[นิยายแปล] Hell mode – ตอนที่ 42เรียกพบ

บทที่ 42 เรียกพบ            

            ตอนนี้เป็นช่วงกลางเดือนกันยายน อีกไม่นานจะเปลี่ยนจากฤดูร้อนเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง

            “เตรียมพร้อมหรือยัง?”

            “ครับ คุณพ่อ”

            ทำการตอบกลับไปหาโรดันที่ส่งเสียงเรียก วันนี้เป็นวันที่ออกไปแต่เช้า เมื่อวานคนรับใช้ของหัวหน้าหมู่บ้านมาพร้อมกับเรียกให้ไปหา ซึ่งคิดว่าจะเรียกแค่โรดัน แต่วันนี้กลับบอกให้อเลนไปด้วย ไม่ได้บอกว่ามีธุระอะไรแค่บอกว่าให้ไปที่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้านพรุ่งนี้ตอน 9 โมงเช้า

            ออกจากบ้านก่อน 8 โมง

            เทเรเซีย มัชชูและมูระ เลยอยู่เฝ้าบ้านตามปกติพร้อมกับมาส่งอเลนและโรดันที่หน้าบ้าน

            ทั้งสองคนเดินไปตามคันดินของทุ่งข้าวสาลี

            ข้าวสาลีจะเริ่มเก็บเกี่ยตอนเดือนกันยายน ซึ่งบ้านของโรดันเองพูดเหมือนกันว่าน่าจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้แล้ว

            “ไง โรดัน เจ้าก็ถูกเรียกด้วยสินะ”

            เกลด้าออกมาจากประตูหน้าพอดี ดูเหมือนเขาจะโดนหัวหน้าหมู่บ้านเรียกไปพบเช่นกัน

            (คุณเกลด้าด้วยเหรอ ตามปกติหัวหน้าหมู่บ้านจะเรียกคุณพ่อกับคุณเกลด้าไปพร้อมกันอยู่แล้ว มันแปลกตรงที่ฉันนี่สิ)

            โรดันกับเกลด้ามีหน้าที่ดูแลทาสติดที่ดิน ถ้าหากมีอะไรแล้วละก็หัวหน้าหมู่บ้านจะฝากให้ 2 คนนี้จัดการ

            คำขอร้องของหัวหน้าหมู่บ้าไม่ได้มีแค่การล่าหมูป่า มีให้ไปช่วยตัดสินบ้างหากทาสติดที่ดินทะเลาะกันเอง มีบ่อยครั้งที่ไหว้วานงาน ทั่วไป อนึ่ง เกลด้าเป็นพวกพูดด้วยกำปั้น ดังนั้นคงที่ทำหน้าที่ตัดสินเวลาทะเลาะกันจะเป็นโรดัน

            “เกลด้าได้ถามธุระหรือเปล่า?”

            “ยังเลย แค่บอกว่าให้ฉันไปหาเท่านั้น”

            เกลด้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าโดนเรียกไปด้วยเรื่องอะไร

            (ถ้า 3 คนอย่างนี้น่าจะเป็นเรื่องล่าหมูป่าสินะ การล่าหมูป่าเดือนหน้ามีอะไรหรือเปล่านะ? จากที่บอกปีก่อนว่าให้ทำการล่า 15 ตัว ส่วนปีนี้ 20 ตัว หรือจะเปลี่ยนเนื้อหา?)

            คิดขึ้นมาในขณะที่เดินด้วยกัน 3 คน

            ในช่วง 3 เดือนนี้ พยายามเก็บรวบรวมหินเวทภายในหมู่บ้าน

            ทำการเรียกเหล่าทาสติดที่ดินซึ่งมาตักน้ำ และไปหาหินเวทที่สวนตรงบ้านของคุเรนะ ไหนจะถามโดโกร่ากับเปโรมูสอีก แล้วลองไปถามร้านค้าต่างๆว่ามีหินเวทระดับ E ที่ไม่ต้องการไหม จากการอดทนวนเวียนภายในหมู่บ้าน ทำให้รวบรวมหินเวทมาได้มากกว่า 200 ก้อน ความคลั่งไคล้ทำให้คนเคลื่อนไหว

