บทที่ 1 ตอนที่ 11
เช้าวันถัดมา มิมิโนะซังกับน็อนซังก็เข้ามาใน ”ห้องพักฝั่งผู้ชาย” มันก็ปกติใช่ไหมละที่ผมจะมองหน้าพวกเธอไม่ติดหลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนหน่ะ?
「นี่ๆ เรย์จิคุง! ลองนี่หน่อยสิ!」มิมิโนะซังจับใบหน้าของผมให้หันไปทางเธอโดยไม่สนใจความอายของผม
(อาา… สงสัยจังว่าจะใช้เวลาถักเปียใหม่เท่าไหร่กันนะหลังจากที่เราอาบน้ำด้วยกันเมื่อวาน อาา ผิวของเธอเองก็เรียบเนียนดีจริงๆเหมือนกันนะ…)
「เรย์จิคุง?」
「มะ-ไม่มีอะไรครับ! ว่าแต่นั่นอะไรหรอครับ?」
(นี่ไม่ใช่เวลามามัวรื้อฟื้นความจำนะ! แต่ว่า ผมจำมันได้ทุกระเบียบนิ้วเลยนะสิ ถามว่ามันกระตุ้นขนาดนั้นเลยหรอ? …คำตอบก็คือ ใช่แล้ว!)
มิมิโนะซังนั้นถือขวดโหลใบเล็กๆอยู่บนมือของเธอ เมื่อเธอดึงฝาขวดออก มันก็ส่งกลิ่นบางอย่างที่เหมือนกับหญ้าต้มออกมา
「อุ๊ก อะไรวะนั่น? อย่าเอาของแปลกๆเข้ามาในห้องตั้งแต่เช้าตรู่แบบนี้สิฟะ」
「หุบปากไปเลย มันจะต้องใช้เวลาสักพักถ้านายไม่ชอบละก็ออกไปซะสิ」
「ชิ」
ไรเครียซังออกไปจากห้องพักในขณะที่บ่นพึมพำออกมา แต่ผมรู้แล้วว่าอะไรอยู่ในขวดโหลใบนั้น ถ้าจะพูดให้ชัดเจนละก็【World Ruler】บอกข้อมูลให้กับผมมา
「นี้มัน… สีย้อมงั้นหรอครับ?」
「ใช่แล้วละ! ถ้าใช้มันย้อมผมของเธอละก็ ผมของเธอจะไม่เป็นสีดำแล้วไง ดังนั้น เอออ เธอจะลองดูไหม?」
เธอคงจะคิดว่าผมสีดำอาจจะเป็นเอกลักษณ์สำหรับของตัวผม เธอคงจะใส่ใจเรื่องผมของผมมากจากการที่เธอเองก็มีผมเปียที่ถักอย่างประนีตด้วยละนะ
ยังไงก็ตาม การย้อมผมในญี่ปุ่นถือเป็นเรื่องปกติและตัวผมเองก็อยากจะย้อมดูอยู่แล้ว แต่ในตอนนั้นผมคิดว่ามันดูไม่เข้ากันกับตัวผมก็เลยยังไม่ได้ย้อม ดังนั้น ถ้าผมสามารถย้อมมันในตอนนี้ได้ละก็
「ผมจะทำมันครับ!」
「ว้าว วันนี้เรย์จิคุงดูจะกระตือรือร้นดีนะเนี้ย」
「มิมิโนะซังทำมาให้ผมโดยเฉพาะเลยใช่ไหมละครับ? งั้นผมจะทำมันแน่นอน ผมไม่ได้สนใจผมสีดำของผมอยู่แล้วด้วย」
「อย่างงั้นหรอ อืม ชั้นเองก็ยินดีนะ」
มิมิโนะซังกอดผมแน่นๆแล้วลูบหัวของผม มันก็น่าอายนิดหน่อยที่ทำแบบนี้ในที่สาธารณะ แต่ผมไม่สามารถพูดแบบนั้นออกไปได้ มันก็มีคำถามที่ว่า “งั้นมันไม่เป็นไรงั้นหรอที่จะทำแบบนี้ในที่ลับตาคน” พุดขึ้นมา เรื่องนั้นเอาไว้คิดที่หลังแล้วกัน
