Otonari no Tenshi-sama ni Itsu no Ma ni ka Dame Ningen ni Sareteita Ken (WN)
ชื่อไทย : มาฮิรุณคอแดง(?)
ผู้แปล : แปลแบบคนเหงาและง่วง
Chapter : 12 เทพธิดาและข้ออ้าง
หลังจากทำความสะอาดกันเสร็จแล้ว ดูเหมือนว่ากำแพงระหว่างอามาเนะกับมาฮิรุจะลดน้อยลง แต่อย่างไรก็ตาม ระยะห่างของพวกเขาก็ยังไม่ได้สนิทกันมากนัก
ที่โรงเรียนพวกเขายังคงเป็นคนแปลกหน้าและไม่ได้ไปเกี่ยวข้องใดๆต่อกัน และหลังเลิกเรียนตอนพวกเขาก็ได้คุยกันนิดหน่อยตอนแบ่งอาหารให้เท่านั้น
เมื่อไม่กี่วันก่อน อามาเนะได้ถูกเตือนว่าให้คอยรักษาความสะอาดของห้องเอาไว้ แม้ว่าคำพูดเธอจะดูแข็งกร้าว แต่ก็เข้าใจได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่รักการเอาใจใส่ผู้อื่น
ต้องขอบคุณที่เธอเตือนและให้คำแนะนำในการทำความสะอาด ทำให้ห้องของอามาเนะยังคงดูสะอาดสะอ้านอยู่
“ดูดีขึ้นเยอะเลยแฮะ”
อิทสึกิมาหาอามาเนะ เมื่อได้ยินว่าห้องของเขาสะอาดขึ้นแล้ว เขามองการเปลี่ยนแปลงขึ้นที่น่าประหลาดใจแล้วส่งเสียงชื่นชมออกมา
“ไม่คิดเลยว่ามันจะสะอาดขึ้นขนาดนี้ ทั้งที่รกขนาดนั้นแท้ๆ คราวที่แล้วที่ฉันมาช่วยทำความสะอาด ไม่กี่วันมันก็รกเหมือนเดิม”
“หนวกหูน่า”
“ไม่ๆ ฉันไม่ได้จะว่านายหรอก แค่มาคิดดูไม่นานมานี้นายยังวางข้าวของไว้ทั่วพื้นอยู่เลย”
“ไม่ต้องห่วง นี่สถิติใหม่เลยล่ะ ผ่านมาสองอาทิตย์แล้ว”
“ควรละอายใจสักหน่อยไหมที่สถิติใหม่ของนายนี่มันเพียงแค่สองอาทิตย์เนี่ย?”
“นายไม่ควรจะโยนข้าวของไว้ที่พื้นไปทั่วนะ” อามาเนะขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธคำพูดของอิทสึกิได้เลย
อันที่จริง เขาได้เคยรบกวนอิทสึกิไว้ก่อนที่มาฮิรุจะมาช่วย ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถจะเถียงกลับไปได้เลย
อามาเนะนิ่งเงียบ ขณะที่อิทสึกิกำลังหัวเราะอย่างมีความสุข
“เอาเถอะ ถ้ามันสะอาดขนาดนี้แล้วล่ะก็ ฉันก็อยากจะพาจี้มาที่นี่บ้าง”
“หยุดเลยโยม ทำไมฉันต้องมานั่งดูพวกนายจู๋จี๋กันในบ้านของฉันด้วยเล่า”
“นายไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นหรอกน่า”
“อย่าทำเหมือนบ้านฉันเป็นจุดนัดเดทนะเฮ้ย”
มันจะน่าเศร้าขนาดไหนเมื่อเขาต้องนั่งดูเพื่อนตัวเองกำลังจู๋จี๋กับแฟน?
ไม่รู้หรือไงว่าคนอื่นๆเขามักจะเรียกเจ้าพวกคู่นี้ว่าคู่รักงี่เง่า เขาหวังว่าพวกเขาจะตระหนักกันบ้างสักนิด
เขาหัวเราะไม่ออกแม้จะรู้ว่าอิทสึกิแค่ล้อเล่น เมื่อเขาได้เห็นภาพแบบนั้นในแทบทุกๆวัน
มันเป็นสิ่งที่ควรจะทำที่บ้านตัวเองนะ
“เอาเถอะ เรื่องล้อเล่นไว้แค่นี้พอ ฉันเดาว่ามันคงจะไม่สกปรกอีกหลังจากเพิ่งสะอาดแล้ว ใช่ไหม?”
“ฉันเข้าใจดีแล้ว”
“ถ้านายพูดอย่างงั้นแล้วล่ะก็นะ…ยังไงก็ตาม มันก็ดีแล้วล่ะที่เอานิสัยแบบนั้นออกไปได้น่ะ”
“นายเป็นแม่ฉันรึไงเนี่ย…?”
“จริงๆนะอามาเนะ ลูกควรเริ่มทำความสะอาดห้องบ่อยๆนะรู้ไหม~?”
