บทที่ 125 ความวุ่นวาย 1
“เธอเป็นลูกสาวของตระกูลแกรนเวลเหรอ!!”
“……ใช่แล้ว ส่วนนายเป็นลูกชายของไวเคานต์คาร์เนลสินะ”
“ใช่แล้ว! ไวเคานต์คาร์เนลเป็นพ่อของฉันเอง!!”
คีลและคนรับใช้คนนั้นยืนขึ้นและส่งสายตาแสดงความเป็นศัตรูมาทางนี้อย่างชัดเจน ส่วนเซซิลตอบออกมาอย่างเรียบๆ ต่อคีลที่แสดงความชิงชังออกมา
“เดี๋ยวสิ มันหมายความว่ายังไงกัน?”
“อ้อ โดโกร่าแล้วก็คุเรนะด้วย ยังไม่ได้บอกเรื่องในอดีตที่เกิดให้ทั้งคู่ฟังเลย ปลายปีที่แล้วมีเรื่องบาดหมางกับตระกูลคาร์เนลน่ะ”
ยังไม่ได้บอกเรื่องความวุ่นวายที่เกิดขึ้นระหว่างตระกูลแกรนเวลกับตระกูลคาร์เนลตอนปลายปีที่แล้วให้โดโกร่ากับคุเรนะฟัง เนื่องจากมันเป็นเรื่องที่ไม่ควรเปิดเผย แต่เพราะอยู่ในสถานการณ์อย่างนี้อเลนเลยตอบคำถามของโดโกร่า
“นี่ อเลน ทำลายตระกูลอื่นเพราะเรื่องบาดหมางเนี่ยนะ!”
(อืม กะแล้วเชียวว่าคีลเป็นคนของตระกูลคาร์เนล เพราะเพิ่งโดนยุบเมื่อไม่นานมากนี้ด้วย เอาเถอะ ถ้าลองคิดดูแล้วมันก็มีความเป็นไปได้อยู่ เพราะนักเรียนที่อยู่ในห้องเรียนเป็นคนที่เข้าสอบวันเดียวกันด้วย)
คีลแห่งตระกูลคาร์เนลไม่ได้มาอยู่ห้องเรียนนี้โดยบังเอิญ การสอบเข้าของโรงเรียนที่มีผู้เข้าสอบสองหมื่นคน เพื่อป้องกันความสับสนเลยแบ่งนักเรียนตามแคว้น
ตระกูลของริโฟลที่ปกครองแคว้นเคานต์ฮามิลตันเองก็อยู่ติดกับแคว้นไวเคานต์แกรนเวล ตอนแรกคิดว่ามีแค่ 2 แคว้นนี้ แต่ดูเหมือนอดีตแคว้นคาร์เนลที่โดนยุบรวมเข้ากับราชอาณาจักรจะมาเข้าสอบพร้อมกันด้วย
“ใช่แล้ว มีเรื่องบาดหมางกัน”
“หา!?”
อเลนพูดชี้ชัดกับคีลว่ามีเรื่องบาดหมางกัน แล้วหยิบดาบสั้นออกมาจากที่เก็บของ ดาบสั้นที่ประดับด้วยเงินซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นแขกของตระกูลแกรนเวล
โดโกร่า ในตอนนั้นฉันได้อุทิศตนไปมากเพื่อทำลายตระกูลคาร์เนล เลยได้สิ่งนี้มาเป็นรางวัลตอบแทน”
แสดงดาบสั้นให้โดโกร่ากับคุเรนะดู
“จริงดิ เป็นแขกของตระกูลแกรนเวลเลยได้รับสิ่งนั้นมาเหรอ”
“นี่! อุทิศที่ว่าเนี่ยมันยังไงกัน!!”
(หือ? คีลไม่รู้เหรอ? หรือไม่ได้ฟังพวกรายละเอียด? เลยแสดงท่าทางและคำพูดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อครู่)
ทั้งที่เป็นเรื่องบาดหมางถึงขนาดทำให้ตระกูลโดนยุบ แต่คนที่โดนยุบกลับพูดอย่างนี้
“ฉันแนะนำให้ไวเคานต์แกรนเวลไปผูกมิตรกับราชวงศ์ไง แล้วคนที่บอกให้ใช้สิทธิ์เหมืองแร่มิธริลที่ฉันพยายามอย่างหนักจนได้มาเพื่อทำลายตระกูลคาร์เนลก็คือฉันเอง โดยสิ่งนี้เป็ฯรางวัลในครั้งนั้น”
อเลนบอกว่าทำอะไรลงไปอย่างตรงประเด็น ในขณะที่โดโกร่าและคุเรนะกำลังดูดาบสั้น
“กะ แก!!!”