30 นาทีหลังจากนั้น
「–โอ้ววว ตอนนี้ผมของเธอดูดีแล้ว~」
「มะ-มันไม่ดูแปลกยังงั้นหรอครับ?」
「ไม่เลย สีผมของเธอเข้ากับของชั้นเลยละ!」
ผมของผมกลายเป็นสีบอร์นแล้ว สีหลักเป็นสีทองแซมไปด้วยสีส้ม มันเป็นสีที่สดใสกว่าของมิมิโนะซังที่เป็นสีอำพัน แต่ตอนที่เธอพูดว่า “เข้ากันกับของขั้นเลย” ทำให้ผมอยากจะตอบกับไปว่า “ครับ เข้ากันจริงๆด้วย” เลย เสน่ห์ของมิมิโนะซังนี้น่ากลัวจริงๆ
แล้วก็ดูเหมือนว่าจะต้องใช้น้ำที่เป็นกรดในการทำสีย้อมนี้ อต่สกิล【สะดวกสบาย】ที่สร้างได้แต่น้ำสะอาดนั้นสร้างมันไม่ได้ เธอจึงใช้น้ำกรดที่ได้จากบ่อน้ำพุร้อนที่เป็นกรดแทน
「อืมม นี้มันก็ดีเลยไม่ใช่รึ เธอจะไม่ค่อยตกเป็นเป้าสายตาถ้ามีแค่ตาที่เป็นสีดำหน่ะ」
「น่ารักมากเลยละ」
คู่พ่อลูก ดันเต้ซังกับน็อนซังแสดงความคิดเห็นออกมา
เมื่อเราออกมาจากโรงแรม ไรเครียซังที่กำลังเคี้ยวกิ่งไม้อยู่ที่ม้านั่งก็มองมาที่ผมที่เดินออกมา เขามีสีหน้าตกใจไปสักพัก แต่หลังจากนั้นจมูกของเขาก็เริ่มได้กลิ่นบางอย่างจนเขาพูดออกมาว่า “อุ๊ก กลิ่นสีย้อมมัน… เอาเถอะ ก็ดูไม่แย่เท่าไหร่นี้” พูดบางอย่างดีๆต่อท้ายแบบนี้ ผมสงสัยจริงๆว่าเขาจะพูดดีๆบ้างโดยไม่ซ่อนมันเอาไว้ได้ไหมนะ
หลังจากนั้น พวกเราก็เดินไปตามทางในเมืองหลวงของดยุกอเคนบาค
ในเช้านี้มีผู้คนมากมายเดินไปมาบนถนน
เมืองนี้ตั้งอยู่บริเวณภาคเหนือของทวีป ดังนั้นจะมีหิมะตกบ่อยๆในหน้าหนาว พูดแล้วก็นึกขึ้นได้ หิมะมักจะตกลงมาผ่านรูบนเพดานถ้ำในตอนที่ผมยังอยู่ในเหมือง ผมชอบลงไปในเหมืองลึกๆ ภายในเหมืองนั้นมักจะมีอุณหภูมิคงที่ เพราะแบบนั้นอากาศหนาวจึงไม่ค่อยรบกวนผมซักเท่าไหร่
「…เพราะหลังคาบ้านมันสะสมหิมะไว้เยอะหน่ะ」ดันเต้ซังพูด
หลังคาของบ้านหลายหลังจะมีความลาดชันสูงในด้านหนึ่ง ดูจะออกแบบเพิ่อไม่ให้มีหิมะสะสมไว้ละมั้ง
บ้านที่ทำจากหินหลายๆหลังนั้นมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม แต่ก็มีบางหลังที่เป็นทรงกลมอยู่เหมือนกัน
จะมีป้ายแแขวนอยู่หน้าอาคารที่เป็นร้านค้า ถ้าเป็นร้านที่เกี่ยวกับเนื้อละก็จะเป็นป้ายรูปสัตว์ ถ้า้ป็นรูปกรรไกรก็จะเป็นร้านเสื้อผ้า ถ้าเป็นรูปขวดโหลละก็… ขวดโหลงั้นหรอ?
