที่บิดหูของเธอไปมา

 บรรยากาศรอบตัวเลยหนักอึ้งไปเลยเพราะจู่ ๆ ก็เล่าเรื่องแบบนั้นออกมา

 เจ้าตัวภูมิใจในตัวเองแหละ แต่ให้เธอหยุดก่อนดีกว่าจะได้ดีสำหรับหลาย ๆ ฝ่าย

 

 「เอ่อ…..ไม่สิ ขอโทษนะ ฉันเองก็ไม่เคยได้ใช้ของหรูหราขนาดนั้นเหมือนกัน….เอ ถ้าจำไม่ผิดถ้ำน่าจะอยู่แถว ๆ …..นี้」

 

 ฉันวิ่งไปที่ที่น่าจะเป็นถ้ำที่เคยมาเมื่อครั้งก่อน แต่กลับกลายเป็นว่าไม่มีอะไรอยู่

 ไม่มีรูปปั้น ไม่มีต้นไม้ที่มีเนื้อเสียบอยู่ ไม่มีอะไรเลย

 ไม่ใช่ตรงนี้งั้นเหรอ? ไม่สิ มันน่าจะใช่….

 

 「อะไรเหรอค้า ท่านเมลเทีย?」

 

 「ยะ ยูโนะ! ครั้งที่แล้วที่เรามามันคือแถว ๆ นี้ใช่มั้ย!?」

 

 「อือ…..ยูโนะจังไม่ค่อยมั่นใจในความจำตัวเองเท่าไหร่ แต่น่าจะลึกเข้าไปกว่านี้นะ?」

 

 ไม่ใช่มั้ง…..แต่ถ้าไม่ใช่ตรงนี้ฉันมันก็ต้องเป็นที่อื่นอยู่แล้ว

 

 「นี่ นี่เธอเห็นจริงมั้ยเนี่ย? ถึงมันจะแปลกแต่ก็เชื่อไม่ลงเท่าไหร่นะ เรื่องนั้นน่ะ แน่ใจนะว่าไม่ได้ฝันไปเอง?」

 

 ดัซพูดออกมา

 

 「มะ มั่นใจสิ มันควรจะอยู่แถว ๆ นี้นี่นา! ตรงนั้นก็น่าจะมีต้นไม้เสียบเนื้อ ตรงนั้นก็เป็นรูปปั้น….」

 

 「อ้อ เข้าใจแล้ว ชั้นจะไปหาที่อื่นแล้วกัน จะมาเอ้อระเหยอยู่ตรงนี้ไม่ได้หรอก」

 

 「ค่าー! เดี๋ยวต่อจากนี้ยูโนะจังจะเป็นคนนำทางให้เอง ต้องเข้าไปลึกกว่านี้แน่นอน ท่านเมลเทีย ลืมเรื่องสำคัญแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย」

 

 ยูโนะ เธอก็ด้วยเหรอ?

 ไม่สิ ไม่ได้แล้ว

 

 「ดะ รอเดี๋ยวก่อน! แถว ๆ นี้ล่ะ! ต้องอยู่ใกล้ ๆ นี้แน่ ๆ」

 

 「ตามมาเร็ว ๆ ละกัน เราจะไปกันแล้ว」

 

 แล้วดาซก็เดินไป โดยมียูโนะเป็นคนนำทาง

 

 โรมิน่ามองฉันกับยูโนะสลับไปมา ก่อนจะพูดว่า「….เอ่อ ขอโทษนะ」เบา ๆ แล้วก็วิ่งตามยูโนะไป

 ….ถึงฉันจะยังไม่เข้าใจว่าขอโทษทำไม แต่จะอยู่ตรงนี้คนเดียวก็ไม่ดี สุดท้ายฉันก็วิ่งตามสามคนนั้นไป

 

[นิยายแปล] เกิดใหม่เป็นไข่มังกร

[นิยายแปล] เกิดใหม่เป็นไข่มังกร

[นิยายแปล] เกิดใหม่เป็นไข่มังกร
Status: Ongoing
เปรี๊ยะ ข้างหน้าชั้นตอนนี้มีรอยร้าวอยู่ โลกที่เคยมีแต่ความมืดก็มีแสงส่องเข้ามา ชั้นแลตามองออกไปดูรอยร้าวที่กำลังใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ หืม นี่มันป่าเหรอ? เหมือนว่าจะอยู่บนยอดต้นไม้ซะด้วย พอชั้นลองยืนขึ้น ก็ได้ยินเสียงอะไรแตกอยู่ใต้เท้า เอ ชั้นเหยียบอะไรอยู่ล่ะเนี่ย แบบว่า เหมือนมันกำลังแตกอยู่เลยอะ ทันทีที่คิดอย่างนั้น ก็มีอะไรบางอย่างที่ดูคล้ายเกมก็ปรากฏขึ้นในหัว —————————————————————

Comment

Options

not work with dark mode
Reset