[นิยายแปล] Hell mode – ตอนที่ 151 หมู่บ้านบุกเบิก 2

บทที่ 151 หมู่บ้านบุกเบิก 2

            เข้าสู่กลางเดือนเมษายน

            ในระหว่างนี้ก็พาสมาชิกใหม่ผ่านดันเจี้ยนระดับ B ได้แล้ว 1 แห่ง ภายในเดือนเมษายนน่าจะผ่านดันเจี้ยนแห่งที่ 2 ได้อยู่

            พอเป็นนักเรียนปี 2 ครูประจำชั้นก็บอกให้อเลนกับเซซิลไปเข้าเรียนวิชาใหม่

            ดูเหมือนมันเป็นคาบเรียนสำหรับผู้บังคับบัญชาการ คนอื่นที่ถูกบอกให้เข้าด้วยก็มีริโฟลกับวอสเตอร์

            เป็นคาบเรียนที่สอนเกี่ยวกับพื้นฐานของยุทธวิธี

            ดูแล้วคนที่เข้าเรียนส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มาจากตระกูลขุนนาง หรือไม่ก็หัวหน้าปาร์ตี้ที่ลงดันเจี้ยน

            เห็นได้ชัดเลยว่าตัดสินโดยดูจากตระกูลและการใช้ชีวิตนักเรียนในช่วง 1 ปี

            อเลนเข้าใจได้ว่าทำไมถึงให้ขุนนางเป็นผู้สั่งการในสนามรบ เอาเถอะคิดอยู่ว่าถ้าให้ขุนนางเป็นคนสั่งการคงเป็นอะไรที่ดีอยู่

            ถ้าถามว่าอยากให้ประชาชนหรือทาสติดที่ดินเป็นคนสั่งการ กับให้ขุนนางเป็นคนสั่งการ คิดว่าคำตอบต้องเป็นให้ขุนนางสั่งการอยู่แล้ว

            ขุนนางชินกับการสั่งพวกคนรับใช้อยู่แล้ว แน่นอนว่าไม่มีใครคุ้นชินรับคำสั่งจากประชาชนที่เป็นคนรับใช้

            คงคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องจัดตั้งกลุ่มบังคับบัญชาการโดยไม่สนใจโครงสร้างของประเทศหรือเปล่า

            แล้วปีนี้เพิ่งเริ่มเรียน เลยสอนทุกคนในห้อง

            นักเรียนในห้องเรียนนี้ได้รับอิทธิพลจากอเลน ถ้าเทียบกับห้องเรียนอื่นแล้วถือว่าผ่านดันเจี้ยนได้คืบหน้ามาก

            มีหลายปาร์ตี้ที่ไปดันเจี้ยนระดับ B แล้ว แต่พอเป็นระดับ B ทำให้มอนสเตอร์ที่โผล่ออกมาเพิ่มจาก D เป็น C

            ถึงจะบอกเรื่องกับดักเรียกมอนสเตอร์ไปแล้ว แต่ก็ไม่อยากให้ฝืนเกินไป ถ้าไม่ฝืนเกินไปจะสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้อีก

            เลยบอกไปว่าถ้าลำบากจากโรงสร้างของปาร์ตี้ก็จะไปช่วย

            ไหนจะบอกว่าต่อให้ไปล่าในดันเจี้ยนกับนักเรียนห้องอื่นก็ไม่มีปัญหา

            มอนสเตอร์ระดับ C ไม่สามารถต่อกรกับสัตว์อัญเชิญวิญญาณ C ที่ปลุกพลังแล้วได้เลย ถ้ามีสัก 1 ตัวจะสามารถเปลี่ยนสถานการณ์ได้ แต่เนื่องจากสัตว์อัญเชิญมีจำนวนจำกัด คงไม่สามารถให้ความร่วมมือได้มากนัก

            การฝึกใช้เอ็กซ์ตร้าสกิลได้เริ่มต้นขึ้น

            ได้ยินมาว่า อาจารย์ประจำชั้นสอนวิธีการใช้งานเอ็กซ์ตร้าสกิลให้กับคุเรนะในคาบเรียนบ่าย

            ดูเหมือนเอ็กซ์ตร้าสกิลจะเริ่มสอนตอนเป็นนักเรียนปี 3 แต่พอบอกไปว่าเลเวลตันแล้ว ทำให้เขาสอนออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้

