[นิยายแปล] Hell mode – ตอนที่ 147 แคป

บทที่ 147 แคป

            ผ่านมาเกือบ 3 เดือนหลังจากผ่านดันเจี้ยนระดับ A แห่งที่ 2 จนมาถึงปลายเดือนมีนาคม

            ช่วงนี้ของปีที่แล้วพวกอเลนได้มาที่เมืองแห่งการศึกษา

            คิดว่าเวลา 1 ปีช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว

            อีกไม่นานจะเริ่มชีวิตการเป็นนักเรียนปี 2 แล้ว

            ตอนนี้พวกอเลนกำลังอยู่ระหว่างลุยดันเจี้ยนระดับ A แห่งที่ 3 ตรงส่วนชั้นลึก โดยเพิ่งจัดการมอนสเตอร์ระดับ B ที่เข้ามาโจมตีเสร็จพอดี

            “อ้าว? ขึ้นแล้ว”

            “อือ เลเวลขึ้นแล้ว”

            (งั้นเหรอ คุเรนะเองก็มาถึงสักที เท่านี้ทั้ง 4 คนก็เลเวลตันแล้ว)

            คุเรนะรู้สึกถึงความผิดปกติที่เรียกว่าเลเวลอัพ เธอมาถึงเลเวล 60 แล้ว ถึงค่าสเตตัสจะเพิ่มขึ้นแต่หน้าสเตตัสในสมุดเวทมนตร์ตอนนี้มีอะไรที่ต่างไป

 

            [ชื่อ] คุเรนะ

            [อายุ] 13

            [อาชีพ] ยอดนักดาบ

            [เลเวล] 60

            [พลังกาย] 2440 + 1800

            [พลังเวท] 954

            [พลังโจมตี] 2440 + 1800

            [ความทนทาน] 1712 + 1800

            [ความว่องไว] 1648 + 1800

            [ความฉลาด] 974

            [โชค] 1195

            [สกิล] ยอดนักดาบ <6>, ฟัน <6>, ดาบบิน <6>, ดาบแดงทำลายล้าง <6>, ดาบอสุนีบาต <6>, กายแกร่ง<2>, วิชาดาบ <6>

            [เอ็กซ์ตร้าสกิล] ทะลวงขีดจำกัด

 

            ・ เลเวลสกิล

            [ยอดนักดาบ] 6

            [ฟัน] 6

            [ดาบบิน] 6

            [ดาบแดงทำลายล้าง] 6

            [ดาบอสุนีบาต] 6

 

            [ชื่อ] เซซิล แกรนเวล

            [อายุ] 13

            [อาชีพ] นักเวท

            [เลเวล] 60

            [พลังกาย] 1028

            [พลังเวท] 1736 + 1200

            [พลังโจมตี] 659

            [ความทนทาน] 842

            [ความว่องไว] 1019 + 1200

            [ความฉลาด] 2390 + 1200

            [โชค] 960

            [สกิล] เวทมนตร์ <6>, ไฟ <6>, ดิน <6>, ลม <6>, น้ำ <6>, ปัญญา <2>, ผสาน <3>

            [เอ็กซ์ตร้าสกิล] อุกกาบาตขนาดเล็ก

 

            ・ เลเวลสกิล

            [เวทมนตร์] 6

            [ไฟ] 6

            [ดิน] 6

            [ลม] 6

            [น้ำ] 6

 

            [ชื่อ] โดโกร่า

            [อายุ] 13

            [อาชีพ] ผู้ใช้ขวาน

            [เลเวล] 60

            [พลังกาย] 1322 + 600

            [พลังเวท] 716

            [พลังโจมตี] 1741 + 600

            [ความทนทาน] 1145

            [ความว่องไว] 724

            [ความฉลาด] 482

            [โชค] 783

            [สกิล] ขวานศึก <6>, ฟันสุดแรง <6>, ขว้างขวาน <6>, ฟันดินระเบิด <6>, หิมะถล่ม <6>, จิตสงคราม <2>, วิชาขวาน <6>

