ผมไม่สามารถจดจ่อกับการเรียนได้เลย
ไม่ว่าจะเค้นสมองคิดเท่าไหร่ มันก็เป็นไปไม่ได้เลยว่าไอ้หนุ่มมืดมนผู้จืดจางอย่างผมจะสามารถเตรียมแผนเดทที่จะทำให้ชิราคาวะซังพึงพอใจได้
ไม่ว่าผมจะแอบนั่งหา“สถานที่เดท”ในมือถือที่ซ่อนอยู่ใต้โต๊ะแล้วก็ตามแต่ผลก็คือเจอแต่ไอเดียธรรมดา ๆ
พอผมหาไปเรื่อยๆก็เริ่มรู้สึกไม่สบายเพราะรู้สึกวิตกกังวลมากเกินไป ผมจึงตัดสินใจที่จะลืมๆเรื่องนี้ไปก่อนชั่วคราว
หลังเลิกเรียน ชิราคาวะซังก็เข้าไปคุยกับเพื่อนรักของเธออย่าง “นิโคล” อย่างมีความสุขตามเคย ดังนั้นผมจึงออกจากห้องเรียนไปพร้อมกับเจ้าอิจิอย่างกระสับกระส่าย
มันเป็นช่วงเวลาที่ผมกลับถึงบ้าน และตัดสินใจที่จะพักผ่อนในห้องของตัวเองโดยการดูวิดีโอใหม่ของ KEN ในโทรศัพท์ที่อยู่ในมือ
จากนั้นก็มีการแจ้งเตือนของ LINE จากชิราคาวะซังเข้ามา
“เอ๋!?”
แต่มันดันไม่ใช่ข้อความมันคือการโทร
แถมยังเป็นวีดีโอคอลอีกต่างหาก!
“หืม….,อุหวา…!?”
หลังจากเช็คๆดูแล้วว่าไม่มีอะไรที่มันดูเลวร้ายๆอยู่ด้านหลังของผม
ผมก็นั่งคุกเข่าบนเตียงพร้อมกับกดปุ่มตอบรับการโทร
“สะ…สวัสดีครับ…”
“เย้ ริวโตะล่ะ~”
สิ่งที่สะท้อนบนหน้าจอคือชิราคาวะซังที่กำลังโบกไม้โบกมืออยู่ด้วยใบหน้าที่มีความสุข
เมื่อผมมองไปที่ด้านหลัง ดูเหมือนว่าชิราคาวะซังเองก็กำลังอยู่ในห้องของเธอเองเช่นกันหมายความว่าหลังจากนั้นไม่นานเธอก็พึ่งจะกลับมาถึงบ้านงั้นสินะ
“มะ..มีอะไหรอครับ?”
ขณะที่ผมกำลังสับสนกับเสื้อฮู้ดสีชมพูที่สุดแสนจะดูนุ่มฟูของชิราคาวาซังซึ่งดูเหมือนว่ามันจะเป็นชุดนอนของเธอแถมเธอยังรูดซิปเสื้อออกเยอะจนเห็นร่องหน้าอกชัดเจนอีกด้วย
ชิราคาวาซังก็เม้มริมฝีปากเล็กน้อย
“ก็เรื่องเดทของวันพรุ่งนี้ไง นายเป็นคนชวนชั้นเองนะ อย่าบอกนะว่านายลืมไปแล้วน่ะ?”
“อ๋อ..เดท……”
เดท,ฟังกี่ครั้งก็เป็นคำที่มีพลังมากมายมหาศาลจริง ๆในทางเทคนิคแล้วถือว่าผมเป็นคนเอ่ยปากชวนเธอเองสินะ….?
ผมรู้สึกขอบคุณตัวเองจากใจจริง
“นั่นแหละๆ เดท! ว่าแต่เราจะไปที่ไหนกันดีล่ะ?”
“เอ่อ…”
สิ่งที่แว้บขึ้นมาในทันทีก็คือเรื่องที่ค้นหามาตอนที่อยู่ในห้องเรียน
“มันก็เป็นเดทแรกของพวกเราด้วยสิ งั้นก็…..อย่าง….ดูหนังเป็นไง?”
“หืมม?”
ใบหน้าเล็กๆบนหน้าจอค่อยๆเอียงข้าง
“แน่ใจหรอว่าอยากไปดูน่ะ? นายมีหนังที่อยากดูอยู่หรอ? ริวโตะชอบดูหนังอย่างนั้นหรอ?”
