บทที่ 1 ตอนที่ 18
ร่างกายของผมรู้สึกสั่นสะท้าน คงเป็นเพราะผมเรียนรู้หลายสกิลเกินไป
ร่างกายของผมกระตุก หัวของผมทั้งรู้สึกโล่งและร้อนในเวลาเดียวกัน บางทีผมคงจะได้เรียนสกิลประเภทเสริมความสามารถของสมองก็เป็นได้ ตัวอย่างเช่นสกิล【เสริมการคำนวณ】หรือสกิล【เสริมความจำ】ที่เป็นสกิลที่อยู่ในหมวดหมู่สกิล “ประเภทสติปัญญา”
ผมลองนึกถึงการต่อสู้ที่ผมเห็นมาจากลานฝึกซ้อม
…อืม ไม่ต้องสงสัยเลย ความทรงจำของผมมันชัดเจนมาก เดี๋ยวก่อนนะ ผมจำได้แม้กระทั่งคืนที่ผมนอนบนต้นไม้เลย บางทีหรือว่าจะเป็นความสามารถในการจดจำสมบูรณ์แบบหรือปล่าว?
(ไม่ว่าจะคิดยังไง มันต้องเป็นความสามารถของ【World Ruler】แน่ๆ…)
เป็นอีกครั้งแล้วที่ผมรู้ถึงความสุดยอดของสกิล 10 ดาว มันรู้สึกเหมือนกับ “ผมคงจะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้แล้วถ้าขาดWorld Rulerไป” เลย ผมรู้สึกสับสนไปหมดและร่างกายของผมก็ยังคงสั่นอยู่
เพราะแบบนั้น ผมเลยถูกมิมิโนะซังถามบ่อยๆว่า「เธอเป็นอะไรรึปล่าว? เป็นหวัดหรอ?」ในตอนที่ผมทานข้าวเย็น ผมไม่ได้สนใจเลยว่าผมกินอะไรเข้าไป แต่เมื่อผมรู้ว่ามันกลับถูกบันทึกอยู่ในความทรงจำของผมอย่างสมบูรณ์แบบ ผมก็ตัวสั่นขึ้นมาอีกครั้ง
…ผมอยากจะเข้านอนแล้ว
「โจเซฟชวนข้าให้ไปหา ดังนั้นข้าจะออกไปสักพักนะ」
「…โจเซฟซังงั้นหรอครับ?」
「ใช่แล้ว เขาบอกว่าตัวเขานั้นเลิกเป็นนักพจญภัยแล้ว ตอนนี้เขาถูกกิลด์จ้างให้เป็นครูฝึกเด็กใหม่ ดูเหมือนจะรู้สึกเหงาก็เลยอยากจะคุยกับเพื่อนเก่าหน่ะ แล้วเจอกันนะ」ดันเต้ซังตอบก่อนจะเดินออกไป การเคลื่อนไหวของเขาค่อนข้างหนักแน่นเลย
…เขาคงจะชอบแอลกอฮอล์จริงๆสินะ
「…ไปนอนได้แล้ว เรย์จิ แกดูเหนื่อยมาก」ไรเครียซังพูดขึ้น
「ครับ……」
หลังจากที่ผมพูดแบบนั้น ผมก็หลับไปเลย ดูเหมือนร่างกายของผมคงอยากจะพักจริงๆ
ผมตื่นขึ้นมาในห้องที่มืดมิด ก่อนที่ประตูห้องกำลังจะปิดพอดี
…หะ? โอ้ ใช่ ผมหลับไปนี่นา
จากเตียงข้างๆ ผมได้ยินเสียงของดันเต้ซังกรนออกมา
…อุ๊ก กลิ่นเหล้าหึ่งเลย เขาดื่มไปเท่าไหร่กันเนี้ย?
…หมายความว่า คนที่ออกไปเมื่อกี้คือไรเครียซังสินะ?
ผมมองไปรอบๆ เตียงของไรเครียซังนั้นว่างเปล่า แสงจันทร์ลอดผ่านรูที่หน้าต่างบงบอกถึงว่าเป็นช่วงเวลากลางคืน
(เขาไปไหนในเวลากลางดึกแบบนี้กัน? ห้องน้ำหรอ?)
แต่ไม่ว่าผมจะรอนานแค่ไหน ไรเครียซังก็ไม่กลับมา
(ถ้าจำไม่ผิด ตอนบ่ายเขาก็ทำตัวแปลกไปนี่…)
ไรเครียซังนั้นเป็นคนที่เดาใจยากอยู่แล้ว แต่วันนี้เหมือนกับสติของเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยด้วยซ้ำ เหมือนกับในตอนที่เขาบอกจะไปงีบ ทว่ากลับพบเขาที่ลานฝึกซ้อมซะงั้น
ผมก้าวออกมาจากห้องด้วยความรู้สึกที่ไม่ดี ผมลองใช้สกิล【ทักษะการวิ่ง】เพื่อไม่ให้เกิดเสียง มันทำงานได้ดีจริงๆ! สกิล【ทักษะการวิ่ง】นั้นจะดูดพลังกายอย่างรวดเร็ว แต่แลกกับการลบเสียงฝีเท้าและพุ่งตัวได้รวดเร็วขึ้นชั่วคราว มันสะดวกมากเลยหล่ะ
ไม่มีคนอยู่ตรงระเบียงทางเดิน ไม่แม้กระทั่งล็อบบี้ทางเข้า
ประตูหน้าถูกแง้มไว้เล็กน้อย
…เขาออกไปข้างนอกงั้นหรอ?