“ฟังดูน่าขนลุกชะมัด แถมน่ากลัวอีกต่างหาก เสียงมันเงียบขรึมแล้วฟังดูคล้ายที่แม่ฉันพูด”
อามาเนะรู้สึกหนาวสั่นทันทีเมื่ออิทสึกิพยายามเลียนแบบแม่ของเขา
ท่าทางของอิทสึกิคล้ายกับแม่ของเขาเล็กน้อยแม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยพบกันมาก่อน มันทำให้เขาขนลุก
นอกจากนี้แล้วการที่เด็กผู้ชายพยายามดัดเสียงให้เหมือนเด็กผู้หญิงมันก็น่าขนลุกจริงๆ อามาเนะมีความรู้สึกอยากจะหยุดอิทสึกิ
เขาแลบลิ้นออกในท่าทางรังเกียจออกมาอย่างปลอมๆ แล้วอิทสึกิก็ลั่นเสียงหัวเราะออกมา
“แม่นายเป็นอย่างงี้หรอ อามาเนะ? ส่วนแม่ของฉันค่อนข้างปล่อยน่ะ”
“ฉันอิจฉานายนะ แม่ของฉันค่อนข้างจุกจิกน่ะ”
“ก็เป็นแม่ที่ดีที่คอยเป็นห่วงลูกชายไม่ใช่รึไง?”
“แต่มันจะไม่ค่อยเป็นอิสระเท่าไหร่…”
“ไม่หรอก นั่นก็เพราะนายเป็นอย่างงี้ไง แม่นายเลยไม่อยากปล่อยไว้เฉยๆ”
“หนวกหูน่า เธอก็แค่ห่วงลูกมากไปเท่านั้นแหละ”
[ TL note : นี่ขนาดไม่เป็นอิสระนะยังปล่อยให้อยู่คนเดียวได้]
อาจจะเป็นเพราะเขาเป็นลูกคนเดียว แต่แม่ของอามาเนะก็เอาใจใส่อามาเนะมากจริงๆ
เธอไม่ได้ตามใจเขามาก แต่เธอเป็นประเภทที่จะยุ่งและกังวัลเกี่ยวกับทุกอย่าง แม้ว่าอามาเนะจะไม่ได้เกลียดมันก็ตาม มันแค่ยุ่งยากนิดหน่อย
เมื่อเขาแยกออกจากบ้านมาอยู่คนเดียวใกล้ๆกับโรงเรียน แม่ของเขาได้ย้ำหลายเรื่องมาก และเธอจะแวะมาตรวจสอบกับเขาบ่อยครั้งมากเช่นกัน
“เอาเถอะ อย่างน้อยมันก็หมายความว่านายสำคัญกับเธอมากไม่ใช่หรอ?”
“ความรักนี้ช่างหนักอึ้งเหลือเกิน”
“ยอมแพ้เถอะน่า แล้วสักวันนายจะเข้าใจว่ามันมีค่ามากแค่ไหน”
“ถึงจะพูดเหมือนหลักการทั่วๆไปก็เถอะ แต่นายพูดแล้วฟังดูเชี่ยวชาญจังนะ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า สุดท้ายแล้วฉันก็ยังทำอะไรไม่ได้อยู่ดีเรื่องจี้น่ะ”
อิทสึกิมีเรื่องทะเลาะกับพ่อของเขาค่อนข้างบ่อยเพราะแฟนของเขา ดังนั้นคำพูดของเขาจึงไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือ แต่มันก็สมเหตุสมผล อามาเนะจึงยอมฟังแต่โดยดี
(คิดว่าหมอนี่ก็คงมีปัญหาที่ต้องจัดการด้วยตัวเขาเองอยู่) อามาเนะคิดในขณะที่ถอนหายใจยาวๆออกมา แต่อิทสึกิก็ยังคงมองโลกในแง่ดีอยู่ สีหน้าเขาไม่ได้มีความท้อแท้เลยแม้แต่น้อย “ใครหน้าไหนที่บังอาจจะมาขัดขวางความรักระหว่างฉันกับจี้ล่ะก็ฉันจะให้ม้าดีดให้หมดเลย” เขาเคยพูดเรื่องน่ากลัวแบบนี้มาก่อน
“ยังไงก็ตาม ฉันจะทำอะไรสักอย่างกับพ่อฉันเอง นายเถอะ ใช้ชีวิตให้อย่างถูกต้องเหมาะสมดีเถอะ?”
อิทสึกิยิ้มแล้วพูดขึ้น “ฉันรู้อยู่แล้วล่ะน่า ไม่ต้องให้นายมาบอกหรอก” อามาเนะตอบกลับด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย เขานึกได้ว่าคำพูดของอิทสึกินั้นเหมือนกับใครบางคน มันทำให้เขายิ้มเจื่อน
แต่ที่อิทสึกิมาบ้านของอามาเนะ…ไม่ใช่เพราะอยากจะมาตรวจสอบนิสัยการเป็นอยู่ของเขา แต่มาเพื่อเล่นเกมเท่านั้น การพูดเรื่องบ้านของอามาเนะจบลงแล้วพวกเขาก็เริ่มเล่นเกมกัน
พวกเขาควรจะเตรียมตัวสำหรับการสอบที่จะจัดขึ้นในอีกสัปดาห์ต่อไป แต่ก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัวพวกเขาก็กำลังเล่นวิดีโอเกมกันอยู่แล้ว
“เฮ้ ถ้านายใช้ไอเท็มฮีลพร่ำเพรื่อมันจะไม่พอทีหลังเอานะ”
“เดี๋ยวก็ทำอะไรสักอย่างได้แหละน่า”
“ไม่ๆ เลเวลมันจะไม่เพิ่มเอานะ แล้วมันจะไม่เป็นอะไรได้ยังไงเล่า…”
ในขณะที่อามาเนะกำลังเถียงกับอิทสิกิที่กำลังระเบิดความตื่นเต้นอย่างบ้าบออยู่นั้นเอง จู่ๆก็มีเสียงกริ่งจากทางเข้าดังขึ้นมา
“หืม? แขกงั้นหรอ?”
