ตอนที่ 74
ดวงจันทร์ในเมฆหมอก
เหตุการณ์ร้ายแรงก็ผ่านพ้นมาได้ด้วยดีแล้ว หญิงสาวทั้งสามมารวมตัวกับเซเลนได้สำเร็จ
“ท่านแม่! เซเลน! ปลอดภัยดีสินะคะ โล่งอกจริงๆ!”
อาลัวที่ยังเหนื่อยหอบ มองดูเซเลนในอ้อมแขนของมิลาน กับไอโรเน่ที่ลงมาอยู่บนพื้นดินได้อย่างปลอดภัย น้ำตาไหลด้วยความโล่งใจ น้องสาวของเธอพยายามอย่างหนักด้วยร่างกายอันบอบบาง ช่วยเหลือแม่ของพวกเธอได้สำเร็จ
ขอย้ำอีกครั้งว่าเป็นผลงานจากเสื้อผ้าชุดหนึ่ง แม้เซเลนจะเป็นคนที่เลือกใส่ชุดนี้ก็ตาม แต่ความดีความชอบส่วนใหญ่ก็เป็นของเสื้อผ้าชุดนี้อยู่ดี
“ท่านแม่… ทั้งที่ท่านบอกว่ามีคำตอบที่ทุกคนพอใจแท้ๆ”
เมื่อได้ทราบเหตุการณ์คร่าวๆ ประกอบกับคำพูดที่ไอโรเน่บอกกับอาลัวเมื่อวันก่อน อาลัวจึงได้รู้ว่าไอโรเน่คิดจะใช้ความตายของตัวเองเป็นทางออก ไอโรเน่ก็ยอมรับอย่างง่ายๆ
“ทำแบบนี้ไม่มีใครพอใจหรอกค่ะ! ถ้าท่านแม่ตายไป… แล้วหนูล่ะ… แล้วพวกเราล่ะ…!”
เมื่อไอโรเน่ตายไปพร้อมกับบาปทั้งหมด อาลัวจะขึ้นเป็นราชินีที่ทุกคนสนับสนุน งานแต่งงานของเซเลนจะเป็นที่ยอมรับโดยไม่มีผู้คัดค้าน แต่ก็แน่นอนว่าอาลัวไม่ยอมให้มีผู้เสียสละ ในตอนที่ได้คุยกัน ไอโรเน่จึงไม่คิดจะบอกอะไรไปมากกว่านั้น
สิ่งสุดท้ายคือแหวนหมั้นวงสำคัญที่เก็บรักษายิ่งชีพมาตลอดก็ส่งต่อให้อาลัวเรียบร้อย ที่เหลือก็แค่จากไปอย่างหมดห่วงเท่านั้น แต่ก็ถูกเซเลนผู้อ่านบรรยากาศไม่ออก บุกเข้ามาทำลายแผนการจนเละเทะ
“ความมุ่งมั่นของเด็กคนนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ อ่านสถานการณ์ได้อย่างแม่นยำ ข้าเองก็ยังคิดไม่ถึงว่าเธอจะตั้งใจหยุดยังข้าถึงเพียงนี้ ทั้งที่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็ดีแล้วแท้ๆ”
ไอโรเน่มองไปที่เซเลนในอ้อมแขนของมิลานและพูดออกมา เพราะไม่เคยเอะใจเลยว่าเด็กคนนี้รู้ถึงไหนแล้วบ้าง ฉากจบด้วยความตายจึงถูกทำลายลง
“เอาเถอะ ในเมื่อแผนการของข้าถูกล่วงรู้และล้มเหลวไปแล้ว ข้าก็คง… อึก!”
แม้จะทำเหมือนสบายดี แต่ไอโรเน่ก็ไม่สามารถเก็บซ่อนอาการบาดเจ็บที่ได้รับมาตั้งแต่ตอนที่ถูกแขวนอยู่กลางอากาศได้
“เดี๋ยวหนูไปตามหมอมาให้นะคะ!”
