[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit – บทที่1 ตอนที่ 23

บทที่ 1 ตอนที่ 23

 

「–โจเซฟนี่!」

 

「–“ดาบแสงที่ไม่มีวันดับ” โจเซฟ คนนั้นนะหรอ?!」

 

「–ไม่เห็นรู้เลยว่าจะมาเป็นครูฝึกที่นี่」

 

「–ชายร่างใหญ่ที่คุยกับโจเซฟนั่นเป็นใครกันนะ?」

 

ทั้งกิลด์ต่างส่งเสียงเฮฮาออกมา คงเป็นเพราะชื่อเสียงของโจเซฟซังละนะ โจเซฟซังเดินเข้ามาและลูบหัวของผม —「ข้าดื่มยาที่ดูเหมือนว่าเจ้าจะเป็นคนคิดค้นขึ้น ถ้าจำไม่ผิดมันเรียกว่าเรย์คอนสินะ?」เขาพูดขึ้นมา

 

…งั้นเขาก็ดื่มเรย์คอนเพื่อแก้อาการเมาค้างจริงๆสินะ?!

 

「เฮ้ รองหัวหน้า จากที่ได้ยินเรื่องราวของเจ้าหนูนี่ มั่นใจได้เลยว่ามีมังกรปรากฎตัวขึ้นที่เหมืองจริงๆ เมืองนี้ที่มีการป้องกันที่แข็งแกร่งกับมอนสเตอร์ภาคพื้น แต่กลับอ่อนแอกับมอนสเตอร์ที่บินบนฟ้า – ไม่ต้องพูดถึงว่ามันมังกรเลยด้วยซ้ำ สิ่งแรกที่จะต้องทำก็คืออพยพประชาชน เร็วเข้า ต้องรีบออกคำสั่งนี้กับพวกนักพจญภัยโดยเร็วแล้ว」

 

「…จะไม่ดีกว่างั้นรึที่จะสร้างแนวป้องกันบนกำแพงแล้วขับไล่มันออกไปหน่ะ?」

 

「อย่าโง่ไปหน่อยเลยหน่า มังกรหน่ะ อย่างน้อยๆก็มีขนาดใหญ่พอๆกับตึกกิลด์นี้เลยนะ ถึงยิงธนูไปก็มีแต่เด้งออกเท่านั้นแหล่ะ ยิ่งไปกว่านั้น ในหมู่คนที่อยู่ที่นี่ทั้งหมด มีใครบ้างที่มีสกิล 4 ดาวขึ้นไป?」

 

มีประมาณ 3 คนที่ยกมือขึ้น ถึงอย่างนั้น ก็ใช่ว่ามีสกิล 4 ดาวจะเก่งในด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น มันมีสกิลบางประเภทที่ทำให้สามารถใช้ทักษะหรือเวทมนตร์ได้หลากหลายอยู่ด้วยเหมือนกัน หนึ่งในนั้นก็คือสกิล【เวทมนตร์ 4 ธาตุ】อันเดียวกับที่ป้าโรงอาหารนั้นใช้… ผมสงสัยจังว่าป้าคนนั้น ตอนนี้ยังคงหลบหนีอยู่อีกรึปล่าวนะ?

 

【เวทมนตร์ 4 ธาตุ】เป็นสกิลที่ทำให้สามารถใช้เวทมนตร์ได้ 4 ธาตุ – ไฟ,ดิน,ลม,และน้ำ – และพลังของแต่ละธาตุที่ได้ก็จะเทียบเท่ากับสกิล 2 ดาวเช่น 【เวทย์ไฟ★★】.

 

「รองหัวหน้า นั่นแหล่ะว่าทำไมถึงหวังพึ่งพวกนักพจญภัยในการทำการป้องกันไม่ได้ ดังนั้น พวกเราควรช่วยนำทางผู้คนอพยพดีกว่า ต้องมีคนที่ช่วยโอกาสในช่วงคับขันแบบนี้แน่นอน เรื่องการป้องกันนั้นฝากไว้กับพวกทหารเอา」

 

「…พวกเราฝากไว้กับพวกทหารไม่ได้หรอก」

 

「ทำไมละ?」

 

