[นิยายแปล] Hell mode – ตอนที่ 142 หนังสือสัญญา

บทที่ 142 หนังสือสัญญา

            งานประลองโรงเรียนที่สัปดาห์ก่อน จู่ๆผู้อำนวยการบอกให้เข้าร่วม ผู้ชนะเลิศคือคุเรนะ และจบลงโดยพ่ายแพ้ให้กับยอดนักดาบโดเบิร์กอย่างหมดรูป

            คุเรนะตั้งเป้าแก้มือกับโดเบิร์กในงานประลองโรงเรียนปีหน้า หลังจากนี้คงต้องเพิ่มเลเวลและหาอาวุธให้ดียิ่งกว่าตอนนี้

            อเลนคิดว่าที่โดเบิร์กต่อสู้กับผู้ชนะเลิศ คงอยากทำลาย “ความหลงตัวเอง” ของผู้ชนะเลิศอยู่ หลังจบการศึกษานักเรียนจะต้องไปสนามรบ ถ้าผู้ชนะเลิศทำให้สถานการณ์ในสนามรบย่ำแย่เพราะความหลงตัวเองจะลำบากเพราะมันเกี่ยวข้องกับความเป็นตายของทุกคนไม่ใช่แค่ตัวเขาคนเดียว

            ทั้งงานประลองโรงเรียน หรือการได้แข่งกับยอดนักดาบ คิดว่าเมืองแห่งการศึกษาของแต่ละประเทศคงทำเหมือนกันหมด

            หลังจากนั้น จัดงานพิธีปิดการประลองที่ห้องโถงของโรงเรียน

            เหล่าขุนนางและแขกผู้ทรงเกียรติของแต่ละประเทศที่มาดูงานประลองเข้าร่วมพิธีปิดนี้ โดยจะเรียกนักเรียน 16 คนที่เข้ารอบชิงมาด้วย ไวเคานต์แกรนเวลเองก็เข้าร่วมในฐานะขุนนาง

            คุเรนะได้รับคำแสดงความยินดีจากตัวแทนของผู้เข้าร่วมอย่างมกุฎราชกุมาร อเลนคิดว่าทำไมถึงไม่มอบเงินรางวัลหรือถ้วยรางวัลมาให้

            แน่นอนว่าอเลนไม่ได้เข้าร่วมพิธีปิดนี้ แต่แอบเอาสัตว์อัญเชิญนก G ไว้ในกระเป๋าของคุเรนะ

            มกุฎราชกุมารกล่าวกับคุเรนะว่า ฝฝช่างต่อสู้ได้อย่างยอดเยี่ยม หลังจากนี้จงกวัดแกว่งดาบเพื่อราชอาณาจักรซะฝฝ ซึ่งเธอตอบออกมาดังก้องไปทั่วห้องโถงว่า ฝฝค่ะ!!ฝฝ ถึงจะมองไม่เห็นหน้าของมกุฎราชกุมาร แต่คิดว่าค่อยข้างดึงดูดความสนใจอยู่จากเสียงฮือฮาที่อยู่รอบๆ

            แล้วพวกอเลนก็กลับมาที่ฐาน เพราะมีงานพิธีทำให้ตอนนี้เป็นเวลากลางคืนแล้ว

            ไวเคานต์นั่งอยู่ตรงโต๊ะกินข้าวในห้องอเนกประสงค์ที่ใช้เป็นห้องกินข้าว โดนคีลนั่งอยู่ข้างหน้าเขาและมีน้องสาวอย่างนีน่านั่งอยู่ข้างๆ

            ไวเคานต์มาที่ฐานเพราะบรรลุเป้าหมายอย่างหนึ่งแล้ว

            อเลน, คุเรนะ, เซซิล และโดโกร่านั่งอยู่ตรงโต๊ะเหมือนกันเพื่อรับฟังเรื่องราว

            “เธอคือคีลสินะ งั้นเหรอ เค้าหน้าเหมือนกับคาร์เนลอยู่นะเนี่ย”

