[นิยายแปล] Hell mode – ตอนที่ 145 มังกร 1

บทที่ 145 มังกร 1

            ตั้งแต่ตอนนั้นก็ผ่านไปอีก 3 เดือนจนมาถึงเดือนมกราคม

            จัดเลี้ยงปีใหม่เล็กน้อย และวันคืนแห่งการลุยดันเจี้ยนก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ

            อนึ่ง โรงเรียนมีแค่วันหยุดฤดูร้อนกับฤดูใบไม้ผลิ วันหยุดฤดูใบไม้ผลิจะอยู่ในเดือนมีนาคม ดังนั้นเดือนมกราคมนอกจากวันปีใหม่อย่างวันที่ 1 มกราคมแล้วก็มีเรียนตามปกติ สำหรับอเลนที่ตามปกติไม่ต้องไปโรงเรียนและเอาแต่เล่นเกมจนถึงวันที่ 3 มกราคม รู้สึกตกใจกับหลักสูตรอย่างนี้มาก ค่อยรู้สึกสมกับเป็นต่างโลกหน่อย

            วันที่มีเรียน จะลงไปปราบบอสชั้นล่างสุดอย่างเดียว

            และวันหยุด 2 วันต่อสัปดาห์ จะไปลุยดันเจี้ยนตั้งแต่เช้า

            ใน 2 วันนี้ ตั้งเป้าผ่านดันเจี้ยนระดับ A ให้ได้สัก 1 ชั้น โดยระหว่างลุยดันเจี้ยนจะมี 1 วันที่ค้างในดันเจี้ยน

            เพราะต้องค้างในดันเจี้ยน 1 วัน ดังนั้นใน 1 สัปดาห์ที่มี 6 วันจะลงล่าบอสชั้นล่างสุดได้มากสุดแค่ 5 วัน 

            อนึ่ง โรงเรียนอนุญาตให้หยุดเพราะดันเจี้ยนได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจากดันเจี้ยนมันเป็นเขาวงกด และไม่ได้มีสัตว์อัญเชิญนก C เหมือนอย่างอเลนกัน

            เดิมทีการจะผ่านดันเจี้ยนต้องใช้เวลานานมาก

            ถ้าลงดันเจี้ยนในวันหยุดแล้วไม่สามารถออกมา สามารถเขียนใบลาหยุดให้กับทางโรงเรียนได้ โดยทางโรงเรียนบอกว่าถ้ามันไม่มากเกินไปสามารถยื่นเป็น “หยุดเพราะดันเจี้ยน” ได้อยู่

            พวกอเลนเอง จนถึงเดือนมกราคมได้ลาไปแล้ว 2 ครั้ง เพราะเหยียบกับดักเคลื่อนย้ายถึง 2 ครั้ง ยังไงก็กลับมาไม่ทันวันหยุด ต่อให้ใช้สัตว์อัญเชิญนก C 3 ตัววิ่งนำเพื่อหลบกับดัก แต่ถ้าจะโดนยังไงก็ต้องโดน

            รู้แล้วว่าต้องจัดทีมระดับไหนถึงจะผ่านดันเจี้ยนระดับ A ได้

            ได้ยินมาจากกิลด์นักผจญภัยว่าที่เมืองแห่งการศึกษานี้มีประมาณ 5 – 10 ปาร์ตี้ที่จับกลุ่มกันไปล่าบอสชั้นล่างสุดของดันเจี้ยนระดับ A สัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง

            คิดว่าไอเทมหายากที่ได้จากการปราบบอสชั้นล่างสุดมันมีราคาสูง แต่ก็มีจำนวนที่ออกประมูลน้อย

            เนื่องจากวันที่ 1 มกราคมเป็นวันหยุด เลยเข้าร่วมการประมูลเป็นครั้งแรก ซึ่งมีคนเข้าร่วมค่อนข้างมาก ดูเหมือนพ่อค้าของเมืองหลวงหรือเมืองใหญ่ต่างๆ จะมาเข้าร่วมการประมูลด้วย

            ราชอาณาจักรมีเรือเหาะอยู่ถ้ามีเวลาสัก 1 – 2 วันจะสามารถไปที่ไหนก็ได้ พอรู้ของที่ออกประมูลในวันที่ 25 เดือนก่อนกถึงจะมาเข้าร่วมประมูลในวันที่ 1 เดือนนี้ แต่รู้สึกว่ามีคนมาเข้าร่วมจำนวนมากโดยไม่เกี่ยงว่าเวลามันจะน้อยแค่ไหน อาจจะเพราะว่าเวลาเดินทางไปกลับเมืองแห่งการศึกษามันค่อนข้างสั้นก็ได้ ถึงกระนั้นก็ยังมีผู้เข้าร่วมจำนวนมากอยู่ดี