            [เอ็กซ์ตร้าสกิล] ทุ่มสุดตัว

 

            ・ เลเวลสกิล

            [ขวานศึก] 6

            [ฟันสุดแรง] 6

            [ขว้างขวาน] 6

            [ฟันดินระเบิด] 6

            [หิมะถล่ม] 6

 

            [ชื่อ] คีล

            [อายุ] 13

            [อาชีพ] บาทหลวง

            [เลเวล] 60

            [พลังกาย] 787

            [พลังเวท] 1499 + 600

            [พลังโจมตี] 598

            [ความทนทาน] 841

            [ความว่องไว] 959

            [ความฉลาด] 1321 + 600

            [โชค] 1203

            [สกิล] บาทหลวง <6>, ฟื้นฟู <6>, ปกป้อง <6>, เยียวยา <6>, กำแพงเวทย์ <6>, ศรัทธา<2>, วิชาดาบ <3>

            [เอ็กซ์ตร้าสกิล] หยาดแห่งพระเจ้า

 

            ・ เลเวลสกิล

            [บาทหลวง] 6

            [ฟื้นฟู] 6

            [ปกป้อง] 6

            [เยียวยา] 6

            [กำแพงเวท] 6

 

            ช่องค่าประสบการณ์กับค่าประสบการณ์สกิลตรงหน้าสเตตัสหายไป เนื่องจากตอนเริ่มเลเวลใกล้ๆกัน พอสิ้นเดือนมีนาคม ทั้ง 4 คนนอกจากอเลนช่องตรงนั้นก็หายไป

            คิดว่าเพราะเลเวลแค่ 60 เลยเพิ่มเลเวลสกิลมากกว่า 6 ไม่ได้ เดิมทีวิชาดาบไม่มีบอกค่าประสบการณ์ เลยคิดว่าน่าจะเพิ่มได้อยู่แต่ตอนนี้ก็ยังไม่รู้เหมือนกัน

            ถ้าไม่นับอเลนอีก 4 คน ลงดันเจี้ยนแค่ 1 ปีก็ทำให้เลเวลกับสกิลอาชีพมาถึงขึดจำกัด ซึ่งอเลนเรียกสภาพนี้ว่าเลเวลตัน

            เนื่องจากดันเจี้ยนระดับ A ทั้งกว้างและยาว วันนี้เลยหาห้องเล็กเพื่อใช้เป็นที่พักแรม อีกไม่นานจะถึงวันหยุดฤดูใบไม้ผลิแล้ว ถือว่าช่วยได้มากที่จะลงลุยดันเจี้ยนได้เรื่อยๆ

            ทุกคนช่วยกันเตรียมที่พักและทำอาหาร

            ถึงจะบอกอย่างนั้น แต่ทั้ง 5 คนแทบไม่เคยทำงานบ้าน ส่วนใหญ่เลยทำได้แค่อาหารแบบลวกๆ

            อเลนจุดฟืนซึ่งเอาออกมาจากที่เก็บ

            เอาก้อนเนื้อมาโรยเครื่องเทศแล้วเสียบด้วยเหล็กแหลมก่อนจะเอาไปปิ้งบนกองไฟ ถ้าเป็นของที่มีขนาด 30 เซนติเมตรแล้วละก็จะใส่อะไรเข้าไปก็ได้ ถังเครื่องดื่มที่ใส่เข้าไปในที่เก็บก็มีหลายสิบถัง

            เพราะผ่านมา 1 ปี ทำให้รู้สึกว่าเตรียมของสำหรับค้างแรมข้างนอกได้อย่างสมบูรณ์แล้ว

            “แล้ว หมายความว่าจะแข็งแกร่งไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วเหรอ?”