            “……ครับ”

            คีลตอบกลับมาด้วยความประหม่าเล็กน้อย

            คนที่นั่งอยู่ตรงหน้า คือไวเคานต์แห่งตระกูลแกรนเวลที่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ใครดูก็รู้ว่าการกระทำของพ่อไม่เป็นการกระทำที่โหดร้ายไม่ถูกต้อง แต่เรื่องที่ทำลายครอบครัวก็ยังเป็นจริงไม่เปลี่ยนแปลง ต่อหน้าไวเคานต์ต้องพยายามทำตัวให้หนักแน่นสมกับคนที่จะเป็นเจ้าบ้านคนถัดไป

            “อืม ไม่ต้องระวังตัวขนาดนั้นก็ได้ วันนี้นำสิ่งนี้มาให้น่ะ”

            ไวเคานต์ถอนหายใจเพราะคิดว่าคีลระวังตัวอย่างนี้ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ แล้วหัวหน้ากลุ่มอัศวินที่อยู่ด้านหลังไวเคานต์ก็เดินเข้ามาหาคีลพร้อมกับคำพูดนั้น ก่อนจะคลี่ม้วนกระดาษวางไว้บนโต๊ะ

            “นะ นี่มัน?”

            “หนังสือสัญญาน่ะ ฝ่าบาทลงนามให้แล้วด้วย”

            ทั้งคีลรวมไปถึงเซซิลและโดโกร่าที่ฟังอยู่ด้วยก็พึมพำออกมาเบาๆว่า “หนังสือสัญญา” มีแค่คุเรนะคนเดียวที่พูดว่า “โหๆ” ออกมา

            คีลเริ่มอ่านหนังสือสัญญา

            ในนั้นเขียนเงื่อนไขในการฟื้นฟูตระกูลคาร์เนลเอาไว้

            ・ทำงานในสนามรบที่ราชอาณาจักรหรือพันธมิตร 5 ทวีปกำหนดเอาไว้เป็นเวลา 5 ปี

            ・ถ้าผลงานดีจะพิจารณาปรับลดระยะเวลาลง

 

            และพระราชาได้ลงนามพร้อมกับประทับตราของราชวงศ์เอาไว้

            “หมายความว่าฝ่าบาทสัญญาว่าจะให้ทำการฟื้นฟูตระกูลคาร์เนลได้เหรอครับ?”

            “ใช่แล้ว”

            จริงๆแล้วมันเป็นแค่สัญญาปากเปล่าของราชทูต ไม่รู้ถึงพระราชา

            แต่จากการเคลื่อนไหวของไวเคานต์ตลอด 2 เดือน ทำให้การพูดคุยคืบหน้าและได้หนังสือสัญญาจากพระราชา พระราชาเห็นชอบด้วยกับการฟื้นฟูตระกูลคาร์เนล

            หนังสือสัญญาในครั้งนี้ถือว่าหายากสำหรับราชวงศ์

            พระราชาจะไม่ทำหนังสือสัญญาง่ายๆ จะทำเฉพาะทำสัญญากับต่างประเทศหรือขุนนางชั้นสูงที่จำเป็นเท่านั้น เนื่องจากรัฐมนตรีทำงานภายใต้พระราชา เขาเลยเป็นคนที่จะร่างรายละเอียดของสัญญากับเหล่าขุนนาง

            ครั้งนี้พระราชาทำสัญญาเพื่อคีลโดยเฉพาะ

            “ทำไม ถึงต้องทำขนาดนี้ด้วยครับ?”