“เอ๊ะ ก็ไม่นะ……”
ผมไปโรงหนังแค่ปีละครั้งเองและผมเองก็ไม่รู้เรื่องหนังที่กำลังฉายอยู่ตอนนี้เลยด้วยซ้ำ
“ริวโตะอยากทำอะไรกับชั้นหรอ? ทำไมถึงชวนชั้นออกเดทล่ะ?”
ผมรู้สึกเหมือนชิราคาวาซังมองมาที่ผมด้วยสายตาเชิญชวนออกแนวเย้ายวน
ในขณะที่กระสับกระส่ายอยู่หน่อยๆผมก็บอกเธอไป
“เพราะว่าผม…อยากที่จะรู้จักชิราคาวะซังมากขึ้นน่ะครับ”
“อยากที่จะรู้จักชั้นให้มากขึ้นงั้นหรอ?”
ผมกลืนน้ำลายระหว่างที่ชิราคาวะซังทำท่ายียวนเอาแขนทั้งสองข้างของเธอบีบเข้าหากันตัวหน้าอกของเธอก็แนบสนิทชิดกันมากขึ้น
“ไม่เป็นไร ชั้นจะทำตามที่ริวโตะต้องการนะ โอเคไหม?”
สีหน้าชิราคาวะซังดูอ่อนโยน เธอมีรอยยิ้มของเทพธิดาที่สามารถเติมเต็มความต้องการของผู้ชายทุกคนได้ทันทีเลย
อย่างไรก็ตาม ถ้าตอนนี้ผมสามารถพูดอะไรบางอย่างเช่น “ถ้างั้นก็ไปโรงแรมกันเถอะ!” ได้ผมก็คงไม่เป็นไอ้หนุ่มมืดมนมาตลอด16 ปีหรอก!
อีกอย่าง ผมต้องการเชื่อมความสัมพันธ์ของผมกับชิราคาวะซังด้วยการเอาใจใส่เธอ ผมจะรอจนกว่าชิราคาวาซังบอกว่าเธอต้องการจะทำแบบนั้นกับผมเอง ความคิดนี้จะไม่มีทาง….สั่นคลอนอย่างเด็ดขาด!
แต่ถ้าความต้องการของผมยังถูกกระตุ้นต่อไปเรื่อยๆแบบนี้
ผมเองก็ชักจะสูญเสียความมั่นใจไปอยู่บ้างเหมือนกัน
โชคดีแล้วล่ะที่ชิราคาวะซังยังไม่ได้มาอยู่ตรงหน้าผมในตอนนี้…….
“แล้วชิราคาวะซังล่ะ?”
ผมหมดคำพูดที่จะพูดคุยก็เลยถามกลับไปแบบนั้น
“แล้วชิราคาวะซัง อยากจะทำอะไรในวันหยุดหรอ?”
“เอ๋…?”
ชิราคาวะซังจ้องมองผมด้วยความสงสัย
“ชั้น? ทำไมหรอ?”
“คือผมสงสัย……ว่าชิราคาวะซังชอบทำอะไรบ้างน่ะครับ”
“เอ…..นั่นสิน้า”
ชิราคาวะซังยกมุมปากของเธอขึ้น แลดูมีความสุขเล็กน้อย และมองขึ้นไปในแนวเฉียง
“ชั้นชอบเสื้อผ้า งั้นก็คงเป็นพวกช้อปปิ้ง ไม่ก็ไปลองพวกเครื่องสำอาง หรือไม่ก็ไปคาเฟ่ที่มันดูน่ารักๆน่ะ …”
“งั้นก็เอาตามนั้นเลยเป็นไงครับ?”
“เอ๋…?”
ดวงตาของชิราคาวะซังเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ
“นายจะไปที่ๆชั้นอยากไปงั้นหรอ…?”
