ตอนพิเศษ 05
เซเลนแห่งโลกกระจก (ตอน1)
ภายในห้องของเซเลนในปราสาทเฮลิฟาลเต้ โดยปรกติแล้วจะเป็นที่ที่เงียบสงบที่สุด เนื่องจากเซเลนจะหลับจนถึงช่วงบ่ายจากโรคแพ้แสงแดดของเธอ แต่วันนี้กลับมีเสียงดังจากข้างนอกจนเธอต้องตื่นขึ้นมาก่อนเวลา
“หืม?”
หลังจากขยี้ตา เซเลนลุกลงมาจากเตียง เธออยู่ในชุดสีขาวที่เป็นเหมือนชุดนอนเของเธอ และทันทีที่ได้ยินเสียงเคาะประตู ปรtตูห้องก็ถูกเปิดออกโดยมีมารียืนอยู่ตรงนั้น
“ขอโทษทีมารบกวนเวลานอน จริงๆก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรหรอก แต่ก็ขอเข้าไปได้ไหม?”
“ไม่เป็นไร”
เซเลนตอบอย่างง่ายๆ หากเป็นมิลาน เธอจะบอกว่า ‘คนจะนอน อย่ามากวนสิโว้ย’ แต่มารีกับพี่สาวจะได้รับสิทธิพิเศษให้รบกวนได้ตลอดเวลา สาวงามคนอื่นก็เช่นกัน หลังจากเซเลนอนุญาต มารีก็หันไปออกคำสั่งกับคนรับใช้ที่อยู่ข้างหลัง
จากนั้น คนรับใช้ชายสองคนได้แบกของบางอย่างมาตั้งไว้ในห้องของเซเลน มันมีขนาดใหญ่ขนาดต้องใช้สองคนแบก และมีผ้าห่อไว้มิดชิด เธอจึงไม่รู้ว่าคืออะไร แต่ก็ดูเหมือนเครื่องเรือนสำหรับใช้งาน
“นี่ไง! ของขวัญพิเศษสำหรับเซเลน!”
“ของขวัญ?”
เมื่อเห็นเซเลนมองมาด้วยความประหลาดใจ มารีก็ยิ่งร่าเริง และเริ่มแก้มัด เปิดผ้าที่ห่อไว้ออกมา
“…กระจก?”
“ใช่แล้ว เป็นยังไงล่ะ? ออกแบบมาได้ดีมากเลยใช้ไหม?”
ตามที่เซเลนเห็น มันเป็นกระจกเงาแบบเต็มตัวบานใหญ่ เนื้อกระจกเรียบใสปราศจากรอยขุ่นมัว กรอบเงินขัดเงาลวดลายสวยงาม
“ระหว่างไปดูงานที่สถานศึกษาก็ไปเจอเข้ากับพ่อค้าขายของเก่า คุณภาพขนาดนี้แต่ราคาถูกจนน่าตกใจเลยล่ะ”
มารีเล่าให้ฟังอย่างอารมณ์ดี สมัยก่อนมารีค่อนข้างใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แต่ช่วงสองปีที่ผ่านมา เธอเรียนรู้การบริหารงบประมาณจนกลายเป็นคนที่ค่อนข้างมัธยัสถ์ เป็นการเติบโตที่ดี ไม่เหมือนคนแถวนี้
“เห็นแล้วก็นึกถึงเซเลนขึ้นมาทันที ห้องของเซเลนมีข้าวของเครื่องใช้น้อยมาก… หรือเรียกว่าแทบจะไม่มีเลย ถึงยังไง เซเลนก็เป็นเด็กผู้หญิง มีของใช้แบบนี้ติดห้องไว้บ้างก็ดีนะ”
“ไม่เอา”
แต่เซเลนส่ายหัว อย่างที่ทราบกันดีว่า เรื่องการแต่งตัว แต่งหน้า ทำผม ทั้งหมดจะเป็นหน้าที่ของสาวใช้ กระจกจึงไม่จำเป็นสำหรับเซเลน มีแค่เตียงนอนเท่านั้นที่เธอต้องการ หรือถ้าขอได้จริงๆ ก็อยากได้ตู้เย็นพร้อมเบียร์เต็มตู้มากกว่า
ถึงอย่างนั้น เซเลนในความคิดของมารีนั้นต่างออกไป กลายเป็นว่า คำพูดนั้นเป็นเพราะความเกรงใจ เธอจึงยิ้มและตอบกับไป
“ถึงจะเห็นแบบนี้แต่มันก็ไม่ใช่ของแพงหรอกน่า ที่ห้องของฉันก็มีกระจกอยู่แล้ว แต่เซเลนยังไม่มี เอาเป็นว่า ฉันจะตั้งไว้ตรงนี้ล่ะนะ จะทำอะไรกับมันก็แล้วแต่เธอเลย แค่นี้แหละ แล้วเจอกัน”
เมื่อพูดจบ มารีก็ออกจากห้องไป เธอมีงานที่ต้องทำอีกมาก ส่วนบัตเลอร์ก็ออกลาดตระเวนอยู่ในตอนนี้ ทั้งห้องจึงกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง เซเลนที่ตื่นขึ้นมาแล้วยังไม่มีความรู้สึกอยากกลับไปนอนต่อในตอนนี้ เธอจึงเริ่มพิจารณากระจกที่ได้มาใหม่