“ช้าก่อน! ข้าน้อยเพิ่งบอกไปว่าไม่ควรเดินในป่าตามลำพังไงขอรับ! องค์ชาย ข้าน้อยขอตัวไปคุ้มกันเจ้าหญิงมารีเบลสักเดี๋ยว”
“ได้สิ ทางนี้ไม่น่ามีปัญหาอะไรแล้วล่ะ ฝากด้วยนะ”
มารีออกไปตามคนมาช่วย คุมะฮาจิวิ่งตามเธอไป ส่วนเรื่องตรงนี้ก็ไม่มีอะไรต้องห่วง เพราะเชื่อว่ามิลานจัดการคนเดียวได้แน่
[“พวกคุณทุกตัว! ขอขอบคุณที่จัดงานฉลองให้กับกระผม และยังได้ช่วยชีวิตเจ้าหญิงแสงจันทร์ผู้ยิ่งใหญ่พร้อมกับแม่ของเธอ! ก่อนจะแยกย้าย กระผมมีงานให้ทำอีกหนึ่งเรื่อง ช่วยดูแลท่านคุมะฮาจะกับเจ้าหญิงมารีเบลให้ปลอดภัยด้วยครับ”]
คนที่ไว้ใจได้ไม่ได้มีแค่มิลาน ยังมีบัตเลอร์ พ่อบ้านหนูผู้ที่พึ่งพาได้ทุกเรื่องอยู่อีกคน บัตเลอร์ออกคำสั่งก่อนจะให้สัตว์ทุกตัวแยกย้าย
สัตว์ป่าในบริเวณนั้นที่ได้ยินคำพูดของบัตเลอร์ก็ทยอยจากไปอย่างมีระเบียบ สัตว์บางตัว หมาป่า กวาง หรือแม้กระทั่งนกฮูกบนท้องฟ้าที่ยังไม่ปรากฏตัวให้ใครเห็น ก็ออกตามคุมะฮาจิห่างๆโดยไม่อีกฝ่ายให้รู้ตัว เป็นภาพที่ไม่สามารถพบเห็นได้ตามปรกติ
“ราชินีไอโรเน่ครับ กรุณาอย่าตัดสินใจเรื่องแบบนี้คนเดียวอีกนะครับ เจ้าหญิงอาลัวจะต้องเสียใจมากแน่ เซเลนก็เช่นกัน”
“เมื่อได้คิดให้ถี่ถ้วนก็รู้สึกผิดอยู่เหมือนกัน ตัวข้ามีอารมณ์อ่อนไหวและคิดตื้นเกินไป อย่างไรก็ตาม แม้จะได้เด็กคนนี้ช่วยชีวิตไว้ แต่ข้าก็ไม่อาจยอมรับเธอได้จริงๆ…”
ต่อให้เป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิต ก็เป็นคนละเรื่องกัน ความรู้สึกต่อตัวตนอันผิดแผกที่สัมผัสได้ในเซเลนยังไม่หายไปไหน แม้ได้ทำความเข้าใจมากขึ้นแต่ก็ยังไม่ได้แก้ไข เรื่องนี้ทำให้ไอโรเน่รู้สึกผิดต่อเธออยู่บ้าง แต่ทัศนคติของมนุษย์ไม่ใช่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงกันได้ง่ายๆ
“ท่านราชินี ท่านไม่ควรโกหกนะเจ้าคะ!”
คำพูดที่ไม่มีใครคาดคิดถูกกล่าวออกมา โดยปรกติแล้ว ฮิโนเอะจะรักษามารยาทอย่างดีเมื่ออยู่ต่อหน้าบุคคลสำคัญ ไม่เคยเคลื่อนไหวไปตามอารมณ์ให้ได้เห็น แต่ตอนนี้ เธอกลับตะโกนขัดจังหวะอย่างไม่เกรงกลัว
“คิดว่าข้าโกหกหรือ? จะบอกว่าข้ามีความรู้สึกดีๆให้กับเซเลนอย่างนั้นสิ? ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเจ้าล่ะ เป็นใคร? เป็นนักทำนายหรืออย่างไร?”
“ข้าน้อยมีนามว่าฮิโนเอะ ได้รับคำสั่งมาจากษัตรีย์แห่งเฮลิฟาลเต้ ให้ใช้พลังของข้าน้อยเพื่อสนับสนุนการแต่งงานของท่านเซเลน”
“เวทมนตร์ของเธอค่อนข้างพิเศษ ทำให้มองเห็นจิตใจที่แท้จริงของผู้คนได้ครับ”
มิลานพูดเสริมจากคำแนะนำตัวของฮิโนเอะ
“รูปลักษณ์เช่นนี้ ชาวตะวันออกสินะ เคยได้ยินมาว่าเวทมนตร์จากนอกทวีปมีความแตกต่างตั้งแต่พื้นฐาน แต่ดูจากที่บอกว่าข้ามีความรู้สึกให้กับเซเลน ก็คงเป็นเวทมนตร์ประเภทที่ไม่น่าเชื่อถือสักเท่าไหร่!”
