[นิยายแปล] Hell mode – ตอนที่ 32 ติ๊ต่าง 2

บทที่ 32 ติ๊ต่าง 2            

            ต้นเดือนกันยายนของปีใหม่ เดือนหน้าก็จะอายุ 7 ขวบแล้ว

            อเลนอยู่ที่สวนของบ้านคุเรนะ ท่ามกลางความร้อนระอุของแสงแดดที่ส่องลงมา

            “ต่อไปฉันสู้กับอเลน”

            “โอ้ว เข้ามาเลยโดโกร่า”

            โดโกร่าส่งเสียงไปหาอเลน พร้อมกับกำกระบองไม้แล้วพุ่งเข้าใส่

            “ชิ ทำไมไม่โดนเลยเนี่ย”

            “พูดตั้งหลายครั้งแล้วนี่ ว่าคาดเดาการเคลื่อนไหวไว้แล้ว”

            “รู้แล้วน่า!”

            ถ้าบอกว่าทำอะไรอยู่คือเล่นติ๊ต่างเป็นอัศวิน ต้นเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดนโดโกร่ามาหาเรื่อง พอชนะก็บอกไปว่าจะมาใหม่ในอีก 2 วันให้หลัง

            ตอนที่มาซื้อของในอีก 2 วันให้หลัง โดโกร่าก็มารออยู่อย่างกระตือรือร้น เพราะว่าท่อนไม้มันถือลำบากหรือเปล่านะ เลยทำการปรับอาวุธให้ดีขึ้น

            แน่นอนว่าอเลยที่มีทั้งสเตตัสและสกิลวิชาดาบเป็นฝ่ายชนะอย่างงดงาม แล้วบอกกับโดโกร่าว่าจะมาอีก 2 วันให้หลัง พอช่วงเวลาเดิมของอีก 2 วันให้หลังตอนที่มุ่งหน้าไปยังย่านการค้า โดโกร่าก็มารออยู่ แล้วชนะขาดลอยอีกเช่นเคย

            สิ่งนั้นกินเวลาเกือบ 1 เดือน ต่อเนื่องไปเรื่อยๆจนจบเดือนธันวาคม

            จากการมาซื้อของทุกๆ 2 วัน ทำให้มีฟืนกับเกลือเพียงพอแล้ว

            พอบอกว่าตั้งแต่เดือนมกราคมจะไม่มาซื้อของแล้วก็โดนบอกว่า จะหนีงั้นเหรอ!

            พอปรึกษากับคุเรนะ ว่ามีอีกคนหนึ่งที่อยากจะมาเล่นติ๊ต่างเป็นอัศวินด้วย พอเรียกโดโกร่าแล้วถามว่าจะมาร่วมเล่นติ๊ต่างเป็นอัศวินด้วยไหม ซึ่งเขาตอบมาทันทีว่า ได้เลย!

            พอบอกโดโกร่าว่าตั้งแต่วันนี้ให้ไปที่บ้านของคุเรนะ เขาก็ตอบมาทันทีว่า เข้าใจแล้ว!

            ที่ไม่รวมตัวกันตรงบ้านของอเลน เพราะบ้านของคุเรนะอยู่ใกล้เมืองที่อยู่อาศัยมากกว่า เลยคิดว่าควรจะรวมตัวกันตรงที่ใกล้กับทุกคน ตั้งแต่นั้นโดโกร่าก็มาที่บ้านของคุเรนะเกือบทุกวัน

            “ย้าก! อัศวินเปโรมูส! จบเท่านี้แหละ!”

            “อึ้ก……ย้าก!!”