            ถ้าคิดถึงสิ่งที่พ่ออย่างไวเคานต์คาร์เนลทำลงไป การได้สัญญาจากพระราชาถือเป็นการตอบสนองที่พิเศษสุดๆ คีลคิดว่าทำไมถึงต้องทำขนาดนี้ด้วยเลยพูดในสิ่งที่คิดออกมา ไม่มีความจำเป็นต้องทำอย่างนี้ เท่าที่ฟังจากริโฟล ตัวของไวเคานต์อาจจะโดนเพ่งเล็งจากว่าที่ราชาคนถัดไปอย่างมกุฎราชกุมาร จนจุดยืนอยู่ในอันตรายก็ได้

            “ขุนนางต้องรักษาสัญญา และต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เจ้าบ้านของตระกูลแกรนเวลสมควรทำให้สำเร็จ”

            ไวเคานต์ตอบออกมาในทันทีราวกับอ่านความสงสัยของคีลได้

            ไวเคานต์พูดออกมาว่าไม่เสียใจสักนิดที่ทำลายตระกูลคาร์เนล

            ถึงไวเคานต์บอกว่าทำเพื่อลูกสาวอย่างเซซิล แต่คงรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบต่อการทำลายตระกูลคาร์เนลที่เป็นแคว้นข้างเคียงกันมาหลายร้อยปี

            เขาบอกต่อว่า ในฐานะเจ้าบ้านของขุนนางควรหาทางทำอะไรสักอย่างเพื่อสนับสนุนคีลเกี่ยวกับการกระทำในครั้งนี้

            “ครับ”

            “แล้วอยากให้ดูสิ่งนี้ด้วย มีชื่อของฉันกับเคานต์ฮามิลตันด้วย”

            “เอ๊ะ?”

            หนังสือสัญญาลงชื่อของไวเคานต์แกรนเวลกับเคานต์ฮามิลตันอยู่ โดยใต้ชื่อมีอะไรบางอย่างเขียนเอาไว้อยู่

            “นะ นี่มัน?”

            “การฟื้นตระกูลที่ล่มสลายไปแล้วครั้งหนึ่งจาก 1 มันเป็นอะไรที่ยากลำบาก เลยเขียนไว้ว่าทั้งสองตระกูลมีหน้าที่ในการให้ความร่วมมือในการฟื้นฟูเอาไว้ด้วย”

            ตรงนั้นได้เขียนเอาไว้ว่า จะให้แคว้นพ่ออย่างตระกูลเคานต์ฮามิลตันช่วยสนับสนุนการฟื้นฟูอย่างเต็มกำลัง

            และเขียนไว้ว่าตระกูลไวเคานต์แกรนเวลเองก็ต้องให้ความร่วมมือด้วย

            บางทีพระราชาอาจจะให้เงื่อนไขหนึ่งอย่างในการฟื้นฟูตระกูลคาร์เนลก็ได้

            ไวเคานต์ยังบอกต่อว่า ถึงจะไม่ได้เขียนเอาไว้ในนี้ แต่ในระหว่างที่คีลไปปฏิบัติหน้าที่จะให้ไปนีน่าและเหล่าคนรับใช้ไปอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์ของตระกูลฮามิลตัน

            “ขอบพระคุณมากครับ”

            คีลกล่าวคำขอบคุณออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ดูเหมือนความเกลียดชังที่มีต่อตระกูลแกรนเวลจะหายไปหมดแล้ว

            คีลลงชื่ออย่างไร้ความลังเล นีน่าจ้องมองสิ่งนั้น เท่านี้ถ้าคีลทำหน้าที่ได้สำเร็จตามหนังสือสัญญาแล้วละก็ สัญญาที่จะให้ฟื้นฟูตระกูลคาร์เนลก็จะสัมฤทธิ์ผล

            “แต่ อยากจะให้ฟังเรื่องที่จะพูดต่อจากนี้หน่อย”

            พอคีลลงชื่อเสร็จ ไวเคานต์ก็พูดออกมาว่ายังมีปัญหาอยู่

            สิ่งนั้นคือสภาพของพระราชา เขาเองก็อายุ 70 ปีแล้ว สำหรับโลกนี้ถือว่าอายุค่อนข้างยืน และบอกต่อว่าช่วงนี้พระราชานอนซมอยู่แต่บนเตียง