            ได้ยินมาว่าของที่ออกประมูลซึ่งผ่านการยืนยันจากกิลด์นักผตญภัยแล้ว จะใช้อุปกรณ์เวทมนตร์เพื่อแจ้งระหว่างกิลด์นักผจญภัยกันเองด้วย ที่โลกนี้มีวิทยาการสำหรับติดต่อสื่อสารอยู่

            ดูเหมือนระหว่างราชอาณาจักรกับจักรวรรดิเองก็ใช้อุปกรณ์สื่อสารในการประชุมอยู่ สิ่งนี้ใช้กันทั้งทวีป ดังนั้นสามารถติดต่อจักรวรรดิบาวกีสหรือโรเซนเฮมก็ได้ รู้สึกประทับใจที่จักรวรรดิบาวกีสให้ความร่วมมือในวิทยาการถึงขนาดนี้

            ถ้ามกุฎราชกุมารขึ้นครองราชย์ และไม่ให้ความร่วมมือในการปราบกองทัพจอมมาร คิดว่าอาจจะหยุดให้ความร่วมมือทางด้านวิทยาการก็ได้

            เกี่ยวกับการผ่านดันเจี้ยน คิดว่าภายในเดือนนี้น่าจะผ่านดันเจี้ยนระดับ A แห่งที่ 2 ได้อยู่

            ถึงชนิดของมอนสเตอร์จะต่างกับแห่งแรก แต่คิดว่าไม่มีปัญหา

            สกิลเสริมความแข็งแกร่งของอเลนมาถึงเลเวล 7 แล้ว ผลของมันทำให้ค่าสเตตัส 2 อย่างเพิ่มขึ้นอย่างละ 1000 สัตว์อัญเชิญสามารถกำจัดมอนสเตอร์ระดับ B ได้อย่างง่ายดาย และหน่วยสัตว์อัญเชิญก็ลงล่าดันเจี้ยนระดับ A ได้ดีกว่าเดิม

            ถ้าโดนล้อมจากกับดักอัญเชิญ หรือต้องต่อสู้กับอบิสบ็อก มีโอกาสที่จะจัดการได้มากขึ้น

            เกี่ยวกับอุปกรณ์สวมใส่ ในช่วง 3 เดือนมานี้ก็ค่อนข้างดีขึ้นมาก เพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้นยังไงอุปกรณ์ก็เป็นสิ่งที่จำเป็น คงไม่มีใครหน้าไหนไปต่อสู้กับจอมมารโดยไม่มีอุปกรณ์อะไรหรอก

            อาวุธและไอเทมเวทมนตร์ของทุกคน

            อเลน

            ・ดาบฮิฮิอิโรคาเนะ

            ・แหวนพลังกาย (พลังกาย + 100)

            ・แหวนทรงพลัง (พลังโจมตี + 500)

            คุเรนะ

            ・ดาบใหญ่ฮิฮิอิโรคาเนะ

            ・แหวนพลัง (พลังโจมตี + 100)

            ・แหวนพลัง (พลังโจมตี + 100)

            เซซิล

            ・คทาแสงปีศาจ

            ・แหวนพลังกาย (พลังกาย + 100)

            ・แหวนความฉลาด (ความฉลาด + 100)

            โดโกร่า

            ・ขวานอาดามันเที่ยม

            ・แหวนพลังกาย (พลังกาย + 100)

            ・แหวนพลัง (พลังโจมตี + 100)

            คีล

            ・คทาพิพากษา

            ・แหวนทนทาน (พลังกาย + 500)

            ・แหวนพลังกาย (พลังกาย + 100)

            ในช่วง 3 เดือน พวกอเลนเจอกล่องเงิน 7 กล่อง และในระหว่างที่ลุยดันเจี้ยนระดับ A ก็ได้เรียนรู้อะไรบางอย่าง

            ถ้าเป็นกล่องไม้จะได้อาวุธระดับฮิฮิอิโรคาเนะ, แหวนเพิ่มสเตตัส 100, แหวนกันหลับ, แหวนกันพิษ และอาวุธอื่นที่ไม่ใช่โลหะซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับฮิฮิอิโรคาเนะ

            เครื่องป้องกันระดับฮิฮิอิโรคาเนะ หรือไม่ก็พวกวัตถุดิบของมอนสเตอร์ระดับ B หรือเทียบเท่า

            ถ้ากล่องเงินจะได้อาวุธระดับอาดามันเที่ยม, แหวนเพิ่มสเตตัส 500, แหวนกันคำสาป, แหวนกันชา และอาวุธที่ไม่ใช่โลหะซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับอาดามันเที่ยม

            เครื่องป้องกันระดับอาดามันเที่ยม หรือไม่ก็พวกวัตถุดิบของมอนสเตอร์ระดับ A หรือเทียบเท่า