            โครงสร้างตอนนี้คือการ์ดพืช E ค่อนข้างเยอะ เพื่อเพิ่มพลังเวทให้เยอะขึ้นจะได้ขึ้นสู่อัญเชิญเลเวล 5 ได้ไวขึ้น การจะไปอัญเชิญเลเวล 5 ต้องใช้ค่าประสบการณ์ถึง 3 ล้าน

            ทำให้ลังเลว่าเดือนหน้าจะเข้าร่วมการล่าหมูป่าดีหรือเปล่า ถ้าต้องการประสบการณ์คงไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่ถ้าอยากจะหาเงินเพื่อปลดตัวเองจากการเป็นทาสติดที่ดินแล้วละก็ ควรจะไปทำการล่าอัลบาเฮรอนดีกว่า

            ตอนนี้กำลังกลุ้มใจว่าจะเอาค่าประสบการณ์หรือเงินก่อนดี เลยยังไม่ได้ท้างัดข้ออีกครั้ง เลยคิดว่ารอดูเนื้อหาที่เรียกไปในครั้งนี้ก่อนแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะท้าใหม่ดีหรือไม่

            ในระหว่างที่คิดอย่างนั้นก็มาถึงบ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน พอไปในบ้านก็ถูกพาไปยังห้องที่อยู่ด้านในสุด ดูเหมือนจะเป็นห้องของหัวหน้าหมู่บ้าน

            “โอ้ มาแล้วเหรอ กำลังรออยู่เลย”

            หัวหน้าหมู่บ้านที่อ้วนพีอยู่ในห้อง และบอกว่ากำลังรออยู่

            “แล้วหัวหน้าหมู่บ้านมีอะไรเหรอ ถึงเรียกอเลนมาด้วย”

            (ใช่แล้ว จำเป็นต้องมีฉันงั้นเหรอ? หรือเพราะเครื่องป้องกันเสร็จแล้วเลยอยากให้อธิบาย?)

            เขาบอกให้เอาน้ำชามาเสิร์ฟ พร้อมกับหยิบขนมออกมา

            (ขนม น่าอร่อยนะเนี่ย!!!)

            อาจจะเป็นขนมแรกตั้งแต่มาต่างโลกเลยก็ได้ ขนมอบที่คิดว่าน่าจะทำมาจากข้าวสาลีและน้ำตาล อเลนเป็นพวกชอบกินของหวาน

            แต่โรดันและเกลด้ากลับขมวดคิ้ว ตามปกติไม่เคยจะเอาน้ำชาหรือขนมออกมาเสิร์ฟเลย

            “แล้ว? เรียกมาทำไมเหรอ?”

            โรดันเหมือนต้องการคำตอบจากหัวหน้าหมู่บ้าน

            หัวหน้าหมู่บ้านดื่มน้ำชาเข้าไป ก่อนจะเว้นไว้ครู่หนึ่งแล้วจึงพูดออกมา

            “จริงๆแล้ว ท่านเจ้าเมืองจะมาเยี่ยมหมู่บ้านคุเรนะเดือนหน้า”

            “““เอ๊ะ๑?”””

            “แถมบอกว่าอยากจะมาดูการล่าหมูป่า”

            เมื่อวานคนรับใช้ของท่านเจ้าเมืองมา แล้วบอกเรื่องนั้นกับหัวหน้าหมู่บ้าน

            “หมายความว่าจะให้ล่าหมูป่าต่อหน้าท่านเจ้าเมืองเหรอ?”

            “ใช่แล้ว”

            หัวหน้าหมู่บ้านตอบทันทีต่อคำถามของเกลด้า ทั้งโรดันและเกลด้าต่างก็สงสัยจริงจัง เดือนหน้าอเลนจะอายุ 8 ขวบแล้ว แต่ไม่เคยได้ยินเลยว่าท่านเจ้าเมืองจะมาที่หมู่บ้าน บางทีอาจจะเป็นครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้งหมู่บ้านมา 13 ปีก็ได้

            (อะไรกัน? อะไรกัน? เรื่องไปเร็วมากนะเนี่ย?)

            “เดือนหน้าจะมาเยี่ยมช่วงไหนเหรอครับ?”

            “ได้ยินมาว่าช่วงกลางๆเดือนตุลาคมน่ะ อืม กะแล้วเชียว”

            (หือ?)