“ในใจของท่านไอโรเน่ยังปฏิเสธท่านเซเลนอยู่ก็จริง แต่ก็แตกต่างจากก่อนหน้านี้ …ราวกับกลุ่มก้อนเมฆสีดำได้เปิดออกให้เห็นรูปร่างของดวงจันทร์เจ้าค่ะ”
จากครั้งแรกที่ฮิโนเอะเห็น ความรู้สึกที่ไอโรเน่มีต่อเซเลน เหมือนมีเงาดำอยู่แน่นหนา ปิดกั้นทุกอย่างจนมืดสนิท แต่ในตอนนี้ แม้ว่าเงาดำจะยังคงอยู่ แต่ก็เบาบางลงจนเริ่มเห็นแสงสว่างริบหรี่ เธอจึงพูดออกมาตามความจริงที่ได้เห็น
ประหนึ่ง ท้องฟ้าในคืนที่มีเมฆหมอกหนาทึบ ค่อยๆเปิดออกให้ดวงจันทร์ที่พร่ามัวได้ส่องแสงลงมา แม้จะเพียงเล็กน้อยจนยากที่จะมองออก ฮิโนเอะไม่พลาดที่จะสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงนั้น
“เซเลนคือสัตว์ประหลาดในร่างมนุษย์ คิดว่าข้าจะรักคนแบบนั้นได้ลงหรือ?”
“…แล้วเหตุใด สัตว์ประหลาดในร่างมนุษย์ จึงไม่คู่ควรแก่การถูกรักล่ะเจ้าคะ?”
ไม่ใช่สัตว์ประหลาด เป็นชายวัยกลางคนไม่ได้ความต่างหาก แต่ไอโรเน่กับคนอื่นๆไม่ได้รู้ถึงขั้นนั้น บทสนทนาจึงดำเนินต่อไปในทิศทางนี้
“ข้าน้อยเองก็เป็นสัตว์ประหลาดที่เปิดเผยความคิดในใจของผู้คน เป็นที่รังเกียจสำหรับใครก็ตามที่ได้รู้ ถึงอย่างนั้น ท่านคาเงะโทระก็ปฏิบัติกับข้าน้อยเป็นครอบครัว จนได้มาพบกับท่านเซเลนและคนอื่นๆ ซ้ำยังถูกช่วยชีวิตไว้ ข้าน้อยจึงได้มายืนอยู่ตรงนี้”
ฮิโนเอะพูดกับไอโรเน่ด้วยน้ำเสียงหลากหลายอารมณ์ อดีตที่เธอเคยเผชิญมานั้น ใกล้เคียงกับสถานการณ์ของเซเลน ด้วยความรู้สึกที่พรั่งพรูออกมา ฮิโนเอะจึงพูดจาหว่านล้อมไอโนเน่ทั้งน้ำตา
“ท่านไอโรเน่เป็นมารดาของท่านเซเลน ท่านสามารถเข้าใจกันและกันได้ด้วยสายสัมพันธ์ระหว่างมารดาและบุตร แต่ท่าน… ท่านกลับ…! ต่อให้เป็นสัตว์ประหลาดก็ยังรู้จังความรัก! ถ้าอย่างนั้น ระหว่างมนุษย์ผู้หยาบช้า กับสัตว์ประหลาดจิตใจงดงามเหนือผู้ใด ท่านจะตัดสินให้ใครสมควรได้รับความรักกัน!”