            ปลายสายตาคือคุเรนะกับเปโรมูสลูกชายของหัวหน้าหมู่บ้านกำลังเล่นติ๊ต่างเป็นอัศวินกันอยู่ เปโรมูสกับโดโกร่าเป็นเพื่อนกัน การที่โดโกร่านั่งอยู่โต๊ะเดียวกับหัวหน้าอัศวินตอนงานเลี้ยง เพราะโดโกร่ากับเปโรมูสมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

            ในอนาคตเปโรมูสจะเป็นพ่อค้า เลยไม่คล่องกับการเล่นติ๊ต่างเป็นอัศวิน ซึ่งเขาถูกโดโกร่าฝืนพามาด้วยความรู้สึกครึ่งๆกลางๆ

            ถึงกระนั้นเขาก็มาพร้อมกับโดโกร่าทุกๆ 2-3 วัน หัวหน้าหมู่บ้านเองผลักดัน ให้มาเล่นติ๊ต่างเป็นอัศวินกับยอดนักดาบคุเรนะที่ในอนาคตจะได้ทำงานรับใช้ราชวงศ์ พร้อมกับพูดกดดันว่าไปเล่นกันให้สนิทๆซะ  ทำให้ไม่มีที่ให้หนี

            การเล่นติ๊ต่างเป็นอัศวินนี้มีอีกคนหนึ่งเข้าร่วมด้วย

            เดือนธันวาคมปีที่แล้วมัชชูอายุครบ 3 ขวบ ทำให้เทเรเซียอนุญาตให้ออกมาข้างนอกได้ แถมยังบอกอีกว่าถ้าไปพร้อมอเลนจะออกไปข้างนอกสวนก็ได้ พอเปลี่ยนสถานที่เล่นติ๊ต่างเป็นอัศวินมาที่บ้านของคุเระก็มาด้วยแทบจะทุกวัน

            เพราะอย่างนั้นทำให้ที่นี่มีอยู่ 5 คน อเลน, คุเรนะ, มัชชู, โดโกร่า และเปโรมูส

            “มัชชู จัดการเลย”

            “อืม! ครับพี่!!”

            สิ่งที่มัชชูถืออยู่ค่อนข้างยาว มันไม่ใช่ดาบแต่เป็นสิ่งที่เลียนแบบหอก ตอนแรกทำดาบไม้ที่มีความยาวประมาณ 30 เซนติเมตรให้เข้ากับขนาดร่างกายของมัชชูอยู่

            มัชชูบอกว่าอยากจะใช้ดาบเหมือนกับพี่! สิ่งนี้คือการที่น้องชาย “อยากจะได้ของของพี่” สินะ เลยทำดาบไม้ที่ความยาวเป็นเท่าตัวให้กับมัชชู

            ทันใดนั้นการเคลื่อนไหวก็เปลี่ยนไป ถึงจะไม่ได้มากมายอะไรขนาดนั้น อาจจะเป็นการคิดไปเองก็ได้ การเล่นติ๊ต่างเป็นอัศวินของเด็กอายุ 3 ขวบ แต่มองข้ามการเคลื่อนไหวที่เปลี่ยนไปนั้นไม่ได้

            มัชชูเหมาะกับอาวุธยาวๆอย่างเช่นหอก เลยลองเปลี่ยนรูปร่างของอาวุธให้เป็นหอกดู

            มัชชูอายุน้อยกว่า 3 ปี

            “ย้าก!”

            “เยี่ยมมาก มัชชู”

            (นี่คือพรสวรรค์เหรอ พิธีประเมินหลังจากนี้ 2 ปีชักน่าสนุกแล้วสิ)

            การพุ่งเข้าใส่ที่เฉียบคม สกิลเลเวลของหอกเพิ่มขึ้นหรือเปล่านะ ทำให้การเคลื่อนไหวของมัชชูค่อยๆดีขึ้น ชักน่าสนุกกับพิธีประเมินตอนมัชชูอายุ 5 ขวบแล้วสิ เชื่อได้เลยว่ามัชชูจะต้องเป็ฯพรสวรรค์ที่เหมาะกับมัชชูแน่ๆ

            ก๊อง

            ก๊อง

            ก๊อง

            “อ้า อะไรเนี่ย ต้องจบแล้วเหรอ”

            “โดโกร่า กลับกันเถอะ”