ขณะที่ผมกำลังจะถึงประตู ผมก็ได้ยินเสียงบางอย่าง
「…แค่นี้ก็พอแล้วใช่ไหม?」
「หึหึ… ขอบคุณนะครับ หัวหน้า ไว้จะใช้บริการใหม่นะครับ」
「…พอได้แล้ว!」
「…ท่านแน่ใจงั้นหรอครับ? กระผมอาจจะหลุดปากพูดเรื่องที่ท่านอยู่ตรงนี้ก็ได้นะครับ」
「……หาาา?」
「…ขะ-ขออภัยครับ กะ-กระผมแค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง งั้น กระผมขอตัว」
เมื่อผมแอบมองออกไป ไรเครียซังกำลังคุยกับใครบางคนที่สวมฮู้ดสีดำ เขายื่นถุงหนังที่ส่งเสียงก้องแก้งให้กับคนๆนั้น (โอ้ว【เสริมการได้ยิน】นี้มันสุดยอดจริงๆ) มั่นใจได้ว่านั่นต้องเป็นเงินอย่างแน่นอน
(ใครกันหน่ะ? ไรเครียซังโดนข่มขู่งั้นหรอ หรือเขาเป็นคนขู่เอง…? ไม่สิ เขาจะให้เงินกับคนที่เขาข่มขู่ไปทำไมกัน?)
เมื่อคนๆนั้นกำลังจะจากไป สกิล【เสริมการมองเห็น】ของผมทำให้เห็นถึงใบหน้าที่มีขนจำนวณมากของเขา เขาเป็นมนุษย์สัตว์นี้เอง
(อ้า! ไรเครียซังกำลังมาทางนี้แล้ว!)
ผมใช้งานสกิล【ทักษะการวิ่ง】อย่างเต็มที่เพื่อลบเสียงฝีเท้าแล้วเข้าไปแอบอยู่หลังโต๊ะเล็กๆบริเวณเคาน์เตอร์
ไรเครียซังเดินเข้ามาข้างใน—แล้วก็ถอนหายใจ
「…เรย์จิ ออกมา」
เขาจับได้!!!
「ข้ารู้ว่าแกอยู่ตรงนั้น ข้ามีสกิล【เสริมการดมกลิ่น】」
「…อา ไรเครียซัง? คุณมาทำอะไรกลางดึกแบบนี้หรอครับ? ผมแค่จะออกมาเข้าห้องน้ำเท่านั้นเอง ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริงที่กระเพาะปัสสาวะจะเล็กลงเมื่ออายุเยอะขึ้นสินะครับ อืม งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ」
「เดี๋ยวก่อน」
เขาจับหลังคอของผมเมื่อผมพยายามจะหนี
「ที่อายุเยอะมันหมายความว่ายังไง แกอายุแค่ 10 ขวบเองนะ!」
「ไม่ คือผมหมายถึง เออ อะฮาฮา…」
「…แกแอบดูอยู่งั้นเรอะ?」
「………」
เมื่อผมเอาแต่เงียบ ไรเครียซังก็เดาะลิ้นก่อนจะปล่อยผม
「…มากับข้า」
หลังจากนั้นผมก็ถูกพาตัวเข้าไปในเมือง
เมืองแห่งนี้ยังคงไม่หลับไหล — โรงแรมที่พวกเราพักกันอยู่นั้นตั้งอยู่บนถนนโรงแรมที่มีโรงแรมอยู่มากมายตั้งอยู่ “โรงแรม”หลายแห่งนั้นก็เป็นโรงเตี้ยมที่จะเปิดจนถึงเช้า สามารถเข้าไปพูดคุยและดื่มเหล้าด้วยกันกับเหล่าพี่สาวที่ทำงานอยู่ที่นั่นได้ – เป็นสถานที่ประเภทที่ผมจะสามารถ【วิ่ง】ขึ้น “บันไดสู่ผู้ใหญ่” โดยเพียงแค่เดินเข้าไป ความคึกคักของโรงเตี้ยมนั้นยังเล็ดลอดออกมาถึงถนนหลักเลย
หญิงสาวในชุดรัดรูปที่ยืนอยู่ใต้โคมไฟสีชมพูกำลังหลอกล่อคนที่เดินผ่านไปมา (เฉพาะผู้ชายนะ)
「เห็นผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงนั้นใช่ไหม เธอเป็นลูกครึ่งมนุษย์กับมนุษย์สัตว์」