อิทสึกิหยุดเกมชั่วคราว หน้าเมนูเกมแสดงขึ้นมา แล้วเขาก็หันหน้าขึ้น
เขารู้ว่าอามาเนะแทบจะไม่ได้บอกให้ใครรู้เกี่ยวกับที่อยู่ของเขาเลย และแทบจะไม่มีเพื่อนคนไหนมาเยี่ยมเช่นกัน และถึงแม้ว่าจะมา พวกเขาก็จะติดอยู่ที่ทางเข้าอพาร์ตเม้นต์ แล้วกดลำโพงเรียกแทน
[TL note : คนนอกเข้าตึกไม่ได้น่ะ ถ้าไม่มีคนเปิดให้]
“ไม่รู้สิ เพื่อนบ้านล่ะมั้ง? อาจจะมีข่าวอะไรสักอย่างที่บอร์ดประกาศล่ะมั้ง”
“เข้าใจล่ะ”
“เดี๋ยวฉันไปเช็คแปปนะ”
อิสึกิโดนหลอกอย่างแนบเนียนในขณะที่เขาพยายามดึงหน้าไว้อยู่ แล้วรีบเดินไปที่ประตู
โชคดีที่เธอไม่ได้ส่งเสียงเรียกหลังจากกดกริ่ง
เขาเปิดประตูโดยไม่ต้องเช็ค เขาเปิดประตูออกเพียงเล็กน้อยแล้วลอดตัวออกไปเพื่อบังไม่ให้เห็น จากนั้นก็รีบปิดประตูอย่างรวดเร็ว
ตามที่คาดไว้ มาฮิรุอยู่ที่หน้าประตู เธอกระพริบตาปริบๆ ขณะที่มองไปที่อามาเนะที่ดูผิดปกติ “ชู่…” อามาเนะยกนิ้วชี้มาไว้ที่ปาก
“…เบาๆหน่อยนะ อิทสึกิอยู่ในห้องของฉันน่ะ”
“อิสึกิ?”
“เพื่อนฉันเอง เขามาเล่นน่ะ”
“อย่างงี้นี่เอง”
เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงทำท่าทางลับๆล่อๆ เธอพยักหน้าแล้วไม่ซักไซร้ต่อ เธอยื่นกล่องอาหารให้เขาตามปกติ
ดูเหมือนว่าเธอจะเตรียมไว้ตั้งแต่ตอนเช้า ข้างในนั้นคือโอเด้ง มันเป็นเมนูที่เหมาะสุดๆกับหน้าหนาวแบบนี้
อามาเนะรับกล่องอาหารมาอย่างขอบคุณ แล้วถอนหายใจออกมาขณะที่มองไปที่มาฮิรุผู้ที่ส่งให้โดยไม่มีความสงสัยใดๆ
“…ไม่หรอก ฉันแค่รู้สึกขอบคุณที่เธอคอยดูแลฉันมาตลอด แต่ฉันไม่มีโอกาสได้ตอบแทนบ้างเลย ขอโทษนะ”
“ฉันไม่ได้ทำเพื่ออยากได้คำขอบคุณหรอกค่ะ…แต่ดีแล้วล่ะที่ห้องของคุณดีพอจะเชิญเพื่อนมาได้แล้ว”
“ให้ฉันได้ตอบแทนเธอได้ไหม?”
“ไม่หรอกค่ะ โปรดอย่าเลย”
“อย่าทำให้ฉันดูเหมือนผู้หญิงไม่ดีเลย” เธอมองด้วยสายตาตำหนิ และอามาเนะทำได้แค่ยิ้มเจื่อน
เขาเป็นหนี้เธอจริงๆ ดังนั้นเขาจึงจริงจังกับสิ่งที่เขาพูด เธอได้ดูแลเขามามากจริงๆ ขนาดที่ว่าต่อให้ก้มกราบขอบคุณก็คงไม่พอ
เธอนำอาหารเย็นมาให้เขาอย่างสม่ำเสมอและเพียงพอ และเขาเสียใจที่เขากลายเป็นแค่ปลิง ดังนั้นเขาจึงหาโอกาสที่จะคุยกันเรื่องเงินค่าอาหาร
“…ในเมื่อเพื่อนคุณอยู่ที่นี่ ฉันก็จะไม่รบกวนคุณนาน ขอตัวก่อนนะคะ”
“…ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือนะ ฉันจะไม่บอกกับอิทสึกิเกี่ยวกับเรื่องเธอ”
“โปรดทำอย่างนั้นแหละค่ะ”
“เอาเถอะ ถึงฉันบอก หมอนั่นก็คงไม่เชื่อหรอก”
“ก็คงงั้นค่ะ”
อามาเนะรู้สึกซับซ้อนเมื่อเธอเห็นพ้อง บอกตามตรงว่าถ้าอามาเนะอยู่ในจุดเดียวกับอิทสึกิก็คงไม่เชื่อเมื่อมีคนบอกว่าได้กินอาหารจากชีนะ เขาคงคิดว่าอามาเนะเพ้อเจ้อแน่ๆ
ท้ายที่สุดแล้วเทพธิดาก็จะเป็นดอกไม้ที่อยู่ในที่ที่ไม่ควร
มันจะเป็นอีกเรื่องถ้าเขาเป็นคนหล่อและมีพรสวรรค์ แต่มันคงเป็นไปไม่ได้สำหรับคนขี้เกียจและไร้ประโยชน์แบบเขาที่ให้เธอทำอาหารให้เขา
“…ขอถามอะไรอย่างสิ?”