            โดโกร่าถามอเลนในขณะที่กำลังกัดเนื้อ

            “จะบอกว่าแข็งแกร่งไปกว่านี้ไม่ได้ก็ไม่ถูก แค่เลเวลกับเลเวลสกิลมาถึงค่าสูงสุด และไม่สามารถเพิ่มมากกว่านี้ได้แล้ว”

            “มันก็เหมือนกันนี่”

            เขาบอกว่ามันต่างกันตรงไหน ก่อนจะเคี้ยวขนมปังแข็งๆที่อุ่นด้วยกองไฟ

            (อย่างนี้คือมาถึงแคปเลเวลแล้วสินะ)

            เกมในโลกก่อนที่อเลนเล่น ไม่มีเกมไหนที่ไม่กำหนดเลเวลสูงสุด  ทุกเกมต้องกำหนดเลเวลสูงสุดเอาไว้ ถ้ามีเกมที่เพิ่มได้สูงสุด 50 ก็ต้องมีเกมที่เพิ่มได้ถึง 999

            และมีความคิดจะเพิ่มเลเวลทุกเกมจนกว่าจะไปถึงขีดจำกัด

            โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเกมออนไลน์ มีบ่อยครั้งที่จะค่อยๆปลดแคปเลเวลไม่ให้เบื่อด้วยเนื้อเรื่องที่เพิ่มเข้ามาตอนหลัง หรือการอัพเดตเวอร์ชั่น แล้วนึกถึงเกมที่หยุดอยู่ที่เลเวล 80 มา 2 ปีโดยไม่ทำอะไร

            แคปคือ ค่ากำหนดสูงสุดของเลเวลและเลเวลสกิล

            ที่คิดสงสัยหนึ่งอย่างคือ ทำแค่ 1 ปีก็มาถึงแคปเลเวลแล้ว

            (ไม่แน่ บางทีเพราะจอมมารเพิ่มระดับของมอนสเตอร์ขึ้น 1 ระดับก็ได้)

            อเลนนึกมาตลอดตั้งแต่เด็กแล้วว่าค่าประสบการณ์ของมอนสเตอร์มันเยอะมาก ถ้าหากจอมมารทำให้มอนสเตอร์แข็งแกร่งขึ้น 1 ระดับแล้วละก็ คิดว่าค่าประสบการณ์ที่ได้ก็ต้องเพิ่มขึ้นไปด้วยเหมือนกัน

            รวมไปถึงค่าประสบการณ์ของมอนสเตอร์ที่อยู่ในดันเจี้ยนก็น่าจะเพิ่มขึ้น 1 ระดับด้วยเหมือนกัน

            กระต่ายเขาเดียวระดับ E ค่าประสบการณ์ 1 → 10

            ก็อบลินระดับ D ค่าประสบการณ์ 20 → 200

            เกรซบอร์ระดับ C ค่าประสบการณ์ 100 → 1,000

            ออร์คคิงระดับ B ค่าประสบการณ์ 2,500 → 25,000

            เกรซวอริเออร์ค่าประสบการณ์ 60,000 → 600,000

            ถ้ามอนสเตอร์แข็งแกร่งขึ้นจากเดิม 10 เท่าแล้วละ ค่าประสบการณ์ที่ได้ก็น่าจะเพิ่มขึ้น 10 เท่าไปด้วย

            “ทุกคน พอสกิลมาถึงเลเวล 6 ก็ค่อนข้างแข็งแกร่งกันแล้ว แต่มันไม่จบแค่นี้หรอก”

            “ไม่จบแค่นี้งั้นเหรอ?”