「เอ๊ะ… งั้นหรอครับ?」
「แค่มองก็น่าจะรู้นะ ใช่ไหม?」
「ก็ไม่นะครับ?」
「เธอมีผมบนหัวเยอะมาก และซ่อนขนบางส่วนใต้ชุดนั่นอีกด้วย」
「ดูไม่เหมือนจะเป็นแบบนั้นเลยนะครับ?」
ผมไม่เห็นอย่างนั้นเลยสักนิด ผมเห็นเป็นแค่หญิงสาวธรรมดาเท่านั้นเอง
…โอ๊ะ เธอเห็นผมแล้วโบกมือให้ด้วย อะแห่ะๆ…
「ดีใจอะไรของแกกัน!」
「มะ-ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนี่ครับ ใช่ไหม…」
「ข้าก็คิดว่าแกชอบตัวเล็กๆแบบมิมิโนะซะอีก แล้วดูตอนนี้สิ หลงเสน่ห์ครึ่งมนุษย์สัตว์ซะแล้ว ไม่ซื่อสัตว์เอาซะเลย」
「อะไรนะครับ?! ไม่ใช่ซักหน่อยครับ แล้วอีกอย่าง ไม่ใช่คุณเองหรอครับที่ชอบมิมิโนะซังหน่ะ?」
「แกว่าไงนะ?! ไปเอาความคิดแบบนั้นมาจากไหนกัน!?」
ผมหมายถึงเขาถูก “เก็บ” ขึ้นมาโดยมิมิโนะซัง แถมยังมักจะทะเลาะกับเธอบ่อยๆ… เหมือนกับวัยรุ่นทะเลาะกันเลย ถ้าผมพูดแบบนี้ออกไป เขาก็คงโมโหแน่ๆเลยใช่ไหมละ? ผมเลยไม่พูดอะไรออกไป
「มิมิโนะนั้นไม่ใช่สำหรับข้า น็อนก็ด้วย ทั้งคู่ไม่ใช่สเปคของข้าเลยสักนิด」
「หะ? นี่สเปคของคุณสูงแค่ไหนกัน?」
มิมิโนะซังนั้นตัวเล็กแต่น่ารักสุดๆไปเลย น็อนซังก็ทั้งน่ารัก+เรียบร้อย+ไดนาไมต์ด้วยใช่ไหมละ? ที่ผมหมายถึงไดนาไมต์นั้นผมหมายถึงระเบิดที่ใช้ไนโตรกลีเซอรีนและอื่นๆต่างหาก ไม่ได้มีความหมายลึกซึ้งจริงๆนะ แถมเธอยังน่ากลัวด้วย
「พวกนั้นไม่ใช่สเปคข้าเลย เว้นแต่ว่าจะมีขนมากกว่านี้」
「!!」
เป็นการเปิดเผยที่มันอะไรกันนี้!
「ข้าไม่ได้ไม่ชอบยัยเตี้ยนั่นเพราะเป็นคน “ต่างเผ่าพันธ์ุ” หรอกนะ แกรู้ใช่ไหมว่าแขนของมิมิโนะมันเรียบเนียนแค่ไหนหน่ะ?」
「………」
ผมรู้ ผมเห็นมันในตอนอาบน้ำแล้ว…
อ้า! เป็นเพราะ【World Ruler】หรอกที่ผมจำรายละเอียดได้ทุกระเบียบนี้วในตอนนั้นเลย?! ซึ่งมันก็หมายความว่าผมจะไม่มีทางลืมเรื่องนี้ไปได้อีกเลย!!!
「…เฮ้ บางครั้งแกก็ก้มมองพื้นด้วยสีหน้าแปลกๆเหมือนกับตอนนี้เลย มันอะไรกันละนั่น? มีปัญหาอะไรกับพื้นรึไง? หรือเป็นความเชื่อหรืออะไรทำนองนั้น?」
「คุณไม่ต้องสนใจมันหรอกครับ อืม แล้วต้องขนประมาณไหนหรอครับคุณถึงจะชอบ?」
「อืม ตอนที่ข้าเอามือลูบหลังของนาง มันรู้สึกนุ่มและเรียบเนียนมาก เหมือนกับมือของข้าจะทะลุผ่านไปได้เลย– เดี๋ยวสิ! นี่แกให้ข้าพูดอะไรออกมากัน! น่าอายชะมัด!」
「โอ๊ะ เออ…」
ต่างคนต่างก็มีรสนิยมที่ต่างกันออกไปสินะ ผมเริ่มฉลาดขึ้นแล้ว
「…คนที่แกเห็นตอนนั้นหน่ะ เจ้านั้นไม่สามารถหาเงินในเมืองนี้ได้เลยแม้แต่เหรียญเดียว ดังนั้นข้าก็เลยช่วยนิดหน่อย」
พวกเรากลับเข้าเรื่องหลักกันแล้ว