บทที่ 1 ตอนที่ 24
ที่ผมกล่าวออกไปยังคงเป็นแค่สมมติฐานเพียงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ผู้คนต่างก็ยอมรับมันเนื่องจากมันค่อนข้างสมเหตุสมผลที่สุดแล้ว มีเียงแค่รองหัวหน้ากิลด์ที่ยังพยายามคัดค้านจนถึงที่สุดโดยพูดว่า「จะฟังที่เด็กนี่พูดจริงๆงั้นเรอะ?」แต่โจเซฟซังก็หุบปากเขาด้วยประโยคที่ว่า「แล้วแกมีไอเดียอื่นไหมละ? ถ้ามันเกิดอะไรขึ้นมา แกจะรับผิดชอบได้ไหมละ?」
ดูเหมือนหินสกิลที่ขุดได้จากเหมืองที่ 6 จะถูกขนส่งมาเก็บไว้ที่เมืองแห่งนี้ ผมไม่แน่ใจว่ามังกรนั่นจะตรวจจับหินสกิลที่มนุษย์เรียนรู้ไปแล้วได้รึปล่าว แต่ตอนนี้คงต้องปักหลักกันโกดังที่เก็บหินสกิลไว้มากที่สุดก่อนจะดีที่สุด เพราะแบบนั้น เหล่านักพจญภัยจึงมุ่งหน้ากันไปที่สถานที่ราชการนามว่า “สำนักงานบริหารสกิล”
มันเป็นตึกหิน 3 ชั้นที่มีหน้าต่างเสริมด้วยกรงเหล็ก มันให้บรรยากาศที่ดูมีภูมิฐานมาก
มีทหารคุ้มกันอยู่ที่ทางเข้า เมื่อโจเซฟซังรายงานไปว่า「มีมังกรกำลังมุ่งหน้ามา! มีโอกาสสูงที่ที่นี่จะตกเป็นเป้าหมายของมัน!」พวกทหารก็ทำเพียงแค่หัวเราะเยอะเขา
「นี่แกเมารึไง?」
「โอ้ใช่ แกคงจะบอกว่าหลานแกเห็นงูตัวใหญ่ในเมืองใช่ไหมละ? บางทีหมอนี่อาจจะเข้าใจผิดว่าเป็นมังกรละมั้ง?」
「ฮ่าๆๆ ต้องเป็นแบบนั้นแน่เลย」
ถึงเหล่านักพจญภัยคนอื่นๆจะเริ่มรู้สึกอยากซัดหน้าทหารพวกนี้แล้ว แต่โจเซฟซังก็ยังคงใจเย็นและพยายามโน้วน้าวต่อไป
อะไนมันจะง่ายกว่านี้ถ้าหัวหน้ากิลด์หรือรองหัวหน้ากิลด์เป็นคนพูด แต่หัวหน้ากิลด์ตอนนี้ไม่อยู่ และรองหัวหน้ากิลด์ก็ให้เหตุผลโง่ๆว่า “ข้ามีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยของกิลด์ยามที่หัวหน้ากิลด์ไม่อยู่” แล้วหลบเหลี่ยงที่จะมายังที่ที่อาจจะเป็นกลายเป็นสนามรบ
เห็นได้ชัดเลยว่าโกหก
「ดันเต้ซัง มิมิโนะซังจะเป็นอะไรไหมครับ?」
พวกเราไม่ทันได้รวมกลุ่มกับมิมิโนะซัง บางทีตอนนี้เธออาจจะยังไม่รับรู้ถึงสถานการณ์ในตอนนี้เลยก็ได้
「มิมิโนะหน่ะไม่เป็นไรหรอก ถ้าเธอไปที่กิลด์ละก็ ต้องรู้แน่ว่าเรามาที่นี่ ถึงเธอจะตัวเล็กแต่เธอนั้นก็ทั้งฉลาดและมีไหวพริบ」
คำว่า “ฉลาดและมีไหวพริบ” นั้นช่างเหมาะกับมิมิโนะซังจริงๆ
「ดูเหมือนโจเซฟจะโน้มน้าวไม่สำเร็จนะ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปพวกนักพจญภัยที่เหลือคงจะหมดความอดทนก่อนแน่」
พวกนักพจญภัยด้านหลังของโจเซฟซังเริ่มซุบซิบกันประมาณว่า “ปกป้องไอ้พวกนี้ไปมันจะคุ้มค่าจริงๆเรอะ?” หรือ “จะหนีกันไปเลยดีไหม?” อะไรแบบนั้น
「หรือบางที นี่มันใช่เวลาที่เราจะมาทำแบบนี้กันเรอะ? และเมื่อไหร่มังกรนั่นจะมาถึงเมืองละ?」ไรเครียซังถามขึ้นมาอย่างผิดหวัง
「ข้าไม่รู้ ไปถามมังกรเอาสิ」ดันเต้ซังตอบกลับไป
「ข้าไม่ได้อยากจะเจอมังกรนั่นตั้งแต่แรกแล้ว」
「เรามาถึงเมืองนี่ผิดเวลาไปหน่อย และโจเซฟก็โชคร้ายเหมือนกัน หมอนั่นเลิกเป็นนักพจญภัยแล้วปักหลักอยู่ที่เมืองนี้ พึ่งจะแต่งงานไปเมื่อเร็วๆนี้เอง เขาเอาแต่พูดเรื่องหวานๆกับภรรยาคนใหม่นี้ทั้งคืนเลย」
「ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่ไม่ได้ถามนะ ตาแก่」
「นายก็เห็นใจข้าหน่อยก็ได้ที่ข้าต้องทนนั่งฟังมันทั้งคืน」
「อยากจะไปดื่มเหล้าเองนี่」
…เมื่อไหร่ที่มังกรจะมางั้นหรอ?