            ระฆังบอกเวลาบ่าย 3 ดังขึ้น โดโกร่ากับเปโรมูสกลับไปพร้อมกับเสียงระฆัง ตามปกติจะมาเล่นพร้อมกับตอนระฆังบอกเวลาเที่ยง แล้วเล่นติ๊ต่างเป็นอัศวินราวๆ 2 ชั่วโมง ซึ่งคุเรนะบอกว่าไว้เจอกันใหม่นะ

            หลังจากทั้งคู่กลับไป ก็ทำการเล่นติ๊ต่างเป็นอัศวินอีกสักพัก แล้วอเลนกับมัชชูค่อยกลับบ้าน ช่วงแรกๆที่กลับจากบ้านคุเรนะมัชชูนั้นโทรมมาก จนบอกว่าอุ้มหน่อยๆ แต่ช่วงนี้สามารถเดินกลับเองได้แล้ว ทำให้รู้สึกดีใจกับการเติบโตของน้องชาย

            ““กลับมาแล้ว””

            “ยินดีต้อนรับกลับมานะอเลน มัชชู”

            เทเรเซียตอบกลับมาจากห้องพื้นดิน เธอเริ่มเตรียมอาหารเย็นอยู่ โดยตรงหลังมีน้องสาวที่อายุ 2 เดือนอยู่ เนื่องจากเตรียมอาหารเย็นคนเดียวมันลำบาก อเลนเลยช่วยเตรียมด้วย

            เทเรเซียคลอดลูกสาวออกมาได้อย่างปลอดภัย นี่คือลูกคนที่ 3

            ข้อตกลงระหว่างสามีภรรยาคือ ถ้าเด็กที่เกิดมาเป็นผู้ชายโรดันจะตั้งชื่อให้ แต่ถ้าเป็นผ้หญิงเทเรเซียจะเป็นคนตั้งในที่สุดก็มีลูกสาวทำให้เทเรเซียได้ตั้งชื่อสักที

            โดยตั้งชื่อว่ามูระ

            ตั้งชื่อตามดอกมูราเสะที่ช่วยชีวิตของโรดัน ดูเหมือนตั้งใจจะใช้ชื่อนี้หากเด็กที่เกิดมาเป็นผู้หญิงอยู่ ทำให้ได้ชื่อว่ามูระตั้งแต่วันที่เกิดเลย

            คิดว่าเซนส์ในการตั้งชื่อของเทเรเซียจะดีกว่า ดีกว่าตั้งชื่อของอเลนและมัชชูด้วยชื่อของมอนสเตอร์

            อัลบาเฮรอนของอเลนจะทำการบินขึ้นเหนือช่วงฤดูใบไมร่วง ส่วนของมัชชูเป็นมอนสเตอร์ที่มีชีวิตอย่างอิสระ เกี่ยวกับมอนสเตอร์ตัวนั้นได้ยินมาแค่นี้ และไม่มีโอกาสได้รู้อะไรเพิ่มขึ้นเลย

            นี่คือสิ่งที่ได้ยินจากโรดันตอนออกไปซื้อของ

            เหตุผลอย่างหนึ่งที่เกลือและผลไม้ไม่ถูกส่งมาที่หมู่บ้าน เพราะการคงอยู่ของมาด้ากัลชู

            มาด้ากัลชูเคลื่อนไหวตัวเดียว ไม่มีการตั้งอาณาเขตอย่างแน่ชัดและเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ ลักษณะรูปร่างเหมือนกับหมาป่าตัวใหญ่ๆ แถมขนาดใหญ่กว่าเกรซบอร์เกือบเท่าตัวด้วย ซึ่งโรดันก็บอกว่าไม่เคยเห็นเหมือนกัน

            มีบ้างที่มาด้ากัลชูจะปรากฎตัวมาตามเส้นทางระหว่างเมืองหรือหมู่บ้านแล้วตั้งอยู่แถวนั้น ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว พ่อค้าหรือนักเดินทางที่อยู่เมืองข้างๆ จะหยุดการเดินทาง เนื่องจากเป็นมอนสเตอร์ระดับ B ไม่ใช่มอนสเตอร์ที่จัดการได้ง่ายๆ

