ตอนพิเศษ 15
เซเลน สู่แดนตะวันออก (ตอน7)
“รู้สึก แปลกๆ…”
เมื่อกลับมาถึงห้อง เซเลนมุดเข้าไปในฟูกนอน เตรียมพักผ่อนจนกว่าจะถึงเวลาอาหารในตอนเย็น แต่ในหัวก็มีความรู้สึกที่อธิบายได้ยาก เหมือนไม่ใช่ตัวของตัวเอง…
ด้วยร่างการของเด็กที่ไม่ค่อยจะแข็งแรงนี้ น่าสงสัยว่าสาเกเพียงน้อยนิดนั่นจะทำให้เมาได้หรือเปล่า
“อุ ความรู้สึก ที่อยู่ในหัว…”
แม้ตัวเธอจะผิดปรกติจนปิดปรกติมากไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว แต่ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้องวนเวียนอยู่ในหัวมากขึ้นทุกที เซเลนจึงข่มตาหลับลงไปและหวังว่าตื่นขึ้นมาทุกอย่างจะเป็นปรกติ
[“องค์หญิง ขออภัยที่รบกวนเวลาพักผ่อน”]
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน สติของเซเลนกลับมาชัดเจนอีกครั้ง เมื่อมีเสียงเรียกอยู่ข้างๆหู เซเลนขยี้ตาและตื่นขึ้นมา ลุกขึ้นนั่งบนฟูก หันไปทางบัตเลอร์ที่ยืนสองขาอยู่ข้างที่นอน
[“ดูเหมือนท่านจะไม่สบายอยู่ กระผมละอายใจเหลือเกินที่ต้องรบกวนองค์หญิงเวลานี้ แต่เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องร้ายแรงที่รอช้าไม่ได้”]
“เรื่องร้ายแรง? อะไร?”
เซเลนเอื้อมมือไปลูบหัวบัตเลอร์และมองออกไปด้านนอก พื้นกรวดที่เคยเป็นสีขาว ตอนนี้เห็นเป็นสีส้ม หมายความว่าดวงอาทิตย์เริ่มตกแล้ว อีกไม่นานจะเป็นเวลากลางคืน
[“อันที่จริง เป็นเรื่องเกี่ยวกับท่านฮิโนเอะ… มีบางอย่างที่กระผมคิดว่าองค์หญิงควรจะรับรู้ไว้”]
“หืม”
เป็นที่รู้กันว่าเสียงของบัตเลอร์จะไม่มีทางได้ยินโดยมนุษย์ผู้อื่น แต่เขาก็กระซิบกับเซเลน บอกเล่าถึงแผนการลอบสังหารฮิโนเอะที่ได้ยินมา หลังจากได้ฟังรายงานของบัตเลอร์ แววตาของเซเลนก็แสดงถึงความเดือดดาลออกมา แต่ภายในใจกลับรู้สึกสงบได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“เข้าใจแล้ว ขอบคุณมาก”
[“หากองค์หญิงต้องการ กระผมสามารถจัดการเรื่องนี้ให้ได้”]
บัตเลอร์เสนอตัวเพื่อแก้ปัญหา แค่เซเลนก็ยังไม่ตอบ เพียงแค่เอามือจับคาง คิดอะไรบางอย่างอยู่สักพัก ก่อนจะหันกลับไปมองบัตเลอร์
“มีแผน บัตเลอร์ ช่วยหน่อย”
[“…ทุกอย่างตามที่ท่านปรารถนา”]
“คนไม่ดี ต้องเก็บกวาด อย่าให้เหลือ”
เซเลนบอกแผนการของเธอให้บัตเลอร์ได้ฟังอย่างละเอียด แม้แต่บัตเลอร์ที่ได้ฟังก็ยังประหลาดใจ
[“เข้าใจแล้วครับ! หากเป็นเช่นนี้ก็จะสาวถึงตัวผู้บงการได้แน่! แต่องค์หญิงกับท่านฮิโนเอะจะลำบาก…”]