            (พอเลเวลอาชีพมาถึง 6 จะได้ค่าสเตตัสเพิ่มอีกครั้ง ถึงจะประหลาดใจที่มันเพิ่มสเตตัสเหมือนกับตอนเลเวล 3 ก็ตามที ฉันเองก็เลเวลอัญเชิญ 6 แล้วด้วย ถ้าส่วนที่เพิ่มของยอดนักดาบยังมากกว่า 1200 แต่เอาเถอะเพราะสกิลที่มีประโยชน์น้อยกว่าฉัน 2 อันด้วยนี่สิ)

            ดูเหมือนระดับความแรร์ของอาชีพจะทำให้ค่าสเตตัสที่เพิ่มแตกต่างกันอยู่

 

            ・ผู้ใช้ขวานกับบาทหลวงที่เป็น 1 ดาว เพิ่มค่าสเตตัส 2 อย่าง อย่างละ 600 รวมเป็น 1200

            ・นักเวทที่เป็น 2 ดาว เพิ่มค่าสเตตัส 3 อย่าง อย่างละ 1200 รวมเป็น 3600

            ・ยอดนักดาบที่เป็น 3 ดาว เพิ่มค่าสเตตัส 4 อย่าง อย่างละ 1800 รวมเป็น 7200

            ・นักอัญเชิญที่เป็น 8 ดาวของอเลน เพิ่มค่าสเตตัสรวมกันทั้งหมด 6000

 

            นอร์มอลโหมดจะได้ค่าสเตตัสเพิ่มตอนสกิลเลเวล 3 กับ 6 

            ถึงจะมีการเพิ่มค่าสเตตัสให้ 2 รอบ แต่เพราะการเพิ่มค่าสเตตัสมันใช้ช่องสกิล ทำให้คิดว่ามันแตกต่างจากอเลนที่จะได้สกิลใหม่มาเรื่อยๆตอนสกิลเลเวลเพิ่มขึ้น

            เพราะอย่างนั้นเลยให้ความรู้สึกว่าอเลนที่สกิลเลเวล 6 เหมือนกันมีสกิลมากกว่าเล็กน้อย

            ตั้งแต่เริ่มเลเวลตันกันอย่างต่อเนื่อง อเลนก็คิดเรื่องที่จะต้องทำหลังจากนี้เอาไว้อยู่

            ก่อนอื่นเอาจากเป้าหมายในอนาคตอันใกล้ที่น่าจะทำได้ก่อน

 

            ・ใช้เอ็กซ์ตร้าสกิลได้อย่างอิสระ

            ・หาอาวุธและเครื่องป้องกันระดับโอริฮารูกอน รวมไปถึงแหวนเพิ่มค่าสเตตัสจากกล่องทอง

 

            “ก่อนอื่นต้องให้ทุกคนใช้เอ็กซ์ตร้าสกิลได้อย่างอิสระ”

            บอกทุกคนไปว่าเอ็กซ์ตร้าสกิลก็เหมือนกับท่าไม้ตาย ถึงจะยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่เนื่องจากคุเรนะใช้กับมังกรทำให้ความน่าเชื่อถือเพิ่มมากขึ้น

            ตั้งแต่เดือนหน้าจะเป็นนักเรียนปี 2 กันแล้ว น่าจะได้รับการสอนในคาบเรียนอยู่ อาจารย์ประจำชั้นเองเริ่มสู้กับคุเรนะแล้ว คิดว่าครั้งนี้คงยอมสอนอย่างตรงไปตรงมาอยู่

            “ใช่แล้ว อาวุธ เครื่องป้องกันกับแหวนในช่วงครึ่งปีนี้เป็นของกล่องเงินเกือบหมด แต่ยังไม่ได้พวกเครื่องสวมใส่จากกล่องทองเลย”

            กล่องเงินโอกาสออกราวๆ 1 ใน 10 ครั้ง เพราะอย่างนั้นอเลน คุเรนะและโดโกร่าตอนนี้เลยสวมอาวุธอาดามันเที่ยมอยู่

            และใส่แหวนเพิ่มค่าสเตตัส 2 วง

            แหวนจะส่งผลแต่ละมือแค่ข้างละ 1 วงเท่านั้น

            และถึงเครื่องป้องกันส่วนหนึ่งกับแหวนจะออกมาจากกล่องไม้ด้วย แต่ถ้าลงล่าบอสชั้นล่างสุดของดันเจี้ยนระดับ A อย่างนี้ไปเรื่อยๆ คิดว่าอีกแค่ครึ่งปีทุกคนคงเปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์ของกล่องเงินกันหมด