            ในกรณีที่ไม่รู้ผลของไอเทมจะไปให้ร้านประเมินในเมืองช่วยดู เนื่องจากมีอาชีพนักประเมินทำให้ตรวจสอบผลของพวกอุปกรณ์, แหวนและอุปกรณ์เวทมนตร์ได้

            ค่าใช้จ่ายต่อครั้ง ถ้าเป็นกล่องไม้ของดันเจี้ยนระดับ A จะอยู่ที่ราวๆ 1 เหรียญทอง ถ้าเป็นกล่องเงินก็ประมาณ 3 เหรียญทอง

            เพราะตรวจสอบให้ค่อนข้างละเอียดถือว่าช่วยได้เยอะ

            และคิดว่าสกิลประเมินเองก็เป็นอะไรที่สำคัญ

            ในช่วง 3 เดือน ส่วนใหญ่ออกกล่องไม้เกือบตลอด ทำให้ได้ของจำเป็นมาครบแล้ว และคุยกันว่าของที่ไม่จำเป็นจะเอาออกไปประมูลทุกวันที่ 25 ของทุกเดือน การเตรียมอาวุธ, ชุดเกราะ และไอเทมเวทมนตร์ระดับกล่องเงินขึ้นไปให้ครบน่าจะต้องใช้เวลาราวๆ 1 ปี

            “มังกรสินะ”

            โดโกร่าพึมพำออกมาตรงห้องของบอสชั้นล่างสุด

            วันนี้เป็นวันลงล่าบอสชั้นล่างสุด และตอนนี้มาสู้กับบอสชั้นล่างสุดของดันเจี้ยนระดับ A

            จนถึงตอนนี้ปราบบอสชั้นล่างสุดของดันเจี้ยนระดับ A ไปแล้ว 75 ครั้ง และยังไม่เคยมีมังกรออกมาเลย บอสชั้นล่างสุดนอกจากสายมังกรได้เจอมาหมดแล้ว

            เบื้องหน้าของพวกอเลน มีมังกรแนวตะวันตกที่มีขาอันใหญ่โตกับปีกสีน้ำตาลแดง ส่วนแขนถ้าเทียบกับขาแล้วถือว่าเล็กกว่ามาก เท่าที่ดูแล้วน่าจะเป็นประเภทยืนสองขา

            มันหยุดนิ่งอยู่ในสภาพหัวห้อยลงมาเล็กน้อย

            “อือ นั่นสินะ”

            (ในที่สุดก็โผล่ออกมาสักที ตั้ง 3 เดือนกว่าตัวแรกจะออกมา มังกรเนี่ยต้องลง 50 – 100 ครั้งถึงจะมีโอกาสออกสักครั้งสินะ)

            “อเลน เอาไงดีเหรอ?”

            คุเรนะถามว่าจะต่อสู้อย่างไร เรื่องที่ทำครั้งแรกทุกคนมักจะถามอเลน

            “มังกรเป็นบอสที่แข็งแกร่งที่สุดในบอสชั้นล่างสุด โจมตีครั้งแรกฉันจะเป็นคนทำเอง และจะให้เทคโค 4 ตัวรอรับมือกับเบรสที่โจมตีเป็นวงกว้าง”

            วิธีการต่อสู้กับบอสชั้นล่างสุดมีอยู่หลายรูปแบบ ถ้าให้อเลนเป็นคนโจมตีครั้งแรกมันเป็นวิธีการกำจัดที่เร็วที่สุด แต่เพื่อที่จะให้ประสานการโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามปกติจะพยายามไม่ใช้วิธีแบบเดิม

            “““เข้าใจแล้ว”””

            บอสชั้นล่างสุดที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างมังกร ถ้าเทียบพลังโจมตี, พลังป้องกันกับบอสชั้นล่างสุดตัวอื่นๆ คิดว่าคงเหนือกว่ามาก เขาเล่ากันมาว่าต่อให้เป็นปาร์ตี้ของนักผจญภัยที่ผ่านมาเป็นร้อยศึกก็สามารถจบเห่ได้

            อนึ่ง บอสชั้นล่างสุดที่อ่อนแอที่สุดคือสายสัตว์ พวกนี้โดนสถานะผิดปกติได้ค่อนข้างยาก แต่โดนสกิลปลุกพลังของแมลง C อย่าง “แทงจุดอ่อน” ทีเดียวตายได้อยู่

            ทุกคนไปประจำตำแหน่งตามที่อเลนบอก

            ครั้งนี้จัดขบวนโดยเน้นให้สัตว์อัญเชิญหิน C ป้องกัน ทำการเปลี่ยนการ์ดในสมุดเวทมนตร์ และเรียกหน่วยสัตว์อัญเชิญทั้ง 3 หน่วยกลับมา