“ไม่เป็นไร เพื่อฮิโนเอะ ขอร้องล่ะ”
[“…รับทราบ โปรดวางใจ ในส่วนของกระผมนั้นขอรับรองว่าจะไม่ให้มีอะไรผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว”]
คำสั่งจากเจ้านายที่แสนภูมิใจ บัตเลอร์ยินดีรับใช้แม้ต้องแลกด้วยชีวิต ทำความเคารพก่อนที่เขาจะวิ่งออกจากห้องไปดำเนินการในทันที
“ต้องรีบ เหมือนกัน”
เมื่อเห็นบัตเลอร์ตั้งใจทำงานอย่างขันแข็ง เซเลนจึงตั้งใจทำส่วนของเธอให้ดีที่สุดด้วยเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงรีบลุกออกจากที่นอนและเตรียมตัวออกจากห้อง
“อืม… แบบนี้ไม่ได้”
ก่อนออกจากห้อง เซเลนหันไปมองกระจก เพราะเธอนอนทั้งชุดลําลอง ทำให้เสื้อผ้ามีรอยยับย่นอยู่หลายแห่ง บ่งบอกถึงนิสัยการนอนที่ไม่ค่อยเรียบร้อยของเธอ
“ไม่สุภาพ…”
เสื้อผ้าและทรงผมดูน่าละอายจนเซเลนไม่อยากให้ใครเห็น เธอจัดระเบียบเสื้อผ้าและหวีผมอย่างเร่งด่วน จากนั้นก็หมุนตัวดูช้าๆอยู่หน้ากระจกเพื่อให้แน่ใจว่ามีมีอะไรผิดพลาด และจึงออกนอกห้องไปจัดการเรื่องที่ตั้งใจไว้
“มารี ยังไม่มา…”
ผ่านไปอีกสักพัก หลังจากลงมือเตรียมการด้วยตนเองในขั้นแรกเรียบร้อยดีแล้ว เซเลนได้มายืนรออยู่ที่ประตูทางเข้าหน้ากำแพง หลังจากรอไม่นานเธอก็เห็นกลุ่มของมารี ฮิโนเอะ และคนคุ้มกัน เดินมาแต่ไกล
ฮิโนเอะดูเหมือนจะเปิดใจให้กับมารีโดยสมบูรณ์ ทั้งสองเดินจูงมือกันภายใต้แสงอาทิตย์ยามเย็น กลุ่มคนคุ้มกันที่อยู่ข้างหลังมีทั้งคนจากเฮลิฟาลเต้และคนของบ้านคาเงะโทระ พวกเขาทุกคนต่างก็พูดคุยกันถึงงานเลี้ยงร่ำสุราที่ในคืนนี้อย่างไม่แบ่งแยก
“รออยู่เลย”
“อ๊ะ เซเลน! ขอโทษที พอดีตื่นเต้นไปหน่อย รู้ตัวอีกทีก็ตกเย็นแล้ว แต่ไม่ต้องห่วง ของฝากให้เซเลนก็มี…”
“ทุกคน ฉันมีเรื่อง ขอร้อง”
บรรยากาศผ่อนคลายถูกขัดจังหวะโดยเซเลนก่อนที่มารีจะพูดจบ บางครั้งเซเลนจะทำอะไรเหนือความคาดหมายอย่างกะทันหันโดยที่คนทั่วไปไม่เข้าใจเจตนา และครั้งนี้ที่เซเลนดูต่างออกไป มารีไม่รู้ว่าเรื่องที่เซเลนจะพูดคืออะไร แต่เชื่อว่าต้องเป็นเรื่องสำคัญแน่นอน
“มีปัญหาอะไรหรือเจ้าคะ?”
เมื่อฮิโนเอะถามขึ้นมาก่อน เซเลนจึงเริ่มเล่าข้อมูลที่เธอได้รับรายงานมาจากบัตเลอร์ แผนการลอบสังหารฮิโนเอะที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ เป็นเรื่องที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจเป็นอย่างมาก
“แล้วเธอ ไปรู้มาจากไหน?”