“อะไรงั้นหรอคะ?”
“เธอจะได้อะไรจากการทำอาหารให้ฉันทุกวันล่ะ?”
โดยปกติแล้วมันไม่เป็นไปได้เลยสำหรับการเสียแรงกับค่าอาหารฟรีๆแบบนี้ อามาเนะก็คงไม่ทำแบบนั้นหากเขาเป็นเธอ เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะมีโอกาสสักหนึ่งในล้านที่เธอจะชอบเขา มันทำให้ความอยากรู้ของเขาเพิ่มมากขึ้น
เธอเงยหน้าขึ้นหลังจากครุ่นคิด “แค่ความพอใจส่วนตัวค่ะ” เธอพูดโดยไม่ได้เปลี่ยนท่าทางเลย
“มันไม่ได้ยากอะไรหรอกค่ะ มันเป็นเรื่องง่ายๆสำหรับฉันที่ทำอาหารส่วนของแค่สองคน แล้วฉันก็ชอบทำอะไรให้กับผู้อื่นค่ะ”
“หรือก็คือเธอชอบทำอาหารงั้นหรอ?”
“นั่นก็อาจจะเป็นเหตุผลนึงค่ะ ฉันรู้สึกโล่งอกที่คุณไม่ได้มีความเข้าใจผิดแปลกๆ แล้วยังพูดออกมาตรงๆตามที่คิด ฉันแค่กังวลเมื่อเห็นสิ่งที่คุณกิน ดังนั้นฉันจึงทำเพื่อความพอใจส่วนตัวค่ะ”
“…อย่างงั้นหรอ?”
“แน่นอนค่ะ คุณไม่ต้องใส่ใจเรื่องนั้นหรอก คิดเสียว่าเป็นโชคลาภที่ตกมาจากฟ้า”
“ก็ได้ ก็ได้”
ดูเหมือนว่ามาฮิรุไม่มีอะไรจะพูดต่ออีก “ขอตัวค่ะ” เธอโค้งคำนับแล้วกลับไปที่ห้องของตัวเอง
(…มันจะเป็นแบบนั้นจริงๆหรอ?)
อามาเนะคิดว่าเหตุผลมันไม่พอสำหรับอาหารเย็นฟรีๆเลย เขาพึมพำในขณะที่หันกลับเข้าข้างใน
“ใครงั้นหรอ?”
“แค่เพื่อนบ้านที่มาแบ่งอาหารให้น่ะ ฉันจะเอาไปเก็บก่อน อย่าเพิ่งกดเริ่มก่อนฉันล่ะ”
“อ๊ะ โทษที ฉันจัดการบอสไปแล้วล่ะ”
“เฮ้ย เดี๋ยวดิ อย่ามาล้อกันเล่นนะ”
*———-จบตอน———-*
TL : หายไปซะนานเลยครับ ฮ่าๆ ลงแต่มังงะง่ายๆไปแทน แต่งานก็ยังมาเรื่อยๆเลยครับช่วงนี้ อาจารย์ขยันสั่งจริงๆ ฮึ่ยยย ไม่แน่ใจว่าตอนไหน แต่ถ้างานเบาลงแล้วจะกลับมาอัพเหมือนเดิมนะครับ ช่วงนี้ก็อาจจะมีมังงะสั้นๆมาลงแทรกแก้เพจเหงาบ้างเล็กน้อยครับ
**แปลจากอิ้ง เทียบยุ่นนิดหน่อย แปลผิดยังไงก็ขออภัยนะครับ มือใหม่แปล อาจจะมีผิดบ้างทักท้วงกันได้นะครับ
นี่เป็นเวอร์ชั่น WN (เว็บโนเวล) อาจจะมีบางส่วนที่ต่างกับแบบเล่มอยู่บ้างนะครับ แต่ก็ยังคงความหวานไว้เช่นเคย
อย่าลืมกดไลก์และกดติดตามเพจเพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยนะครับ ที่เพจลงล่วงหน้า 1 ตอนนะครับ
เพจ แปลแบบคนเหงาและง่วง
[นิยายแปล] Otonari no Tenshi-sama ni Itsu no Ma ni ka Dame Ningen ni Sareteita Ken (WN) – ตอนที่ 12 เทพธิดาและข้ออ้าง
Posted by ? Views, Released on October 3, 2021
, [นิยายแปล] Otonari no Tenshi-sama ni Itsu no Ma ni ka Dame Ningen ni Sareteita Ken (WN) – ตอนที่ 12 เทพธิดาและข้ออ้าง
Otonari no Tenshi-sama ni Itsu no Ma ni ka Dame Ningen ni Sareteita Ken (WN)
ชื่อไทย : มาฮิรุณคอแดง(?)