            เลยบอกให้เซซิล, โดโกร่า และคีลที่เลเวลตันแล้วเหมือนกัน ไปขอร้องอาจารย์ของแต่ละคน

            อยากจะให้ใช้เอ็กซ์ตร้าสกิลได้อย่างอิสระโดยเร็วที่สุด เนื่องจากนักฆ่าอย่างดรากฮาเองก็ใช้ได้อย่างอิสระ ทำให้คิดว่าถ้ามีเวลาให้แล้วละก็น่าจะทำได้อยู่

            ‘ในที่สุดก็ถึงสักที’

            อเลนที่เป็นสัตว์อัญเชิญนก F บินเลียบแม่น้ำจนมาถึงจุดหมายซึ่งไม่มีอะไรน่าสนใจเลย

            ปลายสายตามีป่าขึ้นหนา พร้อมกับแม่น้ำที่ไหลผ่ากลาง

            “อะ โอ้ว มาถึงแล้วเหรอ อเลนสินะ?”

            โรดันพ่อของอเลนส่งเสียงออกมาอย่างดัง และเหล่าทาสติดที่ดินแต่งกายโทรมๆ 100 กว่าคนก็มองการพูดคุยของ1 ตัวกับ 1 คน ดูเหมือนจะกลัวกันค่อนข้างมาก

            “อเลนงั้นเหรอ? เพิ่งเคยเห็นนกพูดได้นะเนี่ย”

            ‘ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับคุณเกลด้า’

            พูดคุยกับพ่อของคุเรนะที่รูปร่างคล้ายกอริล่าซึ่งไม่ได้คุยกันเสียตั้งนาน น่าจะตั้งแต่ตอนออกจากหมู่บ้านไปเป็นคนรับใช้ฝึกหัด

            “โอ้ว! หมูป่าเหรอ!! คุณพ่อให้จัดการเลยไหม!?”

            มัชชูที่ถือหอกยาว ตอบสนองต่อสัตว์อัญเชิญสัตว์ C ที่สัตว์อัญเชิญนก F เกาะอยู่

            “ไม่ได้ นี่เป็นพวกที่จะมาช่วยสร้างหมู่บ้านต่างหาก ดังนั้นห้ามโจมตี”

            “เอ๋ อย่างงั้นเหรอ เข้าใจแล้วครับ”

            (อึมๆ เลี้ยงมัชชูได้แข็งแรงดีนะเนี่ย เอาละๆ)

            ครั้งนี้ อเลนส่งสัตว์อัญเชิญสัตว์ C 3 ตัว สัตว์อัญเชิญวิญญาณ C  1 ตัว และสัตว์อัญเชิญนก DEF อย่างละตัว รวมทั้งสิ้น 7 ตัว 

            ‘อ้อ คุณพ่อแล้วก็คุณเกลด้า ช่วยเอาของที่อยู่บนหลังของหมูป่านี้ไปด้วย’

            “ของเหรอ? ถุงที่มัดอยู่นี่เหรอ นี่มันหอกนี่?”

            “อะไรเนี่ย? สีแดง? สนิมเกาะงั้นเหรอ? แต่ว่ามันเรียบลื่นดีนะเนี่ย”

            เกลด้าหยิบหอกฮิฮิอิโรคาเนะที่อยู่ในสัมภาระซึ่งเอาลงมาจากสัตว์อัญเชิญสัตว์ C ขึ้นมาดู

            ไม่ใช่แค่ปลายหอก แต่ตรงด้ามจับเองก็เป็นฮิฮิอิโรคาเนะด้วย

            ‘สิ่งนั้นคือฮิฮิอิโรคาเนะไง เอาหอกฮิฮิอิโรคาเนะมาให้ 2 เล่ม’

            “ฮิฮิอิโรคาเนะนี่อะไรเหรอ? ดีกว่าเหล็กอีกเหรอ?”

            คราวนี้โรดันเป็นฝ่ายถาม คงเพิ่งเคยได้ยินคำว่าฮิฮิอิโรคาเนะเป็นครั้งแรกก็ได้

            ‘เอ่อ เอาหอกมิธริลมาให้ด้วยอีก 10 เล่ม’

            “““หา!? มีหอกมิธริลด้วยเหรอ!!!”””