“จริงๆนะ เชื่อสิ”
หากพูดความจริงออกไปว่าฟังมาจากหนูที่เลี้ยงไว้ สำหรับคนอื่นๆมันจะกลายเป็นเรื่องล้อเล่นในทันที เซเลนจึงไม่คิดที่จะพูดถึงเรื่องนั้น แม้ว่ามารีและฮิโนเอะจะยังไม่เข้าใจอีกหลายเรื่อง แต่คำตอบก็ถูกตัดสินใจไปแล้ว
“ได้สิ ถ้าเซเลนเป็นคนพูดก็ไม่ผิดแน่”
ทุกๆครั้ง คำพูดของเซเลนจะถูกตีความอย่างผิดพลาด โชคดีที่ยาเปลี่ยนผันทำให้เซเลนระวังในคำพูดมากขึ้นจนไม่เกิดความผิดพลาดได้ง่ายๆ
เพราะฤทธิ์ยาทำให้เซเลนทำตัวผิดปรกติอยู่เช่นนี้ แต่เพราะเธอผิดปรกติมาตั้งแต่แรก จึงเรียกได้ว่ามีสามัญสำนึกที่สุดเท่าที่เคยมีมา
“อยากให้ ฮิโนเอะ ช่วย”
“เอ๋ ข้าน้อยหรือเจ้าคะ?”
“ใช่ อันตราย แต่ได้ผล แน่นอน ไม่ต้องกลัว”
หลังจากขอไปเช่นนั้น เซเลนกุมมือฮิโนเอะเอาไว้ หากเป็นปรกติ เซเลนจะมีความคิดล่อแหลมว่า ‘หลอกจับมือโลลิสำเร็จแล้ว!’ แต่ตอนนี้เซเลนทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ รู้สึกถึงความอบอุ่นจากมือที่จับอยู่ ไม่จำเป็นต้องใช้เวทมนตร์ใดๆเพื่อมองให้เห็นถึงความตั้งใจของเธอ
“…เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ ถึงจะช่วยอะไรไม่ได้มากแต่ก็จะทำให้เต็มที่เจ้าค่ะ”
“ก่อนอื่น…”
เซเลนบอกถึงรายระเอียดทั้งหมดกับฮิโนเอะ รวมถึงคนคุ้มกันทั้งหลายที่ต้องมีส่วนร่วมก็รับฟังอยู่ด้วย เท่านี้ ทุกอย่างก็พร้อมแล้ว ที่เหลือก็แค่รอให้ถึงเวลา
ในตอนนี้ เซเลนจะไม่ยอมให้ผู้บริสุทธิ์ต้องถูกรังแกต่อหน้าเธออย่างเด็ดขาด จิตใจกำลังต่อต้านความชั้วร้ายทั้งมวลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
◆ ◇ ◆ ◇ ◆
เวลาผ่านไปอีกนานจนถึงงานเลี้ยงตามกำหนดการณ์เดิม รูปแบบแทบไม่ต่างกับเมื่อวาน ภายในห้องกว้างมีคนในครอบครับของเจ้าบ้านคาเงะโทระกับคณะฑูตที่เป็นแขก ผู้ติดตามกับคนรับใช้ที่เหลือจะจัดให้อยู่ในอีกสถานที่หนึ่ง
แต่เมื่อนับรวมแล้ว จำนวนคนจะขาดไปหนึ่ง เนื่องจากสาวใช้คนหนึ่งบอกว่าโหมงานหนักมาตลอดช่วงวันจนรู้สึกไม่ค่อยสบาย จึงขอลากลับไปก่อน ในเมื่อการเตรียมการสำหรับงานเลี้ยงเสร็จสมบูรณ์ดีแล้ว จะไม่อยู่สักคนหรือสองคนก็ไม่มีผลกระทบ
“มื้อนี้เป็นงานเลี้ยงต้อนรับเจ้าหญิงผู้ที่เดินทางมาจากแผ่นดินใหญ่ อาจจะไม่สมบูรณ์แบบตามที่หวัง แต่ก็ขอให้ทุกท่านเพลิดเพลินให้เต็มที่”
“อะ ค่ะ… ขอบคุณที่ต้อนรับเป็นอย่างดี”
มารีพยายามยิ้มให้เป็นธรรมชาติให้มากที่สุดเพื่อตอบรับน้ำใจของคาเงะโทระ เธอกังวลกับเหตุการณ์ที่ใกล้จะเกิดขึ้น และยิ่งไปกว่านั้น เธอต้องเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจที่อยู่ตรงหน้าเสียก่อน ‘ซาชิมิ’ และ ‘ไข่เม่นทะเลสด(生うに/namauni)’ ที่ถูกจัดชุดมาให้เธอโดยเฉพาะ
“(ท่านพี่โกหก! ของแบบนี้ไม่ใช่เกาลัดสักหน่อย!)”
ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าซาชิมิคืออะไร แต่เม่นทะเลตรงหน้าคือสิ่งที่เกินความคาดหมายของมารีไปไกล ตามความเข้าใจของเธอตอนที่ได้ฟังจากพี่ชาย มันคือ ‘อาหารที่เหมือนเกาลัด’ แต่สิ่งนี้คือก้อนประหลาดสีเหลืองเละๆที่ดูไม่รู้ว่าเป็นอะไร มารีจึงรู้สึกเหมือนถูกหักหลัง
“น่ากิน สุดยอด”
แต่ปฏิกิริยาของเซเลนที่นั่งอยู่ข้างๆก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เธอพูดขอบคุณสำหรับอาหารขณะนั่งคุกเข่าหลังตรงอย่างสง่างาม ตรงข้ามกับมารีที่ทำได้แค่นั่งขาชี้ไปคนละทาง
“ทานล่ะนะ”
เซเลนพูดและเริ่มขยับมือจับตะเกียบอย่างคล่องแคล่ว คีบซาซิมิและเม่นทะเลใส่ปากทีละชิ้น และเคี้ยวอย่างช้าๆเพื่อรับรสให้เต็มที่
“เป็นไง… เซเลน?”
มารีกระซิบถามเซเลนเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาทต่อคาเงะโทระ แต่ก็มีเพียงรอยยิ้มน่ารักสดใสกลับมาจากเซเลน
“อร่อยมาก ของดีจริงๆ ต้องขอบคุณ ท่านคาเงะโทระ”
“อร่อยจริงๆเหรอ?”
“อือ มากเลยล่ะ”
ความระแวงของมารีลดลงไปมากเมื่อเห็นเซเลนรับประทานได้อย่างเอร็ดอร่อย ใบหน้าของเซเลนดูมีความสุข รอยยิ้มที่งดงามดุจนางฟ้าของเซเลนดูอย่างก็ไม่ใช่เรื่องโกหก ใครเห็นก็ต้องเชื่ออย่างไร้กังขา
“ถ้างั้น ฉันเองก็…”
หลังจากทำใจได้ ในที่สุดมารีก็ยอมกินซาชิมิที่อยู่ตรงหน้า เธอใช้ส้อมตักขึ้นมาใส่ปาก
เพียงเท่านั้น ราชาติที่ไม่เคยกินมาก่อนได้แผ่กระจายอยู่ในปาก เป็นความรู้สึกที่มารีไม่คุ้นเคย ไม่เหมือนเนื้อสัตว์ใดที่เคยได้กินมา กลิ่นคาวอ่อนๆกับสัมผัสนิ่มลื่นเหมือนกำลังละลายก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด
“อร่อย…”
มารีพูดออกมาหลังจากกินเข้าไปแล้ว เธอกินซาชิมิและเม่นทะเลต่อไปได้อย่างไม่มีปัญหา คาเงะโทระกับคุมะฮาจิที่สังเกตมองเธออยู่ก็รู้สึกโล่งใจ เพราะท่าทีของเธอในตอนแรกทำให้คาเงะโทระกับคุมะฮาจิกังวลว่าเธออาจจะคายออกมา
“อ๊ะ หมดซะแล้ว…”
ผ่านไปสักพัก ก่อนจะรู้ตัว อาหารจานซาชิมิกับเม่นทะเลของมารีก็หมดลง เธอดูเหมือนจะเสียใจอยู่เล็กน้อย เนื่องจากเป็นการให้ลองกินเป็นครั้งแรกที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะชอบหรือเปล่า คาเงะโทระจึงไม่ได้เตรียมซาชิมิและเม่นทะเลให้กับพวกเธอมากนัก แม้จะถูกขอมาเช่นนั้นแต่คาเงะโทระก็ไม่คิดจะจัดเตรียมให้งบประมาณบานปลายเกินความจำเป็น
“อืม ไม่รู้ว่าจะถูกใจเจ้าหญิงมารีเบลขนาดนี้ คิดผิดจริงๆที่เตรียมมาน้อยไปหน่อย เดี๋ยวจะไปดูให้ว่ายังมีอีกหรือเปล่า”
“ไม่เป็นไร”
ก่อนที่คาเงะโทระจะทำอะไร เซเลนก็ได้พูดแทรกขึ้นมา และเซเลนก็ยกจานซาชิมิกับเม่นทะเลของเธอที่ยังเหลือมากกว่าครึ่งให้กับมารี
“ให้มารี”
“…เอ๋? ของเซเลน?”