            กล่องทองตั้งแต่ตอนเดือนมกราคมที่ปราบมังกรก็ไม่เคยโผล่ออกมาอีกเลย

            แหวนฟื้นพลังกาย ให้คีลสวม

            มอนสเตอร์ตั้งแต่ระดับ B ขึ้นไปเริ่มมีสติปัญญาและพยายามเล็งผู้ที่ทำหน้าที่ฟื้นฟูก่อน

            เป้าที่ถูกเล็งถัดมาคือผู้ทำหน้าที่หัวหน้าอย่างอเลน และเซซิลที่ใช้เวทมนตร์โจมตีกระจาย

            เนื่องจากความทนทานของคีลน้อยกว่าคุเรนะกับโดโกร่ามาก ถ้าโดนเล็งจากหลายตัวพร้อมกันอาจจะตายได้อยู่

            ถึงจะพยายามจัดตำแหน่งไม่ให้เป็นอย่างนั้นแล้ว แต่เหมือนโลกนี้ถ้าตายแล้วจะไม่มีชุบชีวิต เลยบอกไปว่าให้คนที่น่ะตายง่ายสุดสวมไว้ก่อน

            อนึ่ง บอกต่อไปว่าถ้าได้ชิ้นที่ 2 จะให้เซซิล ชิ้นที่ 3 ให้โดโกร่า และชิ้นที่ 4 ให้อเลน สุดท้ายคือคุเรนะ โดยเรียงลำดับจากความตายง่าย

            “คิดจะหากล่องทองให้มากขึ้นงั้นเหรอ?”

            เซซิลถามย้ำถึงแผนการหลังจากนี้ ดูเหมือนทุกคนคงช็อกนิดหน่อยที่รู้ว่าตัวเองจะแข็งแกร่งไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว

            “แน่นอนว่า ถ้าพวกเราหาเองได้ก็ดีอยู่หรอก แต่จากโอกาสออกที่ต่ำแล้ว ให้คิดไว้ก่อนเลยว่าจะไปทำการประมูล ดูเหมือนแหวนเพิ่มสเตตัสที่ได้จากกล่องทองจะเพิ่มมากกว่ากล่องเงินด้วยสิ”

            มีเวลาอีกไม่ถึง 2 ปีก็ต้องไปสนามรบ ถ้าหากปีหนึ่งออกมาแค่ไม่กี่ชิ้นแล้วละก็คงเตรียมให้ทุกคนไม่ได้หรอก

            จำเป็นต้องตรวจดูทุกเดือนแล้วว่ามีของกล่องทองออกประมูลด้วยหรือเปล่า

            “ต่อไปก็หาอาวุธโอริฮารูกอนสินะ”

            คุเรนะเองก็กินไปฟังไป คนที่ช็อกที่สุดตอนรู้ว่ามีแคปอาจจะเป็นคุเรนะก็ได้

            “แต่คุเรนะ โอริฮารูกอนไม่มีออกขายในงานประมูลหรอก กิลด์นักผจญภัยเองยังไม่รู้เลยว่าจะหามันมาได้ยังไง เหมือนบอกแค่ว่ามีโอกาสออกมาในดันเจี้ยนแค่นั้นเอง”

            คีลเองก็เข้าร่วมวงสนทนาอย่างเป็นธรรมชาติ

            อาวุธโอริฮารูกอนมันแตกต่างจากแหวนของกล่องทองเพราะไม่รู้ว่าจะหามาได้อย่างไร บางทีอาจจะออกจากกล่องทองของดันเจี้ยนระดับ A ก็ได้ แต่เพราะจำนวนกล่องทองที่ได้มันน้อยทำให้ข้อมูลไม่เพียงพอ