「กองทัพหลักถูกส่งออกไปยึดเหมืองที่ 6 คืนแล้วนะสิ ตอนนี้เลยเหลือแค่ทหารเพียงหยิบมือในการป้องกันเมืองเพียงเท่านั้นเอง」

 

「เฮ้ย นี่มันท่าจะไม่ได้แล้วนะ」

 

ดูเหมือนโจเซฟซังจะไม่ได้คิดล่วงหน้าถึงเรื่องนี้เลย เขาเอามือเกาหัวพร้อมทั้งมองขึ้นไปบนเพดาน

 

「…ดูเหมือนว่าพวกเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องสู้ด้วยทุกอย่างที่มีแล้วสินะ」

 

จากนั้น เหล่านักพจญภัยต่างก็ร้องกันระงมออกมาประมาณว่า “ข้าไม่ไหวหรอก” “ข้ายังไม่เคยเห็นมังกรตัวเป็นๆมาก่อนเลยนะ” และอื่นๆอีกมากมาย

 

จากที่พูดคุยกันจึงสรุปได้ว่ามีเพียงนักพจญภัยที่อยู่ที่นี่เท่านั้นที่จะนับเป็นกำลังต่อสู้ได้ พวกเขามีชีวิตเป็นเดิมพันในการต่อสู้ครั้งนี้

 

ไม่น่าแปลกใจที่เหล่านักพจญภัยระดับต่ำๆจะรู้สึกกลัวกัน

 

「อืม เดี๋ยวก่อน รอเดี๋ยวก่อน」

 

ชายที่สวมเกราะโลหะสีแดงคุณภาพดียืนขึ้นพร้อมกับโบกมือทั้งสองข้าง

 

「คุณเป็น “ดาบแสงที่ไม่มีวันดับ” โจเซฟ คนที่เคยอยู่ระดับทองสินะ? ไม่รู้มาก่อนเลยว่าจะมาเป็นครูฝึกสอนที่นี่」

 

「แล้วนายละ?」

 

「ข้าชื่อ ออสการ์ หัวหน้าของปาร์ตี้ “ดาวนิรันดร์” อืม มีบางคนเรียกข้าว่า “ดาวหางสีแดง” บนท้องถนนอยู่เหมือนกัน เดือนที่แล้วทุกคนในปาร์ตี้ของข้าเลื่อนขึ้นเป็นระดับเงินกันหมดแล้ว」

 

ชายที่ชื่อออสการ์ยิ้มโชว์ฟันขาวออกมาอย่างน่าสงสัย ผมของเขามีสีแดงเช่นเดียวกับชุดเกราะของเขา มันมีสีเหมือนกับดวงอาทิตย์สีแดงฉานช่วงพระอาทิตย์ตกดิน บัตรกิลด์ของเขาห้อยอยู่บนคอแสดงให้ทุกคนเห็น สึของบัตรเป็นสีเงินเหมือนกับ “ระดับเงิน” ของเขา จากข้อมูลที่【World Ruler】แสดง ดูเหมือนว่ามันจะทำมาจากแร่เงินจริงๆ

 

…ขนาดชื่อ “ดาวนิรันดร์” ยังเหมือนกับลักษณะการตั้งชื่อที่เด็กประถมขอบตั้งเลย

 

ถึงอย่างนั้น มันก็ยังสุดยอดอยู่ดีที่เขากับคนในปาร์ตี้ของเขาทั้งหมดเป็นถึงระดับเงิน สมาชิกทีทั้งหมด 6 คน และหนึ่งในนั้นยังมีคนที่มีสกิล【เวทมนตร์ 4 ธาตุ】อีกด้วย เซ้นส์การตั้งชื่อมันไม่ได้เกี่ยวกับความสามารถที่แท้จริงสินะ

 

「–อะไรคือชื่อ “ดาวหางสีแดง” ละนั่น?」

 

「–ไม่รู้สิ มันคงเป็นชื่อที่ออสการ์ใช้เรียกตัวเองละมั้ง」

 

「–แต่ทำไมต้องเป็นดาวละ ตั้งตามดวงอาทิตย์ยังไม่ดีกว่าหรอ?」

 

แก้มของออสการ์กระตุกจากที่ได้ยินเรื่องที่พวกนักพจญภัยรอบๆซุบซิบกัน ดูเหมือนจะเป็นกรณี่ที่นักพจญภัยตั้งชื่อเล่นให้ตัวเองงั้นหรอ? ไม่แปลกใจที่เขาจะมีท่าทางขมขื่น