ผู้แปล : แปลแบบคนเหงาและง่วง
Chapter : 12 เทพธิดาและข้ออ้าง
หลังจากทำความสะอาดกันเสร็จแล้ว ดูเหมือนว่ากำแพงระหว่างอามาเนะกับมาฮิรุจะลดน้อยลง แต่อย่างไรก็ตาม ระยะห่างของพวกเขาก็ยังไม่ได้สนิทกันมากนัก
ที่โรงเรียนพวกเขายังคงเป็นคนแปลกหน้าและไม่ได้ไปเกี่ยวข้องใดๆต่อกัน และหลังเลิกเรียนตอนพวกเขาก็ได้คุยกันนิดหน่อยตอนแบ่งอาหารให้เท่านั้น
เมื่อไม่กี่วันก่อน อามาเนะได้ถูกเตือนว่าให้คอยรักษาความสะอาดของห้องเอาไว้ แม้ว่าคำพูดเธอจะดูแข็งกร้าว แต่ก็เข้าใจได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่รักการเอาใจใส่ผู้อื่น
ต้องขอบคุณที่เธอเตือนและให้คำแนะนำในการทำความสะอาด ทำให้ห้องของอามาเนะยังคงดูสะอาดสะอ้านอยู่
“ดูดีขึ้นเยอะเลยแฮะ”
อิทสึกิมาหาอามาเนะ เมื่อได้ยินว่าห้องของเขาสะอาดขึ้นแล้ว เขามองการเปลี่ยนแปลงขึ้นที่น่าประหลาดใจแล้วส่งเสียงชื่นชมออกมา
“ไม่คิดเลยว่ามันจะสะอาดขึ้นขนาดนี้ ทั้งที่รกขนาดนั้นแท้ๆ คราวที่แล้วที่ฉันมาช่วยทำความสะอาด ไม่กี่วันมันก็รกเหมือนเดิม”
“หนวกหูน่า”
“ไม่ๆ ฉันไม่ได้จะว่านายหรอก แค่มาคิดดูไม่นานมานี้นายยังวางข้าวของไว้ทั่วพื้นอยู่เลย”
“ไม่ต้องห่วง นี่สถิติใหม่เลยล่ะ ผ่านมาสองอาทิตย์แล้ว”
“ควรละอายใจสักหน่อยไหมที่สถิติใหม่ของนายนี่มันเพียงแค่สองอาทิตย์เนี่ย?”
“นายไม่ควรจะโยนข้าวของไว้ที่พื้นไปทั่วนะ” อามาเนะขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธคำพูดของอิทสึกิได้เลย
อันที่จริง เขาได้เคยรบกวนอิทสึกิไว้ก่อนที่มาฮิรุจะมาช่วย ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถจะเถียงกลับไปได้เลย
อามาเนะนิ่งเงียบ ขณะที่อิทสึกิกำลังหัวเราะอย่างมีความสุข
“เอาเถอะ ถ้ามันสะอาดขนาดนี้แล้วล่ะก็ ฉันก็อยากจะพาจี้มาที่นี่บ้าง”
“หยุดเลยโยม ทำไมฉันต้องมานั่งดูพวกนายจู๋จี๋กันในบ้านของฉันด้วยเล่า”
“นายไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นหรอกน่า”
“อย่าทำเหมือนบ้านฉันเป็นจุดนัดเดทนะเฮ้ย”
มันจะน่าเศร้าขนาดไหนเมื่อเขาต้องนั่งดูเพื่อนตัวเองกำลังจู๋จี๋กับแฟน?
ไม่รู้หรือไงว่าคนอื่นๆเขามักจะเรียกเจ้าพวกคู่นี้ว่าคู่รักงี่เง่า เขาหวังว่าพวกเขาจะตระหนักกันบ้างสักนิด
เขาหัวเราะไม่ออกแม้จะรู้ว่าอิทสึกิแค่ล้อเล่น เมื่อเขาได้เห็นภาพแบบนั้นในแทบทุกๆวัน
มันเป็นสิ่งที่ควรจะทำที่บ้านตัวเองนะ
“เอาเถอะ เรื่องล้อเล่นไว้แค่นี้พอ ฉันเดาว่ามันคงจะไม่สกปรกอีกหลังจากเพิ่งสะอาดแล้ว ใช่ไหม?”
“ฉันเข้าใจดีแล้ว”
“ถ้านายพูดอย่างงั้นแล้วล่ะก็นะ…ยังไงก็ตาม มันก็ดีแล้วล่ะที่เอานิสัยแบบนั้นออกไปได้น่ะ”
“นายเป็นแม่ฉันรึไงเนี่ย…?”
“จริงๆนะอามาเนะ ลูกควรเริ่มทำความสะอาดห้องบ่อยๆนะรู้ไหม~?”