            เหล่าทาสติดที่ดินบอกว่า “จริงเหรอ!” พร้อมกับกรุกันไปตรงสัมภาระ ถึงกระนั้นคนที่ตอบสนองมีเพียงครึ่งเดียว บางทีอาจจะเคยเห็นจากอัศวินก็ได้

            สิ่งของที่อเลนเอามาในครั้งนี้คือ

            ・หอกฮิฮิอิโรคาเนะ 2 เล่ม

            ・โล่ฮิฮิอิโรคาเนะ 2 อัน

            ・หอกมิธริล 10 เล่ม

            ・ เกราะมิธริล 12 อัน

            ・ 300 เหรียญทอง

            ・ของอื่นๆที่จำเป็นต่อการบุกเบิกเช่น จอบ และเลื่อยหลายสิบอัน

 

            แบ่งของเหล่านี้ให้สัตว์อัญเชิญสัตว์ C แบก แล้วมุ่งหน้ามาจากเมืองแห่งการศึกษา

            พอได้ยินคำอธิบายของอเลน โรดันกับเกลด้าก็มองดูหอกฮิฮิอิโรคาเนะสีแดงพร้อมกับพูดออกมาว่า “มีอาวุธที่ยอดเยี่ยมกว่ามิธริลอยู่ด้วยเหรอ……”

            แน่นอนว่าอาวุธนี้เอาไว้ปราบมอนสเตอร์ โดยจะเริ่มล่าหมู่ป่าตอนฤดูใบไม้ร่วง เลยเตรียมหอกฮิฮิอิโรคาเนะให้โรดันกับเกลด้า

            ของทั้งหมดในครั้งนี้มีมูลค่า 1500 เหรียญทอง จากการพูดคุยกับทุกคน อเลนจะออก 50% โดโกร่ากับคุเรนะออกคนละ 20% เซซิลออกอีก 10% ส่วนคีลไม่ต้องออก

            ที่เป็นอย่างนี้เพราะว่านี่เป็นบ้านเกิดของอเลน คุเรนะและโดโกร่า เซซิลบอกว่าจะออกด้วย เลยให้ออก 10%

            คีลเองก็อยากออกพอๆกับเซซิล แต่เกลี้ยกล่อมไปว่าให้ประหยัดเงินเอาไว้สำหรับปกป้องครอบครัวที่ตอนฟื้นฟูตระกูล ทำให้เขายอมถอยออกไป

            อนึ่ง ครอบครัวของโดโกร่ายังไม่ได้มาที่นี่ ประชาชนจะเริ่มย้ายมาอยู่อาศัยตั้งแต่ปีหน้า โดยครอบครัวของโดโกร่าจะย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านของโรดันด้วย

            จากการพูดคุยกัน เลยสรุปว่าจะออกเงินกัน 4 คน เดิมทีอเลนบอกไว้ว่าจะออกคนเดียวทั้งหมดอยู่

            จากการที่เสริมความแข็งแกร่งของอเลนขึ้นสู่เลเวล 7 แล้ว ทำให้ประสิทธิภาพการล่าของหน่วยสัตว์อัญเชิญในดันเจี้ยนระดับ A เพิ่มมากขึ้น ตอนเสริมความแข็งแกร่งเลเวล 6 ถ้าให้ล่าที่ดันเจี้ยนระดับ B จะได้เงินดีกว่า

            ถึงกระนั้นที่ให้ฝืนลงดันเจี้ยนระดับ A ก็เพื่อเพิ่มเลเวล และไม่ใช่แค่ค่าประสบการณ์อย่างเดียวถ้าเรื่องของการหาเงินยังไงดันเจี้ยนระดับ A ก็ย่อมดีกว่าระดับ B 

            ใน 1 เดือนถ้าไม่นับที่แบ่งจากปาร์ตี้ อเลนหาเงินได้เดือนละมากกว่า 2000 เหรียญทอง ทำให้ตอนนี้มีมากกว่า 2 หมื่นเหรียญทองไปแล้ว

            แน่นอนว่าเก็บเอาไว้เผื่อมีแหวนฟื้นพลังเวทหรืออาวุธและเครื่องป้องกันระดับโอริฮารูกอนออกมาในการประมูล แต่ถึงจะไปกิลด์นักผจญภัยก็ยังไม่มีออกมาเลย ตอนนี้ให้ช่วยตรวจสอบข้อมูลของที่ออกประมูลทั่วราชอาณาจักร โดยกิลด์นักผจญภัยให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

            ให้โรดันกับเกลด้าเป็นคนดูแลอาวุธ, เครื่องป้องกันและเงิน หรือก็คือฝากให้เทเรเซียและมิทิลด้าเหล่าคุณแม่คอยดูแลนั่นเอง