“กระจก… กระจก”
จากที่เห็น มันเป็นกระจกคุณภาพสูงตามที่มารีบอกแน่นอน สภาพสมบูรณ์ ไม่มีรอยแตกร้าว เงาสะท้อนเต็มตัวชัดเจนไม่มีส่วนบิดเบี้ยว คุณภาพสูงเทียบได้กับของที่ผลิตในญี่ปุ่นยุคนี้ได้เลยทีเดียว แต่เซเลนก็ไม่ต้องการกระจกอยู่ดี
“เทคุมาคุมาโกะยัน*”
เซเลนมองเข้าไปในกระจกที่สะท้อนเต็มตัวและร่ายคาถาที่เด็กสมัยนี้ไม่เข้าใจ แม้จะออกเสียงผิดแต่ก็ไม่มีใครรู้
แน่นอนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะมีก็แต่รอยยิ้มจางๆของตัวเซเลนเองในกระจก นึกว่าจะเป็นพล็อตใหม่ให้สาวน้อยเวทมนตร์เซเลนถือกำเนิด แต่ก็คิดไปเอง และจริงๆแล้ว เซเลนเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากชายวัยกลางคนในร่างเจ้าหญิง
“แหม ตกใจจนพูดไม่เป็นภาษาเลย… ใจเย็นๆก่อนก็ได้ค่ะ อุหุหุ”
ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่อาจทราบ เงาสะท้อนของเธอในกระจกมีการเคลื่อนไหวต่างจากตัวเซเลน ก่อนหน้านี้ก็เช่นกัน เพียงแค่เซเลนไม่ได้สังเกต ยิ่งไปกว่านั้น เงาของเธอในตอนนี้กำลังหัวเราะเหมือนเด็กผู้หญิง ซึ่งเซเลนตัวจริงไม่เคยทำแบบนั้น เธอจึงทำท่างุนงง และเซเลนในกระจกก็ยิ่งหัวเราะมากกว่าเดิม
“สวัสดีค่ะ ตัวฉันคือริริน เป็นภูติที่สถิตอยู่ในกระจกบานนี้ หรือที่พวกคุณเรียกกันว่า สึคุโมะกามิ** รู้จักไหมคะ? เหมือนกับสิ่งของที่ดำรงอยู่มานานจนมีชีวิตจิตใจเป็นของตัวเอง เป็นอะไรที่คล้ายๆแบบนั้นแหละค่ะ”
“อือ”
การตอบสนองของเซเลนเรียบง่ายผิดคาด เพราะเซเลนเป็นประชากรญี่ปุ่นยุคใหม่ที่ได้มาใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้ หลังจากทำใจเรื่องความแฟนตาซีของโลกนี้ได้ เธอก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไรแปลกใหม่ พูดง่ายๆว่า ชินกับความแฟนตาซีไปแล้ว
“เข้าใจได้ง่ายแบบนี้ ต้องขอขอบคุณจริงๆค่ะ ฉันจะได้ไม่ต้องเสียเวลาอธิบายยืดยาว ว่าแต่ เธออยากเห็นโลกข้างหลังกระจกบานนี้ไหมคะ? ”
“โลก กระจก?”
“ใช่ค่ะ มันก็คล้ายกับโลกที่เธออาศัยอยู่ แต่ก็แตกต่างกันนิดหน่อย น่าสนใจนะคะ จะลองดูก่อนไหม?”
“ก็ได้”
สำหรับเซเลน จะเป็นอย่างไรก็ได้ จะโลกไหนก็ไม่สำคัญ แค่นอนแล้วหลับสบายก็พอ อย่างน้อยก็จะได้เพิ่มความแปลกใหม่ในการนอนเข้าไปนิดหน่อย
“อันที่จริงก็มีเงื่อนไขนิดหน่อยนะคะ คือว่า ขณะที่เธอเที่ยวเล่นอยู่ในโลกกระจก ฉันที่เป็นภูติเห่งกระจกก็ต้องออกมาอยู่ที่โลกของเธอ เพื่อให้โลกทั้งสองสมดุลกัน ไม่อย่างนั้น เธอก็จะข้ามมาฝั่งนี้ไม่ได้ และฉันก็ไม่สามารถข้ามไปฝั่งนั้นได้ด้วยเช่นกัน”
“ต้องทำ ยังไง?”
“สัมผัสที่ผิวของกระจก แล้วที่เหลือฉันจะจัดการให้เอง”
ริรินในร่างเซเลนพูดแล้วก็ยื่นมือมาทาบที่บานกระจก ทางฝั่งของเซเลนก็ยกมือขึ้นมาประกบ ทำให้ดูสมเป็นเงาสะท้อนของกันและกัน
“อุหวา!?”