 

「มีปาร์ตี้ที่มีความสามารถแบบนี้อยู่ก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นแล้ว」

 

อย่างไรก็ตาม ดันเต้ซังก็ดูจะรู้สึกยินดีออกมาจากใจจริง มองไปที่ดันเต้ซังก็ทำให้ผมรู้ถึงจิตใจที่มืดมัวของตัวเองว่ามันมากแค่ไหน ไรเครียซัง คุณเองก็ต้องสำนึกผิดเหมือนกันนะ จังหวะที่ได้ยินชื่อ “ดาวนิรันดร์” คุณก็แอบหัวเราะอยู่ใช่ไหมละ?

 

「แล้วนายเป็นใครกัน? ดูเหมือนจะสนิทกับโจเซฟมากเลยนะ」

 

「…ร่างกายของข้าไม่อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์พร้อม ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องนับรวมข้า」

 

「พูดอะไรของแกกัน? มี “โล่ใหญ่สีเงิน” อยู่ด้วยจะช่วยเพิ่มโอกาสชนะให้พวกเราเลยนะ ข้าเห็นการเคลื่อนไหวของแกที่ลานฝึกซ้อมเมื่อวานแล้ว แกยังสู่ในแนวหน้าได้อยู่」

 

โจเซฟซังพูดชมดันเต้ซังออกมา ทว่าออสการ์กลับขมวดคิ้วอย่างเปิดเผย คงจะเป็นเพราะไม่พอใจที่ดันเต้ซังนั้นมีชื่อเล่นอยู่ด้วย

 

「เอาเถอะไม่เป็นไร นายบอกว่าร่างกายของนายยังไม่พร้อมงั้นสินะ? งั้น นายหมายความว่าไงว่าจะสู้กับมังกรนั่น ในเมื่อนายเองก็ยังไม่รู้ว่ามันจะมาทางไหนเลย? นายไม่เหมาะที่จะเป็นกำลังรบหรอก」

 

คำถามของออสการ์นั้นถูกต้อง เมืองนี้มันมีขนาดใหญ่มาก ถ้าพวกนักพจญภัยกระจัดกระจายกันไปกำลังรบก็จะลดลงไปด้วย

 

「เป็นคำถามที่ตอบยากเหมือนกันนะ ถ้าเรื่องที่เด็กคนนี้พูดเป็นความจริงละก็ มังกรนั่นก็สามารถโจมตีมาจากบนท้องฟ้าได้เหมือนกัน」โจเซฟซังตอบกลับไป

 

「นั่นแหล่ะ ที่ข้าอยากจะพูดก็คือว่ามันง่ายที่จะพูดเพื่อให้พวกเราออกไปตาย แต่ตัวข้าก็ไม่ได้อยากจะไปตายอย่างไร้ค่าซะหน่อย」

 

นักพจญภัยคนอื่นๆพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของออสการ์

 

อย่างไรก็ตาม คำพูดของโจเซฟซังทำให้ผมฉุกคิดได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง นี้ผมมองข้ามอะไรไปรึปล่าว?

 

「นี่รองหัวหน้า หัวหน้ากิลด์พูดว่ายังไงบ้าง? ทำไมเขาถึงไม่อยู่ที่นี่?」

 

「เขาถูกเรียกให้ไปพบจากท่านดยุคคนใหม่ในเช้าวันนี้」

 

「ดยุคคนใหม่? ทั้งๆที่ยังไม่ได้เก็บกู้ศพของท่านดยุคเลยนะ?」

 

「ไม่ต้องคำนึงถึงขั้นตอนหรอก ถ้าถูกเรียกตัวก็ต้องทำตาม ข้าส่งต่อข้อมูลที่ได้นี้ให้กับท่านดยุคคนใหม่เรียบร้อยแล้ว」

 

มันเป็นตอนกลางคืนที่ผมเห็นมังกรตัวนั้น มันไกลมากจนผมเห็นเป็นเพียงแค่เงาดำๆเพียงเท่านั้น ผมมั่นใจว่ามังกรตัวนั้นต้องไม่เห็นตัวผมอย่างแน่นอน

 