ผมใช้เวลาประมาณ 7 วันตั้งแต่ออกมาจากเหมือง เดินผ่านป่าแล้วก็มาถึงเมืองนี้
จากการที่เคลื่อนที่ผ่านป่านั้นค่อนข้างช้า จึงดูเหมือนว่าผมจะเดินทางได้ไม่ถึง 30 กิโลเมตรต่อวันแน่ๆ และผมก็ไม่ได้เดินเป็นเส้นตรงมาที่เมืองด้วย ดังนั้นระยะห่างระหว่างเหมืองกับเมืองแห่งนี้ต้องน้อยกว่า 200 กิโลเมตรแน่นอน
…และเวทย์สื่อสารพึ่งส่งมาถึงเมื่อประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้ว คิดว่านะ?
งั้น นกมันบินเร็วแค่ไหนละ?
แล้วมังกรบินเร็วกว่านั้นรึปล่าว?
ถ้ามันเร็วกว่าละก็… ถ้าถึงขนาด 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมงละก็ มันจะใช้เวลาน้อยกว่า 3 ชั่วโมงในการมาถึงนี่เองนะ!
พวกเขาติดต่อมาด้วยเวทย์สื่อสารทันทีที่มังกรบินมารึปล่าว? อุปกรณ์สื่อสารสามารถขนย้ายไปมาได้งั้นหรอ? ถ้าพวกเขาส่งข้อความมาช้าละก็ เวลาที่เรามีอยู่ก็อาจจะประมาณ 1 ชั่วโมงหรือน้อยกว่านั้น…!
「…ระ-ไรเครียซัง ดันเต้ซัง」
「อ่าห์?」
「เป็นอะไรไป เรย์จิ?」
「ผมคิดว่าตอนนี้มังกรคงจะอยู่เหนือหัวพวกเราแล้ว…」
「อะไรนะ?!」
「เธอว่าไงนะ?!」
「มีใครพาผมขึ้นไปบนหลังคาได้มั้งครับ!? ผมอยากจะยืนยันจากที่สูงๆ!」
ดันเต้ซังมองไปรอบๆอย่างกระสับกระส่าย แล้วก็
「โจเซฟ!」
「…เดี๋ยวก่อนสิ ดันเต้ ข้ากำลังพูดโน้วน้าวอยู่นะ」
「มาทางนี่ก่อน! มีเหตุฉุกเฉิน!」
「!」
โจเซฟซังเดินเข้ามาด้วยฝีเท้าที่หนัก
「โจเซฟ จับเรย์จิข้างขวา ข้าจะจับข้างซ้ายเอง」
…หืมม?
「พวกเราจะทำไอ้นั่นหรอ?」
「ใช่แล้ว อันที่เราทำกันตอนที่กำจัดฝูงก็อบลินกันไง」
「ตอนนั้นพวกเราโยนศพก็อบลินติดระเบิดลงไปกลางฝูงของพวกมัน แต่ตอนนี้พวกเรากำลังจะโยนเรย์จิงั้นรึ」
…เดี๋ยวก่อนนะ! ประโยคนั่นมันแปลกๆนะ! อะ!