            บางทีอาจจะต้องไปดันเจี้ยนระดับ S ก็ได้

            “นั่นสินะ ต้องหาข้อมูลความเป็นไปได้ทุกอย่างเพื่อที่จะทำให้แข็งแกร่งขึ้น จำเป็นต้องตรวจสอบข้อมูลที่เป็นแค่ข่าวลือหรือไม่น่าเชื่อถือด้วย บางทีอาจจะมีไอเทมที่ยอดเยี่ยมอย่างอื่นนอกจากแหวนหรือโอริฮารูกอนก็ได้ไง”

            “นั่นสินะ ตั้งแต่จอมมารปรากฏตัวออกมาทุกคนน่าจะเริ่มหากันอย่างเอาเป็นเอาตายแล้วไม่ใช่เหรอ”

            พอจอมมารปรากฏตัวออกมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เซซิลเลยคิดว่าคงหาข้อมูลเพื่อที่จะต่อต้านจอมมารกันไปหมดแล้วก็ได้

            “ไม่หรอก มันต้องมีอยู่อย่างแน่นอน ดันเจี้ยนระดับ S ก็ด้วย อาจจะมีอะไรที่ล้ำค่ารออยู่ จำเป็นต้องขยายวงตรวจสอบให้กว้างขึ้น”

            สิ่งนี้ก็เพื่อความแข็งแกรง่อันสุดยอดด้วย

            มีความเป็นไปได้ว่าความจริงจะถูกบิดเบือนให้เหลือในรูปของเรื่องเล่าหรือข่าวลืออยู่

            ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลแบบไหน แต่ถ้าเป็นข้อมูลที่มีโอกาสจะทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นได้แล้วละก็ จะตรวจสอบให้ละเอียดจนกว่าจะรู้ความจริง เคยให้ทุกคนช่วยตรวจสอบที่ห้องสมุดของโรงเรียนไปครั้งหนึ่งแล้ว และได้ความเห็นออกมามากมาย

            (เอาละ ยังไงก็ต้องตรวจสอบในเรื่องที่อยู่ในสามัญสำนึกก่อน ต้องคิดอย่างจริงจังแล้วว่าจะทำยังไงให้ปาร์ตี้แข็งแกร่งขึ้น ที่มาเกิดใหม่ก็เพื่อการนี้ไง)

            พอคิดว่าทำยังไงถึงจะแข็งแกร่งขึ้นได้เลยพลอยนึกถึงชาติก่อน บางทีอาจจะคิดเพียงแค่นั้นก็ได้ อเลนเชื่อว่าการที่มีความทรงจำของชาติก่อนอยู่มันต้องมีความหมาย

            เพียงแค่ 1 ปีก็ติดแคปแล้ว เลยต้องคิดหาทางรับมือกับเรื่องหลังจากนี้

[นิยายแปล] Hell mode

[นิยายแปล] Hell mode

Artist: ,
อ่านนิยาย Hell modeยามาดะ เคนอิจิ พนักงานกินเงินเดือน อายุ 35 ปี ผู้ชื่นชอบเกมที่ต้องฟาร์มหนักๆ ตอนนี้กำลังสิ้นหวังกับยุคที่เกมเล่นผ่านง่ายๆกำลังเป็นที่แพร่หลาย ระหว่างนั้นเองที่เขาโดนเว็บไซต์หนึ่งที่เขียนว่า "สำหรับผู้ชื่นชอบการฟาร์มอย่างคุณ" ทำให้ไปเกิดใหม่ในต่างระดับเฮลโหมด ป.ล. 1 แปลจากเว็บโนเวล ถ้าไม่เหมือนฉบับรุปเล่มต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ป.ล. 2 การอัพขึ้นอยู่กับเวลาว่างจากการทำงาน อย่าคาดหวังมาก(แต่จะพยายามอัพเรื่อยๆถ้าแปลเสร็จ

Options

not work with dark mode
Reset