เหมือนเป็นการระบายอารมณ์อยู่ฝ่ายเดียวมากกว่าการพูดคุย ฮิโนเอะพูดออกมาตรงๆกับไอโรเน่ ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นไม่มีใครเข้ามาขัด ทุกคำที่ฮิโนเอะกล่าวออกมาทั้งหมดล้วนมาจากใจ ไม่มีการแต่งเติมใดๆ
“ฮิโนเอะ ไม่ต้องร้องไห้นะคะ ฉันเชื่อว่าท่านแม่ต้องเข้าใจอยู่แล้วแน่ เพียงแต่ท่านต้องคิดถึงภาพลักษณ์ของประเทศชาติก่อน”
อาลัวเข้ามากอดฮิโนเอะที่น้ำตาไหลนอง อาลัวเองก็ร้องไห้อยู่เช่นกัน พวกเธอคิดต่างก็อยากให้เซเลนมีความสุข
อันที่จริง เซเลนก็มีความสุขดีอยู่แล้ว จะมีความทุกข์ก็ต่อเมื่อไอโรเน่อนุมัติการแต่งงานกับมิลาน เพราะฉะนั้น การที่ฮิโนเอะพยายามอยู่ตอนนี้ มีแต่จะสร้างความเสียหายต่อเซเลน
ทั้งหมดถูกความเงียบเข้าปกคลุม ไม่รู้ว่านานแค่ไหน มิลานยังคงอุ้มเซเลนเอาไว้ โดยที่ไอโรเน่จ้องมองเธออย่างเงียบๆ
“…ข้า”
เมื่อเวลาผ่านไป ไอโรเน่เอ่ยปากพูดออกมาคนแรก ไม่มีใครรู้ว่าจะมีคำพูดแบบไหนออกมาจากปากของเธอ
“กลับมาแล้ว! ทุกคน! พาหมอมาแล้วค่ะ!”
คำพูดของไอโรเน่ถูกขัดด้วยเสียงทักแต่ไกลของมารีที่กลับมาพร้อมกับคุมะฮาจิและคนที่เธอไปตามมาช่วยเหลือ ซึ่งมีทั้งหมอและทหารมาด้วยหลายคน
“ถึงจะเป็นเรื่องดีแต่ดูเหมือนจะผิดจังหวะไปหน่อยนะครับ”
มิลานถอนหายใจและยิ้มบางๆ ในขณะที่ไอโรเน่เหมือนจะพูดอะไรบางอย่างที่สำคัญออกมา บรรยากาศก็ถูกทำลาย เกิดเป็นความรู้สึกค้างคา
“ท่านพี่ มีอะไรกันหรือคะ? ไม่ต้องห่วง หนูบอกพวกเขาไปว่าราชินีไอโรเน่กับเซเลนพลัดตกจากหน้าต่าง เพราะถ้าบอกไปว่าผู้นำของประเทศปรารถนาที่จะตาย เดี๋ยวจะเป็นปัญหาทางด้านความมั่นคง”
มารีมาถึงแล้วกระซิบบอกกับมิลาน สองปีที่ผ่านมา มารีเรียนรู้ทางด้านการเมืองจนสามารถตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม และเชื่อว่าเซเลนก็ไม่อยากให้เอาไปบอกใครแน่นอน จึงตกลงให้เป็นไปตามนี้ การดำเนินการจะได้เป็นไปอย่างราบรื่น
“ต้องขอบคุณจริงๆครับ แต่ถ้าจะให้ดี น่าจะมาช้ากว่านี้สักสามนาที”
“อะไรกัน? หนูอุตส่าห์รีบมาเลยนะ!”
“จังหวะพลาดไปหน่อยครับ แต่ก็ดีแล้ว อาการบาดเจ็บทางร่างกายไม่มีตรงไหนร้ายแรง หลังจากนี้อยากให้ตรวจสอบทางด้านจิตใจมากกว่า”
แม้ว่าจะยังติดใจกับคำพูดต่อไปของไอโนเน่ แต่ความปลอดภัยของไอโรเน่กับเซเลนสำคัญกว่า มิลานจึงให้หมอเข้าตรวจอาการของราชินีไอโรเน่กับเซเลนทันที
เนื่องจากไอโรเน่ไม่มีอาการบาดเจ็บที่ขา จึงเดินกลับด้วยตัวเองได้ แต่เซเลน แม้มีเพียงรอยช้ำรอยถลอก แต่ก็ยังหมดสติ มิลานจึงต้องอุ้มเธอกลับไปที่ห้องพยาบาล