พวกเขาจับไหล่กับเอวของผมทั้งซ้ายและขวา
「เรย์จิ มองขึ้นไปที่ระเบียงชั้น 3 ตรงนั้น เห็นบันไดเหล็กที่อยู่ตรงนั้นใช่ไหม? ปีนขึ้นไปเองจากตรงนั้นนะ」
「ไม่ครับ เดี๋ยวก่อ–」
「3, 2, 1!」
ผมก็บินขึ้นไปบนฟ้า
「ม่ายยยยยยยยย—!」
สุดยอดไปเลย คนสามารถบินได้ด้วย คิดว่าพวกนักกีฬากระโดดค้ำถ่อก็คงจะมีประสบการณ์แบบนี้อยู่ทุกวันละนะ แต่ไม่ใช่กับผมนะสิ ผมไม่อยากจะทำแบบนี้อีกเป็นครั้งที่สองเลย
ผมถูกขว้างด้วยแรงมหาศาล รู้สึกเหมือนกับลอยอยู่กลางอากาศเลย ระเบียงชั้น 3 อยู่ข้างหน้าของผมภายในเวลาเพียงแค่แปปเดียว
「ฮ้า!」
ผมเกาะไปที่ราวเหล็กอย่างแน่นหนา สนิมหลุดออกมาจากราว คงเป็นเพราะมันไม่ได้รับการดูแลรักษาเลย
…ซวยแล้ว! มันกำลังจะพัง!
ผมรีบปีนขึ้นไปบนระเบียงอย่างรวดเร็ว
…ต้องขอบคุณ【เสริมความแข็งแกร่งกายภาพ】… ถ้าไม่มีมันละก็ ผมคงจะตกลงไปแล้วถูกโยนขึ้นมาอีกครั้งแน่
「—นี่พวกแกทำอะไรกันนะ!」
「—ไปตรวจสอบสถานการณ์ก่อน!」
ข้างล่างมีทหารคนนึงกำลังโต้เถียงกับโจเซฟซังอยู่ และทหารอีกคนก็พุ่งเข้าไปในอาคาร – นั่นก็หมายความว่า เขากำลังมุ่งหน้ามาหาผม!
…อ่าห์ เห็นไรเครียซังที่กำลังหัวเราะอยู่ในตอนนี้ กับน็อนซังที่ยกนิ้วโป้งให้กับผม ทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเลย!
ผมปีนขึ้นไปบนดาดฟ้าด้วยบันไดเหล็กทันที
ดาดฟ้ามีลักษณะเป็นหลังคาลาดเอียงที่ไม่ได้รับการดูแลรักษา มีฝุ่นเกาะอยู่เต็มกระเบื้องหลังคาดินเผา
ผมยืนอยู่บนหลังคาอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้ไถลตกแล้วมองไปรอบๆ มันแทบจะไม่มีตึก มากกว่า 3 ชั้นอยู่ในบริเวณนี้เลย ดังนั้นผมจึงสามารถมองเห็นได้กว้างขวาง ทั้งป่าที่กระจายอยู่หลังกำแพงเมืองและทั้งแนวสันเขาที่อยู่หลังจากนั้นไปอีก
…อาคารขนาดใหญ่ที่ตรงนั้นคือปราสาทของดยุคงั้นหรอ? ว้าว มียานหน้าตาเหมือนกับเรือเหาะเทียบท่าอยู่ที่ปราสาทจริงๆด้วย — เดี๋ยวสิ! ไม่ใช่เวลามามัวสนใจเรื่องนั้นนะ!
…อืม ไหนดูสิ เหมือง… เหมือง… ทิศไหนที่ไปยังเหมืองกัน?!
「เฮ้ย ไอ้หนู! ลงมาเดี๋ยวนี่เลยนะ!」
ทหารโผล่มาที่ระเบียงชั้น 3 เร็วกว่าที่คิดไว้
「รอแปปนึงนะครับ! ผมจะลงไปเดี๋ยวนี้แหล่ะ! ผมแค่อยากจะดูให้แน่ใจเท่านั้นเอง」
「แกอยากจะดูอะไรกัน! ฟังนะ นี่แกกำลังก่ออาชญากรรมอยู่นะ!」
「—มันมาแล้ว」
「ถ้าแกลงมาตอนนี้ ข้าจะปล่อยแกไปโดยแค่ตักเตือนเท่านั้น เป็นเพราะพวกผู้ใหญ่ไม่ดีพวกนั้นที่โยนแกมาบนนี้ และ… เมื่อกี้แกว่าไงนะ?」
「มันมาแล้ว」
ผมกำลังตกตะลึง
「มังกรมัน… มาแล้ว」
ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามังกรตัวนั้นกำลังตรงมาทางนี้
ร่างสีเหลืองและปีกที่ใหญ่โต
เงาดำที่ผมรับรู้ในตอนนั้นเหมือนกันกับเงาของร่างที่กำลังบินตรงมาทางนี้
แต่ — มันใหญ่ขนาดนี้เลยหรอ?
「มันมาแล้ว!!! มังกรสีเหลือง! มันกำลังตรงมาที่พวกเราแล้ว!!!」