“ฟังดูน่าขนลุกชะมัด แถมน่ากลัวอีกต่างหาก เสียงมันเงียบขรึมแล้วฟังดูคล้ายที่แม่ฉันพูด”
อามาเนะรู้สึกหนาวสั่นทันทีเมื่ออิทสึกิพยายามเลียนแบบแม่ของเขา
ท่าทางของอิทสึกิคล้ายกับแม่ของเขาเล็กน้อยแม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยพบกันมาก่อน มันทำให้เขาขนลุก
นอกจากนี้แล้วการที่เด็กผู้ชายพยายามดัดเสียงให้เหมือนเด็กผู้หญิงมันก็น่าขนลุกจริงๆ อามาเนะมีความรู้สึกอยากจะหยุดอิทสึกิ
เขาแลบลิ้นออกในท่าทางรังเกียจออกมาอย่างปลอมๆ แล้วอิทสึกิก็ลั่นเสียงหัวเราะออกมา
“แม่นายเป็นอย่างงี้หรอ อามาเนะ? ส่วนแม่ของฉันค่อนข้างปล่อยน่ะ”
“ฉันอิจฉานายนะ แม่ของฉันค่อนข้างจุกจิกน่ะ”
“ก็เป็นแม่ที่ดีที่คอยเป็นห่วงลูกชายไม่ใช่รึไง?”
“แต่มันจะไม่ค่อยเป็นอิสระเท่าไหร่…”
“ไม่หรอก นั่นก็เพราะนายเป็นอย่างงี้ไง แม่นายเลยไม่อยากปล่อยไว้เฉยๆ”
“หนวกหูน่า เธอก็แค่ห่วงลูกมากไปเท่านั้นแหละ”
[ TL note : นี่ขนาดไม่เป็นอิสระนะยังปล่อยให้อยู่คนเดียวได้]
อาจจะเป็นเพราะเขาเป็นลูกคนเดียว แต่แม่ของอามาเนะก็เอาใจใส่อามาเนะมากจริงๆ
เธอไม่ได้ตามใจเขามาก แต่เธอเป็นประเภทที่จะยุ่งและกังวัลเกี่ยวกับทุกอย่าง แม้ว่าอามาเนะจะไม่ได้เกลียดมันก็ตาม มันแค่ยุ่งยากนิดหน่อย
เมื่อเขาแยกออกจากบ้านมาอยู่คนเดียวใกล้ๆกับโรงเรียน แม่ของเขาได้ย้ำหลายเรื่องมาก และเธอจะแวะมาตรวจสอบกับเขาบ่อยครั้งมากเช่นกัน
“เอาเถอะ อย่างน้อยมันก็หมายความว่านายสำคัญกับเธอมากไม่ใช่หรอ?”
“ความรักนี้ช่างหนักอึ้งเหลือเกิน”
“ยอมแพ้เถอะน่า แล้วสักวันนายจะเข้าใจว่ามันมีค่ามากแค่ไหน”
“ถึงจะพูดเหมือนหลักการทั่วๆไปก็เถอะ แต่นายพูดแล้วฟังดูเชี่ยวชาญจังนะ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า สุดท้ายแล้วฉันก็ยังทำอะไรไม่ได้อยู่ดีเรื่องจี้น่ะ”
อิทสึกิมีเรื่องทะเลาะกับพ่อของเขาค่อนข้างบ่อยเพราะแฟนของเขา ดังนั้นคำพูดของเขาจึงไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือ แต่มันก็สมเหตุสมผล อามาเนะจึงยอมฟังแต่โดยดี
(คิดว่าหมอนี่ก็คงมีปัญหาที่ต้องจัดการด้วยตัวเขาเองอยู่) อามาเนะคิดในขณะที่ถอนหายใจยาวๆออกมา แต่อิทสึกิก็ยังคงมองโลกในแง่ดีอยู่ สีหน้าเขาไม่ได้มีความท้อแท้เลยแม้แต่น้อย “ใครหน้าไหนที่บังอาจจะมาขัดขวางความรักระหว่างฉันกับจี้ล่ะก็ฉันจะให้ม้าดีดให้หมดเลย” เขาเคยพูดเรื่องน่ากลัวแบบนี้มาก่อน
“ยังไงก็ตาม ฉันจะทำอะไรสักอย่างกับพ่อฉันเอง นายเถอะ ใช้ชีวิตให้อย่างถูกต้องเหมาะสมดีเถอะ?”
อิทสึกิยิ้มแล้วพูดขึ้น “ฉันรู้อยู่แล้วล่ะน่า ไม่ต้องให้นายมาบอกหรอก” อามาเนะตอบกลับด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย เขานึกได้ว่าคำพูดของอิทสึกินั้นเหมือนกับใครบางคน มันทำให้เขายิ้มเจื่อน
แต่ที่อิทสึกิมาบ้านของอามาเนะ…ไม่ใช่เพราะอยากจะมาตรวจสอบนิสัยการเป็นอยู่ของเขา แต่มาเพื่อเล่นเกมเท่านั้น การพูดเรื่องบ้านของอามาเนะจบลงแล้วพวกเขาก็เริ่มเล่นเกมกัน
พวกเขาควรจะเตรียมตัวสำหรับการสอบที่จะจัดขึ้นในอีกสัปดาห์ต่อไป แต่ก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัวพวกเขาก็กำลังเล่นวิดีโอเกมกันอยู่แล้ว
“เฮ้ ถ้านายใช้ไอเท็มฮีลพร่ำเพรื่อมันจะไม่พอทีหลังเอานะ”
“เดี๋ยวก็ทำอะไรสักอย่างได้แหละน่า”
“ไม่ๆ เลเวลมันจะไม่เพิ่มเอานะ แล้วมันจะไม่เป็นอะไรได้ยังไงเล่า…”
ในขณะที่อามาเนะกำลังเถียงกับอิทสิกิที่กำลังระเบิดความตื่นเต้นอย่างบ้าบออยู่นั้นเอง จู่ๆก็มีเสียงกริ่งจากทางเข้าดังขึ้นมา
“หืม? แขกงั้นหรอ?”