            เพราะมาถึงหลังเที่ยง เลยให้สัตว์อัญเชิญสัตว์ C ช่วยเหล่าทาสติดที่ดินหนุ่มสาวในการปรับปรุงหน้าดิน

            การปรับหน้าดิน ทำโดยการล้มต้นไม้ที่ขึ้นเป็นหย่อมๆตรงที่กว้าง

            แคว้นแกรนเวลไม่มีทุ่งหญ้า ต่อให้เป็นที่ราบก็มีต้นไม้ขึ้นเป็นหย่อมๆ โดยจะถอนต้นไม้พวกนี้ เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับที่อยู่อาศัยและเพาะปลูก ส่วนต้นไม้ที่ถอนออกมาจะใช้เป็นวัตถุดิบในการสร้างรั้ว

            “บูฮิ บูฮิ”

            ‘บูฮิ้!!’

            (อืมๆ มูระไม่กลัวมอนสเตอร์เลย จะว่าไปมัชชูก็ด้วย อย่างนี้คงต้องปรึกษากับพ่อหน่อยแล้ว ได้เวลากินข้าวพอดีแล้วด้วยสิ)

            มูระเล่นอยู่บนหลังของสัตว์อัญเชิญ C ด้วยความร่าเริง

            เพราะมูระที่ร่าเริงแทนบอกว่าอยากจะขี่หลัง เลยให้ขึ้นขี่พร้อมกับบอกว่าให้ระวังร่วงลงมาด้วย

            อเลนรู้สึกกังวลเล็กน้อยที่มูระมีนิสัยไม่กลัวมอนสเตอร์ เลยวางแผนอย่างหนึ่งขึ้นมา

            ในระหว่างที่อเลนคิดอย่างนั้น

            เปรี๊ยะๆ

            “““หา!?”””

            เหล่าทาสติดที่ดินส่งเสียงประหลาดใจออกมา พร้อมกับเผลอทำเสียมหลุดมือต่อสิ่งที่เห็นตรงหน้า

            สัตว์อัญเชิญสัตว์ C กัดเข้าไปยังโคนต้นไม้ที่สูงเกิน 10 เมตรเพราะไม่ได้รับการดูแล ก่อนจะกระชากออกมาอย่างแรง พลังโจมตีของสัตว์อัญเชิญ C ที่เสริมความแข็งแกร่งแล้วมากกว่า 1500 ต่อให้มาด้ากัลชูก็ฆ่าได้สบาย

            มันวางต้นไม้ที่ถอนออกมาไว้ที่หนึ่งจนพื้นสะเทือน แล้วทั้ง 3 ตัวก็ถอนต้นไม้ไปเรื่อยๆ

            สัตว์อัญเชิญต่างกับมนุษย์และมอนสเตอร์ตรงที่ไม่รู้จักเหนื่อย ไม่ต้องกินไม่ต้องนอน เลยปรับหน้าดินได้โดยไม่ต้องหยุดพัก

            แล้วก่อนค่ำ ให้เหล่าทาสติดที่ดินมารวมตัวกัน เพิ่งจะมาถึงเมื่อสัปดาห์ก่อนแต่ก็สร้างโครงกระท่อมเสร็จสมบูรณ์แล้ว

            วันนี้เหนื่อยกันแล้วเลยให้เทเรเซีย, มิทิลด้าและเหล่าภรรยาทั้งหลายเตรียมอาหาร สำหรับอเลนแล้วข้าวต้ม มันฝรั่งและถั่วต้มถือเป็นอาหารเรียบง่ายที่ชวนคิดถึง

            (กะแล้วเชียวว่ามันขาดเนื้อ คงต้องเพิ่มขวัญให้กับการบุกเบิกด้วยสิ! การตามหาเนี่ยมันเหนื่อยเอาเรื่องอยู่นะ!!)

            พอทุกคนมารวมตัวกัน ก็ได้ยินเสียงจอแจนอกหมู่บ้าน

            “หมูป่า หมูป่าหลงฝูง!!!”

            ทาสติดที่ดินซึ่งทำหน้าที่เฝ้ายามกลับมาอย่างแตกตื่น ที่นี่ยังไม่มีรั้วเอาไว้ป้องกันมอนสเตอร์ เลยยังไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยสักเท่าไร

            “อาวุธ ไปเอาอาวุธมา ปกป้องเด็กและผู้หญิง!!”