            ก่อนอื่นต้องรู้ให้ได้ว่ามังกรนี้แข็งแกร่งขนาดไหน

            ถ้ามันแข็งแกร่งขนาดที่ว่าปราบได้ทั้งที่ปล่อยให้หน่วยสัตว์อัญเชิญล่ากำลังล่าอยู่ หลังจากนี้ก็ไม่มีควมจำเป็นต้องเก็บกลับมา

            “ถ้างั้นลุยกันเลย”

            เหล่าสัตว์อัญเชิญนก C ทั้ง 5 ตัวใช้สกิลปลุกพลัง เข้าไปข้างในโดยอเลนอยู่กองกลาง แนวหน้าคือคุเรนะกับโดโกร่า ส่วนแนวหลังคือเซซิลกับคีล

            ทั้ง 5 คนค่อยๆเข้าไปใก้ลมังกรที่ยังคงหัวห้อยอยู่ จังหวะการโจมตีครั้งแรกเป็นอะไรที่สำคัญ

            พอเข้าไปใกล้ๆ อเลนก็ชูมือไปทางมังกร

            “ไปเลย เหล่าระเบิดคาเบโอะ”

            คำว่า “เมเทโอ(ชั่วคราว)” เองก็หยุดพูดไปก่อนหน้านี้แล้ว สิ่งนั้นเป็นคำพูดที่สำคัญของเซซิล จะไปยึดมาเป็นของตัวเองไม่ได้

            สัตว์อัญเชิญหิน E 10 ตัวโผล่มาล้อมมังกร และระเบิดออกมาพร้อมกัน

            ‘หา ทำอะไรเนี่ย!! จู่ๆมาโจมตีกันอย่างนี้!!!’

            มังกรตะโกนออกมาท่ามกลางการระเบิด

            มังกรโกรธพร้อมกับยืดตัวขึ้นมา มันมีขนาดเกือบๆ 10 เมตร

            (โอ๊ะ? อย่างน่าจะได้อยู่?)

            อเลนสังเกตถึงอะไรบางอย่าง

            บอสชั้นล่างสุดของดันเจี้ยนระดับ A มีบ้างที่มอนสเตอร์ระดับบอสสามารถสื่อสารออกมาได้ สายวิญญาณสามารถพูดได้ ดูเหมือนจะต้องมีค่าความฉลาดที่สูง และขึ้นอยู่กับชนิดของมอนสเตอร์ถึงจะพูดออกมาได้

            จนถึงตอนนี้ที่สื่อสารกันได้มีแค่สายวิญญาณเท่านั้น แต่คิดว่ามังกรเองก็น่าจะพูดได้เหมือนกัน

            อนึ่ง ถึงต่อให้สายวิญญาณพูดได้แต่ก็ใช่ว่าจะยกโทษให้ ยังไงก็ต้องจัดการอย่างไร้ความปราณี

            “พูดได้ด้วยสินะ”

            เซซิลรู้สึกประทับใจที่มังกรสามารถพูดได้ มันโดนสกิลจุติ “ระเบิดตัวเอง” ของสัตว์อัญเชิญหิน E เข้าไปจนทั้งตัวมีควันลอยออกมา

            พวกอเลนหยุดสักครู่เพื่อตรวจดูสอบสภาพของมังกร

            พอควันเริ่มเบาบางลง และทัศนวิสัยชัดเจนขึ้นก็เห็นมังกรจ้องมองมาทางนี้

            ดูเหมือนมังกรจะสังเกตเห็นพวกอเลนแล้ว

            ‘โห ช่างน่าขันยิ่งนัก แค่นักผจญภัย 5 คน กล้ามาสู้กับข้าเนี่ย คงดวงดีรอดชีวิตมาได้เพราะไม่เคยเจอมังกรอย่างข้ามาก่อนสินะ ความไม่รู้นี่เป็นบาปเหมือนกัน ขอเคารพในความหยิ่งผยองนั้น แล้วแผดเผาอย่างทรมานด้วยเปลวเพลิงของข้า……’

            “ไปเลย เหล่าคาเบโอะ ระเบิดตัวเอง”

            ก่อนที่มังกรจะพูดจบ สัตว์อัญเชิญหิน E จำนวนเท่าเดิมเข้าล้อมมังกรและระเบิดตัวเอง ตั้งแต่ตอนแรกที่ดูสถานการณ์ก็สร้างสัตว์อัญเชิญหิน E มาเสริมในสมุดเวทมนตร์แล้ว

            ‘พวกแกกกกกกก!! หะ ให้อภัยไม่ได้!!!’

            (โอ๊ะ? โกรธแล้ว)

            ในระหว่างที่คิดว่าโชคดีที่สามารถโจมตีซ้ำได้อีกรอบ มังกรพูดออกมาด้วยน้ำเสียงรุนแรงก่อนจะยืนขึ้นและเดินมาทางนี้จนพื้นสั่นสะเทือน