「ป้ายขวดโหลตรงนั้นคืออะไรหรอครับ?」
「โอ๊ะ นั้นร้านขายสมุนไพรหน่ะ」
「มีเพียงแค่สมาชิกทั่วไปของกิลด์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรเท่านั้นที่จะติดป้ายนั้นได้ ชั้นเองก็เป็นสมาขิกเหมือนกัน ดังนั้นชั้นจะสามารถเปิดร้านแบบนั้นได้เหมือนกันนะ」
「…ผมอยากจะแวะร้านนั้นซักหน่อยหน่ะครับ」
「เอ๊ะ? อืมม… ได้สิ」
กลิ่นหอมสดชื่นที่เหมือนกับมิ้นต์ลอยออกมาต้อนรับในตอนที่ผมเดินเข้าไปในร้าน มีขวดโหลหลากหลายใบเรียงรายอยู่บนชั้นวางรวมถึงมีทั้งชื่อและราคาติดอยู่ โพชั่น ยาถ่ายพยาธิ ยาแก้อาการเจ็บหน้าอก ยาแก้ท้องผูก และอื่นๆอีกมากมาย เกือบทั้งหมดนั้นราคาอยู่ที่ 1 เหรียญเงิน หรือก็คือ 1000 เยน
「มองไม่เห็นข้างในเลยแห่ะ」
ขวดกระเบื้องนั้นปกติก็จะทึบแสงอยู่แล้ว พูดถึงแล้วก็นึกขึ้นมาได้ ผมแทบจะไม่เคยเห็นเครื่องเรือนที่ทำจากแก้วเลยในโลกนี้ หายากมากๆเลยที่จะเจอบ้านที่มีหน้าต้างบานกระจกติดอยู่ ส่วนใหญ่จะเป็นหน้าต่างไม้ที่ทำได้แค่เปิดหรือปิดเท่านั้น
「ถ้าอยากจะดูข้างในละก็เชิญได้เลยจ้ะหนูน้อย」หญิงสูงอายุท่าทางใจดีที่อยู่หลังเคาน์เตอร์พูดขึ้นมา
ผมตอบรับคำพูดของเธอแล้วเปิดฝาของขวดโหลเพื่อดูข้างใน บางขวดนั้นมีกลิ่นหวานและบางขวดก็มีกลิ่นฉุน
(วัตถุดิบ… วัตถุดิบ….)
ผมเช็คพวกมันกับ【World Ruler】ยาบางอันนั้นเป็นของปลอม พวกมันไม่ได้ส่งผลเหมือนกับชื่อของพวกมันเลย
“ยาชูกำลัง” …ผมรู้สึกสงสารเหล่าชายชาตรีที่ซื้อมันไปเป็นทางเลือกสุดท้ายจริงๆ มัยเป็นยาพิษอ่อนๆที่จะทำให้รู้สึกหิวเท่านั้นและไม่ได้เพิ่มกำลังวังชาอย่างที่ได้เขียนเอาไว้เลย
ท้ายที่สุดผมก็ออกจากร้านโดยที่ไม่พบสิ่งที่ผมตามหาเลย
「ใช้เวลานานจังนะ แกมันทำอะไรอยู่กัน?」
ไรเครียซังที่เกลียดกลิ่นที่รุณแรงนั้นก็รอพวกเราอยู่ข้างนอก พวกเรารวมตัวกันแล้วมุ่งหน้าไปยังกิลด์นักพจญภัยอีกครั้ง
「เธอหาอะไรอยู่หรอ เรย์จิคุง?」มิมิโนะซังถามออกมา
「เออ… ผมสงสัยว่ามันจะมีอะไรที่ลบรอยสักนี้ได้มั่งหน่ะครับ」
「อ้าา~」
มิมิโนะซังพยักหน้า แต่จริงๆแล้วที่ผมบอกเธอไปนั้นเป็นเรื่องโกหก อืม ไม่สิ มันก็ไม่ได้โกหกไปซะหมดหรอกเพราะว่าผมเองก็คิดจะลบรอยสักนี้อยู่แล้ว ต้องขอบคุณที่ผมใช้ใบจิงจูฉ่ายมาเรื่อยๆละนะ รอยสักของผมถึงได้จางไปแล้ว… คิดว่านะ
สิ่งที่ผมตามหาจริงๆคือวัตถุดิบสำหรับลบล้างคำสาปของดันเต้ซังต่างหาก
ตามที่【World Ruler】บอกเอาไว้ว่ามันสามารถลบล้างได้โดยวัตถุดิบ 3 อย่าง ไม่ต้องพึ่งเวทย์รักษาหรือเวทมนตร์ลึกลับเลย
「มิมิโนะซัง คุณรู้จักร้านขายสมุนไพรไหนที่มีสินค้าเยอะๆไหมครับ?」
「ที่ไหนมันก็เหมือนกันหมดนั้นแหล่ะนะ」