“ใช่แล้วล่ะ ผมเองก็ไม่มีอะไรที่อยากทำในเมืองด้วยสิ เพราะงั้นในกรณีนี้คิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าจะไปตามฝ่ายที่มีสิ่งที่อยากทำอยู่น่ะ “
เพราะการใช้เวลากับชิราคาวะซังนั้นก็เป็นอีเว้นท์ที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของผมแล้ว ไม่ว่าจะคิดยังไงก็คิดไม่ออกจริงๆ ว่าผมจะอยากได้อะไรไปมากกว่านี้
คำพูดของผมทำให้ชิราคาวาซังกะพริบตาอย่างแปลกใจ
“ยังไงดีล่ะ ริวโตะนี่แตกต่างออกไปจริง ๆ สินะ”
เธอหัวเราะออกมาเล็กน้อยหลังจากพูดออกมา
“ครั้งแรกของชั้นเลยล่ะที่มีแฟนหนุ่มที่พูดอะไรแบบนี้ออกมา”
ตอนนี้ผมมั่นใจแล้วว่าชิราคาวะซังน่ะเธอไม่ใช่พวกบิทช์ที่เอาใครแบบไม่เลือกหน้าแน่ ๆ
เธอพยายามที่จะเอาอกเอาใจแฟนหนุ่มของเธอให้ได้สำหรับทุกๆเรื่อง
ส่งผลให้กลายเป็นการสมยอมแฟนหนุ่มไปซะทุกอย่าง เธอเลยกลายเป็นหญิงสาวที่ตกเป็นเบี้ยล่างมากกว่าการเป็นแฟนสาวไปซะอย่างนั้น
พวกแฟนหนุ่มก็เลยพากันเบื่อเธอและก็จบลงด้วยการทิ้งเธอไป
ช่างเป็นสาวสวยที่โชคร้ายจริง ๆ
“ยังไงก็เถอะ…..ริวโตะนี่ไม่เหมือนใครจริงๆนั่นแหละ”
ขณะมองดูชิราคาวาซังที่ยังคงพึมพำเงียบๆ
ผมพูดกับตัวเองในใจว่าจะไม่ทำตัวเหมือนแฟนเก่าของเธอเด็ดขาด
จากนั้นเราก็คุยเกี่ยวกับการนัดเจอกันอะไรต่างๆและก็วางสายกันไป
“บาย! เจอกันพรุ่งนี้นะ!”
“ครับ เจอกันพรุ่งนี้”
พอหน้าเธอหายไปจากจอผมก็ทั้งโล่งใจและเสียใจ
และอย่างต่อมาที่เกิดขึ้นในหัวก็คือ
“เอ้าเว้ยยยยยยยยยย——–!”
ได้วีดีโอคอลส่วนตัวกับสาวสวยที่น่ารักโครตๆ…!
แถมสาวสวยที่น่ารักโครตๆคนนั้นยังเป็นแฟนสาวของผมอีก…!
“ให้ตายเซ่—–!”
เนื่องจากอยู่ในห้องของตัวเอง ผมจึงกลิ้งตัวไปมาบนเตียงอย่างเต็มเหนี่ยวจนเกือบเป็นลมเพราะความตื่นเต้น
“อ๋า,ชิราคาวะซัง…”
ชิราคาวะซังที่อยู่ในชุดอยู่บ้านเองก็ยังน่ารัก
และท่าทางเอโร่ยหน่อยๆนั่นก็ด้วย นี่มันที่สุดเลยโว้ยแก!
ชิราคาวะซังในห้องของเธอ สภาพที่คนอื่นไม่ทีทางได้เจอ
การได้ไปโผล่ที่ห้องของชิราคาวะซัง ที่ไม่ว่าใครในโรงเรียนก็ไม่เคย
ห้องของชิราคาวะซัง เฮะๆ…..…กลิ่นมันหอมดีย์จริงๆ
ผมนึกถึงตอนที่ได้ไปบ้านของเธอและความหื่นมันกลับมาพร้อมกับความรู้สึกนึกเสียใจย้อนหลัง
“ทำไมตอนนั่นตูไม่ทำฟะ….”
เมื่อมาถึงจุดนี้ ชิราคาวะซังอาจจะไม่ชวนผมไปที่ห้องของเธออีกแล้วก็ได้
แต่ผมก็ไม่อยากจะถูกจัดให้ไปอยู่เป็นพวกเดียวกันกับแฟนเก่าของเธอ
เอาเถอะยังไงผมก็คงไม่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มแบบนั้นอยู่แล้วล่ะ
หนุ่มเชอร์รี่บอยหน้าตาดีอ่ะนะ
“ไม่ได้การ แย่ล่ะสิ”
ผมครุ่นคิดแต่เรื่องแบบนี้วนไปวนมาตลอดช่วงค่ำคืนที่ยาวนานนี้