ดูเหมือนเซเลนจะแค่หลับไป และเธอละเมอออกมาว่า ‘หน้าอก’ จึงรู้ว่าเธอยังเป็นปรกติเหมือนทุกครั้ง ทำให้ทุกคนโล่งใจได้ระดับหนึ่ง และตัดสินใจให้เซเลนได้นอนหลับพักผ่อนต่อไปจนถึงพรุ่งนี้
“บรรยากาศกลับมาผ่อนคลายอีกครั้งแล้วขอรับ อยู่กับท่านเซเลนแล้วมีเรื่องให้บีบคั้นหัวใจได้ตลอด”
“จริงๆผมก็อยากให้เธอเลิกทำอะไรเกินตัวอยู่หรอก”
ที่เหลือก็ฝากเซเลนกับไอโรเน่ให้เป็นหน้าที่ของแพทย์ มิลานและคนอื่นๆแยกย้ายกันไปพักผ่อน โดยเฉพาะมิลานที่อ่อนเพลียจนอยากล้มตัวลงนอนทันที
“ข้าน้อยจะอยู่เฝ้าสองท่านนี้ต่ออีกหน่อย องค์ชายกับองค์หญิงไปพักผ่อนเถิดขอรับ”
“ขอโทษที่ต้องให้นายเหนื่อยอยู่คนเดียว แต่ก็ฝากด้วยล่ะ คนคุมกัน… หนูคุ้มกันตัวเดียวคงไม่พอจริงๆ”
ในห้องพยาบาลยังมีบัตเลอร์อยู่อีกคน คอยเฝ้าดูอาการทั้งเซเลนและไอโรเน่อย่างใกล้ชิด ในสายตาของมนุษย์คนอื่นอาจดูไม่น่าวางใจ จึงต้องฝากให้คุมะฮาจึทำหน้าที่ต่อ
“…เอ่อ ข้าน้อยต้องขออภัยสำหรับเรื่องก่อนหน้านี้ด้วยเจ้าค่ะ”
เมื่อทั้งหมดเดินออกมา ฮิโนเอะที่ตามมาเงียบๆได้พูดขึ้น ทุกคนจึงหันไปทางเธอ
“ข้าน้อยพูดจาต่อปากต่อคำ ซ้ำยังขึ้นเสียงกับผู้ที่มีตำแหน่งเป็นถึงราชินี… การกระทำตามอำเภอใจของข้าน้อยสร้างปัญหาให้พวกท่าน!”
ฮิโนเอะก้มหน้ารู้สึกผิด มิลานวางมือลงบนหัวของเธอ
“ไม่ต้องคิดมากครับ น่าชื่นชมที่เธอกล้าพูดอย่างตรงไปตรงมา ตอนนี้ผมก็ยังคิดว่าโชคดีที่ได้เธอเป็นผู้ช่วย”
“…เช่นนั้นหรือเจ้าคะ?”
“ใช่แล้ว ฉันเองก็รู้สึกว่าฮิโนเอะเองก็คล้ายกับเซเลนอยู่เหมือนกัน ถ้าเซเลนตื่นขึ้นอยู่ตอนนี้ คงพูดขอบคุณเธอเป็นคนแรกแน่นอนค่ะ ฮิโนเอะ”
ทั้งมิลานและอาลัวล้วนพูดให้กำลังใจ แต่ในความจริง ถ้าเซเลนตื่นขึ้นมาเธอคงพูดอะไรไร้สาระเป็นอย่างแรก และจะยิ่งพูดไม่รู้เรื่องถ้าไปสะกิดประเด็นงานหมั้น ดีจริงๆที่เธอยังหลับอยู่
และแล้วในคืนนั้น ห้องพยาบาลอันเรียบง่ายของพระราชวังอาร์คุยล่าก็เหลือเพียงผู้ป่วยสองคน ราชินีแห่งอาร์คุยล่า ไอโรเน่ และเซเลน ลูกสาวสุดที่รักของเธอ
ข้างเตียงยังมีหนูตัวหนึ่งที่ยังตื่นอยู่ตลอดเวลา ทั้งที่เจ้านาย เซเลน ยังหลับสนิท เวลาล่วงเลยไปถึงเที่ยงคืน ไอโรเน่นอนไม่หลับ ทุกครั้งที่หันไปด้านข้าง ก็จะพบกับใบหน้าหลับใหลของเด็กสาวผู้งดงามราวกับผู้ที่ได้รับความรักจากพระเจ้า
“ข้าน่ะ…”
ไอโรเน่พูดออกมาเบาๆ ไม่มีหมอประจำอยู่ในห้องนี้ ถ้าไม่นับบัตเลอร์ที่เป็นหนู ตอนนี้คือช่วงเวลาแม่ลูกอยู่ด้วยกันตามลำพัง คำพูดทุกคำของเด็กสาวผมสีดำที่ได้ฟังก่อนหน้านี้ ยังสะท้อนอยู่ในหัวของไอโรเน่
ค่ำคืนอันเงียบสงบ แสงจันทร์ที่สาดส่องกำลังโอบกอดเด็กสาวที่เธอให้กำเนิด ไอโรเน่มองดูภาพนั้นต่อไปอย่างเงียบๆ