            หัวหน้าหมู่บ้านคิดอะไรขึ้นมาต่อคำพูดของอเลน

            “แล้ว มันทำไมเหรอ?”

            “แน่นอนว่าไม่อยากจะให้การล่าหมูป่าล้มเหลว ยิ่งต่อหน้าท่านเจ้าเมืองแล้วด้วย”

            หัวหน้าหมู่บ้านย้ำว่าจะไม่ยอมให้เกิดความผิดพลาด

            “แล้วเรียกลูกของฉันมาทำไมเหรอ?”

            รู้แล้วว่าท่านเจ้าเมืองจะมา แต่โรดันยังสงสัยว่าทำไมถึงต้องเรียกให้อเลนมาที่นี่ด้วย

            “เรื่องนั้น คนรับใช้บอกมาว่า อยากจะให้มีคนแนะนำตามท่านเจ้าเมืองไปด้วย”

            แล้วหัวหน้าหมู่บ้านก็หันไปทางอเลน

            ““หา๑?””

            “เอ๊ะ? ผมเหรอ?”

            ทั้งโรดันกับเกลด้าต่างก็ประหลาดใจ

            “เดี๋ยวสิๆ ถ้าเด็กละก็ ให้ลูกของนายก็ได้นี่?”

            “ไม่หรอก ลูกชายของข้าไม่เก่งพอ แถมไม่ถนัดเรื่องอย่างนี้ด้วย ต้องหาทางรับมือให้ได้ก่อนคืนงานเลี้ยง”

            ดูเหมือนจะไม่ใช่อธิบายเรื่องการล่าอย่างเดียว

            (อืม เพราะอย่างนั้นเลยเอาขนมมาล่อสินะ คิดผิดแล้วถ้าคิดว่าจะซื้อได้ด้วยขนมแค่นี้!)

            ในระหว่างที่คิดอย่างนั้น ก็หยิบขนมอีกชิ้นมากิน

            “อึม”

            เหมือนโรดันกลุ้มใจว่าจะยอมรับดีหรือเปล่า คนที่ตอบไม่ใช่อเลน แต่เป็นพ่ออย่างโรดัน อีกฝ่ายเป็นถึงเจ้าเมือง ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นคงลำบาก

            “ได้ยินมาว่า เครื่องป้องกันกับวิธีการล่าเป็นความคิดของอเลน แถมยังใช้คำพูดคำจาได้ดีด้วย เลยคิดว่าเหมาะกับหน้าที่แนะนำไง”

            หัวหน้าหมู่บ้านพูดออกมาต่อ และบอกว่าหน้าที่อธิบายการล่าให้อเลนนั่นแหละดีแล้ว

            อเลนคิดขึ้นมาในขณะที่มองโรดันกำลังกลุ้มใจ

            (ถึงจะไม่ได้สนใจเจ้าเมือง แต่ว่า)

            อเลนไม่สนบรรดาศักดิ์ ตอนเลือกนักอัญเชิญมีแค่ทาสติดที่ดิน เลยเป็นทาสติดที่ดิน

            ไม่ได้คิดจะปลดจากการเป็นทาสติดที่ดินเพื่อไปเป็นขุนนางแม้แต่นิดเดียว

            กลับกันหากได้เป็นขุนนางแล้ว จะขาดอิสระจนเพิ่มเลเวลไม่ได้ คิดว่าอยากจะหลีกเลี่ยงสิ่งนั้นอย่างเต็มที่ด้วย การรับใช้ขุนนางก็แย่พอๆกัน

            แต่ทาสติดที่ดินก็ขาดอิสระในแบบของทาสติดที่ดิน

            (ถ้ายังเป็นทาสติดที่ดินอย่างนี้จะออกไปข้างนอกไม่ได้เสียด้วย ไม่มีอิสระในการเพิ่มเลเวล)

            ช่วงเวลาการเพิ่มเลเวลใน 1 ปี ตอนนี้มีแค่ช่วงการล่าหมูป่ากับอัลบาเฮรอนเท่านั้น สัตว์อัญเชิญเองก็ตรวจสอบได้ถึงแค่ระดับ F ซึ่งคิดว่ายังตรวจสอบระดับ F ไม่เพียงพอด้วยซ้ำ เลยอยากจะหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้