แต่พื้นผิวกระจกที่ได้สัมผัสกลับอ่อนไหวราวกับผิวน้ำ มันกระเพื่อมเป็นวงและเซเลนก็ค่อยๆจมลงไป จนกระทั้งเซเลนหลุดเข้าไปทั้งตัวโดยสมบูรณ์ ในเวลาเดียวกับที่ร่างของริรินก็ออกมายืนแทนที่เซเลนอยู่ฝั่งนี้
“ง่ายจริงๆ”
ริรินผลักตัวออกห่างและหันหลัง แลบลิ้นเลียริมฝีปาก ซึ่งนั่นไม่ใช่นิสัยของเซเลน เมื่อริรินหันกลับมา เบื้องหน้าก็เป็นกระจกเงาธรรมดาที่มีเงาสะท้อนของริรินแต่เพียงผู้เดียว
“หึหึ เด็กน้อยผู้น่าสงสาร ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหญิงที่สูงส่งพอสมควร เหยื่อแบบนี้ไม่ได้หากันได้ง่ายๆ ครั้งนี้โชคเข้าข้างแล้ว”
เมื่อพูดเช่นนั้น ริรินก็หมุนตัวไปรอบๆราวกับเต้นรำ จากนั้นก็กลับมาที่กระจกและเริ่มพิจารณาดูรูปร่างหน้าตาของเซเลน
“เธอเป็นเจ้าหญิงที่งดงาม… ไม่สิ ฉันเป็นเจ้าหญิงที่งดงามจริงๆ”
ริรินยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
ตัวเธอนั้นคือภูติกระจก ชื่นชอบการหลอกล่อใครก็ตามที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า ริรินจะทำการกักขังบุคคลผู้นั้นไว้อีกมิติหนึ่งในกระจก ขโมยตัวตนออกไปใช้ชีวิตแทนคนคนนั้นจนกว่าเธอจะพอใจ บางครั้งเธอก็เริ่มเบื่อในเวลาไม่กี่ชั่วโมงและกลับมาเอง แต่ถ้าเธอรู้สึกถูกใจคนคนนั้นขึ้นมา การสวมรอยจะดำเนินต่อเนื่องยาวนานหลายสิบปี
และครั้งนี้ ริรินดูเหมือนจะถูกใจเซเลน
“สำหรับตัวจริง ขอให้ฝันดีอยู่ในนั้นก็แล้วกัน ระหว่างนี้จะไม่แก่ไม่ตาย คิดๆดูแล้วมันก็ไม่ได้เลวร้ายมากนักหรอก”
รอยยิ้มของริรินเริ่มเปลี่ยนไปดูชั่วร้าย ผู้ที่ถูกริรินขโมยตัวตน จะถูกตัดขาดจากโลกนี้และติดอยู่ในโลกกระจก ถึงอย่างนั้น ร่างกายและจิตใจก็ไม่ได้ถูกช่วงชิงไปจริงๆ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะมีการต่อต้านและกลับออกมาได้ด้วยพลังของตนเอง แต่ริรินก็เคยทำการกักขังเหยื่อมาแล้วหลายสิบราย ไม่มีทางที่เธอจะพลาดกับเรื่องง่ายๆแบบนั้น
“ขอโทษนะ แต่ทุกอย่างของเธอ ฉันจะรับฝากมันเองไว้เอง หุหุ โชคดีเหลือเกิน ไม่ได้รู้สึกดีขนาดนี้มานานมากแล้ว”
ริรินฮัมเพลงอย่างมีความสุขด้วยเสียงและรูปลักษณ์ของเซเลน
ความจริงแล้ว ริรินผู้น่าสงสารไม่รู้เลยว่า การได้มายุ่งเกี่ยวกับเซเลนไม่ใช่ชัยชนะครั้งใหญ่ของเธอ แต่จะเป็นเคราะห์กรรมที่เลวร้ายที่สุด
____________________
* テクマクマコヤン(เทคุมาคุมาโกะยัน) เพี้ยนมาจาก テクマクマヤコン(เทคุมาคุมายะกอน)
คาถาแปลงร่างจากเรื่อง ひみつのアッコちゃん/Himitsu no Akko-chan/ความลับของอั๊กโกะจัง/หนูน้อยอั๊กโกะจัง สาวน้อยเวทมนตร์ยุคแรกๆ(ปี1962) แปลงร่างโดยใช้กระจกพกพา
มังงะถูกวาดใหม่ปี2016 โดย อ.คามิคิตะ ฟุตาโกะ ผู้วาดพรีเคียว
** 付喪神/สึคุโมะกามิ
มีความเชื่อเก่าแก่ในญี่ปุ่นว่า สิ่งของทุกอย่างเมื่อทิ้งไว้นานๆจะกลายเป็นภูติ เช่น ผีร่ม ผีโคมไฟ ที่มักเห็นกันในหลายๆเรื่อง