(เอาละ มุ่งความโกรธมาทางนี้แล้ว ให้พูดตามตรงเซซิลไม่เกี่ยวอะไรด้วย เดี๋ยวสิมาเรีย อย่างจ้องอย่างนั้นสิ ห้ามโจมตีออกไปนะ)
สัตว์อัญเชิญวิญญาณ C ตอบสนองต่อคีลที่แสดงความเป็นศัตรูมาทางอเลน รู้ได้เลยเพราะสีหน้าที่ยิ้มแย้มในอ้อมกอดของนีน่ามันเปลี่ยนไป ทำให้คิดว่ามาเรียที่ไร้สีหน้าเนี่ยมันน่ากลัวนิดๆ เลยสั่งออกไปว่าห้ามโจมตี
สัตว์อัญเชิญวิญญาณ C พยักหน้าเบาๆทั้งที่ยังไร้สีหน้า
“นี่ อเลน อย่างนั้นมันไม่ดีนะ?”
“หือ?”
คนที่ตักเตือนการกระทำอย่างนั้นของอเลนคือเซซิล
“สิ่งนี้ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างตระกูลแกรนเวลกับตระกูลคาร์เนล ไม่คิดจะโยนความผิดให้อเลนเลยสักนิด ดาบสั้นนั้นเป็นคำขอบคุณที่ช่วยเหลือจากความโหดร้ายของตระกูลคาร์เนลต่างหาก”
“คะ ความโหดร้าย!! ตระกูลคาร์เนลทำอะไรลงไปกันแน่!!!”
“อ้าว ไม่รู้อะไรเลยเหรอ? ถ้านายเป็นลูกหลานของขุนนางแล้วละก็การกระทำอย่างนั้นมันไม่งามเลยนะ นั่งลงก่อนสิ?”
“มะ ไม่รู้อะไรเลยงั้นเหรอ ได้ยินจากราชทูตแล้ว!! ตระกูลแกรนเวลวางแผนทำลายตระกูลคาร์เนลไง!!”
“อ้าว? ราชทูตนั้นน่าจะโดนจับไปแล้วด้วยนี่”
“หา!? โดนจับงั้นเหรอ? หมายความว่ายังไงกัน!! อธิบายมาซะ!!!”
“นั่งลงซะ!”
เซซิลบอกให้นั่งลง เพราะเซซิลออกหน้ามาพูด ทำให้อเลนเฝ้ามองอย่างเงียบๆ
“ถ้านั่ง จะบอกเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วให้ฟังสินะ?”
“ก็ได้ แต่ต้องขอให้นายบอกเรื่องราวมาด้วยเหมือนกันได้หรือเปล่า?”
เซซิลคิดว่ามันแปลกที่คีลไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลของตัวเอง เลยอยากให้พูดเรื่องจุดหมายที่มาเมืองแห่งการศึกษาและใช้ชีวิตนักเรียนที่ยากจนด้วย สิ่งนี้เป็นเงื่อนไขถึงจะยอมเล่าเรื่องความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วให้ฟัง
เซซิลเป็นผู้เกี่ยวข้องในตระกูลแกรนเวล จำเป็นต้องรู้ภูมิหลังของคีลที่ไม่รู้เรื่องราวกับราชทูตที่คอยหนุนหลัง บางทีความวุ่นวายนี้อาจจะยังไม่จบก็ได้
พระราชวังเป็นแหล่งต่อสู้ของขุมอำนาจ ถ้าคนหนุนหลังคีลคิดได้ประโยชน์จากอะไรสักอย่างแล้วละก็ ในฐานะผู้เกี่ยวข้องกับตระกูลแกรนเวลจำเป็นต้องรู้ให้ได้
“ก็ได้ ถ้างั้นเล่ามาเลย”
คีลนั่งลงพร้อมกับแสดงการยอมรับ เซซิลมองไปที่นีน่าและเหล่าคนรับใช้ซึ่งแสดงความกังวลใจที่จู่ๆสภาพกลายเป็นอย่างนี้
“……จะพูดกับคีลเท่านั้น คนที่เหลือขอให้ขึ้นไปบนห้องที่ยังว่างอยู่ด้วยค่ะ”
“มะ ไม่ได้หรอกครับ! การที่จะให้ท่านคีลอยู่คนเดียวในเวลาอย่างนี้!!”