อิทสึกิหยุดเกมชั่วคราว หน้าเมนูเกมแสดงขึ้นมา แล้วเขาก็หันหน้าขึ้น
เขารู้ว่าอามาเนะแทบจะไม่ได้บอกให้ใครรู้เกี่ยวกับที่อยู่ของเขาเลย และแทบจะไม่มีเพื่อนคนไหนมาเยี่ยมเช่นกัน และถึงแม้ว่าจะมา พวกเขาก็จะติดอยู่ที่ทางเข้าอพาร์ตเม้นต์ แล้วกดลำโพงเรียกแทน
[TL note : คนนอกเข้าตึกไม่ได้น่ะ ถ้าไม่มีคนเปิดให้]
“ไม่รู้สิ เพื่อนบ้านล่ะมั้ง? อาจจะมีข่าวอะไรสักอย่างที่บอร์ดประกาศล่ะมั้ง”
“เข้าใจล่ะ”
“เดี๋ยวฉันไปเช็คแปปนะ”
อิสึกิโดนหลอกอย่างแนบเนียนในขณะที่เขาพยายามดึงหน้าไว้อยู่ แล้วรีบเดินไปที่ประตู
โชคดีที่เธอไม่ได้ส่งเสียงเรียกหลังจากกดกริ่ง
เขาเปิดประตูโดยไม่ต้องเช็ค เขาเปิดประตูออกเพียงเล็กน้อยแล้วลอดตัวออกไปเพื่อบังไม่ให้เห็น จากนั้นก็รีบปิดประตูอย่างรวดเร็ว
ตามที่คาดไว้ มาฮิรุอยู่ที่หน้าประตู เธอกระพริบตาปริบๆ ขณะที่มองไปที่อามาเนะที่ดูผิดปกติ “ชู่…” อามาเนะยกนิ้วชี้มาไว้ที่ปาก
“…เบาๆหน่อยนะ อิทสึกิอยู่ในห้องของฉันน่ะ”
“อิสึกิ?”
“เพื่อนฉันเอง เขามาเล่นน่ะ”
“อย่างงี้นี่เอง”
เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงทำท่าทางลับๆล่อๆ เธอพยักหน้าแล้วไม่ซักไซร้ต่อ เธอยื่นกล่องอาหารให้เขาตามปกติ
ดูเหมือนว่าเธอจะเตรียมไว้ตั้งแต่ตอนเช้า ข้างในนั้นคือโอเด้ง มันเป็นเมนูที่เหมาะสุดๆกับหน้าหนาวแบบนี้
อามาเนะรับกล่องอาหารมาอย่างขอบคุณ แล้วถอนหายใจออกมาขณะที่มองไปที่มาฮิรุผู้ที่ส่งให้โดยไม่มีความสงสัยใดๆ
“…ไม่หรอก ฉันแค่รู้สึกขอบคุณที่เธอคอยดูแลฉันมาตลอด แต่ฉันไม่มีโอกาสได้ตอบแทนบ้างเลย ขอโทษนะ”
“ฉันไม่ได้ทำเพื่ออยากได้คำขอบคุณหรอกค่ะ…แต่ดีแล้วล่ะที่ห้องของคุณดีพอจะเชิญเพื่อนมาได้แล้ว”
“ให้ฉันได้ตอบแทนเธอได้ไหม?”