            แน่นอนว่าอยากจะให้ครอบครัวมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้ด้วย

            (จะว่าไป การจะหลุดพ้นจากทาสติดที่ดินมี 2 วิธีนี่)

            แล้วก็นึกถึงวิธีการลหลุดพ้นจากทาสติดที่ดินมาเป็นประชาชนซึ่งได้ฟังมาจากเกลด้าก่อนหน้านี้

            ・จ่าย 10 เหรียญทองต่อ 1 คน (ครอบครัว 5 คนใช้ 50 เหรียญทอง)

            ・เจ้าเมืองมอบรางวัลให้เป็นประชาชน

            ล่าอย่างเอาเป็นเอาตายตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ก็สะสมได้แค่ 3 เหรียญทอง ถ้าเป็นอย่างนี้กว่าจะเป็นประชาชนได้คงต้องใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในสภาพที่ไร้อิสระอย่างนี้ กว่าจะถึงตอนนั้นจะเกิดอะไรกับครอบครัวบ้างก็ไม่รู้

            (ถึงจะยังลังเลอยู่ว่าจะไปล่าอัลบาเฮรอนดี หรือเข้าร่วมการล่าหมูป่าดี ในที่สุดก็ตัดสินใจได้แล้ว)

            “คุณพ่อ”

            “หือ? อเลน มีอะไรเหรอ?”

            เรียกโรดันที่กำลังกลุ้มใจเกี่ยวกับที่จะให้อเลทำหน้าที่แนะนำ

            “ผมจะทำหน้าที่แนะนำให้ท่านเจ้าเมืองเองครับ”

            “หา๑?”

            “แล้วจะอธิบายให้ท่านเจ้าเมืองทราบว่าทุกคนพยายามล่าหมูป่ากันขนาดไหน”

            พูดพร้อมกับรอยยิ้ม

            (ถ้าบอกข้อดีของคุณพ่อให้เจ้าเมืองฟังอาจจะได้เป็นประชาชนก็ได้นี่)

            หัวหน้าหมู่บ้านดีใจที่ยอมรับข้อเสนอ ถึงโรดันจะตกใจแต่ก็ไม่คัดค้าน เกลด้าเองก็เช่นกัน คงคิดว่าถ้าเป็นอเลนน่าจะทำได้อยู่

            “แล้ว ต่อจากนี้จะเอายังไงเหรอ?”

            เกลด้าพูดถึงเรื่องการล่าหมูป่าที่เจ้าเมืองจะมาในเดือนหน้า

            “หัวหน้าหมู่บ้าน เครื่องป้องกันที่ขอไปเสร็จหมดหรือยังครับ?”

            “อืม ทั้งหมดอยู่ที่โรงนาแล้ว จะไปดูตอนนี้เลยไหม?”

            “นั่นสิครับ ไปโรงนากันเถอะ ต้องบอกเรื่องการใช้อุปกรณ์ป้องกันกับวิธการล่าให้ด้วย”

            มีความมุ่งมั่นในการล่าหมูป่า

            ทำการเคลื่อนไหวเพื่อเตรียมการล่าก่อนที่เจ้าเมืองจะมาเดือนหน้า

[นิยายแปล] Hell mode

[นิยายแปล] Hell mode

Artist: ,
อ่านนิยาย Hell modeยามาดะ เคนอิจิ พนักงานกินเงินเดือน อายุ 35 ปี ผู้ชื่นชอบเกมที่ต้องฟาร์มหนักๆ ตอนนี้กำลังสิ้นหวังกับยุคที่เกมเล่นผ่านง่ายๆกำลังเป็นที่แพร่หลาย ระหว่างนั้นเองที่เขาโดนเว็บไซต์หนึ่งที่เขียนว่า "สำหรับผู้ชื่นชอบการฟาร์มอย่างคุณ" ทำให้ไปเกิดใหม่ในต่างระดับเฮลโหมด ป.ล. 1 แปลจากเว็บโนเวล ถ้าไม่เหมือนฉบับรุปเล่มต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ป.ล. 2 การอัพขึ้นอยู่กับเวลาว่างจากการทำงาน อย่าคาดหวังมาก(แต่จะพยายามอัพเรื่อยๆถ้าแปลเสร็จ

Options

not work with dark mode
Reset