คนรับใช้ที่อายุเยอะสุดบอกว่าทำอย่างนั้นไม่ได้ คีลส่งสายตาไปทางคนรับใช้คนนั้นก่อนจะเลื่อนสายตากลับมาที่เซซิลและพูดต่อ
“ทำไมถึงให้ทุกคนฟังไม่ได้ ทุกคนเป็นครอบครัวของฉันนะ”
“มันแน่นอนอยู่แล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวพันถึงตระกูลแกรนเวลด้วยไง? ไม่ใช่เรื่องที่จะบอกให้ใครฟังก็ได้”
“……”
คำพูดนั้นก่อให้เกิดความเงียบขึ้น คนรับใช้หญิงอีกหนึ่งคนที่น่าจะอายุ 15 ปีเท่ากับคนรับใช้ที่อายุมากที่สุดพูดออกมาว่า “ไปกันเถอะค่ะ” บางทีอาจจะรู้จุดประสงค์ที่เซซิลอยากให้คนอื่นนอกจากคีลไปแล้วก็ได้
หลังจากนั้น คีลก็เกลี้ยกล่อมทุกคนรวมไปถึงคนรับใช้ที่ไม่อยากให้เขาอยู่คนเดียวขึ้นไปที่ชั้น 2 กับ 3 พอตรวจสอบผ่านสัตว์อัญเชิญวิญญาณ C ที่ทำการแชร์ก็รู้ว่านีน่ากับเหล่าคนรับใช้อยู่ในห้องตรงชั้น 3
ห้องอเนกประสงค์เหลือเพียง 5 คน ว่าจะให้คุเรนะกับโดโกร่าขึ้นไปที่ชั้น 2 กับ 3 ด้วย แต่เพราะเป็นพวกพ้องเลยอยากให้ 2 คนนี้ฟังด้วย
“เอาละ เหลือฉันแค่คนเดียวแล้ว บอกทีว่าปีที่แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
“ก็ได้”
เซซิลพูดเกริ่นไว้ว่า “เรื่องที่จะเล่าเป็นความจริง จะเชื่อหรือไม่ก็ตามใจ”
โดยเริ่มเล่าจากตอนที่ไวเคานต์คาร์เนลมาคฤหาสน์พร้อมกับราชทูต เพื่อพูดเรื่องเกี่ยวกับการดูแลร่วมกัน พอปฏิเสธไป วันนั้นเซซิลกับอเลนโดนโจร 3 คนมาลักพาตัวไปที่แคว้นคาร์เนลด้วยเรือเหาะเวทมนตร์
ยิ่งเล่าไปมากเท่าไร ยิ่งทำให้คีลโกรธจนต้องลุกขึ้น แต่ทุกครั้งที่เขายืนขึ้น เซซิลจะหยุดพูดทำให้เขาต้องนั่งลง จะเชื่อหรือไม่ก็ตามใจ แต่อยากให้ฟังจนจบ
หลังจากนั้นก็หนีจากนักฆ่าที่ไวเคานต์คาร์เนลจ้างมา แล้วระหว่างที่มุ่งหน้าไปเมืองแกรนเวลก็โดนตามจนทัน และบอกว่าเกือบจะโดนฆ่าแล้ว แต่ได้หัวหน้ากลุ่มอัศวินช่วยเอาไว้
หลังจากกลับมาถึงเมืองแกรนเวลได้อย่างปลอดภัย เคานต์แกรนเวลได้แจ้งข้อเท็จจริงเรื่องนี้ให้ราชวงศ์ทราบโดยตรง เพื่อแก้ไขปัญหา
ตอนนั้นเพื่อที่จะให้ราชวงศ์เคลื่อนไหว เลยยอมสละเหมืองมิธริล 1 ใน 5 แห่งไป
ผลสรุปนั้น ทำให้พบการกระทำที่ไม่ถูกต้องของไวเคานต์คาร์เนลและขุนนางที่เกี่ยวข้องกับเขาจำนวนมาก ก่อนจะทำการจับกุมและยุบตระกูลไป
ไวเคานต์คาร์เนลกับผู้ที่ร่วมกระทำความผิดในแคว้นโดนจับกุม ภรรยาของไวเคานต์คาร์เนลโดนคุมตัวอยู่ที่วังนอกใกล้ๆพระราชวัง
“ที่ฉันรู้ก็มีแค่นี้ เป็นอย่างไรบ้างคะ?”
“ระ เรื่องนั้น กะ โกหกน่า”
(เอาจริงดิ ไวเคานต์แกรนเวลนี่ เคลื่อนไหวใหญ่เอาเรื่องเลยนะเนี่ย)
อเลนเพิ่งเคยได้ยินเกี่ยวกับ “การเปลี่ยนแปลงของแกรนเวล” ที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วซึ่งเหล่าขุนนางต่างหวาดกลัวเป็นครั้งแรก
อเลนเองรู้เหตุผลแล้วว่าทำไมเซซิลถึงให้นีน่าและเหล่าคนรับใช้ขึ้นไปรอข้างบน เป็นการเอาใจใส่ไม่อยากให้ได้ยินความโหดร้ายของครอบครัวตัวเอง
“ถึงจะบอกไปแล้วหลายครั้ง จะเชื่อหรือไม่เป็นเรื่องของนาย ถ้าหากไม่เชื่อแล้วละก็จะไปตรวจสอบที่เมืองหลวงก็ได้? ถ้าทำอย่างนั้นแล้ว อาจจะเห็นเอกสารให้ร่วมกันดูแลของไวเคานต์คาร์เนลก็ได้”
คีลก้มหน้าด้วยอาการช็อกมาก
“ฉันเล่าไปแล้ว ทีนี้ขอฟังหน่อยว่ามาที่โรงเรียนด้วยเป้าหมายอะไรได้หรือยัง?”
“……อ้า”
คีลที่ก้มหน้าดูโต๊ะเงยหน้าขึ้นมา ก่อนจะเล่าเรื่องราวออกมา