            ด้วยเหตุนั้น งานภายในพระราชสำนักส่วนใหญ่เลยถูกเปลี่ยนมาให้มกุฎราชกุมารทำแทน

            พอจบการศึกษาต้องรออีก 5 ปี มีความเป็นไปได้ว่ามกุฎราชกุมารคงได้ขึ้นครองราชย์แล้ว แน่นอนว่าสัญญาที่พระราชาคนก่อนให้ไว้ยังคงมีผลอยู่ แต่ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าเขาจะทำตามสัญญา

            แต่คีลที่ได้ยินอย่างนั้น กลับไม่แสดงความกังวลออกมาทางสีหน้าเลยสักนิด

            “ไม่หรอกครับ ผมจะทำหน้าที่ให้สำเร็จ แล้วกลับมาอย่างขุนนางครับ”

            เขาบอกว่าสิ่งที่ต้องทำหลังจากนี้ยังไงก็ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะมีหนทางในการฟื้นฟูตระกูลคาร์เนลแล้ว ต่อให้หนทางขาดกลางคันก็ต้องมุ่งหน้าต่อไปอยู่ดี

            หนังสือสัญญาที่คีลลงชื่อ เนื้อหาภายในอิงถึงตระกูลแกรนเวลด้วย ถ้ามกุฎราชกุมารได้เป็นพระราชาแล้วอาจจะฉีกสัญญาทิ้งก็ได้

            ดูเหมือนไวเคานต์จะหมดธุระแล้ว อเลนเลยเอาของที่วางไว้ในห้องข้างๆ ออกมา

            สิ่งนั้นเป็นกล่องขนาดเล็ก

            “ได้มาจากดันเจี้ยนครับ ถือเป็นคำขอบคุณของทุกคนในปาร์ตี้ที่ไวเคานต์ช่วยจัดการธุระต่างๆให้ครับ”

            “คำขอบคุณเหรอ เปิดได้เลยไหม? แหวนเหรอ?”

            “ครับ แหวนป้องกันพิษครับ”

            พวกอเลนลงดันเจี้ยนทุกวัน กล่องไม้ของดันเจี้ยนระดับ A มีดรอปแหวนป้องกันพิษมีออกมาเป็นเรื่องปกติ เพราะผ่านดันเจี้ยนได้แล้ว ครั้งนี้เลยคุยกับทุกคนว่าอยากมอบให้กับไวเคานต์แทนคำขอบคุณ แต่พออเลนได้ยินเรื่องของหนังสือสัญญาก็คิอว่าแค่แหวนวงเดียวคงไม่เพียงพอ

            ไม่ได้ขายไอเทมที่ได้จากดันเจี้ยนระดับ A ทุกชิ้น ถ้าจำเป็นต้องใช้จะคุยกับทุกคนว่าจะให้ใครสวมใส่ ถ้าอาวุธหรือเครื่องป้องกันยังแบ่งได้ง่าย แต่ถ้าเป็นไอเทมมีผลของเวทมนตร์อยู่ด้วยต้องตัดสินว่าจะให้ใครสวมใส่ก่อน

            เนื่องจากคาดการณ์ไว้แล้วว่าไอเทมที่ได้จากดันเจี้ยนระดับ A จะเป็นพวกอุปกรณ์ที่แข็งแกร่ง เลยให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนอุปกรณ์ของพวกพ้องให้ดีขึ้นมากกว่าเรื่องการหาเงิน

            “จะดีเหรอ? มันราคาค่อนข้างแพลงนี่? ให้เซซิลน่าจะดีกว่าให้ฉันนะ”

            เขาบอกว่าอยากจะให้กับลูกสาวอย่างเซซิลมากกว่าตัวเอง เพราะว่ามีมอนสเตอร์หลายตัวที่พ่นพิษออกมาได้