“ได้กิน หายอยาก พอแล้ว”
เซลเลนส่งให้พร้อมกับรอยยิ้ม เสนอซาชิมิให้ราวกับยัดเยียด แต่ก็มาจากความปรารถนาดีล้วนๆ
“มารีชอบ เอาไปเถอะ”
“แต่ว่า…”
“ถ้าเกรงใจ มาแลกกัน ก็ได้”
“แลกกับอะไร?”
“กับข้าว ผัก ก็ชอบ”
เซเลนตอบออกไปพร้อมแลกอาหารจานผักและเครื่องเคียงอื่นๆที่มารีไม่ค่อยได้แตะต้องมากนัก
ถึงจะเป็นผักหรือเครื่องเคียง หากเหลืออาหารไว้ในจานก็จะเป็นการเสียมารยาท ดังนั้นเธอจึงแลกมาเพื่อไม่ให้มีสิ่งใดเหลือไว้ ถึงอย่างนั้น ก็เป็นการแลกเปลี่ยนที่ดูไม่ค่อยเท่าเทียมนัก
แต่เซเลนก็ไม่ได้แสดงท่าทางไม่พอใจหรือรู้สึกขาดทุนอยู่เลย เธอกินผัดผักที่ได้มาจากมารีอย่างเอร็ดอร่อยไม่ต่างกัน เพื่อไม่ให้คาเงะโทระกับฮิโนเอะต้องเสียหน้า ถึงเซเลนจะชอบซาชิมิจานนี้มาก แต่ก็ชอบรอยยิ้มของมารีมากกว่า
“ขอบคุณมาก เซเลน”
มารีพูดและลงมือกินซาชิมิกับเม่นทะเลที่ได้รับมาจากเซเลน เด็กทั้งสองพูดคุยกันอย่างร่าเริง และมื้ออาหารก็ดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น
“(แม้อายุยังน้อย แต่ก็รู้จักวางตัวได้เหมือนผู้ใหญ่…)”
คาเงะโทระไม่ได้พูดออกมา เขานับถือเซเลนอยู่ในใจ ทั้งที่เด็กคนนี้อายุน้อยกว่ามารีและฮิโนเอะ แต่กลับมีความคิดรอบคอบลึกซึ้ง
“ดูเหมือนท่านพี่จะสังเกตเห็นเหมือนกันสินะขอรับ ท่านเซเลนคนนี้ที่แม้แต่เอลฟ์ยังยอมรับ เด็กที่เจ้าชายแห่งแผ่นดินใหญ่ไปพบเข้าโดยบังเอิญ”
“…อืม ก็น่าสนใจจริงๆนั่นแหละ”
คุมะฮาจิกับคาเงะโทระพูดคุยกันสั้นๆ และทั้งสองก็รินสาเกใส่จอกของตนก่อนจะยกขึ้นมาดื่มพร้อมกันทั้งคุมะฮาจิและคาเงะโทระ
“ตั้งแต่เมื่อวานก็มีเรื่องที่ต้องคิดมากมาย จะดื่มจนเมาเวลานี้ไม่ได้”
คาเงะโทระพูดออกมาเบาๆขณะมองไปทางฮิโนเอะที่รับประทานอาหารเงียบๆอยู่คนเดียว