“ไม่หรอกค่ะ โปรดอย่าเลย”
“อย่าทำให้ฉันดูเหมือนผู้หญิงไม่ดีเลย” เธอมองด้วยสายตาตำหนิ และอามาเนะทำได้แค่ยิ้มเจื่อน
เขาเป็นหนี้เธอจริงๆ ดังนั้นเขาจึงจริงจังกับสิ่งที่เขาพูด เธอได้ดูแลเขามามากจริงๆ ขนาดที่ว่าต่อให้ก้มกราบขอบคุณก็คงไม่พอ
เธอนำอาหารเย็นมาให้เขาอย่างสม่ำเสมอและเพียงพอ และเขาเสียใจที่เขากลายเป็นแค่ปลิง ดังนั้นเขาจึงหาโอกาสที่จะคุยกันเรื่องเงินค่าอาหาร
“…ในเมื่อเพื่อนคุณอยู่ที่นี่ ฉันก็จะไม่รบกวนคุณนาน ขอตัวก่อนนะคะ”
“…ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือนะ ฉันจะไม่บอกกับอิทสึกิเกี่ยวกับเรื่องเธอ”
“โปรดทำอย่างนั้นแหละค่ะ”
“เอาเถอะ ถึงฉันบอก หมอนั่นก็คงไม่เชื่อหรอก”
“ก็คงงั้นค่ะ”
อามาเนะรู้สึกซับซ้อนเมื่อเธอเห็นพ้อง บอกตามตรงว่าถ้าอามาเนะอยู่ในจุดเดียวกับอิทสึกิก็คงไม่เชื่อเมื่อมีคนบอกว่าได้กินอาหารจากชีนะ เขาคงคิดว่าอามาเนะเพ้อเจ้อแน่ๆ
ท้ายที่สุดแล้วเทพธิดาก็จะเป็นดอกไม้ที่อยู่ในที่ที่ไม่ควร
มันจะเป็นอีกเรื่องถ้าเขาเป็นคนหล่อและมีพรสวรรค์ แต่มันคงเป็นไปไม่ได้สำหรับคนขี้เกียจและไร้ประโยชน์แบบเขาที่ให้เธอทำอาหารให้เขา
“…ขอถามอะไรอย่างสิ?”
“อะไรงั้นหรอคะ?”
“เธอจะได้อะไรจากการทำอาหารให้ฉันทุกวันล่ะ?”
โดยปกติแล้วมันไม่เป็นไปได้เลยสำหรับการเสียแรงกับค่าอาหารฟรีๆแบบนี้ อามาเนะก็คงไม่ทำแบบนั้นหากเขาเป็นเธอ เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะมีโอกาสสักหนึ่งในล้านที่เธอจะชอบเขา มันทำให้ความอยากรู้ของเขาเพิ่มมากขึ้น
เธอเงยหน้าขึ้นหลังจากครุ่นคิด “แค่ความพอใจส่วนตัวค่ะ” เธอพูดโดยไม่ได้เปลี่ยนท่าทางเลย
“มันไม่ได้ยากอะไรหรอกค่ะ มันเป็นเรื่องง่ายๆสำหรับฉันที่ทำอาหารส่วนของแค่สองคน แล้วฉันก็ชอบทำอะไรให้กับผู้อื่นค่ะ”
“หรือก็คือเธอชอบทำอาหารงั้นหรอ?”
“นั่นก็อาจจะเป็นเหตุผลนึงค่ะ ฉันรู้สึกโล่งอกที่คุณไม่ได้มีความเข้าใจผิดแปลกๆ แล้วยังพูดออกมาตรงๆตามที่คิด ฉันแค่กังวลเมื่อเห็นสิ่งที่คุณกิน ดังนั้นฉันจึงทำเพื่อความพอใจส่วนตัวค่ะ”
“…อย่างงั้นหรอ?”
“แน่นอนค่ะ คุณไม่ต้องใส่ใจเรื่องนั้นหรอก คิดเสียว่าเป็นโชคลาภที่ตกมาจากฟ้า”
“ก็ได้ ก็ได้”
ดูเหมือนว่ามาฮิรุไม่มีอะไรจะพูดต่ออีก “ขอตัวค่ะ” เธอโค้งคำนับแล้วกลับไปที่ห้องของตัวเอง
(…มันจะเป็นแบบนั้นจริงๆหรอ?)
อามาเนะคิดว่าเหตุผลมันไม่พอสำหรับอาหารเย็นฟรีๆเลย เขาพึมพำในขณะที่หันกลับเข้าข้างใน
“ใครงั้นหรอ?”
“แค่เพื่อนบ้านที่มาแบ่งอาหารให้น่ะ ฉันจะเอาไปเก็บก่อน อย่าเพิ่งกดเริ่มก่อนฉันล่ะ”
“อ๊ะ โทษที ฉันจัดการบอสไปแล้วล่ะ”
“เฮ้ย เดี๋ยวดิ อย่ามาล้อกันเล่นนะ”
*———-จบตอน———-*
TL : หายไปซะนานเลยครับ ฮ่าๆ ลงแต่มังงะง่ายๆไปแทน แต่งานก็ยังมาเรื่อยๆเลยครับช่วงนี้ อาจารย์ขยันสั่งจริงๆ ฮึ่ยยย ไม่แน่ใจว่าตอนไหน แต่ถ้างานเบาลงแล้วจะกลับมาอัพเหมือนเดิมนะครับ ช่วงนี้ก็อาจจะมีมังงะสั้นๆมาลงแทรกแก้เพจเหงาบ้างเล็กน้อยครับ
**แปลจากอิ้ง เทียบยุ่นนิดหน่อย แปลผิดยังไงก็ขออภัยนะครับ มือใหม่แปล อาจจะมีผิดบ้างทักท้วงกันได้นะครับ
นี่เป็นเวอร์ชั่น WN (เว็บโนเวล) อาจจะมีบางส่วนที่ต่างกับแบบเล่มอยู่บ้างนะครับ แต่ก็ยังคงความหวานไว้เช่นเคย
อย่าลืมกดไลก์และกดติดตามเพจเพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยนะครับ ที่เพจลงล่วงหน้า 1 ตอนนะครับ
เพจ แปลแบบคนเหงาและง่วง
Recommended Series
Comment
Facebook Comment