            “ไม่หรอกครับ พวกผมใช้ยาป้องกันสถานะผิดปกติทุกวันอยู่แล้วครับ”

            สกิลปลุกพลังของพืช C อย่าง “สารพัดเครื่องเทศ” จะส่งผลกับทุกคนในปาร์ตี้ที่ในระยะรัศมี 50 เมตร ถ้าใช้ที่ฐาน นีน่าและคนรับใช้ที่ไม่ได้เข้าร่วมปาร์ตี้นักผจญภัยจะได้รับผลไปด้วย ดังนั้นเลยใช้สารพัดเครื่องเทศทุกเช้าตอนเวลาอาหาร

            เรื่องคำจำกัดความของคำว่าปาร์ตี้ ดูเหมือนจะกว้างกว่าที่อเลนคิดเอาไว้อยู่

            แหวนในครั้งนี้ คิดว่าเป็นไอเทมที่เหมาะสมกับไวเคานต์ที่ยากจนและยังไม่ได้ซื้อแหวนป้องกันพิษมาไว้

            ไวเคานต์มองแหวน แล้วหันมามองอเลน

            “งั้นเหรอ มีสหายที่ดีสินะ”

            ไวเคานต์ที่เป็นเจ้าบ้านของตระกูลขุนนางมาเกือบ 30 ปี คำว่าสหายอาจจะเป็นคำที่ไม่ได้พูดมานานแล้วก็เป็นได้

            “ถ้างั้น นี่ก็สายมากแล้ว เซนอฟกลับกันเถอะ”

            เขาบอกหัวหน้าอัศวินว่าจะกลับแล้ว

            “อ้อ ไหนๆยังมีห้องว่างอยู่ ไม่ค้างสักหน่อยหรือครับ? หือ? ใครมากันเนี่ย”

            ก็อก ก็อก

            ตอนเสนอให้ไวเคานต์ที่กำลังจะกลับค้างที่นี่ก็มีรถม้าหนึ่งคันมาที่ฐาน เนื่องจากประตูปิดอยู่ อเลนเลยคิดว่ามีอะไรกันแน่ แล้วก็เห็นผู้ชาย 2 คนยืนอยู่

            หนึ่งในสองคนถือโคมไฟเวทมนตร์มาด้วย แล้วสายตาก็ไปหยุดอยู่ตรงตราของราชวงศ์ที่อยู่ตรงรถม้า

            “ยามดึกอย่างนี้มีอะไรหรือครับ?”

            “กำลังตามหาไวเคานต์แกรนเวลอยู่ ได้ยินมาว่าอยู่ที่นี่”

            ชายคนนั้นพูดออกมาอย่างไม่พอใจต่อคำถามของอเลน

[นิยายแปล] Hell mode

[นิยายแปล] Hell mode

Artist: ,
อ่านนิยาย Hell modeยามาดะ เคนอิจิ พนักงานกินเงินเดือน อายุ 35 ปี ผู้ชื่นชอบเกมที่ต้องฟาร์มหนักๆ ตอนนี้กำลังสิ้นหวังกับยุคที่เกมเล่นผ่านง่ายๆกำลังเป็นที่แพร่หลาย ระหว่างนั้นเองที่เขาโดนเว็บไซต์หนึ่งที่เขียนว่า "สำหรับผู้ชื่นชอบการฟาร์มอย่างคุณ" ทำให้ไปเกิดใหม่ในต่างระดับเฮลโหมด ป.ล. 1 แปลจากเว็บโนเวล ถ้าไม่เหมือนฉบับรุปเล่มต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ป.ล. 2 การอัพขึ้นอยู่กับเวลาว่างจากการทำงาน อย่าคาดหวังมาก(แต่จะพยายามอัพเรื่อยๆถ้าแปลเสร็จ

Options

not work with dark mode
Reset