มองย้อนกลับไป เสียงกึกก้องที่ผมได้ยินในตอนที่ยังอยู่ในเหมืองนั้นอาจจะเป็นเพราะมังกรก็เป็นได้

 

「…ใช่แล้ว」

 

การโจมตีที่มังกรตัวนั้นยิงดูจะตกอยู่รอบๆบริเวณเหมือง อย่างน้อยๆก็ไม่มีร่องรอยการโจมตีของมังกรกับเมืองที่ผมเคยผ่านมาเลย ป่าก็ไม่ได้ถูกทำลายด้วยเหมือนกัน

 

ถึงอย่างงั้น ทำไมมังกรตัวนั้นถึงเล็งมาที่เมืองนี้กันละ?

 

「…ดันเต้ซัง ผมว่ามันแปลกนะครับ」

 

「เป็นอะไรไป เรย์จิ?」

 

「 “มังกรกำลังบินมาที่เมืองนี้” เป็นข้อมูลที่พวกเราได้รับ ถ้าข้อมูลนั้นถูกต้องละก็ มังกรตัวนั้นรู้ตำแหน่งของเมืองนี้ได้ยังไงครับ – หรือจะพูดให้ถูกก็คือ มันรู้ได้ยังไงว่าการโจมตีเมืองนี้จะทำให้เกิดความเสียหายให้กับมนุษย์ได้ดีที่สุด และรู้ตำแหน่งของเมืองนี้ได้ยังไงกันครับ?」

 

「…หืมม? เธอหมายความว่ายังไงกัน?」

 

「ว่ากันง่ายๆก็คือ มังกรมันหาตำแหน่งของเมืองได้ยังไงกันครับ? อย่างน้อยๆ ในอดีตมันก็ไม่มีบันทึกการค้นพบมังกรในบริเวณนี้ใช่ไหมครับ? แล้วมังกรที่หลับไหลอยู่ใต้เหมืองมันไม่มีทางที่จะบินขึ้นไปบนฟ้าแล้วรู้ตำแหน่งของเมืองนี้ในทันทีได้ ใช่ไหมละครับ?」

 

「…」ดันเต้ซังเริ่มครุ่นคิดอย่างเงียบๆ

 

มันมีระยะห่างระหว่างเมืองนี้กับเหมืองนั้นค่อนข้างไกลอยู่ ผมไม่รู้หลักการทำงานของเวทย์สื่อสารหรอก แต่ผมเดาว่ามันอาจจะเหมือนกับอีเมลหรือรหัสมอร์ส คนที่ส่งข้อความมาต้องมั่นใจว่ามังกรตัวนั้นกำลังมุ่งหน้ามาที่เมืองนี้ – ต้องมีบางอย่างที่ทำให้คนๆนั้นมั่นใจอย่างมากว่า “มังกรกำลังมุ่งหน้าไปที่เมือง”

 

พูดอีกอย่างก็คือ มังกรตัวนั้นต้องมีสติปัญญาอย่างแน่นอน

 

「เรย์จิ ที่เธอพยายามจะบอกก็คือ… ว่ามังกรตัวนั้นมีอะไรบางอย่างที่คล้ายกับอวัยวะสำหรับตรวจจับและมีความสามารถในการค้นหาที่ที่มีมนุษย์อยู่กันเยอะงั้นรึ?」

 

「ครับ」ผมพยักหน้า

 

「นี้เป็นการสมมติฐานของผมเองนะครับ แต่ผมคิดว่าการที่มังกรตัวนั้นหาที่นี่เจอคงเป็นเพราะว่าประชากรส่วนมากนั้นมีความเกี่ยวข้องกันกับเหมืองครับ」

 

「เกี่ยวข้องกันงั้นรึ?」

 

「ผู้คนในเมืองนี้มีบางอย่างที่หาเจอได้เฉพาะจากเหมืองใช่ไหมละครับ?」

 

「อ้า!」ไม่ใช่แค่ดันเต้ซัง แต่เป็นนักพจญภัยทั้งหมดที่ส่งเสียงออกมาพร้อมๆกัน

 

「ไม่คิดว่ามังกรตัวนั้นมีความสามารถในการตรวจจับหินสกิลจากเหมืองอย่างงั้นหรอครับ?」

 

 

 

[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit

[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit

Options

not work with dark mode
Reset