            บางครั้งอยู่เป็นเดือนจนทำให้การขนส่งอยู่หยุดลง ถ้าถึงตอนนั้นจะทำการร้องขอให้กลุ่มอัศวินไปทำการปราบปราม

            ถึงจะไม่ใช่หมู่บ้านนี้ แต่โรดันเล่าว่าหมู่บ้านข้างเคียงบ้านเกิดของโรดันเคยไปขอร้องไปอยู่ แต่ก่อนที่กลุ่มปราบปรามจะมา ก็หายไปแล้ว ทำให้ไม่ได้ทำการกำจัด

            ดูเหมือนจะเป็นมอนสเตอร์ที่สร้างปัญหาค่อนข้างมากพอตัว คิดว่าไม่ใช่มอนสเตอร์ที่น่าจะโดนชอบสักเท่าไร

            ในระหว่างที่มองดูมัชชูซึ่งเหนื่อยและนอนเล่นอยู่ตรงห้องนั่งเล่น ก็ได้แต่หวังว่าทุกคนจะให้รัก ไม่เหมือนกับมาด้ากัลชู 

            “กลับมาแล้ว”

            โรดันที่แข็งแรงหายดีแล้ว ทำให้กลับไปทำงานสวนตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิ ตอนเช้าทำการตักน้ำและไปทำงานสวนทั้งวัน

            อเลนเองตั้งใจจะเรียนรู้จากโรดัน ทำให้ช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิไปทำงานสวน แต่แค่ตอนเช้าไม่กี่ชั่วโมง พอจะทำงานสวนทั้งวันก็โดนเกลด้าบอกมาว่า เด็กๆควรจะไปเลยข้างนอกต่างหาก ยังจำได้ดีเลยว่าไหล่ทั้งสองข้างที่โดนจับตอนนั้นมันเจ็บมาก

            ช่วงเช้าทำงานสวน ช่วงบ่ายเล่นติ๊ต่างเป็นอัศวิน เป็นชีวิตประจำวันที่ค่อนข้างยุ่งอยู่

            ทุกคนล้อมวงกินข้าวเย็นรอบเตาอิฐ มูระเองเพิ่งจะเริ่มหย่านม ทำให้กินไปน้ำลายไหลไปอยู่ มัชชูเองคงจะออกเคลื่อนไหวเยอะจนหิวจัด เลยกินมันฝรั่งนึ่งเข้าไปอย่างมูมมาม

            “วันนี้ช้าจังเลยนะคะ”

            เทเรเซียพูดกับโรดัน

            โรดันกลับมาช้านิดหน่อย การที่โรดันกลับมาช้าทำให้เทเรเซียเป็นห่วง เพราะอย่างนั้น โรดันเลยไม่ค่อยกลับมาช้า

            “อ้อ หัวหน้าหมู่บ้านเรียกไปพบนิดหน่อยน่ะ”

            เขาทำหน้าปั้นยาก แล้วบอกเรื่องที่หัวหน้าหมู่บ้านเรียกพบ

[นิยายแปล] Hell mode

[นิยายแปล] Hell mode

Artist: ,
อ่านนิยาย Hell modeยามาดะ เคนอิจิ พนักงานกินเงินเดือน อายุ 35 ปี ผู้ชื่นชอบเกมที่ต้องฟาร์มหนักๆ ตอนนี้กำลังสิ้นหวังกับยุคที่เกมเล่นผ่านง่ายๆกำลังเป็นที่แพร่หลาย ระหว่างนั้นเองที่เขาโดนเว็บไซต์หนึ่งที่เขียนว่า "สำหรับผู้ชื่นชอบการฟาร์มอย่างคุณ" ทำให้ไปเกิดใหม่ในต่างระดับเฮลโหมด ป.ล. 1 แปลจากเว็บโนเวล ถ้าไม่เหมือนฉบับรุปเล่มต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ป.ล. 2 การอัพขึ้นอยู่กับเวลาว่างจากการทำงาน อย่าคาดหวังมาก(แต่จะพยายามอัพเรื่อยๆถ้าแปลเสร็จ

Options

not work with dark mode
Reset