「ว่ายังไงนะครับ?」
「เพราะพวกนั้นลงทะเบียนกับทางกิลด์ผู้เชี่ยวชาญสมุนไพรยังไงหล่ะ พวกเขาจะขายเฉพาะสินค้าที่ทางกิลด์อนุมัติเท่านั้นแหล่ะ」
「อา… งั้นหรอครับ」
มันคงจะคล้ายๆกับระบบลิขสิทธิ์ละมั้ง ช่วยไม่ได้ละนะ
ขนาดคนซื้อยังอยากจะซื้ออะไรที่มันได้ผลชัดเจนละนะ… ถึงยาชูกำลังนั้นจะเป็นของปลอมก็เถอะ
「เรย์จิคุง ยังมีที่อื่นที่ขายวัตถุดิบสำหรับทำยาอยู่นะ สนใจไหม?」
「ครับ สนใจครับ!」
มิมิโนะซังแนะนำกับผมในตอนที่ผมกำลังคิดว่าจะทำยังไงต่อไปดี และผมก็ตอบกลับไปโดยไม่แม้แต่จะคิดเลยสักนิด เธอแนะนำอีกว่าเราจะไปกันหลังจากขายวัตถุดิบที่กิลด์นักพจญภัยเสร็จแล้ว
กิลด์นักพจญภัย สถานที่สุดคลาสสิคในเกมแนวแฟนตาซีและนิยายแนวเกิดใหม่ต่างโลก
「ถนนเส้นนี้นี่คับคั่งจริงๆนะ…」
พวกเราแวะซื้อแซนวิชมาจากร้านแผงลอยข้างทางเป็นอาหารเช้า และถามทางไปยังกิลด์นักพจญภัย เนื่องจากโรงแรมที่เราจองไว้นั้นเราจองแบบไม่รวมมื้ออาหาร ดังนั้นจึงไม่มีอาหารเช้าให้
ขณะที่ผมกำลังเคี้ยวแซนวิชแฮมแสนอร่อยอยู่ – ถึงไอ้สิ่งที่มีรสชาติหวานๆเหมือนแยมนี้จะยอมรับไม่ได้ด็เถอะ – และเดินไปข้างหน้าอย่างเหม่อเลย อยู่ดีๆดันเต้ซังก็ส่งสัญญาณมือให้ทุกคนหยุด
บนถนนหลักที่เรากำลังจะข้ามไปนั้นกว้างมาก – ขนาดที่ให้รถยนตร์ประมาณ 4 คันขับผ่านพร้อมกันได้เลย – และตรงนั้นเองที่มีความโกลาหลบางอย่างเกิดขึ้น
「พวกนั้นมัน ทหาร…? พวกมันกำลังเคลื่อนกำลังพล?」
「หืมม มีบางอย่างเกิดขึ้น」
ไรเครียซังกับดันเต้ซังที่ตัวสูงกว่าผู้คนทั่วไปนั้นพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นบนถนนหลัก
「ข้างหน้ามีคนเยอะมากกว่า 100 คนเลย ดูเหมือนเราจะข้ามถนนไปไม่ได้แล้ว ไปทางตรอกด้านหลังดีกว่า」
「เกิดอะไรขึ้นหรอ?」มิมิโนะซังถาม
「ไม่รู้สิ… บางทีพวกนั้นอาจจะเจอรังโจรเข้าก็ได้ ถ้าไม่ใช่ก็อาจจะมีเหตุชุลมุนกันที่ชายแดนก็ได้… หรือไม่ก็… มีมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ปรากฏตัวออกมา」
「!」
ผมตัวผงะจากคำพูดสุดท้ายของดันเต้ซัง
เงาของนกสีดำขนาดใหญ่ที่ผมเห็นในคืนนั้นหลังจากที่ผมออกมาจากเหมือง ถ้ามันมีบางอย่างอยู่ที่เหมืองแห่งนั้นละ?
มีเพียงแค่ 8 แห่งบนโลกเท่านั้นที่จะสามารถค้นพบหินสกิลได้
ถ้าจะให้พูดกลับกันละก็ หินสกิลที่ใช้ในการขับเคลื่อนโลกใบนี้นั้นหาได้จากแค่สถานที่ 8 แห่งนั้นเท่านั้น เสียไปเพียงแค่หนึ่งแห่งก็ถือว่าร้ายแรงแล้ว
(ถ้าแค่เรื่องผมหนีออกมาจากเหมืองละก็ พวกนั้นก็แค่หาทาสคนมาแทนที่หรือไม่ก็รับนักพจญภัยเพิ่มก็เท่านั้น แต่การต้องให้กองทัพเคลื่อนไหวแบบนี้ละก็ ต้องเป็นเพราะ “นก” ตัวนั้นแน่ๆเลย…)