            โรดันเริ่มออกคำสั่งกับทุกคน ส่วนเด็กๆเริ่มสั่นกลัว

            ‘ไม่เป็นไรฆ่า มันเป็นสิ่งที่ท่านอเลนให้เหล่าสัตว์อัญเชิญไปล่อมาเป็นอาหารเย็นฆ่า’

            “““อาหารเย็น?”””

            ทันใดนั้นหมูป่าก็มาถึงใจกลางหมู่บ้าน ดูเหมือนจะเป็นเกรซบอร์ที่ไม่กลับไปเทือกเขามังกรขาวแม้จะเข้าหน้าหนาวแล้วก็ตาม ที่นี่จะเรียกว่าหมูป่าหลงฝูง

            ใช้สัตว์อัญเชิญนก E ที่ทำการแชร์ พยายามพามาใกล้ใจกลางมหู่บ้าน

            สัตว์อัญเชิญวิญญาณ C บอกว่าตรงนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเธอเองก่อนจะลอยขึ้นไป และออกมาอยู่ด้านหน้าเหล่าทาสติดที่ดิน

            ‘บูฮี้!!!’

            เกรซบอร์ส่งเสียงขู่ในขณะที่ถีบพื้น

            และพุ่งเข้ามาอย่างแรง

            โรดันกับเกลด้าบอกให้ทุกคนถอยไป ตอนนั้นเอง

            ‘ตายเถอะฆ่า!’

            สัตว์อัญเชิญวิญญาณ C พึมพำออกมาแค่หนึ่งคำ ก่อนจะมีลูกบอลสีเทาขนาดพอๆกับลูกวอลเลย์พุ่งไปทางเกรซบอร์อย่างแรง

            พอมันสัมผัสกับส่วนศีรษะที่แข็งของเกรซบอร์ก็กระจุยหายไป

            “““หา!?”””

            เกรซบอร์ที่สูญเสียศีรษะไป เดินต่ออีกไม่กี่ก้าวก่อนจะล้มลง โรดัน เกลด้าและเหล่าทาสติดที่ดินถึงกับตัวแข็งทื่อที่เห็นมอนสเตอร์ระดับ C โดนฆ่าในพริบตา

            (เท่านี้มูระคงรู้ถึงความน่ากลัวของมอนสเตอร์แล้วสินะ)

            ‘ได้เนื้อที่ไม่ต้องส่งส่วยให้ท่านเจ้าเมืองแล้วฆ่า’

            สัตว์อัญเชิญวิญญาณ C พูดออกมาทั้งรอยยิ้ม หมู่บ้านบุกเบิก 2 ปีแรกไม่จำเป็นต้องส่งส่วย และ 3 ปีถัดไปจะต้องส่งแค่ 30% แล้วตั้งแต่ปีที่ 6 เป็นต้นไปถึงต้องส่ง 60%

            พอตรวจสอบมูระ ก็เห็นเธอไปเกาะมัชชูด้วยความสั่นกลัว

            หมู่บ้านยังไม่มีรั้ว ถ้าออกไปซนนอกหมู่บ้านจะแย่เอา พอเห็นมูระหวาดกลัวมอนสเตอร์เข้ามาโจมตี เลยคิดว่าถือเป็นบทเรียนที่ดีอยู่

            แล้วการปรับพื้นดินด้วยความช่วยเหลือของสัตว์อัญเชิญที่ทำลายสามัญสำนึกก็คืบหน้าต่อไป

[นิยายแปล] Hell mode

[นิยายแปล] Hell mode

Artist: ,
อ่านนิยาย Hell modeยามาดะ เคนอิจิ พนักงานกินเงินเดือน อายุ 35 ปี ผู้ชื่นชอบเกมที่ต้องฟาร์มหนักๆ ตอนนี้กำลังสิ้นหวังกับยุคที่เกมเล่นผ่านง่ายๆกำลังเป็นที่แพร่หลาย ระหว่างนั้นเองที่เขาโดนเว็บไซต์หนึ่งที่เขียนว่า "สำหรับผู้ชื่นชอบการฟาร์มอย่างคุณ" ทำให้ไปเกิดใหม่ในต่างระดับเฮลโหมด ป.ล. 1 แปลจากเว็บโนเวล ถ้าไม่เหมือนฉบับรุปเล่มต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ป.ล. 2 การอัพขึ้นอยู่กับเวลาว่างจากการทำงาน อย่าคาดหวังมาก(แต่จะพยายามอัพเรื่อยๆถ้าแปลเสร็จ

Options

not work with dark mode
Reset